ตอนที่ 22 soul eater
รังสีสีดำได้ค่อยๆแผ่ออกมาจากร่างของเธอเรื่อยๆ ดวงตาสีน้ำเงินได้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างช้าๆพร้อมกับสภาพอากาศที่เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนราวกับเป็นภาพวาดของวันสิ้นโลก
ที่สุดของโลกที่เคยมีแต่ความงดงาม บัดนี้มันเปรียบได้กับนรกดีๆนี่เอง
ท้องฟ้าเริ่มบ้าคลั่งขึ้นอีกครั้งโดยครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม แผ่นน้ำแข็งได้เริ่มแยกออกจากกันอย่างช้าๆ บางพื้นที่ก็เริ่มยกตัวสูงขึ้นจนเกิดภูมิประเทศแปลกประหลาดขึ้นทั่วทุกมุมของโลก สายฟ้าสีม่วงได้ผ่าลงมายังพื้นน้ำแข็งราวกับสายฝนโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด สายลมได้รุนแรงขึ้นจนมันเกิดการขัดสีกับวัตถุรอบๆทำให้เกิดไฟสีฟ้าขึ้นที่พื้นน้ำแข็ง
สุดยอดเวทีแห่งการต่อสู้ได้ถูกสร้างขึ้นมาในชั่วพริบตา
"ชอบรึเปล่าล่ะ"เธอได้หันมาถามเนเมซิส
"บรรยากาศก็ใช้ได้อยู่มันทำให้เหมือนกับอยู่ในนรกเลย"
"ถ้าชอบฉันก็ดีใจนะ เพราะว่าฉันอุตส่าห์สร้างที่นี่เพื่อเอาไว้เป็นหลุมศพนายโดยเฉพาะเลย"
"ถ้างั้นฉันไม่เอาแล้วล่ะ"
"นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนประเภทเดียวกันกับฉันปรากฏตัวขึ้นถ้าหากว่าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะเป็นเพื่อนกับนายอยู่หรอกถ้าไม่ติดว่าพวกเราเป็นศัตรูกันล่ะก็นะ"
"นี่เธอฟังฉันมั่งดิ!" เนเมซิสได้พูดเพื่อเรียกความสนใจมาทางตนแต่มันก็ไม่ได้ผล โซเฟียได้พูดต่อโดยที่ไม่สนคำพูดของเขาเลย"ต่อนะ"
"นี่หล่อนอย่ามาเมินฉันดิ!"
"ตั้งแต่ตอนที่นายสู้กับคุมะทำให้ฉันรู้อะไรบางอย่าง... !"
"เฮ้ย! ฟังฉันก่อน!"
"ตัวจริงของนายคือดูโอ้ของเพื่อนของมาสเตอร์คิงส์ที่เคยมาเล่นด้วยกันในสมัยที่ยังเป็นเด็กๆอยู่ในตอนนั้นพวกนายมาพร้อมกันจนแม้แต่ฉันก็ยังหวาดกลัวจึงทำได้แต่มองจากในร่างของมาสเตอร์ และคนที่เป็นมาสเตอร์ของพวกนายก็คือ"เธอได้ชี้นิ้วชี้มาทางเนเมซิส
"คนที่นายกำลังใช้ร่างเขาอยู่ ชิราสากิ เซนะ! หรือชื่อจริงๆก็คือ ชิราสากิ สึกุมิ!"
พริบตาที่ถูกชี้ความทรงจำในวันวานก็เริ่มหวนคืนกลับมา
และนั่นก็ได้ทำให้เนเมซิสนึกถึงเรื่องในอดีตที่เซนะเคยบอกขึ้นมาได้
"อย่างนี้นี่เองแกคือหนึ่งใน duolord เดมิส สินะ"
"ถูกต้อง!"
ร่างของโซเฟียได้แผ่ออร่าสีดำขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ก่อนที่มันจะค่อยๆรวมตัวกันจนเกิดเป็นรูปร่าง ดุจดั่งยมทูต
ร่างกายคล้ายนักรบสวมใส่ชุดเกราะสีดำตลอดทั้งร่างที่มือขวาได้ถือเคียวคล้ายยมทูตจนดูน่าเกรงขาม ที่หมวกชุดเกราะของมันมีลักษณะคล้ายเขาของปีศาจ หนึ่ง duolord ที่เก่งที่สุดและชั่วร้ายที่สุดจนถูกปีศาจด้วยกันขนานามว่า ภัยพิบัติจุติ ได้เปิดเผยร่างที่แท้จริงของมันออกมา ณ บัดนี้
"สึกุมิเคยเล่าให้ฉันฟังว่านายชอบหลบๆซ่อนๆอยู่ในร่างของมาสเตอร์
ถึงแม้ว่านายกับเธอจะไม่ได้เจอหน้ากันตรงๆก็ตามทีแต่สึกุมิก็รู้จักนายทั้งชื่อรวมถึงพลังของนายด้วย"
"ฉันจำเป็นต้องดีใจด้วยไหมที่มีคนมาสนใจฉันถึงขนาดนี้"
มันได้ควงเคียวไปมาสามรอบติดก่อนจะหยุดแล้วหันมามองเนเมซิส
"ในหมู่ดูโอ้เหล่านั้นที่ฉันเห็นแกคงจะเป็นหนึ่งใน 7 ผู้พิทักษ์สินะ"
"ใสเจียเสียใจฉันเป็นเพียง duo ธรรมดาน่ะนะพวก 7 ผู้พิทักษ์น่ะสุดยอดของสุดยอดกว่านี้อีก"
"แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าในตอนนี้มันก็ไร้ความหมาย"
"นายหมายความว่าไง!?"
ทั้งโซเฟียและมันต่างก็พุ่งเข้าหาเธอ เพื่อที่จะรับการโจมตีจากเคียวของมันเจ้าตัวจึงต้องใช้ดาบถึงสองเล่มเพื่อยันเอาไว้ก่อนที่จะถูกโซเฟียเตะเข้าให้ที่ท้อง"อั่กก!"
ตามด้วยยิงกระสุนน้ำแข็งสาดใส่ร่างของเขาอย่างไม่ปราณี
แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ยอมโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวจึงเตรียมตัั้งท่าเพื่อใช้ท่าพิเศษแต่เธอก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเดมิสพุ่งเข้ามาขัดจังหวะ หลังจากที่เธอดันร่างของมันออกไปก็เป็นขวานน้ำแข็งยักษ์ของโซเฟียที่ฟาดลงมาแทนที่เธอที่ไม่ทันที่จะรับมันไว้จึงได้เบนตัวกลิ้งหลบออกไปทางด้านข้าง
"หนอย~! มันมาเป็นคอมโบเลย"
"นี่ล่ะเห็นรึยัง ตัวฉันที่สามารถควบคุมร่างของคนได้ทำให้ยัยนี่มาเป็นเครื่องมือของฉันทั้งพลัง ทั้งการมองเห็นทุกๆอย่างได้ใช้ร่วมกันราวกับเป็นคนๆเดียวกันนายเข้าใจความหมายนี้ไหม"
"สรุปว่าเหมือนสู้คนเดียวแต่มีสองร่างว่างั้นเถอะ"
"ถูกต้อง!"
เคียวของมันได้ฟันใส่ร่างของเนเมซิสรัวๆอย่างกับฝนที่ตกลงมา
"หนอย~! แกคิดว่าได้เปรียบเรื่องจำนวนแล้วคิดว่าจะชนะฉันได้อย่างงั้นหรอ!"
"แกเองก็มีสองคนไม่ใช่รึไง!"
"เออ... จริงด้วย!"
วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561
วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 21 dead all life
"ฉันว่าคงเพราะว่าพวกเราเข้ากันได้ด้วยล่ะนะ"
"เข้ากัน???"
"ใช่แล้ว ทั้งฉันทั้งเธอพวกเราน่ะก็พวกสายเดียวกันทีี่เอาแต่แอบรักเขาข้างเดียว พยายามเก็บความรู้สึกในใจเอาไว้ เบื้องหน้าชอบทำตัวเป็นคนดีเบื้องหลังเป็นคนที่ชั่วร้ายแถมเจ้าเล่ห์สุดๆ และที่ทำไปทุกๆอย่างก็เพื่อคนที่ตนรักถึงแม้จะชอบทำปากไม่ตรงกับใจต่อหน้าเขาก็ตามและถึงแม้ว่านั่นจะต้องทำให้โลกของตนต้องกลายเป็นแบบนี้ก็ตามทีเถอะ"
เธอได้พยักหน้าพร้อมกับโชว์รอยยิ้มอันน่ารังเกียจไปด้วย
"ถ้าฉันจะบอกให้นายช่วยตายนายจะยอมมั้ย"
"no way!"
"ก็รู้อยู่หรอกนะว่าจะต้องตอบแบบนี้ แต่ฉันก็เสียดายคนแบบนายเหมือนกันอุตส่าห์จะทำให้ตายแบบไม่ต้องเจ็บปวดแล้วเชียว"
"พอดีฉันมันเป็นพวกชอบทรมาณน่ะ"
"ฉันเองก็เหมือนกัน"
ทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่กันและกัน
ดาบของทั้งสองได้พุ่งเฉือดเฉือนเข้าใส่ร่างของกันและกันจนเลือดนั้นกระเซ็นออกมาแต่ยังไม่ทันที่เลือดจะได้ทันตกถึงพื้นคมดาบนับไม่ถ้วนก็พุ่งแลกเข้าใส่กันครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ทั้งสองจะถอยห่างออกจากกัน
"ทำไม! นายที่เข้าใจฉันทุกอย่างทำไมถึงต้องมาขวางฉันด้วย!"
ด้วยพลังของชุนซุยทำให้รอยแผลของเนเมซิสที่ถูกมันฟันเริ่มมีน้ำแข็งกัดตามรอยนั้น
หลังจากที่สังเกตพลังของชุนซุยมาได้พอสมควร เจ้าตัวจึงเริ่มการโต้กลับด้วยพายุจากท่า ทอร์นเน็ดซอร์ด แต่ด้วยโล่น้ำแข็งที่โซเฟียสร้างขึ้นจึงทำให้สายลมนั้นไม่มีผลกับเธอเลยแม้แต่น้อย"กระจอก!"
เธอได้สร้างกองทัพน้ำแข็งจำนวนมากขึ้นมาอีกครั้ง
"ฆ่ามัน!"
พวกมันจึงได้พุ่งเข้าใส่เนเมซิสแต่มันก็เท่านั้น เขาไม่ได้กลัวพวกมันเลยแม้แต่นิดเดียว
จากประสบการณ์ในอดีตที่เธอเคยเจอมาจำนวนมากสุดที่ครั้งนึงเธอเคยสู้ด้วยก็คือทั้งโลก! เขาจึงฟันมันทิ้งราวกับฟันต้นไม้ หัวของมังกรได้ถูกเฉือนทิ้ง ร่างของฟินิกส์ได้ถูกผ่าครึ่ง แขนของโกเลมได้แตกและพังลง คอของไฮดร้ากับหางของคิไมร่าได้ถูกตัดจนเฮี้ยน
เมื่ออยู่ต่อหน้าเนเมซิสกองทัพน้ำแข็งเหล่านี้ก็เป็นเพียงของเด็กเล่นเท่านั้น
"กระจอกจริงๆ"เขาได้พูดให้เธอได้ยินเพื่อเป็นการยอกย้อน
"ปากดีจริงนะ"
"ของมันมีก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ"
"เก็บปากไว้กินข้าวต้มดีกว่าไหม"
"ทำอย่างกับเธอจะปล่อยฉันไปหาหมออย่างงั้นแหละ"
"ก็ฉันเป็นคนใจดีนี่น่า"
"ตอแหล!"เนเมซิสได้เหยียดยิ้มก่อนจะฟันทหารน้ำแข็งตนสุดท้ายทิ้ง
"เผยร่างจริงออกมาก่อนที่แกจะไม่ได้ออก"
"นายพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ"
เธอได้เสกดาบยักษ์ขึ้นมาสองเล่มฟันใส่เนเมซิส
"อย่ามาสตอ!"เขาได้ใช้เรเพียร์รับดาบนั้นเอาไว้จนเท้านั้นจมลงไปในพื้นน้ำแข็ง
"ถึงจะเพียงแค่นิดเดียวแต่ฉันก็รู้ว่าโซเฟียที่กำลังสู้อยู่นี่ถูกควบคุมอยู่หลักฐานก็คือเวิลด์ไอเทมและเรเจนไอเทมมันไม่มีทางใช้งานได้หรอกถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาแถมสองชิ้นนี่มันก็เกินไปสำหรับร่างกายของสาวน้อยเพียงคนเดียวเว้นแต่ว่าจะมีอะไรที่เหนือกว่ามนุษย์อยู่ข้างในร่างนั้นน่ะนะ"
เขาได้เรียกดาบอีกเล่มออกมาแล้วฟันมันใส่ดาบน้ำแข็งจนหักสะบั้น ก่อนจะเงยหน้าไปหาโซเฟียที่กำลังยิ้มราวกับกำลังหัวเราะ
"ฉันว่าคงเพราะว่าพวกเราเข้ากันได้ด้วยล่ะนะ"
"เข้ากัน???"
"ใช่แล้ว ทั้งฉันทั้งเธอพวกเราน่ะก็พวกสายเดียวกันทีี่เอาแต่แอบรักเขาข้างเดียว พยายามเก็บความรู้สึกในใจเอาไว้ เบื้องหน้าชอบทำตัวเป็นคนดีเบื้องหลังเป็นคนที่ชั่วร้ายแถมเจ้าเล่ห์สุดๆ และที่ทำไปทุกๆอย่างก็เพื่อคนที่ตนรักถึงแม้จะชอบทำปากไม่ตรงกับใจต่อหน้าเขาก็ตามและถึงแม้ว่านั่นจะต้องทำให้โลกของตนต้องกลายเป็นแบบนี้ก็ตามทีเถอะ"
เธอได้พยักหน้าพร้อมกับโชว์รอยยิ้มอันน่ารังเกียจไปด้วย
"ถ้าฉันจะบอกให้นายช่วยตายนายจะยอมมั้ย"
"no way!"
"ก็รู้อยู่หรอกนะว่าจะต้องตอบแบบนี้ แต่ฉันก็เสียดายคนแบบนายเหมือนกันอุตส่าห์จะทำให้ตายแบบไม่ต้องเจ็บปวดแล้วเชียว"
"พอดีฉันมันเป็นพวกชอบทรมาณน่ะ"
"ฉันเองก็เหมือนกัน"
ทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่กันและกัน
ดาบของทั้งสองได้พุ่งเฉือดเฉือนเข้าใส่ร่างของกันและกันจนเลือดนั้นกระเซ็นออกมาแต่ยังไม่ทันที่เลือดจะได้ทันตกถึงพื้นคมดาบนับไม่ถ้วนก็พุ่งแลกเข้าใส่กันครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ทั้งสองจะถอยห่างออกจากกัน
"ทำไม! นายที่เข้าใจฉันทุกอย่างทำไมถึงต้องมาขวางฉันด้วย!"
ด้วยพลังของชุนซุยทำให้รอยแผลของเนเมซิสที่ถูกมันฟันเริ่มมีน้ำแข็งกัดตามรอยนั้น
หลังจากที่สังเกตพลังของชุนซุยมาได้พอสมควร เจ้าตัวจึงเริ่มการโต้กลับด้วยพายุจากท่า ทอร์นเน็ดซอร์ด แต่ด้วยโล่น้ำแข็งที่โซเฟียสร้างขึ้นจึงทำให้สายลมนั้นไม่มีผลกับเธอเลยแม้แต่น้อย"กระจอก!"
เธอได้สร้างกองทัพน้ำแข็งจำนวนมากขึ้นมาอีกครั้ง
"ฆ่ามัน!"
พวกมันจึงได้พุ่งเข้าใส่เนเมซิสแต่มันก็เท่านั้น เขาไม่ได้กลัวพวกมันเลยแม้แต่นิดเดียว
จากประสบการณ์ในอดีตที่เธอเคยเจอมาจำนวนมากสุดที่ครั้งนึงเธอเคยสู้ด้วยก็คือทั้งโลก! เขาจึงฟันมันทิ้งราวกับฟันต้นไม้ หัวของมังกรได้ถูกเฉือนทิ้ง ร่างของฟินิกส์ได้ถูกผ่าครึ่ง แขนของโกเลมได้แตกและพังลง คอของไฮดร้ากับหางของคิไมร่าได้ถูกตัดจนเฮี้ยน
เมื่ออยู่ต่อหน้าเนเมซิสกองทัพน้ำแข็งเหล่านี้ก็เป็นเพียงของเด็กเล่นเท่านั้น
"กระจอกจริงๆ"เขาได้พูดให้เธอได้ยินเพื่อเป็นการยอกย้อน
"ปากดีจริงนะ"
"ของมันมีก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ"
"เก็บปากไว้กินข้าวต้มดีกว่าไหม"
"ทำอย่างกับเธอจะปล่อยฉันไปหาหมออย่างงั้นแหละ"
"ก็ฉันเป็นคนใจดีนี่น่า"
"ตอแหล!"เนเมซิสได้เหยียดยิ้มก่อนจะฟันทหารน้ำแข็งตนสุดท้ายทิ้ง
"เผยร่างจริงออกมาก่อนที่แกจะไม่ได้ออก"
"นายพูดเรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ"
เธอได้เสกดาบยักษ์ขึ้นมาสองเล่มฟันใส่เนเมซิส
"อย่ามาสตอ!"เขาได้ใช้เรเพียร์รับดาบนั้นเอาไว้จนเท้านั้นจมลงไปในพื้นน้ำแข็ง
"ถึงจะเพียงแค่นิดเดียวแต่ฉันก็รู้ว่าโซเฟียที่กำลังสู้อยู่นี่ถูกควบคุมอยู่หลักฐานก็คือเวิลด์ไอเทมและเรเจนไอเทมมันไม่มีทางใช้งานได้หรอกถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาแถมสองชิ้นนี่มันก็เกินไปสำหรับร่างกายของสาวน้อยเพียงคนเดียวเว้นแต่ว่าจะมีอะไรที่เหนือกว่ามนุษย์อยู่ข้างในร่างนั้นน่ะนะ"
เขาได้เรียกดาบอีกเล่มออกมาแล้วฟันมันใส่ดาบน้ำแข็งจนหักสะบั้น ก่อนจะเงยหน้าไปหาโซเฟียที่กำลังยิ้มราวกับกำลังหัวเราะ
ตอนที่ 20 true of true
หลังจากที่การต่อสู้จบลงพวกนิโครุก็รีบวิ่งเข้ามากอดเนเมซิสโดยทันทีส่วนโซเฟียที่พบกับเซนะอีกคนก็ได้โบกมือพร้อมกับยิ้มให้
"ว่าแต่พี่คะ คนๆนี้เป็นใครหรอ"
เธอได้หันไปจ้องโซเฟียสลับกับเนเมซิส
"หรือว่าเขาจะเป็นแฟนของพี่!"
"เรื่องนั้นฉันคงจะตอบไม่ได้เพราะว่าฉันไม่ใช่สึกุมิเธอเองก็น่าจะรู้นิว่าฉันไม่ใช่พี่คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก"
เขาได้ถอยห่างออกจากเธอ
"ถึงคุณจะไม่ใช่พี่ของฉันแต่ฉันก็ชอบคุณค่ะ"
"โทษทีแต่ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วล่ะ"
"พี่สินะคะ"ทั้งสองคนได้จ้องมองกันอย่างตาไม่กระพริบ
"รู้ด้วยอย่างงั้นเหรอ"
"ก็คุณพูดถึงชื่อของพี่อยู่บ่อยๆตอนที่สู้กัน"
"ช่างเรื่องฉันแล้วกับเข้าเรื่องกันดีกว่า"
เจ้าตัวได้ใช้แขนอีกข้างดันข้อต่อของอีกแขนที่หลุดต่อกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนจะหันแขนข้างนั้นไปทางศพของคุมะก่อนที่ร่างของมันจะสลายหายไปจนเหลือเพียงแค่เถ้าถ่านสีดำ และสิ่งนั้นก็ค่อยๆลอยเข้ามายังร่างของ
เนเมซิสเรื่อยๆ
ทั้งข้อมูล ทั้งอดีต ทั้งความทรงจำของมันได้เริ่มไหลเข้ามาในหัวอย่างช้าๆ
หลังจากที่รับรู้ทุกอย่างเขาก็หันไปจ้องใส่โซเฟีย
"เธอนี่มันเป็นตัวปัญหาจริงๆด้วยสินะ"
"ห๊า~! นายหมายความว่าไงกัน!?"
โซเฟียได้ทำแก้มป่องขึ้นมา
"แน่จริงนายก็เอาร่างจริงมาเจอกับฉันดิเดี๋ยวฉันจะตบนายให้หายซ่าเลย!"
"ร่างจริงของฉันมันอยู่ที่อีกโลกนึงน่ะถ้าจะไปที่โลกนั้นหรือมาที่นี่ก็กินเวลามากเชียวล่ะ"
"อีกโลก! อย่าบอกนะว่านายควบคุมร่างนี้จากอีกโลกน่ะฉันไม่เคยได้ยินเลยว่ามีมนุษย์คนไหนทำแบบนั้นได้ด้วย!"
ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับรถบังคับโดยมันก็จะมีส่วนตัวรถกับส่วนของคันบังคับโดยส่วนคันบังคับนั้นจะคอยปล่อยคลื่นไปยังตัวรถเพื่อบังคับทิศทางแต่ในกรณีที่อยู่ห่างกันมากๆก็จำเป็นที่จะต้องใช้สัญญาณที่แรงมากเช่นกัน และเมื่อเอาไปเปรียบกับสถานการณ์ในตอนนี้ก็จะเปรียบร่างของเซนะคือตัวรถและคันบังคับก็คือร่างจริงๆของเนเมซิสที่อยู่อีกโลกนึงส่วนสัญญาณก็เปรียบได้กับพลังที่เธอใช้ในการควบคุมเซนะ
เพราะงั้น การที่จะควบคุมร่างกายของเซนะข้ามโลกได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีพลังมหาศาลซึ่งทุกๆคนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีมนุษย์ที่ทำแบบนั้นได้
สถิติที่เคยเป็นตำนานสูงสุดก็ทำได้แค่ข้ามประเทศเท่านั้น
เนเมซิสได้พยักหน้าก่อนจะตอบไปว่า"ก็เพราะเป็นฉันไง"
"จะว่าไปแล้วพวกเธอไม่เห็นว่าฉันสุดยอดบ้างเลยเหรอยังไง ทั้งข้อต่อหลุดจนเหลือแค่แขนข้างเดียวแล้วไปบวกกับมันร่างสุดยอดนั่นอีก รวมทั้งโดนมันเล่นสักทุกอย่างแต่ฉันก็ยังชิวๆอยู่ได้แถมยังพูดชื่อและใช้ท่าไม้ตายต้องห้ามนั่นอีก"
"ไม่อ่ะ"โซเฟียได้พูดอย่างไร้เยื่อใย
"ถ้าว่าทางนั้นสุดยอดแล้วทางฉันก็ยังสุดยอดกว่าอีก ทั้งทำให้โลกนี้เป็นน้ำแข็งด้วยเวิลด์ไอเทมแถมยังสร้างกองทัพน้ำแข็งสุดแกร่งออกมาไล่ฟันคนอื่นเป็นว่าเล่นด้วยเรเจนไอเทมอีก ทั้งสวย ทั้งน่ารักและหน้าอกใหญ่ ฉันนี่แหละไร้เทียมทาน"
"รู้สึกอันหลังๆจะไม่ใช่นะคะ"นิโครุได้พูดแทรกด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ
ต่อด้วยเนเมซิสที่พูดเสริมแบบว่าร้ายใส่โซเฟีย
"ก็ตามนั้นแหละยัยนี่เป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดเองล่ะ"
"หนอย~! เดี๋ยวแม่ก็ซัดให้ดิ้นเลย"
"จะเอาก็เข้ามาเดี๋ยวฉันจะทำให้ร้องไห้เลย"
"ใจเย็นๆก่อนทั้งสองคน"เซนะอีกคนได้เข้ามาขัดพร้อมกับหันไปมองโซเฟียด้วยสายตากดดัน
"เธอน่ะจะช่วยทำให้โลกนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม"
"ไม่! และไม่เด็ดขาด!"
"ทำไมล่ะ"
"ปัญหาทางใจบางอย่างน่ะเพราะงั้นฉันถึงได้ช่วยพวกนายเพื่อหลอกให้พวกนายทุ่มกำลังจัดการมันยังไงล่ะ เพื่อที่ฉันจะจัดการพวกนายได้ง่ายๆโดยที่ไม่ต้องออกแรง"
"ว่าไงนะ!!!"ทั้งนิโครุและเซนะจากต่างโลกได้พูดออกมาพร้อมๆกันก่อนที่ใบหน้าของโซเฟียนั้นจะมีรอยยิ้มอันน่ารังเกียจผุดขึ้นมาบนใบหน้า ทั้งสองได้เคลื่อนไหวเพื่อหวังจะโจมตีโซเฟียแต่ก็ถูกเธอแช่แข็งไปเสียก่อนที่จะได้ลงมือ
ในตอนนี้มีเพียงแค่เนเมซิสกับโซเฟียเท่านั้นที่ยืนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิน้ำแข็งอันยุ่งเหยิงนี้
ทั้งสองได้จ้องตากันราวกับจะกลืนกินกันและกันก่อนที่โซเฟียจะเริ่มพูดบทสนทนาที่แท้จริงขึ้น"ในตอนนี้ก็มีแค่พวกเราสองคนเท่านั้น"
"ดูจากสีหน้านิ่งๆแบบนั้นแสดงว่ารู้อยู่แล้วใช่ไหม"
"ก็ไม่เชิงว่ารู้หรอก ในตอนที่เธอโดนเล่นงานครั้งสุดท้ายแล้วมอบพลังให้กับฉันในตอนนั้นพลังของเธอก็ได้บอกทุกๆอย่างออกมาหมดเลย ทั้งจิตชั่วร้าย ทั้งสิ่งที่เธอคิด บวกกับฉันไม่ค่อยจะไว้ใจเธออยู่แล้วก็เลยคอยมองเธอที่แกล้งสลบอยู่เพื่อคอยดูท่าทีเธอ"
"เป็นพวกสายสัมผัสสินะแถมยังเป็นพวกระแวงชาวบ้านอีกด้วย"
สายสัมผัส พวกเขาจะเรียกคนประเภทที่มีเซนต์ทางด้านพลังไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบหาคนร้ายจากพลังที่หลงเหลือในที่เกิดเหตุหรือแม้กระทั่งการดึง
พลังหรือปลุกพลังให้คนอื่น
และแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่สายสัมผัสอย่างเดียว สายพิเศษ สายโจมตี
สายป้องกัน สายซัพพอร์ท สายเวทย์และอื่นๆอีกมากมาย
หลังจากที่การต่อสู้จบลงพวกนิโครุก็รีบวิ่งเข้ามากอดเนเมซิสโดยทันทีส่วนโซเฟียที่พบกับเซนะอีกคนก็ได้โบกมือพร้อมกับยิ้มให้
"ว่าแต่พี่คะ คนๆนี้เป็นใครหรอ"
เธอได้หันไปจ้องโซเฟียสลับกับเนเมซิส
"หรือว่าเขาจะเป็นแฟนของพี่!"
"เรื่องนั้นฉันคงจะตอบไม่ได้เพราะว่าฉันไม่ใช่สึกุมิเธอเองก็น่าจะรู้นิว่าฉันไม่ใช่พี่คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก"
เขาได้ถอยห่างออกจากเธอ
"ถึงคุณจะไม่ใช่พี่ของฉันแต่ฉันก็ชอบคุณค่ะ"
"โทษทีแต่ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วล่ะ"
"พี่สินะคะ"ทั้งสองคนได้จ้องมองกันอย่างตาไม่กระพริบ
"รู้ด้วยอย่างงั้นเหรอ"
"ก็คุณพูดถึงชื่อของพี่อยู่บ่อยๆตอนที่สู้กัน"
"ช่างเรื่องฉันแล้วกับเข้าเรื่องกันดีกว่า"
เจ้าตัวได้ใช้แขนอีกข้างดันข้อต่อของอีกแขนที่หลุดต่อกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนจะหันแขนข้างนั้นไปทางศพของคุมะก่อนที่ร่างของมันจะสลายหายไปจนเหลือเพียงแค่เถ้าถ่านสีดำ และสิ่งนั้นก็ค่อยๆลอยเข้ามายังร่างของ
เนเมซิสเรื่อยๆ
ทั้งข้อมูล ทั้งอดีต ทั้งความทรงจำของมันได้เริ่มไหลเข้ามาในหัวอย่างช้าๆ
หลังจากที่รับรู้ทุกอย่างเขาก็หันไปจ้องใส่โซเฟีย
"เธอนี่มันเป็นตัวปัญหาจริงๆด้วยสินะ"
"ห๊า~! นายหมายความว่าไงกัน!?"
โซเฟียได้ทำแก้มป่องขึ้นมา
"แน่จริงนายก็เอาร่างจริงมาเจอกับฉันดิเดี๋ยวฉันจะตบนายให้หายซ่าเลย!"
"ร่างจริงของฉันมันอยู่ที่อีกโลกนึงน่ะถ้าจะไปที่โลกนั้นหรือมาที่นี่ก็กินเวลามากเชียวล่ะ"
"อีกโลก! อย่าบอกนะว่านายควบคุมร่างนี้จากอีกโลกน่ะฉันไม่เคยได้ยินเลยว่ามีมนุษย์คนไหนทำแบบนั้นได้ด้วย!"
ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับรถบังคับโดยมันก็จะมีส่วนตัวรถกับส่วนของคันบังคับโดยส่วนคันบังคับนั้นจะคอยปล่อยคลื่นไปยังตัวรถเพื่อบังคับทิศทางแต่ในกรณีที่อยู่ห่างกันมากๆก็จำเป็นที่จะต้องใช้สัญญาณที่แรงมากเช่นกัน และเมื่อเอาไปเปรียบกับสถานการณ์ในตอนนี้ก็จะเปรียบร่างของเซนะคือตัวรถและคันบังคับก็คือร่างจริงๆของเนเมซิสที่อยู่อีกโลกนึงส่วนสัญญาณก็เปรียบได้กับพลังที่เธอใช้ในการควบคุมเซนะ
เพราะงั้น การที่จะควบคุมร่างกายของเซนะข้ามโลกได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีพลังมหาศาลซึ่งทุกๆคนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีมนุษย์ที่ทำแบบนั้นได้
สถิติที่เคยเป็นตำนานสูงสุดก็ทำได้แค่ข้ามประเทศเท่านั้น
เนเมซิสได้พยักหน้าก่อนจะตอบไปว่า"ก็เพราะเป็นฉันไง"
"จะว่าไปแล้วพวกเธอไม่เห็นว่าฉันสุดยอดบ้างเลยเหรอยังไง ทั้งข้อต่อหลุดจนเหลือแค่แขนข้างเดียวแล้วไปบวกกับมันร่างสุดยอดนั่นอีก รวมทั้งโดนมันเล่นสักทุกอย่างแต่ฉันก็ยังชิวๆอยู่ได้แถมยังพูดชื่อและใช้ท่าไม้ตายต้องห้ามนั่นอีก"
"ไม่อ่ะ"โซเฟียได้พูดอย่างไร้เยื่อใย
"ถ้าว่าทางนั้นสุดยอดแล้วทางฉันก็ยังสุดยอดกว่าอีก ทั้งทำให้โลกนี้เป็นน้ำแข็งด้วยเวิลด์ไอเทมแถมยังสร้างกองทัพน้ำแข็งสุดแกร่งออกมาไล่ฟันคนอื่นเป็นว่าเล่นด้วยเรเจนไอเทมอีก ทั้งสวย ทั้งน่ารักและหน้าอกใหญ่ ฉันนี่แหละไร้เทียมทาน"
"รู้สึกอันหลังๆจะไม่ใช่นะคะ"นิโครุได้พูดแทรกด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ
ต่อด้วยเนเมซิสที่พูดเสริมแบบว่าร้ายใส่โซเฟีย
"ก็ตามนั้นแหละยัยนี่เป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดเองล่ะ"
"หนอย~! เดี๋ยวแม่ก็ซัดให้ดิ้นเลย"
"จะเอาก็เข้ามาเดี๋ยวฉันจะทำให้ร้องไห้เลย"
"ใจเย็นๆก่อนทั้งสองคน"เซนะอีกคนได้เข้ามาขัดพร้อมกับหันไปมองโซเฟียด้วยสายตากดดัน
"เธอน่ะจะช่วยทำให้โลกนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม"
"ไม่! และไม่เด็ดขาด!"
"ทำไมล่ะ"
"ปัญหาทางใจบางอย่างน่ะเพราะงั้นฉันถึงได้ช่วยพวกนายเพื่อหลอกให้พวกนายทุ่มกำลังจัดการมันยังไงล่ะ เพื่อที่ฉันจะจัดการพวกนายได้ง่ายๆโดยที่ไม่ต้องออกแรง"
"ว่าไงนะ!!!"ทั้งนิโครุและเซนะจากต่างโลกได้พูดออกมาพร้อมๆกันก่อนที่ใบหน้าของโซเฟียนั้นจะมีรอยยิ้มอันน่ารังเกียจผุดขึ้นมาบนใบหน้า ทั้งสองได้เคลื่อนไหวเพื่อหวังจะโจมตีโซเฟียแต่ก็ถูกเธอแช่แข็งไปเสียก่อนที่จะได้ลงมือ
ในตอนนี้มีเพียงแค่เนเมซิสกับโซเฟียเท่านั้นที่ยืนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิน้ำแข็งอันยุ่งเหยิงนี้
ทั้งสองได้จ้องตากันราวกับจะกลืนกินกันและกันก่อนที่โซเฟียจะเริ่มพูดบทสนทนาที่แท้จริงขึ้น"ในตอนนี้ก็มีแค่พวกเราสองคนเท่านั้น"
"ดูจากสีหน้านิ่งๆแบบนั้นแสดงว่ารู้อยู่แล้วใช่ไหม"
"ก็ไม่เชิงว่ารู้หรอก ในตอนที่เธอโดนเล่นงานครั้งสุดท้ายแล้วมอบพลังให้กับฉันในตอนนั้นพลังของเธอก็ได้บอกทุกๆอย่างออกมาหมดเลย ทั้งจิตชั่วร้าย ทั้งสิ่งที่เธอคิด บวกกับฉันไม่ค่อยจะไว้ใจเธออยู่แล้วก็เลยคอยมองเธอที่แกล้งสลบอยู่เพื่อคอยดูท่าทีเธอ"
"เป็นพวกสายสัมผัสสินะแถมยังเป็นพวกระแวงชาวบ้านอีกด้วย"
สายสัมผัส พวกเขาจะเรียกคนประเภทที่มีเซนต์ทางด้านพลังไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบหาคนร้ายจากพลังที่หลงเหลือในที่เกิดเหตุหรือแม้กระทั่งการดึง
พลังหรือปลุกพลังให้คนอื่น
และแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่สายสัมผัสอย่างเดียว สายพิเศษ สายโจมตี
สายป้องกัน สายซัพพอร์ท สายเวทย์และอื่นๆอีกมากมาย
วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 19 Who are you
สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มตรึงเครียดขึ้นเรื่อยๆทั้งเนเมซิสทั้งคุมะต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่ความตายใกล้คืบคลานเข้ามา คุมะที่กำลังพูดกล่อมให้เธอหยุดการโจมตีได้แสยะยิ้ม มันได้เตรียมที่จะโจมตีสวนกลับในตอนที่เนเมซิสหยุดการโจมตี
...ใช่แล้ว ถึงมันจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ยังเป็นแค่มนุษย์ยังไงมนุษย์น่ะก็มีความกลัวที่ชื่อว่าความตายอยู่ภานในใจกันทุกคนพวกมันนั้นหวาดกลัวกับสิ่งนี้กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็ก นักบุญ นักบวช แม่ชีหรือแม้แต่พระราชาก็เช่นกันทุกคนล้วนแล้วแต่กลัวความตายกันทั้งนั้น ยิ่งจินตนาการก็ยิ่งหวาดกลัว ยิ่งคิดถึงมันก็ยิ่งหวาดระแวง ในยามที่พวกมันใกล้จะตายก็จะพยายามตะเกียจตะกายหาทางรอด
และใช้ทุกวิถีทางและแกก็ไม่ต่างกันหรอกเนเมซิส!
เมื่อใดที่แกหยุดเมื่อไหร่ข้าก็จะยิ่งลำแสงใส่แกอีกครั้งแต่ครั้งนี้บวกกับสภาพร่างกายของแกที่กำลังจะตายอยู่รอมร่อแล้ว คราวนี้แหละแกจะต้องตาย!!!...
มันได้เฝ้ารอโอกาสนั้นมาถึง ถึงแม้ว่าขา แขนและหางจะถูกตัดไปอย่างล่ะข้างแล้วก็ตามมันก็ยังรอคอยโอกาสอยู่
"ฉันคิดว่าฉันก็เคยบอกไปแล้วนะว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่ร่างของฉัน"
มันได้อ้าปากค้างกับคำตอบของเนเมซิส
....บ้าแล้ว! ถ้าหากว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริงมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุดโจมตี ถึงแม้เจ้าของร่างมันจะตายแต่มันก็แค่ร่างของคนอื่นตัวมันจริงๆก็ไม่ได้รับผลอะไรเลย!!!.... มันจึงพยายามพูดเพื่อหาวิธีเอาตัวรอด
"ถ้างั้นแกไม่เป็นห่วงเจ้าของร่างนั้นเลยหรือยังไง!"
"ไม่อ่ะ สึกุมิน่ะยอมให้ฉันทำแบบนี้แน่ๆ"
มันได้เริ่มหน้าซีดลงเรื่อยๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเราแย่แน่!....
"ถ้างั้นแกก็จะถูกเพื่อนๆของมันตามฆ่าและเคียดแค้นไปทั่วทั้งชีวิตแกยังจะไม่ยอมหยุดอีกอย่างงั้นเหรอ!!!"
"แค้นก็แค้นไปดิฉันไม่สนใจใครทั้งนั้นนอกจากสึกุมิ!"
"ถ้าหากว่าเจ้าคนที่ชื่อว่าสึกุมิมันดันรู้ว่าแกฆ่าคนมันจะยังมองแกในแบบเดิมๆอยู่อีกหรือเปล่า!!!"
"ถ้างั้นเจ้าหมอนั่นคงไม่ได้มองฉันแล้วล่ะเพราะสึกุมิกับเซนะคือคนๆ
เดียวกัน!"
"แกคิดจะฆ่ามันอย่างงั้นรึ!"
เนเมซิสได้เงียบไปชั่วขณะ... "นี่แกพูดพร่ำอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว"
"แกคิดว่าฉันจะสู้จนทำให้สึกุมิต้องตายอย่างงั้นสินะ"
มันได้เบิกตาข้างนึงแบบกว้างๆ
"แกคงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าฉันอ่านใจคนได้น่ะ"
มันได้ทำสีหน้าสิ้นหวังแบบสุดๆขึ้น
"แกคิดจะฉวยโอกาสตอนฉันหยุดการโจมตีแล้วฆ่าฉันสินะ"
มันได้สลายพลังทั้งหมดที่กำลังรวบรวมอยู่ในปาก
"แล้วแกคิดหรือว่าตัวตนอันต้อยต่ำของแกจะทำให้พวกเราต้องสู้ถึงขนาดยอมแลกด้วยชีวิตได้อย่างงั้นเหรอไอเจ้าปลาไหล! แกมันก็แค่เศษทรายที่กำลังต่อกรกับจักรวาลอยู่แถมยังไม่รู้อีกว่าตัวเองน่ะอ่อนแอแค่ไหน"
หลังจากที่โจมตีไปนับพันๆครั้งเธอก็ได้เปลี่ยนทั้งแววตาและดาบจนกลายเป็นสีดำทมิฬ ท่าพิเศษที่เธอกำลังจะใช้ต่อจากนี้นั้นร้ายแรงยิ่งกว่าอินเฟอโนเวฟหลายต่อหลายเท่า มันคือท่าพิเศษต้องห้ามที่ถ้าหากใช้แล้วจะไม่มีใครเคยรอดชีวิตได้เลยโดยสาเหตุที่มันถูกเรียกว่าท่าต้องห้ามไม่ใช่เพราะสร้างภาระให้กับร่างกายเหมือนอินเฟอโน่เวฟหรือจะส่งผลเสียต่อผู้ใช้แต่อย่างใดแต่เป็นเพราะมันสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แบบไร้ทางสู้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นท่าต้องห้าม
"แกจงหายไปเพราะความอวดดีของแกซะ"
ดาบทมิฬได้พุ่งผ่านร่างของมันไปเพียงชั่วพริบตาเดียว
"ท่าพิเศษต้องห้าม อินเฟอร์โน่ซอร์ด!"
ทั้งคนดูทั้งคนมองต่างก็งงกลับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงมันจะเป็นท่าต้องห้ามก็ตามแต่มันก็ไม่ได้เกิดเอฟเฟ็คหรือมีอะไรเกิดขึ้นเลยซึ่งแตกต่างกับท่าก่อนๆเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุมะถูกฟันต่างก็เป็นที่น่าหวาดกลัว ร่างของมันได้ตกลงมากระแทกกับพื้นน้ำแข็งพร้อมกับหยุดหายใจและตายไปในที่สุด
จะว่าเพราะการโจมตีนั้นก็ไม่ได้เพราะบาดแผลจากการโจมตีนั้นไม่สาหัติมากเมื่อเทียบกับท่าก่อนๆ และจะโทษว่าเป็นเพราะบาดแผลก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้เพราะถึงมันจะโดนไปหลายต่อหลายท่าแต่มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ราวกับเป็นซอมบี้
โซเฟียที่หายดีแล้วจึงวิ่งเข้ามาหาเนเมซิสในทันที
"เมื่อกี้นี้นายทำอะไรอ่ะ???"
"นี่เธอฟื้นตั้งนานแล้วใช่ไหม!"
"อ้าวรู้ได้ไง!"
"ฉันมองเธออยู่ตลอด"
"ไม่น่าเชื่อคนอย่างนายที่เลือดเย็น หยิ่งแถมยังเอาแต่ใจเนี่ยนะ"
"ฉันจะถือว่าเป็นคำชมละกันส่วนเรื่องของท่าพิเศษท่านี้มันเป็นท่าพิเศษที่จะส่งวิญญาณไปสู่ยมลูกหรือพูดง่ายๆคือ ท่าส่งวิญญาณ"
"แต่ว่าเจ้านั่นมันยังไม่ตายสักหน่อยเพราะงั้นนายก็ไม่น่าจะส่ง
วิญญานมันไปได้สิ"
"ขอบเขตของท่านี้มันสุดๆยังไงล่ะถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ตายแต่ฉันก็สามารถส่งวิญญานมันไปได้เลย"
"แล้วความเสี่ยงไม่มีบ้างเลยเหรอ"
"ความเสี่ยงมีอยู่อย่างเดียวคือถ้าหากไม่ใช่ฉันหรือเซนะแล้วใช้ท่านี้ได้ล่ะก็โลกจะยุ่งเหยิงจนมันพังทลายลง" เธอได้คิดตามและพยายามจะลืมเรื่องของมันไป ถึงจะเพียงแค่คิดเล่นๆแต่เธอก็ยังจินตนาการถึงภาพอันเลวร้ายออกมาได้อย่างชัดเจน
สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มตรึงเครียดขึ้นเรื่อยๆทั้งเนเมซิสทั้งคุมะต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่ความตายใกล้คืบคลานเข้ามา คุมะที่กำลังพูดกล่อมให้เธอหยุดการโจมตีได้แสยะยิ้ม มันได้เตรียมที่จะโจมตีสวนกลับในตอนที่เนเมซิสหยุดการโจมตี
...ใช่แล้ว ถึงมันจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ยังเป็นแค่มนุษย์ยังไงมนุษย์น่ะก็มีความกลัวที่ชื่อว่าความตายอยู่ภานในใจกันทุกคนพวกมันนั้นหวาดกลัวกับสิ่งนี้กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็ก นักบุญ นักบวช แม่ชีหรือแม้แต่พระราชาก็เช่นกันทุกคนล้วนแล้วแต่กลัวความตายกันทั้งนั้น ยิ่งจินตนาการก็ยิ่งหวาดกลัว ยิ่งคิดถึงมันก็ยิ่งหวาดระแวง ในยามที่พวกมันใกล้จะตายก็จะพยายามตะเกียจตะกายหาทางรอด
และใช้ทุกวิถีทางและแกก็ไม่ต่างกันหรอกเนเมซิส!
เมื่อใดที่แกหยุดเมื่อไหร่ข้าก็จะยิ่งลำแสงใส่แกอีกครั้งแต่ครั้งนี้บวกกับสภาพร่างกายของแกที่กำลังจะตายอยู่รอมร่อแล้ว คราวนี้แหละแกจะต้องตาย!!!...
มันได้เฝ้ารอโอกาสนั้นมาถึง ถึงแม้ว่าขา แขนและหางจะถูกตัดไปอย่างล่ะข้างแล้วก็ตามมันก็ยังรอคอยโอกาสอยู่
"ฉันคิดว่าฉันก็เคยบอกไปแล้วนะว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่ร่างของฉัน"
มันได้อ้าปากค้างกับคำตอบของเนเมซิส
....บ้าแล้ว! ถ้าหากว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริงมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุดโจมตี ถึงแม้เจ้าของร่างมันจะตายแต่มันก็แค่ร่างของคนอื่นตัวมันจริงๆก็ไม่ได้รับผลอะไรเลย!!!.... มันจึงพยายามพูดเพื่อหาวิธีเอาตัวรอด
"ถ้างั้นแกไม่เป็นห่วงเจ้าของร่างนั้นเลยหรือยังไง!"
"ไม่อ่ะ สึกุมิน่ะยอมให้ฉันทำแบบนี้แน่ๆ"
มันได้เริ่มหน้าซีดลงเรื่อยๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเราแย่แน่!....
"ถ้างั้นแกก็จะถูกเพื่อนๆของมันตามฆ่าและเคียดแค้นไปทั่วทั้งชีวิตแกยังจะไม่ยอมหยุดอีกอย่างงั้นเหรอ!!!"
"แค้นก็แค้นไปดิฉันไม่สนใจใครทั้งนั้นนอกจากสึกุมิ!"
"ถ้าหากว่าเจ้าคนที่ชื่อว่าสึกุมิมันดันรู้ว่าแกฆ่าคนมันจะยังมองแกในแบบเดิมๆอยู่อีกหรือเปล่า!!!"
"ถ้างั้นเจ้าหมอนั่นคงไม่ได้มองฉันแล้วล่ะเพราะสึกุมิกับเซนะคือคนๆ
เดียวกัน!"
"แกคิดจะฆ่ามันอย่างงั้นรึ!"
เนเมซิสได้เงียบไปชั่วขณะ... "นี่แกพูดพร่ำอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว"
"แกคิดว่าฉันจะสู้จนทำให้สึกุมิต้องตายอย่างงั้นสินะ"
มันได้เบิกตาข้างนึงแบบกว้างๆ
"แกคงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าฉันอ่านใจคนได้น่ะ"
มันได้ทำสีหน้าสิ้นหวังแบบสุดๆขึ้น
"แกคิดจะฉวยโอกาสตอนฉันหยุดการโจมตีแล้วฆ่าฉันสินะ"
มันได้สลายพลังทั้งหมดที่กำลังรวบรวมอยู่ในปาก
"แล้วแกคิดหรือว่าตัวตนอันต้อยต่ำของแกจะทำให้พวกเราต้องสู้ถึงขนาดยอมแลกด้วยชีวิตได้อย่างงั้นเหรอไอเจ้าปลาไหล! แกมันก็แค่เศษทรายที่กำลังต่อกรกับจักรวาลอยู่แถมยังไม่รู้อีกว่าตัวเองน่ะอ่อนแอแค่ไหน"
หลังจากที่โจมตีไปนับพันๆครั้งเธอก็ได้เปลี่ยนทั้งแววตาและดาบจนกลายเป็นสีดำทมิฬ ท่าพิเศษที่เธอกำลังจะใช้ต่อจากนี้นั้นร้ายแรงยิ่งกว่าอินเฟอโนเวฟหลายต่อหลายเท่า มันคือท่าพิเศษต้องห้ามที่ถ้าหากใช้แล้วจะไม่มีใครเคยรอดชีวิตได้เลยโดยสาเหตุที่มันถูกเรียกว่าท่าต้องห้ามไม่ใช่เพราะสร้างภาระให้กับร่างกายเหมือนอินเฟอโน่เวฟหรือจะส่งผลเสียต่อผู้ใช้แต่อย่างใดแต่เป็นเพราะมันสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แบบไร้ทางสู้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นท่าต้องห้าม
"แกจงหายไปเพราะความอวดดีของแกซะ"
ดาบทมิฬได้พุ่งผ่านร่างของมันไปเพียงชั่วพริบตาเดียว
"ท่าพิเศษต้องห้าม อินเฟอร์โน่ซอร์ด!"
ทั้งคนดูทั้งคนมองต่างก็งงกลับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงมันจะเป็นท่าต้องห้ามก็ตามแต่มันก็ไม่ได้เกิดเอฟเฟ็คหรือมีอะไรเกิดขึ้นเลยซึ่งแตกต่างกับท่าก่อนๆเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุมะถูกฟันต่างก็เป็นที่น่าหวาดกลัว ร่างของมันได้ตกลงมากระแทกกับพื้นน้ำแข็งพร้อมกับหยุดหายใจและตายไปในที่สุด
จะว่าเพราะการโจมตีนั้นก็ไม่ได้เพราะบาดแผลจากการโจมตีนั้นไม่สาหัติมากเมื่อเทียบกับท่าก่อนๆ และจะโทษว่าเป็นเพราะบาดแผลก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้เพราะถึงมันจะโดนไปหลายต่อหลายท่าแต่มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ราวกับเป็นซอมบี้
โซเฟียที่หายดีแล้วจึงวิ่งเข้ามาหาเนเมซิสในทันที
"เมื่อกี้นี้นายทำอะไรอ่ะ???"
"นี่เธอฟื้นตั้งนานแล้วใช่ไหม!"
"อ้าวรู้ได้ไง!"
"ฉันมองเธออยู่ตลอด"
"ไม่น่าเชื่อคนอย่างนายที่เลือดเย็น หยิ่งแถมยังเอาแต่ใจเนี่ยนะ"
"ฉันจะถือว่าเป็นคำชมละกันส่วนเรื่องของท่าพิเศษท่านี้มันเป็นท่าพิเศษที่จะส่งวิญญาณไปสู่ยมลูกหรือพูดง่ายๆคือ ท่าส่งวิญญาณ"
"แต่ว่าเจ้านั่นมันยังไม่ตายสักหน่อยเพราะงั้นนายก็ไม่น่าจะส่ง
วิญญานมันไปได้สิ"
"ขอบเขตของท่านี้มันสุดๆยังไงล่ะถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ตายแต่ฉันก็สามารถส่งวิญญานมันไปได้เลย"
"แล้วความเสี่ยงไม่มีบ้างเลยเหรอ"
"ความเสี่ยงมีอยู่อย่างเดียวคือถ้าหากไม่ใช่ฉันหรือเซนะแล้วใช้ท่านี้ได้ล่ะก็โลกจะยุ่งเหยิงจนมันพังทลายลง" เธอได้คิดตามและพยายามจะลืมเรื่องของมันไป ถึงจะเพียงแค่คิดเล่นๆแต่เธอก็ยังจินตนาการถึงภาพอันเลวร้ายออกมาได้อย่างชัดเจน
วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 18 wing of road
ที่แผ่นหลังของเด็กหนุ่มได้มีปีกสีขาวงอกออกมา
ปีกนั่นไม่ใช่มีไว้แค่บินเพียงอย่างเดียวเนเมซิสเองก็รู้มาจากเซนะในอดีตอีกทีนึง
"อวตาร!"
หลังจากที่เนเมซิสพูดจบแสงสีขาวจึงได้สว่างจ้าขึ้นมาจากปีกทั้งสอง
เดิมทีนั้นถ้าหากอยากได้พลังของ duo มาไว้ในครอบครองก็มีอยู่ทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน วิธีแรกคือการทำสัญญากันตามปกติซึ่งจะได้พลังมาก็ต่อเมื่อรวมร่างกันเท่านั้นซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ทุกคนส่วนมากเขาใช้กัน วิธีที่สองคือการฆ่า duo เพื่อให้ได้พล้งของมันมาครอบครองโดยคนที่ได้มาด้วยวิธีนี้จะถูกเรียกว่า
อวตาร และวิธีสุดท้ายนั่นก็คือสายเลือด โดยการมีพ่อหรือแม่ที่เป็นทั้งมาสเตอร์และดูโอ้โดยลูกที่เกิดมานั้นจะมีพลังอวตารตั้งแต่กำเนิดโดยทันทีซึ่งวิธีนี้พบ
ยากมากๆถึงมากที่สุด
และวิธีที่สามนั้นเองที่เนเมซิสกำลังใช้มันอยู่
ที่คาดผมรูปลักษณ์สวยงามมีปีกได้ปรากฏขึ้นบนหัวพร้อมกับดาบใหม่
ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อยโดยมีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยมีคมด้านเดียวคราวนี้เปลี่ยนเป็นมีคมทั้งสองด้านแทน เสื้อคลุมสีน้ำเงินที่ปกติสั้นตอนนี้มันได้ยาวขึ้นมามากจนดูเท่ขึ้นมาทันตา ดวงตานั้นจากสีน้ำเงินสดใสในตอนนี้กลับกลายเป็นดวงตาที่เหมือนกับคนไร้ชีวิต ผมเองจากสีส้มอยู่ๆก็กลายเป็นสีทองคมยาวทำเอาเหล่าคนที่ดูอยู่ถึงกับอึ้งกิมกี่ไปตามๆกัน
ในตอนนี้ผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าปีศาจนั้นก็คือผู้กล้าแบบเต็มตัวแล้ว
"อาวล่ะ มาเริ่มศึกสุดท้ายกันเถอะ"
เพียงพริบตาที่เขาก้าวเท้าแรงกดดันมหาศาลที่เหมือนจะขยี้ทุกๆสิ่งก็ได้พุ่งมาหาคุมะราวกับสายลม ตอนนี้สัญชาตญานของมันกำลังบอกว่าศัตรูของตนนั้น
ในตอนนี้ได้ก้าวข้ามผ่านความเป็นมนุษย์ไปเรียบร้อยแล้ว
"แกเป็นตัวอะไรกันแน่!!!"
มันได้ตระโกนถามเธออย่างสุดเสียง
"มังกรหรือไม่ก็ยมทูตก็ประมาณนั้นแหละ"
"มังกร... ยมทูต... "
"แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างมันเพราะว่าต่อจากนี้แกจะต้องตาย"
"ใครจะไปยอม!!"
มันได้ยิงลำแสงออกมาจากปากซึ่งขนาดนั้นใหญ่กว่าการโจมตีครั้งก่อนๆจนเทียบไม่ติดฝุ่นตามด้วยใช้พลังของตนทำให้เกิดช่องว่างมิติขึ้นมารอบๆตัวเนเมซิส ลำแสงได้พุ่งเข้าไปในรูนั่นและออกมาจากอีกรูและก็เข้าไปอีกรูสลับกันไปมาจนเหมือนเป็นลำแสงวิ่งไปมาเป็นรูปวงกลมล้อมรอบตัวเนเมซิสเอาไว้ก่อนที่มันจะหายไปและไปโผล่อีกทีบนหัวของเธอ ด้วยการวิ่งผ่านมิติไปเรื่อยๆนี้จึงทำให้ทั้งความเร็วและอนุภาพนั้นสูงขึ้นมากชนิดเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์และสิ่งนั้นก็ได้พุ่งมาหาเธอ เธอจึงชักดาบออกมาพร้อมตั้งท่าฟัน
"ท่าพิเศษ เกรย์เซอร์ซอร์ด!"
เพียงพริบตาที่เธอฟันใส่ลำแสงของมันก็ได้ถูกทำให้กลายเป็นน้ำแข็งในชั่วพริบตาและเพราะแรงโน้มถ่วงจึงทำให้น้ำแข็งแตกกระจายและตกลงมา
"ต่อไปก็ตาแกแล้ว"
พูดจบเพียงแค่เจ้าตัวก้าวเท้าเพียงครั้งเดียวเธอก็มายืนประชิดร่างของมันแล้ว อันที่จริงเธอนั้นก้าวท้าวมากกว่าสิบครั้งแต่เพียงแค่มันเร็วจนมองเห็นเหมือนก้าวครั้งเดียว คุมะที่ตกใจจึงกระโดดถอยหลังแต่เนเมซิสก็ได้คว้าหางมันเอาไว้"จะไปไหน"
"เจ้าปลาไหล!"
เธอได้เหวี่ยงมันขึ้นกลางอากาศก่อนจะพุ่งไปหามัน
...ตั้งแต่เมื่อกี้ทำไมเราถึงไม่เอ่ะใจนะว่าพลังของมันคือความเร็ว! ไม่ว่าจะเป็นสปีดในการบิน หนี หรือแม้แต่การที่มันเข้ามาประชิดตัวเราล้วนแล้วแต่เป็นนความเร็วที่เหนือมนุษย์ ถ้าหากว่าเรารู้เร็วกว่านี้ล่ะก็!
"ถึงจะรู้ไปแต่แกก็แพ้อยู่ดี"
เสียงของเนเมซิสทำให้มันถึงกับสะดุ้ง "นี่แกอ่านใจข้าได้ด้วยงั้น
รึ!?"
"ฉันน่ะทำไม่ได้หรอกแต่สึกุมิน่ะทำได้"
เนื่องจากว่าความสามารถนี้ถูกปิดผนึกเอาไว้ถึงแม้จะเป็นเซนะเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมีพลังนี้ด้วยแต่เพราะเป็นเนเมซิสเขาจึงดึงพลังที่ถูกผนึกอยู่ออกมาใช้ได้ชั่วคราว และเพราะเป็นร่างของเซนะจึงทำให้เธอเข้าใจกลไกทุกอย่างในร่างเป็นอย่างดีชนิดที่ว่ารู้ทุกซอกทุกมุม
ร่างของเขาได้มีออร่าสีรุ้งเกิดขึ้น และนี่คือขั้นตอนก่อนที่เธอจะใช้ท่าพิเศษต้องห้าม
"เอาไปชิมหน่อยเป็นไงท่าพิเศษ อินเฟอโน่เวฟ!"
เธอได้ใช้ดาบและความเร็วที่ไม่ธรรมดาพุ่งไปฟันใส่ร่างของคุมะโดยหลังจากที่พุ่งไปแล้วก็จะพุ่งกลับมาฟันอีกครั้งต่ออีกครั้งจนกลายเป็นลูปไม่มีที่สิ้นสุดจนเกิดเป็นเส้นแสงที่มีลักษณะเป็นวงกลมหลายวงซ้อนทับกัน
อานุภาพของมันได้เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ฟันแต่เพราะพลังนั้นมันมากเกินจนร่างกายที่โทรมอยู่แล้วนั้นทนรับไม่ไหวจนเกิดบาดแผลขึ้นตามร่างกาย เลือดนั้นได้พุ่งออกมาเรื่อยๆจากปากแผลโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทางฝั่งของคุมะเองก็เริ่มมีแผลเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ปีกที่เคยมีอยู่สองข้างในตอนนี้มันได้ถูกฟันทิ้งไปข้างนึง เกราะผิวหนังสุดแข็งยิ่งกว่าเพชรก็เริ่มแตกร้าวลงเรื่อยๆ ทั้งเล็บทั้งฟันทั้งเขี้ยวและกรามขนาดใหญ่ได้ค่อยๆหักลงอย่างต่อเนื่อง มันได้พูดขณะที่ร่างกายของมันค่อยๆพังลงเรื่อย"นี่แกไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยหรือไง!"
"ดูตามตัวแกสิขืนเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราทั้งคู่ได้ตายแน่ถ้าแกยังเสียดายชีวิตอยู่ก็จงหยุดฟันซะ!!!"
ที่แผ่นหลังของเด็กหนุ่มได้มีปีกสีขาวงอกออกมา
ปีกนั่นไม่ใช่มีไว้แค่บินเพียงอย่างเดียวเนเมซิสเองก็รู้มาจากเซนะในอดีตอีกทีนึง
"อวตาร!"
หลังจากที่เนเมซิสพูดจบแสงสีขาวจึงได้สว่างจ้าขึ้นมาจากปีกทั้งสอง
เดิมทีนั้นถ้าหากอยากได้พลังของ duo มาไว้ในครอบครองก็มีอยู่ทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน วิธีแรกคือการทำสัญญากันตามปกติซึ่งจะได้พลังมาก็ต่อเมื่อรวมร่างกันเท่านั้นซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ทุกคนส่วนมากเขาใช้กัน วิธีที่สองคือการฆ่า duo เพื่อให้ได้พล้งของมันมาครอบครองโดยคนที่ได้มาด้วยวิธีนี้จะถูกเรียกว่า
อวตาร และวิธีสุดท้ายนั่นก็คือสายเลือด โดยการมีพ่อหรือแม่ที่เป็นทั้งมาสเตอร์และดูโอ้โดยลูกที่เกิดมานั้นจะมีพลังอวตารตั้งแต่กำเนิดโดยทันทีซึ่งวิธีนี้พบ
ยากมากๆถึงมากที่สุด
และวิธีที่สามนั้นเองที่เนเมซิสกำลังใช้มันอยู่
ที่คาดผมรูปลักษณ์สวยงามมีปีกได้ปรากฏขึ้นบนหัวพร้อมกับดาบใหม่
ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อยโดยมีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยมีคมด้านเดียวคราวนี้เปลี่ยนเป็นมีคมทั้งสองด้านแทน เสื้อคลุมสีน้ำเงินที่ปกติสั้นตอนนี้มันได้ยาวขึ้นมามากจนดูเท่ขึ้นมาทันตา ดวงตานั้นจากสีน้ำเงินสดใสในตอนนี้กลับกลายเป็นดวงตาที่เหมือนกับคนไร้ชีวิต ผมเองจากสีส้มอยู่ๆก็กลายเป็นสีทองคมยาวทำเอาเหล่าคนที่ดูอยู่ถึงกับอึ้งกิมกี่ไปตามๆกัน
ในตอนนี้ผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าปีศาจนั้นก็คือผู้กล้าแบบเต็มตัวแล้ว
"อาวล่ะ มาเริ่มศึกสุดท้ายกันเถอะ"
เพียงพริบตาที่เขาก้าวเท้าแรงกดดันมหาศาลที่เหมือนจะขยี้ทุกๆสิ่งก็ได้พุ่งมาหาคุมะราวกับสายลม ตอนนี้สัญชาตญานของมันกำลังบอกว่าศัตรูของตนนั้น
ในตอนนี้ได้ก้าวข้ามผ่านความเป็นมนุษย์ไปเรียบร้อยแล้ว
"แกเป็นตัวอะไรกันแน่!!!"
มันได้ตระโกนถามเธออย่างสุดเสียง
"มังกรหรือไม่ก็ยมทูตก็ประมาณนั้นแหละ"
"มังกร... ยมทูต... "
"แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างมันเพราะว่าต่อจากนี้แกจะต้องตาย"
"ใครจะไปยอม!!"
มันได้ยิงลำแสงออกมาจากปากซึ่งขนาดนั้นใหญ่กว่าการโจมตีครั้งก่อนๆจนเทียบไม่ติดฝุ่นตามด้วยใช้พลังของตนทำให้เกิดช่องว่างมิติขึ้นมารอบๆตัวเนเมซิส ลำแสงได้พุ่งเข้าไปในรูนั่นและออกมาจากอีกรูและก็เข้าไปอีกรูสลับกันไปมาจนเหมือนเป็นลำแสงวิ่งไปมาเป็นรูปวงกลมล้อมรอบตัวเนเมซิสเอาไว้ก่อนที่มันจะหายไปและไปโผล่อีกทีบนหัวของเธอ ด้วยการวิ่งผ่านมิติไปเรื่อยๆนี้จึงทำให้ทั้งความเร็วและอนุภาพนั้นสูงขึ้นมากชนิดเทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์และสิ่งนั้นก็ได้พุ่งมาหาเธอ เธอจึงชักดาบออกมาพร้อมตั้งท่าฟัน
"ท่าพิเศษ เกรย์เซอร์ซอร์ด!"
เพียงพริบตาที่เธอฟันใส่ลำแสงของมันก็ได้ถูกทำให้กลายเป็นน้ำแข็งในชั่วพริบตาและเพราะแรงโน้มถ่วงจึงทำให้น้ำแข็งแตกกระจายและตกลงมา
"ต่อไปก็ตาแกแล้ว"
พูดจบเพียงแค่เจ้าตัวก้าวเท้าเพียงครั้งเดียวเธอก็มายืนประชิดร่างของมันแล้ว อันที่จริงเธอนั้นก้าวท้าวมากกว่าสิบครั้งแต่เพียงแค่มันเร็วจนมองเห็นเหมือนก้าวครั้งเดียว คุมะที่ตกใจจึงกระโดดถอยหลังแต่เนเมซิสก็ได้คว้าหางมันเอาไว้"จะไปไหน"
"เจ้าปลาไหล!"
เธอได้เหวี่ยงมันขึ้นกลางอากาศก่อนจะพุ่งไปหามัน
...ตั้งแต่เมื่อกี้ทำไมเราถึงไม่เอ่ะใจนะว่าพลังของมันคือความเร็ว! ไม่ว่าจะเป็นสปีดในการบิน หนี หรือแม้แต่การที่มันเข้ามาประชิดตัวเราล้วนแล้วแต่เป็นนความเร็วที่เหนือมนุษย์ ถ้าหากว่าเรารู้เร็วกว่านี้ล่ะก็!
"ถึงจะรู้ไปแต่แกก็แพ้อยู่ดี"
เสียงของเนเมซิสทำให้มันถึงกับสะดุ้ง "นี่แกอ่านใจข้าได้ด้วยงั้น
รึ!?"
"ฉันน่ะทำไม่ได้หรอกแต่สึกุมิน่ะทำได้"
เนื่องจากว่าความสามารถนี้ถูกปิดผนึกเอาไว้ถึงแม้จะเป็นเซนะเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมีพลังนี้ด้วยแต่เพราะเป็นเนเมซิสเขาจึงดึงพลังที่ถูกผนึกอยู่ออกมาใช้ได้ชั่วคราว และเพราะเป็นร่างของเซนะจึงทำให้เธอเข้าใจกลไกทุกอย่างในร่างเป็นอย่างดีชนิดที่ว่ารู้ทุกซอกทุกมุม
ร่างของเขาได้มีออร่าสีรุ้งเกิดขึ้น และนี่คือขั้นตอนก่อนที่เธอจะใช้ท่าพิเศษต้องห้าม
"เอาไปชิมหน่อยเป็นไงท่าพิเศษ อินเฟอโน่เวฟ!"
เธอได้ใช้ดาบและความเร็วที่ไม่ธรรมดาพุ่งไปฟันใส่ร่างของคุมะโดยหลังจากที่พุ่งไปแล้วก็จะพุ่งกลับมาฟันอีกครั้งต่ออีกครั้งจนกลายเป็นลูปไม่มีที่สิ้นสุดจนเกิดเป็นเส้นแสงที่มีลักษณะเป็นวงกลมหลายวงซ้อนทับกัน
อานุภาพของมันได้เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ฟันแต่เพราะพลังนั้นมันมากเกินจนร่างกายที่โทรมอยู่แล้วนั้นทนรับไม่ไหวจนเกิดบาดแผลขึ้นตามร่างกาย เลือดนั้นได้พุ่งออกมาเรื่อยๆจากปากแผลโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทางฝั่งของคุมะเองก็เริ่มมีแผลเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ปีกที่เคยมีอยู่สองข้างในตอนนี้มันได้ถูกฟันทิ้งไปข้างนึง เกราะผิวหนังสุดแข็งยิ่งกว่าเพชรก็เริ่มแตกร้าวลงเรื่อยๆ ทั้งเล็บทั้งฟันทั้งเขี้ยวและกรามขนาดใหญ่ได้ค่อยๆหักลงอย่างต่อเนื่อง มันได้พูดขณะที่ร่างกายของมันค่อยๆพังลงเรื่อย"นี่แกไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยหรือไง!"
"ดูตามตัวแกสิขืนเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราทั้งคู่ได้ตายแน่ถ้าแกยังเสียดายชีวิตอยู่ก็จงหยุดฟันซะ!!!"
ตอนที่ 17 my life
สายลมได้หยุดนิ่ง ทุกอย่างได้สงบลง
ด้วยพลังของชุนซุยทำให้ทุกๆอย่างเหมือนจะถูกหยุดนิ่งลง แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง
มนุษย์ทั้งสองได้ปะทะกับปีศาจตนหนึ่งราวกับในหนังไซไฟ
พวกนิโครุเพียงทำได้แค่มองดูเท่านั้น พวกเขาต่างเจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรผู้มีพระคุณได้เลย
"นี่พี่ค่ะ... พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆอย่างงั้นหรอ"
เธอได้มองไปที่พวกเนเมซิส ในตอนนี้พวกเขากำลังสู้กับคุมะอย่างดุเดือดชนิดที่ว่าทำให้เกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เลือดได้ไหลหลงมาจากหน้าผากของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ชุดก็เริ่มขาดจนยับเยินจนสภาพนั้นแทบจะจำไม่ได้แล้ว มือที่พวกเขากำลังจับดาบอยู่ก็ได้มีเลือดซึมออกมาเป็นพักๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสู้ต่อไป
และเมื่อเธอมองกลับมาที่ตนเอง สภาพของเธอนั้นยังดีสักกว่าเมื่อเทียบกับพวกเขาแต่ถึงกระนั้นเธอก็มิอาจเอื้อมมือเข้าไปช่วยได้
"นี่เรามาเพื่อที่จะช่วยพวกเขาแท้ๆแต่พวกเรากลับช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลยสักอย่างเดียว"
พี่ชายจึงมองไปที่ใบหน้าของน้องสาวที่ตอนนี้เหมือนกับเธออยากจะร้องไห้ออกมาเต็มทีแล้ว
"นั่นสินะ... นี่มันคือการต่อสู้ในระดับที่ว่าถ้าพวกเราเข้าไปจะไปเป็นตัวถ่วงเขาเปล่าๆเพราะงั้นพวกเราควรมองดูการต่อสู้นี้และไม่ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้จะเป็นยังไงก็ตามแต่เราก็ได้อยู่เป็นพยานของการต่อสู้แห่งตำนานนี้แล้ว"
"ตำนานอย่างงั้นหรอ.... "
"และถ้านับตั้งแต่เริ่มพวกเราก็ทำประโยชน์ให้พวกเขาได้บ้างแล้วนะ"
เจ้าตัวได้พูดไปพลางยิ้มไปพลางพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่กำลังแปรปรวนอยู่ในขณะนี้
ท่ามกลางเมฆฝนสีดำอยู่ๆก็ได้มีเนเมซิสกับโซเฟียกำลังร่วงลงมาถัดจากนั้นร่างของคุมะก็ได้แหวกว่ายก้อนเมฆตามพวกเขาสองคนลงมาแบบติดๆ
มันได้ใช้หมัดทั้งสองชกใส่พวกเขา พวกเนเมซิสจึงหลบแล้วฟันสวนกลับใส่หน้าของมันแบบจังๆ ท่ามกลางกลุ่มควันมันได้ยิงลำแสงออกมาจากปากพุ่งใส่พวกเขาแบบไม่ทันตั้งตัวจนทำให้พวกเขาถูกดันลงไปชนกับพื้นน้ำแข็งก่อนที่มันจะระเบิด
จนพื้นน้ำแข็งรอบๆยกตัวสูงขึ้น
"ยังหรอก มันยังจบเพียงแค่นี้!"
คุมะได้พุ่งลงมากระทืบซ้ำในจุดที่พวกเขาตกลงมาทำให้บริเวณพื้นน้ำแข็งรอบๆยกตัวสูงขึ้นไปอีก
"เละ งานนี้มีเละ"
ขณะที่มันกำลังได้ใจอยู่นั้นแสงสีม่วงก็ได้พุ่งออกมาจากพื้นเป็นเส้นตรงทำให้ดวงตาข้างขวาของมันถูกเล่นงานจนตาข้างนั้นใช้การไม่ได้ ก่อนที่มันจะถอยห่างออกมาจากจุดนั้น
"พูดผิดพูดใหม่ได้นะเจ้าปลาไหล"
แผ่นน้ำแข็งรอบๆได้ถูกฟันทิ้งจนเผยร่างของเด็กสาวให้เห็น
"นี่แกทำไมยังไม่ตายๆไปสักที!"มันได้จ้องตาค้างราวกับเห็นปีศาจ
ที่เบื้องหน้าของมันก็คือเนเมซิสที่กำลังอุ้มร่างของโซเฟียที่โชกเลือดไปทั้งตัว
และเพราะการเสียสละในครั้งนี้ของเธอจึงทำให้เนเมซิสยังคงยืนอยู่ได้ถึงแม้ว่าแขนอีกข้างจะใช้การไม่ได้แล้วก็ตามที เพราะโซเฟียที่กางบาเรียน้ำแข็งด้วยพลังทั้งหมดก่อนที่การโจมตีจะพุ่งมาโดนตัวพวกเขาและอีกเหตุผลนึงที่เธอสลบและหมดสติไปรวมถึงมีเลือดชุ่มไปทั้งตัวนั่นก็เพราะเธอแบ่งพลังไปให้
เนเมซิส
และอีกอย่างที่ทำให้เธอรอดมาได้นั่นก็เพราะเลือด
ถึงจะเห็นว่าเลือดนั้นชุ่มไปทั่วร่างของโซเฟียแต่มันกลับไม่ใช่เลือดของเธอแต่เป็นเลือดของเนเมซิสที่ยอมกรีดข้อมือตัวเองในชั่วพริบตาที่โซเฟียจะโดนการโจมตี โดยเดิมทีเลือดนั้นแต่เดิมก็เป็นเลือดของเซนะที่มีพลังในการรักษา
โดยคนที่จะสั่งการให้พลังนั้นทำงานได้ก็มีแต่เจ้าตัวกับตนเองเท่านั้น
ร่างกายของโซเฟียที่รอดมาได้จึงค่อยๆฟื้นฟูตัวเองอย่างช้าๆ
เนเมซิสจึงวางร่างของเธอลงกับพื้นน้ำแข็ง ...อย่าตายนะยัยหนองโพเธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่ทั้งฉันและสึกุมิต่างก็ชอบเพราะงั้นถ้าเธอเกิดตายขึ้นมาฉันคงไม่มีหน้าไปเจอกับสึกุมิแน่ๆ... เพื่อความปลอดภัยเขาจึงต้องวางร่างเธอทิ้งเอาไว้ตรงนี้และถ้าหากพาเธอไปหาพวกนิโครุก็อาจจะโดนคุมะรู้ทันทีเลยก็ได้ว่าพวกเขายังไม่ตายและมันอาจจะเบนเป้าไปที่พวกเขาแทนถึงแม้ว่าจะเป็นเนเมซิสแต่ในสภาพแบบนี้เขาคงจะปกป้องคนสามคนพร้อมๆกันไม่ได้แต่ถ้าเป็นโซเฟียคนเดียว
แค่เขาใช้ความเร็วสูงสุดก็สามารถแบกร่างของเธอหนีไปได้ถึงแม้ว่าจะเป็นขณะที่เขอกำลังสู้กับมันอยู่ก็ตามที
ในตอนนี้ทั้งพวกพ้องทั้งเพื่อนต่างก็โดนทำร้ายจนสภาพนั้นยับเยินนั่นจึงเป็นเหตุทำให้เนเมซิสเริ่มจะอยากเอาจริงขึ้นมาแล้ว
"ไอเจ้าปลาไหลงานนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกกลับบ่อแน่!"
เขาได้พุ่งไปหามันด้วยความเร็วที่ทำให้เกิดโซนิคบูมเกิดขึ้น
คลื่นเสียงจากการสั่นสะเทือนนี้ได้ทำให้น้ำแข็งบริเวณรอบๆถึงกับแตกร้าว กว่าที่คุมะจะรู้สึกตัวร่างของมันก็ได้ถูกฟันเข้าซะแล้ว"อ๊ากก~!"
....เราเริ่มจำมันได้แล้ว! ทั้งความแข็งแกร่งนี้ ทั้งพลังนี้ เจ้าหมอนี่กับท่านผู้นั้นเคยรู้จักกันมาก่อน!....
สายลมได้หยุดนิ่ง ทุกอย่างได้สงบลง
ด้วยพลังของชุนซุยทำให้ทุกๆอย่างเหมือนจะถูกหยุดนิ่งลง แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง
มนุษย์ทั้งสองได้ปะทะกับปีศาจตนหนึ่งราวกับในหนังไซไฟ
พวกนิโครุเพียงทำได้แค่มองดูเท่านั้น พวกเขาต่างเจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรผู้มีพระคุณได้เลย
"นี่พี่ค่ะ... พวกเราทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆอย่างงั้นหรอ"
เธอได้มองไปที่พวกเนเมซิส ในตอนนี้พวกเขากำลังสู้กับคุมะอย่างดุเดือดชนิดที่ว่าทำให้เกิดระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เลือดได้ไหลหลงมาจากหน้าผากของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ชุดก็เริ่มขาดจนยับเยินจนสภาพนั้นแทบจะจำไม่ได้แล้ว มือที่พวกเขากำลังจับดาบอยู่ก็ได้มีเลือดซึมออกมาเป็นพักๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสู้ต่อไป
และเมื่อเธอมองกลับมาที่ตนเอง สภาพของเธอนั้นยังดีสักกว่าเมื่อเทียบกับพวกเขาแต่ถึงกระนั้นเธอก็มิอาจเอื้อมมือเข้าไปช่วยได้
"นี่เรามาเพื่อที่จะช่วยพวกเขาแท้ๆแต่พวกเรากลับช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลยสักอย่างเดียว"
พี่ชายจึงมองไปที่ใบหน้าของน้องสาวที่ตอนนี้เหมือนกับเธออยากจะร้องไห้ออกมาเต็มทีแล้ว
"นั่นสินะ... นี่มันคือการต่อสู้ในระดับที่ว่าถ้าพวกเราเข้าไปจะไปเป็นตัวถ่วงเขาเปล่าๆเพราะงั้นพวกเราควรมองดูการต่อสู้นี้และไม่ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้จะเป็นยังไงก็ตามแต่เราก็ได้อยู่เป็นพยานของการต่อสู้แห่งตำนานนี้แล้ว"
"ตำนานอย่างงั้นหรอ.... "
"และถ้านับตั้งแต่เริ่มพวกเราก็ทำประโยชน์ให้พวกเขาได้บ้างแล้วนะ"
เจ้าตัวได้พูดไปพลางยิ้มไปพลางพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่กำลังแปรปรวนอยู่ในขณะนี้
ท่ามกลางเมฆฝนสีดำอยู่ๆก็ได้มีเนเมซิสกับโซเฟียกำลังร่วงลงมาถัดจากนั้นร่างของคุมะก็ได้แหวกว่ายก้อนเมฆตามพวกเขาสองคนลงมาแบบติดๆ
มันได้ใช้หมัดทั้งสองชกใส่พวกเขา พวกเนเมซิสจึงหลบแล้วฟันสวนกลับใส่หน้าของมันแบบจังๆ ท่ามกลางกลุ่มควันมันได้ยิงลำแสงออกมาจากปากพุ่งใส่พวกเขาแบบไม่ทันตั้งตัวจนทำให้พวกเขาถูกดันลงไปชนกับพื้นน้ำแข็งก่อนที่มันจะระเบิด
จนพื้นน้ำแข็งรอบๆยกตัวสูงขึ้น
"ยังหรอก มันยังจบเพียงแค่นี้!"
คุมะได้พุ่งลงมากระทืบซ้ำในจุดที่พวกเขาตกลงมาทำให้บริเวณพื้นน้ำแข็งรอบๆยกตัวสูงขึ้นไปอีก
"เละ งานนี้มีเละ"
ขณะที่มันกำลังได้ใจอยู่นั้นแสงสีม่วงก็ได้พุ่งออกมาจากพื้นเป็นเส้นตรงทำให้ดวงตาข้างขวาของมันถูกเล่นงานจนตาข้างนั้นใช้การไม่ได้ ก่อนที่มันจะถอยห่างออกมาจากจุดนั้น
"พูดผิดพูดใหม่ได้นะเจ้าปลาไหล"
แผ่นน้ำแข็งรอบๆได้ถูกฟันทิ้งจนเผยร่างของเด็กสาวให้เห็น
"นี่แกทำไมยังไม่ตายๆไปสักที!"มันได้จ้องตาค้างราวกับเห็นปีศาจ
ที่เบื้องหน้าของมันก็คือเนเมซิสที่กำลังอุ้มร่างของโซเฟียที่โชกเลือดไปทั้งตัว
และเพราะการเสียสละในครั้งนี้ของเธอจึงทำให้เนเมซิสยังคงยืนอยู่ได้ถึงแม้ว่าแขนอีกข้างจะใช้การไม่ได้แล้วก็ตามที เพราะโซเฟียที่กางบาเรียน้ำแข็งด้วยพลังทั้งหมดก่อนที่การโจมตีจะพุ่งมาโดนตัวพวกเขาและอีกเหตุผลนึงที่เธอสลบและหมดสติไปรวมถึงมีเลือดชุ่มไปทั้งตัวนั่นก็เพราะเธอแบ่งพลังไปให้
เนเมซิส
และอีกอย่างที่ทำให้เธอรอดมาได้นั่นก็เพราะเลือด
ถึงจะเห็นว่าเลือดนั้นชุ่มไปทั่วร่างของโซเฟียแต่มันกลับไม่ใช่เลือดของเธอแต่เป็นเลือดของเนเมซิสที่ยอมกรีดข้อมือตัวเองในชั่วพริบตาที่โซเฟียจะโดนการโจมตี โดยเดิมทีเลือดนั้นแต่เดิมก็เป็นเลือดของเซนะที่มีพลังในการรักษา
โดยคนที่จะสั่งการให้พลังนั้นทำงานได้ก็มีแต่เจ้าตัวกับตนเองเท่านั้น
ร่างกายของโซเฟียที่รอดมาได้จึงค่อยๆฟื้นฟูตัวเองอย่างช้าๆ
เนเมซิสจึงวางร่างของเธอลงกับพื้นน้ำแข็ง ...อย่าตายนะยัยหนองโพเธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่ทั้งฉันและสึกุมิต่างก็ชอบเพราะงั้นถ้าเธอเกิดตายขึ้นมาฉันคงไม่มีหน้าไปเจอกับสึกุมิแน่ๆ... เพื่อความปลอดภัยเขาจึงต้องวางร่างเธอทิ้งเอาไว้ตรงนี้และถ้าหากพาเธอไปหาพวกนิโครุก็อาจจะโดนคุมะรู้ทันทีเลยก็ได้ว่าพวกเขายังไม่ตายและมันอาจจะเบนเป้าไปที่พวกเขาแทนถึงแม้ว่าจะเป็นเนเมซิสแต่ในสภาพแบบนี้เขาคงจะปกป้องคนสามคนพร้อมๆกันไม่ได้แต่ถ้าเป็นโซเฟียคนเดียว
แค่เขาใช้ความเร็วสูงสุดก็สามารถแบกร่างของเธอหนีไปได้ถึงแม้ว่าจะเป็นขณะที่เขอกำลังสู้กับมันอยู่ก็ตามที
ในตอนนี้ทั้งพวกพ้องทั้งเพื่อนต่างก็โดนทำร้ายจนสภาพนั้นยับเยินนั่นจึงเป็นเหตุทำให้เนเมซิสเริ่มจะอยากเอาจริงขึ้นมาแล้ว
"ไอเจ้าปลาไหลงานนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกกลับบ่อแน่!"
เขาได้พุ่งไปหามันด้วยความเร็วที่ทำให้เกิดโซนิคบูมเกิดขึ้น
คลื่นเสียงจากการสั่นสะเทือนนี้ได้ทำให้น้ำแข็งบริเวณรอบๆถึงกับแตกร้าว กว่าที่คุมะจะรู้สึกตัวร่างของมันก็ได้ถูกฟันเข้าซะแล้ว"อ๊ากก~!"
....เราเริ่มจำมันได้แล้ว! ทั้งความแข็งแกร่งนี้ ทั้งพลังนี้ เจ้าหมอนี่กับท่านผู้นั้นเคยรู้จักกันมาก่อน!....
วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 16 Power of true
ทั้งเนเมซิสทั้งโซเฟียต่างก็กระโจนใส่คุมะ
พวกเขาได้ใช้คอมโบฟันประสานกันจนเกิดเป็นประกายแสงวิ้งวับเนื่องจากการเสียดสี ท่างฝั่งคุมะจึงได้กระโดดบินขึ้นเพื่อหนีจากการโจมตีพวกนั้น"ไร้สาระ"
"ข้าจะแสดงการโจมตีของจริงให้ดู!"
มันได้ใช้พลังของตัวเองทำให้มือของตนนั้นหายไปส่วนหนึ่ง มือส่วนที่หายไปนั้นได้โผล่ขึ้นมาจากรอยแยกมิติข้างๆเนเมซิส และชกใส่ร่างเขาเข้าอย่างจัง"อั่กก... "
"เนเมซิส!"
โซเฟียได้ส่งเสียงไปหาเขาที่ถูกซัดไปชนกับภูเขาน้ำแข็ง
คุมะจึงไม่รอช้าแล้วรีบโจมตีแบบเดิมใส่โซเฟียที่กำลังเปิดช่องโหว่อยู่แต่คราวนี้ดูเหมือนเธอจะจับทางได้เธอจึงได้หลบการโจมตีทั้งหมดของมันได้อย่างงดงามราวกับกำลังเต้นรำอยู่"ทำไมมันถึงหลบได้ล่ะ!?"
"เรื่องง่ายๆน่ะมือของแกนะไม่ได้หายไปไหนหลักฐานคือร่องรอยของส่วนที่หายไปโดยส่วนนั้นได้หายเข้าไปในอีกมิติเพราะงั้นจึงมีแสงตรงส่วนที่แขนนายหายไปแล้วนายก็ได้สร้างทางออกมาใกล้ๆฉันเพื่อที่จะโจมตีได้ง่ายขึ้น ฉันก็เลยเดาจุดที่มันน่าจะโผล่มาแล้วก็หลบมันยังไงล่ะ"
"เดาอย่างงั้นรึ!!"ถึงจะเคยเจอกับคนที่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้อยู่คนนึงแต่เจ้าตัวก็ยังคาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่สองที่สามารถหลบมันได้พ้น
"นี่แกเป็นปีศาจอย่างงั้นรึ!"
"ทั้งสวยทั้งน่ารักอย่างฉันต้องเป็นนางฟ้าสิย่ะ!"
เธอจึงใช้ดาบของตนฟันต้านกับมันไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยพลังของดาบที่เจ้าตัวถืออยู่จึงทำให้มือของมันถูกน้ำแข็งกัดจนเลือดเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ
"นี่มันหรือว่าดาบนั่นจะเป็นดาบเยือกแข็งสมบูรณ์ ชุนซุย!"
"อ้าว~! รู้ตัวแล้วหรอ!"
คุมะจึงรีบเอามือกลับมาทันที
"อาวุธระดับเรเจนคลาสที่มีแต่ผู้กล้าเท่านั้นที่จะใช้มันได้มันคือดาบที่เกิดจากอดาเมนเที่ยมจำนวนมากและเวทย์มนตร์ต้องห้ามขั้นสูงจำนวนหนึ่งจนเกิดเป็นชุนซุย ว่ากันว่าความเย็นของมันนั้นมาจากน้ำแข็งจากนรกที่สามารถแช่แข็งพระเจ้าได้!"
"ไหงนายถึงรู้ลึกรู้จริงแบบนี้ล่ะ"
"เพราะว่ามันคือดาบประจำตัวของท่านผู้นั้น... "
"ท่านผู้นั้น... ???"
มันไม่ได้คิดจะบอกเธอพร้อมกับยิงลำแสงสีแดงขนาดยักษ์
ใส่"แย่แล้ว!"
"ท่าพิเศษ กราวิตี้โอเมก้า!"
"เสียงนี้มัน!"
ลำแสงได้ถูกแรงโน้มถ่วงขนาดยักษ์ผลักลงไปเรื่อยจนวิถีของมันนั้นเบนลงไปข้างล่างแทนไม่นานหลังจากมันพุ่งใส่พื้นน้ำแข็งก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นเป็นแนวยาว ที่เบื้องหน้าของเธอมีใครบางคนปรากฏตัวขึ้น
"มาช้าจังนะเนเมซิส"
เขาจึงมองหันมาทางเธอ
"โทษทีพอดีกำลังวิเคราะห์มันนานไปหน่อย"
"แล้วได้ไรมาบ้างล่ะ"
"เจ้านี่น่ะพลังของมันคือมิติหรือก็คือ Dimansion โดยทุกส่วนของร่างกายมันสามารถปล่อยลำแสงออกมาแบบเมื่อกี้ได้พร้อมๆกันและจากการสังเกตทำให้ฉันรู้ว่าธาตุที่ชนะมันได้ไม่ใช่สายฟ้าแต่เป็นน้ำแข็งเพราะงั้นมันจึงระวังการโจมตีจากเธอเป็นพิเศษ"
"มิน่าล่ะมันถึงไม่โจมตีฉันต่อ"
ขณะกำลังสนทนากันกลางอากาศมันก็ได้สร้างพายุจากการกระพือปีกมาประมาณสิบกว่าลูกพร้อมกับปล่อยลำแสงแบบเมื่อตะกี้แต่จำนวนนั้นมหาศาลออกมาจากตามร่างกายโดยมีทิศทางพุ่งตรงมาที่พวกเนเมซิส"เละไปซะ!"
"ใครจะยอมง่ายๆท่าพิเศษ! ไดเมนชั่นซอร์ด!"
ดาบของเนเมซิสจึงส่องแสงสีขาวขึ้น
"ฉันเองก็เอามั่งดิท่าพิเศษ! ไอซ์ซิ่งเวฟ!"
ดาบของโซเฟียจึงได้มีคลื่นสีฟ้าแผ่ออกมาเป็นวงกว้าง
ถึงแม้จะไม่ได้พูดคุยหรือสบตากันแต่ทั้งสองก็ยังรู้ใจซึ่งกันและกันราวกับเคยสู้ร่วมกันมานับครั้งไม่ถ้วน
เนเมซิสได้ใช้ดาบของตนปัดลำแสงทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาออกไปราวกับปัดแมลงวันที่มากวน ส่วนโซเฟียหลังจากที่คลื่นความเย็นของเธอถูกแผ่วงกว้างออกไปเรื่อยๆพายุจำนวนกว่าสิบลูกก็ได้ถูกแช่แข็งจนดูราวกับเป็นประติมากรรมชั้นเลิศไปเลย
ทั้งเนเมซิสทั้งโซเฟียต่างก็กระโจนใส่คุมะ
พวกเขาได้ใช้คอมโบฟันประสานกันจนเกิดเป็นประกายแสงวิ้งวับเนื่องจากการเสียดสี ท่างฝั่งคุมะจึงได้กระโดดบินขึ้นเพื่อหนีจากการโจมตีพวกนั้น"ไร้สาระ"
"ข้าจะแสดงการโจมตีของจริงให้ดู!"
มันได้ใช้พลังของตัวเองทำให้มือของตนนั้นหายไปส่วนหนึ่ง มือส่วนที่หายไปนั้นได้โผล่ขึ้นมาจากรอยแยกมิติข้างๆเนเมซิส และชกใส่ร่างเขาเข้าอย่างจัง"อั่กก... "
"เนเมซิส!"
โซเฟียได้ส่งเสียงไปหาเขาที่ถูกซัดไปชนกับภูเขาน้ำแข็ง
คุมะจึงไม่รอช้าแล้วรีบโจมตีแบบเดิมใส่โซเฟียที่กำลังเปิดช่องโหว่อยู่แต่คราวนี้ดูเหมือนเธอจะจับทางได้เธอจึงได้หลบการโจมตีทั้งหมดของมันได้อย่างงดงามราวกับกำลังเต้นรำอยู่"ทำไมมันถึงหลบได้ล่ะ!?"
"เรื่องง่ายๆน่ะมือของแกนะไม่ได้หายไปไหนหลักฐานคือร่องรอยของส่วนที่หายไปโดยส่วนนั้นได้หายเข้าไปในอีกมิติเพราะงั้นจึงมีแสงตรงส่วนที่แขนนายหายไปแล้วนายก็ได้สร้างทางออกมาใกล้ๆฉันเพื่อที่จะโจมตีได้ง่ายขึ้น ฉันก็เลยเดาจุดที่มันน่าจะโผล่มาแล้วก็หลบมันยังไงล่ะ"
"เดาอย่างงั้นรึ!!"ถึงจะเคยเจอกับคนที่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้อยู่คนนึงแต่เจ้าตัวก็ยังคาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่สองที่สามารถหลบมันได้พ้น
"นี่แกเป็นปีศาจอย่างงั้นรึ!"
"ทั้งสวยทั้งน่ารักอย่างฉันต้องเป็นนางฟ้าสิย่ะ!"
เธอจึงใช้ดาบของตนฟันต้านกับมันไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยพลังของดาบที่เจ้าตัวถืออยู่จึงทำให้มือของมันถูกน้ำแข็งกัดจนเลือดเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ
"นี่มันหรือว่าดาบนั่นจะเป็นดาบเยือกแข็งสมบูรณ์ ชุนซุย!"
"อ้าว~! รู้ตัวแล้วหรอ!"
คุมะจึงรีบเอามือกลับมาทันที
"อาวุธระดับเรเจนคลาสที่มีแต่ผู้กล้าเท่านั้นที่จะใช้มันได้มันคือดาบที่เกิดจากอดาเมนเที่ยมจำนวนมากและเวทย์มนตร์ต้องห้ามขั้นสูงจำนวนหนึ่งจนเกิดเป็นชุนซุย ว่ากันว่าความเย็นของมันนั้นมาจากน้ำแข็งจากนรกที่สามารถแช่แข็งพระเจ้าได้!"
"ไหงนายถึงรู้ลึกรู้จริงแบบนี้ล่ะ"
"เพราะว่ามันคือดาบประจำตัวของท่านผู้นั้น... "
"ท่านผู้นั้น... ???"
มันไม่ได้คิดจะบอกเธอพร้อมกับยิงลำแสงสีแดงขนาดยักษ์
ใส่"แย่แล้ว!"
"ท่าพิเศษ กราวิตี้โอเมก้า!"
"เสียงนี้มัน!"
ลำแสงได้ถูกแรงโน้มถ่วงขนาดยักษ์ผลักลงไปเรื่อยจนวิถีของมันนั้นเบนลงไปข้างล่างแทนไม่นานหลังจากมันพุ่งใส่พื้นน้ำแข็งก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นเป็นแนวยาว ที่เบื้องหน้าของเธอมีใครบางคนปรากฏตัวขึ้น
"มาช้าจังนะเนเมซิส"
เขาจึงมองหันมาทางเธอ
"โทษทีพอดีกำลังวิเคราะห์มันนานไปหน่อย"
"แล้วได้ไรมาบ้างล่ะ"
"เจ้านี่น่ะพลังของมันคือมิติหรือก็คือ Dimansion โดยทุกส่วนของร่างกายมันสามารถปล่อยลำแสงออกมาแบบเมื่อกี้ได้พร้อมๆกันและจากการสังเกตทำให้ฉันรู้ว่าธาตุที่ชนะมันได้ไม่ใช่สายฟ้าแต่เป็นน้ำแข็งเพราะงั้นมันจึงระวังการโจมตีจากเธอเป็นพิเศษ"
"มิน่าล่ะมันถึงไม่โจมตีฉันต่อ"
ขณะกำลังสนทนากันกลางอากาศมันก็ได้สร้างพายุจากการกระพือปีกมาประมาณสิบกว่าลูกพร้อมกับปล่อยลำแสงแบบเมื่อตะกี้แต่จำนวนนั้นมหาศาลออกมาจากตามร่างกายโดยมีทิศทางพุ่งตรงมาที่พวกเนเมซิส"เละไปซะ!"
"ใครจะยอมง่ายๆท่าพิเศษ! ไดเมนชั่นซอร์ด!"
ดาบของเนเมซิสจึงส่องแสงสีขาวขึ้น
"ฉันเองก็เอามั่งดิท่าพิเศษ! ไอซ์ซิ่งเวฟ!"
ดาบของโซเฟียจึงได้มีคลื่นสีฟ้าแผ่ออกมาเป็นวงกว้าง
ถึงแม้จะไม่ได้พูดคุยหรือสบตากันแต่ทั้งสองก็ยังรู้ใจซึ่งกันและกันราวกับเคยสู้ร่วมกันมานับครั้งไม่ถ้วน
เนเมซิสได้ใช้ดาบของตนปัดลำแสงทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาออกไปราวกับปัดแมลงวันที่มากวน ส่วนโซเฟียหลังจากที่คลื่นความเย็นของเธอถูกแผ่วงกว้างออกไปเรื่อยๆพายุจำนวนกว่าสิบลูกก็ได้ถูกแช่แข็งจนดูราวกับเป็นประติมากรรมชั้นเลิศไปเลย
วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 15 what
ขากรรไกรสีขาวขนาดยักษ์ได้ผุดออกมาเรื่อยๆจนมันทิ่มแทง
เข้าไปในพื้นน้ำแข็ง ปีกขนาดยักษ์สีขาวคล้ายปีกของแมลงเริ่มงอกออกมาจากด้านหลังจนมันค่อยๆบดบังท้องฟ้าราวกับจะกลืนกินโลก ดวงตาสีม่วงของมันได้เบิกกว้างจนดูน่ากลัว ปากของมันได้มีฟันงอกออกมานับพันๆซี่
ทุกครั้งที่มันหายใจราวกับว่าอากาศรอบๆนั้นถูกมันดูดเข้าไปอย่างมหาศาล คอจากเดิมที่สั้นได้ยาวขึ้นพร้อมกับผิวหนังที่แปรเปลี่ยนเป็นเกราะแข็งราวกับเพชร ครีบขนาดยักษ์ข้างหน้าได้กลายเป็นมือของมังกรส่วนครีบข้างหลังก็ได้เปลี่ยนเป็นขาคอมังกร หางจากเดิมที่มีลักษณะคล้ายกับปลาก็ได้กลับกลายเป็นหางของมังกร ทุกครั้งที่มันฟาดหางใส่พื้นก็ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนชนิดที่ว่าทุกคนยังรู้สึกได้ จากลำตัวที่คล้ายวัวในตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นร่างกายที่เสริมเกราะและกล้ามเนื้อจนดูน่าเกรงขาม บัดนี้จากสัปประหลาดก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นปีศาจที่แม้แต่ปีศาจด้วยกันก็ยังต้องหวั่นเกรง
ทั้งสองที่กำลังถูกมันจ้องได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆราวกับหนูที่ถูกแมวจ้อง
"นี่เนเมซิส.... "โซเฟียได้พูดขึ้น
"มีอะไรล่ะว่ามา"
"นายรู้สึกยังไงในตอนนี้" สำหรับโซเฟียนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับ duo ระดับนี้เพราะงั้นการที่เธอจะกลัวก็ไม่แปลก เธอจึงถามไป
ทางเนเมซิสที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เจ้าตัวที่ได้ยินแบบนั้นจึงจ้องไปที่มือของตนเอง
"ฉันรู้สึก... "
"กลัวอย่างงั้นหรอ"เธอได้สังเกตจากอาการตัวสั่นของเขา
"ไม่ใช่!"
"งั้นก็กำลังคิดหาวิธีหนีอยู่"
เขาจึงได้ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ
"งั้นอะไรล่ะ!!!"
"ฉันไม่สิ.. ทั้งฉันทั้งสึกุมิพวกเรากำลังดีใจอยู่!!!"
"ห๊า~!!!"
ใช่แล้ว พวกเธอต่างดีใจสักมากกว่าที่จะกลัวเมื่อได้เจอกับปีศาจแบบนี้จนทำให้ร่างกายและจิตใจในตอนนี้ต่างสั่นสู้ไปหมด
แต่เดิมทั้งเนเมซิสและเซนะพวกเขาทั้งสองก็ต่างเคยมี duo
เก่งๆอยู่รอบตัวแต่เพราะคำสั่งของเซนะในอดีตทำให้พวกเขาต้องกระจัดกระจายกันออกไปในแต่ละโลก ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาต้องเอาแต่ใช้ชีวิตประจำวันแบบคนทั่วไป ต้องห่างเหินจากการต่อสู้ ต้องพยายามไม่ทำตัวเด่นหรือสร้างความวุ่นวายให้มากระทบต่อเซนะจึงทำให้ฝีมือของพวกเขาถดถอยลงไป...
สำหรับเจ้าปีศาจตนนี้ถ้าหากเนเมซิสที่เป็นร่างจริงมาสู้เองมันก็ไม่ต่างจากแมลงวันส่วนเซนะนั้นถ้าหากมีความทรงจำในอดีตอยู่ล่ะก็ยิ่งแทบจะไม่ต้องลงมือสู้เองเลย
ส่วนทางด้านโซเฟียเพราะเธอต้องคอยควบคุมพลังของไอเทมสองชิ้นทำให้พลังของเธอนั้นตกลงไปมากถึงมากที่สุดซึ่งมันตรงข้ามกับโซเฟียจากโลกของเซนะที่ต่อให้เธอจะควบคุมไอเทมเป็นพันๆชิ้นพี่แกก็ยังเดินได้อย่างสบายๆ ทั้งนี้ความแตกต่างนั้นมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือประสบการณ์โดยโซเฟียทางนี้นั้นหวังพึ่งแต่พลังของไอเทมจนไม่ได้ฝึกวิชาหรือร่างกายกลับกันโซเฟียทางโลกของเซนะต่างผ่านศึกมามากมายไม่ว่าจะเป็น งานประลอง ศึกราชันย์ผู้พิชิต และการต่อสู้กับซิกฟรีดผู้มาจากอนาคต ทำให้เธอนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างไร้ขีดจำกัด
"ข้ามีนามว่า คุมะ เป็นหนึ่งใน duolord จงจำชื่อของข้าผู้ซึ่งจะส่งพวกเจ้าไปลงนรกเอาไว้ให้ดี" มันได้พูดพร้อมกับกระพือปีกลอยขึ้นสู่ฟ้า ลมที่เกิดจากการกระพือปีกของมันนั้นได้ทำให้ภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากต้องพังทลายลง
เนเมซิสจึงยิ้มขึ้นอย่างน่ากลัว
"คำพูดนั้นน่ะฉันขอคืนให้กับแก ชื่อของฉันจริงๆคือ
เทียร์ โรเจอร์ เป็นคนที่จะส่งแกไปลงนรกยังไงล่ะ!"
พูดจบเธอก็ได้พุ่งตัวไปหามันโดยทิ้งโซเฟียให้ยืนอยู่ตรงนั้น
"นี่! รอฉันด้วยสิย่ะ!"
เขาจึงหันกลับมา
"ยัยปอดบวมเธอไม่ต้องตามมาหรอกนี่น่ะเป็นการต่อสู้ของปีศาจมนุษย์น่ะชิดซ้ายไปเลย"
"ว่าใครปอดบวมกันเขาเรียกว่าของมันมีจนล้นออกมา"
"งั้นก็ยัยไขมันส่วนเกิน"
"ก็ถูกอยู่ที่ว่าหน้าอกของผู้หญิงน่ะเกิดมาจากไขมันแต่มันรับไม่ได้อ่ะ!"เธอที่ถูกยั่วจึงพุ่งตัวตามไป
"จะตามมาทำไมล่ะยัยบ้า~!"
"ถ้าฉันบ้านายก็มหาบ้าแล้วล่ะ!"
"จบศึกนี้เมื่อไหร่น่ะน่าดู"
"มาดิเดี๋ยวแม่จะหั่นให้เป็นสองท่อนเลย!"
ถึงแม้พวกเขาจะดูเหมือนไม่ถูกกัน(ไม่เหมือนอ่ะใช่เลย)แต่
ทุกครั้งที่พวกเธอทะเลาะกันมันก็ทำให้พวกเธอนั้นยิ่งเข้าใจกันมากขึ้นๆ
เรื่อยๆจนตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มที่จะเข้าใจการกระทำและความนึกคิดของกันและกันได้แล้ว
ขากรรไกรสีขาวขนาดยักษ์ได้ผุดออกมาเรื่อยๆจนมันทิ่มแทง
เข้าไปในพื้นน้ำแข็ง ปีกขนาดยักษ์สีขาวคล้ายปีกของแมลงเริ่มงอกออกมาจากด้านหลังจนมันค่อยๆบดบังท้องฟ้าราวกับจะกลืนกินโลก ดวงตาสีม่วงของมันได้เบิกกว้างจนดูน่ากลัว ปากของมันได้มีฟันงอกออกมานับพันๆซี่
ทุกครั้งที่มันหายใจราวกับว่าอากาศรอบๆนั้นถูกมันดูดเข้าไปอย่างมหาศาล คอจากเดิมที่สั้นได้ยาวขึ้นพร้อมกับผิวหนังที่แปรเปลี่ยนเป็นเกราะแข็งราวกับเพชร ครีบขนาดยักษ์ข้างหน้าได้กลายเป็นมือของมังกรส่วนครีบข้างหลังก็ได้เปลี่ยนเป็นขาคอมังกร หางจากเดิมที่มีลักษณะคล้ายกับปลาก็ได้กลับกลายเป็นหางของมังกร ทุกครั้งที่มันฟาดหางใส่พื้นก็ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนชนิดที่ว่าทุกคนยังรู้สึกได้ จากลำตัวที่คล้ายวัวในตอนนี้มันได้เปลี่ยนเป็นร่างกายที่เสริมเกราะและกล้ามเนื้อจนดูน่าเกรงขาม บัดนี้จากสัปประหลาดก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นปีศาจที่แม้แต่ปีศาจด้วยกันก็ยังต้องหวั่นเกรง
ทั้งสองที่กำลังถูกมันจ้องได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆราวกับหนูที่ถูกแมวจ้อง
"นี่เนเมซิส.... "โซเฟียได้พูดขึ้น
"มีอะไรล่ะว่ามา"
"นายรู้สึกยังไงในตอนนี้" สำหรับโซเฟียนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับ duo ระดับนี้เพราะงั้นการที่เธอจะกลัวก็ไม่แปลก เธอจึงถามไป
ทางเนเมซิสที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เจ้าตัวที่ได้ยินแบบนั้นจึงจ้องไปที่มือของตนเอง
"ฉันรู้สึก... "
"กลัวอย่างงั้นหรอ"เธอได้สังเกตจากอาการตัวสั่นของเขา
"ไม่ใช่!"
"งั้นก็กำลังคิดหาวิธีหนีอยู่"
เขาจึงได้ส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ
"งั้นอะไรล่ะ!!!"
"ฉันไม่สิ.. ทั้งฉันทั้งสึกุมิพวกเรากำลังดีใจอยู่!!!"
"ห๊า~!!!"
ใช่แล้ว พวกเธอต่างดีใจสักมากกว่าที่จะกลัวเมื่อได้เจอกับปีศาจแบบนี้จนทำให้ร่างกายและจิตใจในตอนนี้ต่างสั่นสู้ไปหมด
แต่เดิมทั้งเนเมซิสและเซนะพวกเขาทั้งสองก็ต่างเคยมี duo
เก่งๆอยู่รอบตัวแต่เพราะคำสั่งของเซนะในอดีตทำให้พวกเขาต้องกระจัดกระจายกันออกไปในแต่ละโลก ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาต้องเอาแต่ใช้ชีวิตประจำวันแบบคนทั่วไป ต้องห่างเหินจากการต่อสู้ ต้องพยายามไม่ทำตัวเด่นหรือสร้างความวุ่นวายให้มากระทบต่อเซนะจึงทำให้ฝีมือของพวกเขาถดถอยลงไป...
สำหรับเจ้าปีศาจตนนี้ถ้าหากเนเมซิสที่เป็นร่างจริงมาสู้เองมันก็ไม่ต่างจากแมลงวันส่วนเซนะนั้นถ้าหากมีความทรงจำในอดีตอยู่ล่ะก็ยิ่งแทบจะไม่ต้องลงมือสู้เองเลย
ส่วนทางด้านโซเฟียเพราะเธอต้องคอยควบคุมพลังของไอเทมสองชิ้นทำให้พลังของเธอนั้นตกลงไปมากถึงมากที่สุดซึ่งมันตรงข้ามกับโซเฟียจากโลกของเซนะที่ต่อให้เธอจะควบคุมไอเทมเป็นพันๆชิ้นพี่แกก็ยังเดินได้อย่างสบายๆ ทั้งนี้ความแตกต่างนั้นมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือประสบการณ์โดยโซเฟียทางนี้นั้นหวังพึ่งแต่พลังของไอเทมจนไม่ได้ฝึกวิชาหรือร่างกายกลับกันโซเฟียทางโลกของเซนะต่างผ่านศึกมามากมายไม่ว่าจะเป็น งานประลอง ศึกราชันย์ผู้พิชิต และการต่อสู้กับซิกฟรีดผู้มาจากอนาคต ทำให้เธอนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างไร้ขีดจำกัด
"ข้ามีนามว่า คุมะ เป็นหนึ่งใน duolord จงจำชื่อของข้าผู้ซึ่งจะส่งพวกเจ้าไปลงนรกเอาไว้ให้ดี" มันได้พูดพร้อมกับกระพือปีกลอยขึ้นสู่ฟ้า ลมที่เกิดจากการกระพือปีกของมันนั้นได้ทำให้ภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากต้องพังทลายลง
เนเมซิสจึงยิ้มขึ้นอย่างน่ากลัว
"คำพูดนั้นน่ะฉันขอคืนให้กับแก ชื่อของฉันจริงๆคือ
เทียร์ โรเจอร์ เป็นคนที่จะส่งแกไปลงนรกยังไงล่ะ!"
พูดจบเธอก็ได้พุ่งตัวไปหามันโดยทิ้งโซเฟียให้ยืนอยู่ตรงนั้น
"นี่! รอฉันด้วยสิย่ะ!"
เขาจึงหันกลับมา
"ยัยปอดบวมเธอไม่ต้องตามมาหรอกนี่น่ะเป็นการต่อสู้ของปีศาจมนุษย์น่ะชิดซ้ายไปเลย"
"ว่าใครปอดบวมกันเขาเรียกว่าของมันมีจนล้นออกมา"
"งั้นก็ยัยไขมันส่วนเกิน"
"ก็ถูกอยู่ที่ว่าหน้าอกของผู้หญิงน่ะเกิดมาจากไขมันแต่มันรับไม่ได้อ่ะ!"เธอที่ถูกยั่วจึงพุ่งตัวตามไป
"จะตามมาทำไมล่ะยัยบ้า~!"
"ถ้าฉันบ้านายก็มหาบ้าแล้วล่ะ!"
"จบศึกนี้เมื่อไหร่น่ะน่าดู"
"มาดิเดี๋ยวแม่จะหั่นให้เป็นสองท่อนเลย!"
ถึงแม้พวกเขาจะดูเหมือนไม่ถูกกัน(ไม่เหมือนอ่ะใช่เลย)แต่
ทุกครั้งที่พวกเธอทะเลาะกันมันก็ทำให้พวกเธอนั้นยิ่งเข้าใจกันมากขึ้นๆ
เรื่อยๆจนตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มที่จะเข้าใจการกระทำและความนึกคิดของกันและกันได้แล้ว
วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 14 คู่หูที่แกร่งที่สุด
หลังจากที่พวกเนเมซิสปรากฏตัวเจ้าอสูรตนนั้นก็ได้คำรามออกมาราวกับเก็บกดอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่"แกเองสินะ!"
"ชิราสากิ เซนะ~!!!"
เนเมซิสจึงเกาหัวนิดๆก่อนจะตอบกลับไป"จะใช่มันก็ใช่แต่จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่" หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นมันก็ได้พุ่งเข้ามาโจมตีอย่างไม่ลังเล เนเมซิสกับโซเฟียจึงแยกกันหลบหลีกทุกการโจมตี โซเฟียที่หงุดหงิดจึงตระโกนมาหาเขา
"นี่นายจะไปกวนบาทามันทำไม!"
"ใครว่าฉันกวนล่ะ นี่ฉันก็ตอบเรื่องจริงกับมันไปนะ!"
"งั้นนายก็ควรตอบเขาให้มันละเอียดกว่านี้หน่อย นายอธิบายแบบนี้เป็นฉันฉันก็ต่อยปากนายแตกไปนานแล้ว!"
"นี่เรามาเพื่อจัดการมันนะไม่ใช่มานั่งเดิมน้ำชาพลางคุยไปพลางน่ะ!"
เนเมซิสที่เริ่มของขึ้นจึงใช้ดาบที่อยู่ในมือฟันครีบของมันจนขาดไปครีบนึงก่อนจะใช้ท่า ทอนเนดซอร์ด ทำให้เกิดกระแสลมขนาดใหญ่พัดมันจนปลิวขึ้นสู่ฟ้าโดยมีโชเฟียคอยรออยู่บนนั้น "นี่คิดจะกวนประสาทฉันรึ!"
"ท่าพิเศษ ไอซ์ซิ่ง เซเบอร์!!!"
เธอที่ถือดาบไว้เหนือหัวได้ใช้พลังน้ำแข็งของตนสร้างดาบน้ำแข็งขนาดยักษ์ขึ้นมาจากดาบของตัวเองอีกทีนึงพร้อมกับฟาดมันใส่สัปประหลาดตัวนั้นจนร่างของมันนั้นพุ่งลงใส่พื้นน้ำแข็งแบบเต็มๆ ต่อด้วยเนเมซิสที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับดาบที่รวมท่าสามท่าเข้าด้วยกันจนเกิดแสงสีแดง สีเขียว และสีม่วงขึ้น สัปประหลาดตัวนั้นหลังจากที่เริ่มตั้งสติได้มันจึงยิงลำแสงสีแดงออกมาจากปากพุ่งเป้าไปยังเนเมซิส
"ตาต่อตาฟันต่อฟัน! ทริปเปิ้ลท่าพิเศษ X-protion strom full burst!!!" ดาบที่รวมพลังจากท่าถึงสามท่าได้ถูกปลดปล่อยออกมาจนเกิดเป็น
ลำแสงสีม่วงที่มีเพลิงวายุเป็นวงแหวนล้อมรอบปะทะเข้ากับลำแสงของสัปประหลาดจนดันมันกลับไปเรื่อยๆ"บ้าน่า!"
"แกเป็นใครกันแน่!?"
พลังที่ถูกดันกลับมาได้ระเบิดใส่ร่างของมันเข้าอย่างจังจนเกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นทำให้พื้นที่รอบๆนั้นเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ท้องฟ้าได้เริ่มแปรปรวน สายฟ้าได้เริ่มผ่าลงมา สายลมได้ค่อยๆพัดเร็วขึ้น ผืนน้ำแข็งก็ค่อยๆสั่น
สะเทือนราวกับจะมีอะไรไม่ดีสักอย่างกำลังเกิดขึ้น โซเฟียที่รู้สึกใจคอไม่ดีจึงรีบกระโดดมาหาเนเมซิส
"นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้กันแน่"เธอได้พูดขึ้นมาด้วยความเป็นกังวล
"ไม่ต้องกลัวไปหรอกโซเฟีย"
"เนเมซิส... "เธอได้หน้าแดงขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"อย่างมากสุดโลกนี้ก็บึ้ม~!"พริบตาที่ได้ยินความรู้สึกก็เปลี่ยนไปด้วยในทันที
"ก็นั่นแหละที่ฉันเป็นห่วงล่ะย่ะ! แล้วไหงนายถึงพูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นขึ้นมาได้อย่างหน้าตาเฉยเลยล่ะ!!!"
"ก็ถึงโลกนี้จะหายไปฉันก็ไม่เดือดร้อนนี่น่า"
"แต่ฉันเดือดร้อนย่ะ!"
"อันนั้นก็เรื่องของเธอฉันไม่เกี่ยว~!"
"เดี๋ยวปั๊ดแม่จับฆ่าทิ้งสักเลยนิ!"
"มาสิเดี๋ยวฉันจะทำให้เธอต้องร้องไห้อ้อนว้อนฉันเลย!"
ที่พื้นน้ำแข็งอยู่ๆตรงจุดที่สัปประหลาดนั่นถูกระเบิดไปกับมีพลังงานมหาศาลโพยพุ่งออกมาจนทำให้กลุ่มควันนั้นถูกผลักออก บอลสีดำขนาดยักษ์ได้ลอยอยู่เหนือจุดที่เกิดระเบิด พวกเนเมซิสจึงพุ่งความสนใจมาที่มัน
"นั่นมันอะไรน่ะ"โซเฟียได้ถามขึ้น
"ถ้าให้อธิบายแบบง่ายๆก็คือมันกำลังจะแปลงร่างยิ่งเป็น duo ที่เก่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีร่างแปลงเยอะเป็นธรรมดา"
"ดูท่าจะงานเข้าแล้วแฮะ"
"ถ้าถึงกับทำให้ฟ้าดินปั่นป่วนได้แบบนี้ก็ดูท่าจะงานเข้าจริงๆแล้วล่ะ"
"คิดว่าจะชนะไหม"
"นี่เธอกำลังพูดอยู่กับใครดูด้วย"เจ้าตัวได้ส่งยิ้มที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมออกมา โซเฟียจึงได้มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
"พวกผู้ชายนี่บ้าพอๆกันหมดทุกคนเลยนะ"
"เรื่องนั้นฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง"
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นเธอก็ได้เกิดความสงสัยแปลกๆขึ้นมาในหัว
"นี่เหรอว่านายจะเป็นผู้หญิง?"
"เพิ่งรู้หรอ ทั้งฉันทั้งสึกุมิพวกเราต่างก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่"
"เอ๋~~~~~!!!" เสียงร้องของเธอได้ดังก้องไปทั่วพื้นน้ำแข็ง
บัดนี้บอลสีดำขนาดยักษ์ก็ค่อยๆแตกออกอย่างช้าๆ...
หลังจากที่พวกเนเมซิสปรากฏตัวเจ้าอสูรตนนั้นก็ได้คำรามออกมาราวกับเก็บกดอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่"แกเองสินะ!"
"ชิราสากิ เซนะ~!!!"
เนเมซิสจึงเกาหัวนิดๆก่อนจะตอบกลับไป"จะใช่มันก็ใช่แต่จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่" หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นมันก็ได้พุ่งเข้ามาโจมตีอย่างไม่ลังเล เนเมซิสกับโซเฟียจึงแยกกันหลบหลีกทุกการโจมตี โซเฟียที่หงุดหงิดจึงตระโกนมาหาเขา
"นี่นายจะไปกวนบาทามันทำไม!"
"ใครว่าฉันกวนล่ะ นี่ฉันก็ตอบเรื่องจริงกับมันไปนะ!"
"งั้นนายก็ควรตอบเขาให้มันละเอียดกว่านี้หน่อย นายอธิบายแบบนี้เป็นฉันฉันก็ต่อยปากนายแตกไปนานแล้ว!"
"นี่เรามาเพื่อจัดการมันนะไม่ใช่มานั่งเดิมน้ำชาพลางคุยไปพลางน่ะ!"
เนเมซิสที่เริ่มของขึ้นจึงใช้ดาบที่อยู่ในมือฟันครีบของมันจนขาดไปครีบนึงก่อนจะใช้ท่า ทอนเนดซอร์ด ทำให้เกิดกระแสลมขนาดใหญ่พัดมันจนปลิวขึ้นสู่ฟ้าโดยมีโชเฟียคอยรออยู่บนนั้น "นี่คิดจะกวนประสาทฉันรึ!"
"ท่าพิเศษ ไอซ์ซิ่ง เซเบอร์!!!"
เธอที่ถือดาบไว้เหนือหัวได้ใช้พลังน้ำแข็งของตนสร้างดาบน้ำแข็งขนาดยักษ์ขึ้นมาจากดาบของตัวเองอีกทีนึงพร้อมกับฟาดมันใส่สัปประหลาดตัวนั้นจนร่างของมันนั้นพุ่งลงใส่พื้นน้ำแข็งแบบเต็มๆ ต่อด้วยเนเมซิสที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับดาบที่รวมท่าสามท่าเข้าด้วยกันจนเกิดแสงสีแดง สีเขียว และสีม่วงขึ้น สัปประหลาดตัวนั้นหลังจากที่เริ่มตั้งสติได้มันจึงยิงลำแสงสีแดงออกมาจากปากพุ่งเป้าไปยังเนเมซิส
"ตาต่อตาฟันต่อฟัน! ทริปเปิ้ลท่าพิเศษ X-protion strom full burst!!!" ดาบที่รวมพลังจากท่าถึงสามท่าได้ถูกปลดปล่อยออกมาจนเกิดเป็น
ลำแสงสีม่วงที่มีเพลิงวายุเป็นวงแหวนล้อมรอบปะทะเข้ากับลำแสงของสัปประหลาดจนดันมันกลับไปเรื่อยๆ"บ้าน่า!"
"แกเป็นใครกันแน่!?"
พลังที่ถูกดันกลับมาได้ระเบิดใส่ร่างของมันเข้าอย่างจังจนเกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นทำให้พื้นที่รอบๆนั้นเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ท้องฟ้าได้เริ่มแปรปรวน สายฟ้าได้เริ่มผ่าลงมา สายลมได้ค่อยๆพัดเร็วขึ้น ผืนน้ำแข็งก็ค่อยๆสั่น
สะเทือนราวกับจะมีอะไรไม่ดีสักอย่างกำลังเกิดขึ้น โซเฟียที่รู้สึกใจคอไม่ดีจึงรีบกระโดดมาหาเนเมซิส
"นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้กันแน่"เธอได้พูดขึ้นมาด้วยความเป็นกังวล
"ไม่ต้องกลัวไปหรอกโซเฟีย"
"เนเมซิส... "เธอได้หน้าแดงขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"อย่างมากสุดโลกนี้ก็บึ้ม~!"พริบตาที่ได้ยินความรู้สึกก็เปลี่ยนไปด้วยในทันที
"ก็นั่นแหละที่ฉันเป็นห่วงล่ะย่ะ! แล้วไหงนายถึงพูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นขึ้นมาได้อย่างหน้าตาเฉยเลยล่ะ!!!"
"ก็ถึงโลกนี้จะหายไปฉันก็ไม่เดือดร้อนนี่น่า"
"แต่ฉันเดือดร้อนย่ะ!"
"อันนั้นก็เรื่องของเธอฉันไม่เกี่ยว~!"
"เดี๋ยวปั๊ดแม่จับฆ่าทิ้งสักเลยนิ!"
"มาสิเดี๋ยวฉันจะทำให้เธอต้องร้องไห้อ้อนว้อนฉันเลย!"
ที่พื้นน้ำแข็งอยู่ๆตรงจุดที่สัปประหลาดนั่นถูกระเบิดไปกับมีพลังงานมหาศาลโพยพุ่งออกมาจนทำให้กลุ่มควันนั้นถูกผลักออก บอลสีดำขนาดยักษ์ได้ลอยอยู่เหนือจุดที่เกิดระเบิด พวกเนเมซิสจึงพุ่งความสนใจมาที่มัน
"นั่นมันอะไรน่ะ"โซเฟียได้ถามขึ้น
"ถ้าให้อธิบายแบบง่ายๆก็คือมันกำลังจะแปลงร่างยิ่งเป็น duo ที่เก่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีร่างแปลงเยอะเป็นธรรมดา"
"ดูท่าจะงานเข้าแล้วแฮะ"
"ถ้าถึงกับทำให้ฟ้าดินปั่นป่วนได้แบบนี้ก็ดูท่าจะงานเข้าจริงๆแล้วล่ะ"
"คิดว่าจะชนะไหม"
"นี่เธอกำลังพูดอยู่กับใครดูด้วย"เจ้าตัวได้ส่งยิ้มที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมออกมา โซเฟียจึงได้มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า
"พวกผู้ชายนี่บ้าพอๆกันหมดทุกคนเลยนะ"
"เรื่องนั้นฉันเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง"
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นเธอก็ได้เกิดความสงสัยแปลกๆขึ้นมาในหัว
"นี่เหรอว่านายจะเป็นผู้หญิง?"
"เพิ่งรู้หรอ ทั้งฉันทั้งสึกุมิพวกเราต่างก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่"
"เอ๋~~~~~!!!" เสียงร้องของเธอได้ดังก้องไปทั่วพื้นน้ำแข็ง
บัดนี้บอลสีดำขนาดยักษ์ก็ค่อยๆแตกออกอย่างช้าๆ...
ตอนที่ 13 รัวๆ
อีกทางด้านหนึ่ง....
ทางด้านพวกนิโครุทั้งสองได้ล่อสัปประหลาดขนาดยักษ์มาตรงพื้นที่ว่างเปล่า ทั้งสองได้โจมตีกระหน่ำใส่มันอย่างไม่หยุด
"เจ้านี่น่าจะเป็นธาตุน้ำนิโครุใช้ธาตุสายฟ้าโจมตีมันพร้อมพี่นะ"
นิโครุจึงได้พยักหน้าพร้อมกับเรียกดาบทาคามิจิออกมา"เอาล่ะนะคะพี่"
"อัสนีมังกรคลั่ง!" ดาบที่ใส่ธาตุสายฟ้าของเธอเข้าไปแล้วระเบิดพลังนั้นออกมาจนกลายเป็นรูปมังกร
"เสริมด้วยของพี่ แกมม่าเบิรส์!" สายฟ้าจากดาบของเขาได้ปรากฏในรูปร่างของหมาป่าสายฟ้า สายฟ้าของทั้งสองได้พุ่งเข้าไปโจมตีมันแต่ก็ถูกเสียงคำรามของมันทำให้สายฟ้านั้นโดนหักล้างไปจนหมดสิ้น
"ชิส์/อะไรกัน"ทั้งสองได้อุทานขึ้น จากนั้นจึงกระโดดเข้ามาหากัน
"ความสามารถของเจ้านี่ท่าจะเหนือกว่าสองตัวที่เราเคยเจอมาอีกนะ"
"ค่ะ.. ทั้งความเร็วทั้งพลังเทียบกับพวกนั้นไม่ติดเลย"
ทั้งสองได้นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่พวกตนปะทะกับ duolord ทั้งสองที่โลกของตน เป็นเพราะว่ามันอ่อนแรงจากการสู้กับพวกเซนะพวกเขาจึงสามารถเอาชนะมันลงได้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่
มันพร้อมเต็มที่สำหรับการต่อสู้แถมตั้งแต่สู้มาพลังของมันก็แทบจะไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
"นี่มันปีศาจชัดๆ"
"พี่คะ.... "นิโครุได้มองไปหาพี่ชายของตนด้วยความเป็นห่วง
การโจมตีระลอกต่อไปของมันจึงพุ่งเป้าเข้ามา ด้วยการโจมตีจากครีบของมันทำให้พื้นน้ำแข็งกลายเป็นเหมือนคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ถาโถมเข้าใส่พวกเขาแต่ด้วยพลังของนิโครุจึงทำให้ทนรับการโจมตีนั้นเอาไว้ได้
ทั้งสองจึงพุ่งตัวไปหามันพร้อมใช้ท่าผสานกันอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะเรียกดูโอ้ของตนออกมาขณะจะโดนโจมตีสวนกลับด้วยครีบขนาดยักษ์"ฝากด้วยนะ เมฟิสโต้!/อาละวาดได้เลยไม่ต้องยั้ง ไลออนเนส!"
ดูโอ้ทั้งสองจึงมาตามคำสั่งพร้อมกับพาผู้เป็นมาสเตอร์ของตนนั้นหนีออกมา เมฟิสโต้คือดูโอ้ของนิโครุผู้มีรูปร่างคล้ายนางเงือกสีทองน้ำตาลที่สามารถลอยตัวกลางอากาศได้แถมมีครีบตามตัวอยู่ถึงหกครีบส่วนไลออนเนสมีลักษณะเป็นสิงโตมีเขายาวคล้ายกระทิงแถมมีแผงคอที่กำลังลุกเป็นไฟอยู่ตลอดเวลา ทั้งสองกำลังจ้องใส่เจ้าสัปประหลาดนั่นก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหามันพร้อมกับมาสเตอร์ที่กำลังขี่หลังตนอยู่
ทั้งไลออนเนสและเมฟิสโต้ต่างหลบการโจมตีของมันได้ทั้งหมดในขณะที่พวกนิโครุก็ใช้ดาบฟันตามล่างของมันไปด้วยทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมานิดหน่อยก่อนที่ทั้งสองจะบินไปตรงหน้าของมันพร้อมกับใช้ท่าประสานกันถึงสี่คนจนเกิดเป็นบอลแสงสีส้มอัดใส่หน้าของมันเข้าอย่างจัง
"สำเร็จไหม!?"ทั้งสองได้พูดพร้อมกันก่อนที่ควันจากการระเบิดจะหายไป ทั้งสองจึงได้พบกับความหายยนะเมื่อสัปประหลาดนั่นไม่เป็นอะไรเลยแถมตอนนี้มันก็ทำท่าเหมือนจะยิงอะไรสักอย่างออกมาจากปาก
หนี! ทั้งสองได้ผุดคำๆนี้ขึ้นมาในหัวอย่างไวแต่มันก็สายเกินไปแล้ว
" หายไปซะ! " สัปประหลาดได้พูดทิ้งท้ายก่อนจะปล่อยมวลพลังมหาศาลออกมาทางปาก อนุภาพของมันนั้นทำให้พื้นน้ำแข็งเบื้องหน้าถึงกับแยกออกเป็นสองส่วน
และแถวๆนั้นเมฆสีดำบนท้องฟ้าข้างบนก็ได้แปรปรวนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
"เท่านี้ก็เหลือเพียงแค่คนเดียว" มันได้พูดพลางหัวเราะไปพลางโดยที่ยังไม่รู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป ที่ใกล้ๆนั้นอยู่ๆก็มีภูเขาน้ำแข็งเกิดขึ้นมาแบบพรวดพราด และที่ข้างหลังหลังภูเขานั้นเองก็ได้มีคนสี่คนกับดูโอ้อาการสาหัติกำลังแอบอยู่
"ขอบใจนะที่มาช่วยว่าแต่สีหน้านายดูต่างออกไปนิดนะ"
"เล่าแล้วมันยาวเอาเป็นว่าเดี๋ยวพวกฉันจะรับมือมันต่อเอง"
"นี่ใช่พี่คนเดิมจริงๆหรอ... "นิโครุได้มองไปที่เขาแบบตาไม่กระพริบ
ก่อนจะถูกแทรกด้วยสาวผมทองสุดเอาแต่ใจ
"แล้วใครบอกว่าฉันจะช่วยกันล่ะ!"
"เธอน่ะไม่มีสิทธิปฏิเสธอะไรทั้งนั้น"เขาได้มองไปทางเด็กสาวแล้วจ้องตาเป็นมัน
"ก็ได้ๆ พ่อเผด็จการ!"
"ฮิตเลอร์ยังเรียกพ่อเลยฉันน่ะ" เจ้าตัวได้พูดพร้อมกับยิ้มอย่างภาค
ภูมิใจก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะเดินออกไปหาสัปประหลาดตนนั้นอย่างช้าๆ หลังจากที่เวลาครบกำหนดม่านอำพลางก็ถูกคลายลงพร้อมกับการปรากฏตัวของ
เนเมซิสกับโซเฟีย ส่วนอีกทางด้านหนึ่งพวกนิโครุที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดก็ได้
คอยเฝ้ามองการต่อสู้ต่อจากนี้จากข้างหลังภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่โซเฟียสร้างขึ้นในพริบตา
อีกทางด้านหนึ่ง....
ทางด้านพวกนิโครุทั้งสองได้ล่อสัปประหลาดขนาดยักษ์มาตรงพื้นที่ว่างเปล่า ทั้งสองได้โจมตีกระหน่ำใส่มันอย่างไม่หยุด
"เจ้านี่น่าจะเป็นธาตุน้ำนิโครุใช้ธาตุสายฟ้าโจมตีมันพร้อมพี่นะ"
นิโครุจึงได้พยักหน้าพร้อมกับเรียกดาบทาคามิจิออกมา"เอาล่ะนะคะพี่"
"อัสนีมังกรคลั่ง!" ดาบที่ใส่ธาตุสายฟ้าของเธอเข้าไปแล้วระเบิดพลังนั้นออกมาจนกลายเป็นรูปมังกร
"เสริมด้วยของพี่ แกมม่าเบิรส์!" สายฟ้าจากดาบของเขาได้ปรากฏในรูปร่างของหมาป่าสายฟ้า สายฟ้าของทั้งสองได้พุ่งเข้าไปโจมตีมันแต่ก็ถูกเสียงคำรามของมันทำให้สายฟ้านั้นโดนหักล้างไปจนหมดสิ้น
"ชิส์/อะไรกัน"ทั้งสองได้อุทานขึ้น จากนั้นจึงกระโดดเข้ามาหากัน
"ความสามารถของเจ้านี่ท่าจะเหนือกว่าสองตัวที่เราเคยเจอมาอีกนะ"
"ค่ะ.. ทั้งความเร็วทั้งพลังเทียบกับพวกนั้นไม่ติดเลย"
ทั้งสองได้นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่พวกตนปะทะกับ duolord ทั้งสองที่โลกของตน เป็นเพราะว่ามันอ่อนแรงจากการสู้กับพวกเซนะพวกเขาจึงสามารถเอาชนะมันลงได้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่
มันพร้อมเต็มที่สำหรับการต่อสู้แถมตั้งแต่สู้มาพลังของมันก็แทบจะไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
"นี่มันปีศาจชัดๆ"
"พี่คะ.... "นิโครุได้มองไปหาพี่ชายของตนด้วยความเป็นห่วง
การโจมตีระลอกต่อไปของมันจึงพุ่งเป้าเข้ามา ด้วยการโจมตีจากครีบของมันทำให้พื้นน้ำแข็งกลายเป็นเหมือนคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ถาโถมเข้าใส่พวกเขาแต่ด้วยพลังของนิโครุจึงทำให้ทนรับการโจมตีนั้นเอาไว้ได้
ทั้งสองจึงพุ่งตัวไปหามันพร้อมใช้ท่าผสานกันอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะเรียกดูโอ้ของตนออกมาขณะจะโดนโจมตีสวนกลับด้วยครีบขนาดยักษ์"ฝากด้วยนะ เมฟิสโต้!/อาละวาดได้เลยไม่ต้องยั้ง ไลออนเนส!"
ดูโอ้ทั้งสองจึงมาตามคำสั่งพร้อมกับพาผู้เป็นมาสเตอร์ของตนนั้นหนีออกมา เมฟิสโต้คือดูโอ้ของนิโครุผู้มีรูปร่างคล้ายนางเงือกสีทองน้ำตาลที่สามารถลอยตัวกลางอากาศได้แถมมีครีบตามตัวอยู่ถึงหกครีบส่วนไลออนเนสมีลักษณะเป็นสิงโตมีเขายาวคล้ายกระทิงแถมมีแผงคอที่กำลังลุกเป็นไฟอยู่ตลอดเวลา ทั้งสองกำลังจ้องใส่เจ้าสัปประหลาดนั่นก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหามันพร้อมกับมาสเตอร์ที่กำลังขี่หลังตนอยู่
ทั้งไลออนเนสและเมฟิสโต้ต่างหลบการโจมตีของมันได้ทั้งหมดในขณะที่พวกนิโครุก็ใช้ดาบฟันตามล่างของมันไปด้วยทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมานิดหน่อยก่อนที่ทั้งสองจะบินไปตรงหน้าของมันพร้อมกับใช้ท่าประสานกันถึงสี่คนจนเกิดเป็นบอลแสงสีส้มอัดใส่หน้าของมันเข้าอย่างจัง
"สำเร็จไหม!?"ทั้งสองได้พูดพร้อมกันก่อนที่ควันจากการระเบิดจะหายไป ทั้งสองจึงได้พบกับความหายยนะเมื่อสัปประหลาดนั่นไม่เป็นอะไรเลยแถมตอนนี้มันก็ทำท่าเหมือนจะยิงอะไรสักอย่างออกมาจากปาก
หนี! ทั้งสองได้ผุดคำๆนี้ขึ้นมาในหัวอย่างไวแต่มันก็สายเกินไปแล้ว
" หายไปซะ! " สัปประหลาดได้พูดทิ้งท้ายก่อนจะปล่อยมวลพลังมหาศาลออกมาทางปาก อนุภาพของมันนั้นทำให้พื้นน้ำแข็งเบื้องหน้าถึงกับแยกออกเป็นสองส่วน
และแถวๆนั้นเมฆสีดำบนท้องฟ้าข้างบนก็ได้แปรปรวนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
"เท่านี้ก็เหลือเพียงแค่คนเดียว" มันได้พูดพลางหัวเราะไปพลางโดยที่ยังไม่รู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างแปลกไป ที่ใกล้ๆนั้นอยู่ๆก็มีภูเขาน้ำแข็งเกิดขึ้นมาแบบพรวดพราด และที่ข้างหลังหลังภูเขานั้นเองก็ได้มีคนสี่คนกับดูโอ้อาการสาหัติกำลังแอบอยู่
"ขอบใจนะที่มาช่วยว่าแต่สีหน้านายดูต่างออกไปนิดนะ"
"เล่าแล้วมันยาวเอาเป็นว่าเดี๋ยวพวกฉันจะรับมือมันต่อเอง"
"นี่ใช่พี่คนเดิมจริงๆหรอ... "นิโครุได้มองไปที่เขาแบบตาไม่กระพริบ
ก่อนจะถูกแทรกด้วยสาวผมทองสุดเอาแต่ใจ
"แล้วใครบอกว่าฉันจะช่วยกันล่ะ!"
"เธอน่ะไม่มีสิทธิปฏิเสธอะไรทั้งนั้น"เขาได้มองไปทางเด็กสาวแล้วจ้องตาเป็นมัน
"ก็ได้ๆ พ่อเผด็จการ!"
"ฮิตเลอร์ยังเรียกพ่อเลยฉันน่ะ" เจ้าตัวได้พูดพร้อมกับยิ้มอย่างภาค
ภูมิใจก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะเดินออกไปหาสัปประหลาดตนนั้นอย่างช้าๆ หลังจากที่เวลาครบกำหนดม่านอำพลางก็ถูกคลายลงพร้อมกับการปรากฏตัวของ
เนเมซิสกับโซเฟีย ส่วนอีกทางด้านหนึ่งพวกนิโครุที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิดก็ได้
คอยเฝ้ามองการต่อสู้ต่อจากนี้จากข้างหลังภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่โซเฟียสร้างขึ้นในพริบตา
วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 12 เธออีกและ!
Dy(ดีวาย) คือ อาวุธชนิดพิเศษที่หาได้จากโลกมิติที่สี่เท่านั้นซึ่งที่นั่นจะไม่ข้องเกี่ยวกับโลกอื่นๆรวมทั้งจะไม่ได้รับผลกระทบด้วย ครั้งนึงเซนะเคยไปยังโลกแห่งนั้นจนเจ้าตัวได้เป็นผู้กล้ารุ่นที่ 2 โดยการเอาชนะเบฮิมอสลงพร้อมกับช่วยเหลือทุกๆคนโดยองค์หญิงนามว่า เซดน่า ได้สร้าง Dy ให้เซนะจากแหวนของเจ้าตัวซึ่งคุณสมบัติของมันนั้นจะทำงานเมื่อผู้ถือครองตายโดยมันจะทำการลบล้างพลังรอบๆในรัศมีวงกว้างพร้อมกับคืนชีพผู้สวมใส่ขึ้นมาอีกครั้งโดยใช้ได้เพียงแค่หนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น
และแน่นอนว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน
"ทะ ที่นี่ที่ไหน"หลังจากที่เจ้าตัวลืมตาขึ้นเขาก็พบว่าตนนั้นกำลังนอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งที่ถูกรองเอาไว้ด้วยผ้าหนาๆและหมอนอุ่นๆและเด็กสาวหน้าตาคุ้นๆ
ที่กำลังนั่งมองตนอยู่บนเก้าอี้
"นี่ยังไม่ไปสวรรค์ใช่ไหม"
เด็กสาวได้ถามไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
"แฮะๆๆ.. น้ำหน้าอย่างผมถ้าไปจริงก็คงได้ไปนรกแหละครับ"
"หัดคิดในแง่บวกสักหน่อยก็ดีนะ"
"นี่น่ะก็บวกสุดๆแล้วครับ แย่สุดคือผมเป็นวิญญาณและไม่ได้ไปเกิด"เจ้าตัวจึงค่อยๆลุกขึ้นเพื่อมองหน้าสาวน้อยคนนั้นให้ชัดๆ
ดวงตาสีน้ำเงินกลมโตแต่ก็ดูคมกริบ ริมฝีปากสีชมพูดูอ่วมอิ่ม ผมสีทองยาวสลวยราวกับนางแบบชื่อดัง ใบหน้านั้นเรียวเล็ก ผิวสีขาวเนียนมาสไตล์ยุโรป
หน้าอกหน้าใจสุดยิ่งใหญ่ที่มาในชุดไปรเวทคล้ายเจ้าหญิงองค์น้อยๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับคนหน้าแบบเธอเพราะงั้นเจ้าตัวจึงไม่ตกใจถ้าหากจะเห็นคนหน้าคล้ายๆเธออีกที่โลกแห่งนี้
"คุณชื่อ โซเฟีย สินะ"
"อ้าว~! รู้ได้ไงอ่ะ!?"เธอได้ตกตะลึงนิดๆ
"คือแบบผมมาจากโลกอื่นแล้วผมกับคุณก็เคยเจอกันที่โลกนั้นพอมาโลกนี้ผมก็เลยรู้ชื่อคุณยังไงล่ะ"
"อื้ม... เข้าใจแล้ว!"
เธอได้พยักหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้ม เซนะ จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นเข้าใจจริงๆ "เชื่อเขาเลย"
"ไม่ว่าคุณจะอยู่โลกไหนคุณนี่ก็ฉลาดเสมอเลยนะ"
"เรื่องฉลาดไม่ฉลาดเอาไว้ว่ากันที่หลังว่าแต่ต่อจากนี้จะทำไงต่อล่ะ"
"ก่อนอื่นก็ไปรวมตัวกับทุกคนแล้วจัดการกองทัพน้ำแข็งพร้อมกับจัดการดูโอ้ลอร์ดนั้นก่อนจะหาสาเหตุที่ทำให้โลกนี้เป็นแบบนี้แล้วค่อยทำทุกอย่างให้กลับเป็นเหมือนเดิม" สาวน้อยจึงลุกขึ้นยืนทันทีทันใด
"เป็นอะไรเปล่าครับอยู่ๆก็ยืนขึ้น"
"กะ ก็แบบกองทัพน้ำแข็งแล้วก็สาเหตุอ่ะก็ฉันนี่แหละที่เป็นคนทำ"
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง..."
หลังจากตั้งสติได้ปุ๊บก็ได้มีเสียงดังจากปราสาทน้ำแข็งลอยออกมา"ว่าไงน้า~!"ทำเอาฝูงเพนกวินรอบๆถึงกับตกใจ
"เอาจริงดิ! ว่าแต่คุณทำได้ไงอ่ะ!?"
"วิธีก็ง่ายๆรู้จักเวิลด์ไอเทมป่ะ มันคือไอเทมที่มีพลังสามารถเปลี่ยนโลกได้ฉันก็เลยใช้มัน ผลึกศูนย์องศา แช่แข็งทั้งโลกพร้อมกับปิดกั้นทางออกสำหรับหนีต่อด้วยใช้เรเจนไอเทม ซึ่งเป็นไอเทมระดับตำนาน สร้อยคอแห่งบัญชา รวมกับพลังน้ำแข็งของฉันจึงสร้างกองทัพน้ำแข็งขึ้นมาได้ยังไงล่ะส่วนเหตุผลที่ทำไปก็เพราะอยากหยุดทุกๆอย่างไว้เพื่อให้ทุกๆคนในโลกนี้ไม่ต้องเจ็บปวดกับอนาคตที่รอพวกเขาอยู่และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนฉันจึงมีหน้าที่ปกป้องโลกนี้ด้วยกองทัพน้ำแข็ง"
"เล่าซะหมดเปลือกขนาดนี้ตัวเอกอย่างผมก็ไม่ได้โชว์ของอ่ะดิ"สาวน้อยที่ได้ยินแบบนั้นจึงทำสีหน้าลนลานขึ้น เซนะที่เห็นแบบนั้นจึงหัวเราะออกมา
"คุณนี่ก็มีส่วนที่ต่างจากคุณโซเฟียที่ผมรู้จักเหมือนกันนะ"
"เขาเป็นคนอย่างไงหรอ???"
"สวย เก่ง ไร้เทียมทาน ถึงแม้จะดูเป็นคนโรคจิตนิดๆแต่เขาก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังทุกๆวันที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเธอผมคิดว่านั่นน่ะคือสวรรค์สำหรับผมแล้ว"
คำพูดนั้นได้ออกมาจากใจจริงถึงแม้ว่าวันเวลาแบบนั้นจะหายไปแล้วก็ตามที แต่เซนะก็ยังคงปราถนาวันเวลาแบบนั้นอยู่ลึกๆในใจ
"ฉันเริ่มอิจฉาตัวเองนิดๆแหะ"
"พูดแบบนั้นมันฟังดูแล้วแปลกๆนะครับ"
"ก็นั่นสิเนอะ"เธอได้หลุดหัวเราะออกมานิดๆ
"ว่าแต่คุณจะช่วยทำให้ทุกอย่างกลับเป็นแบบเดิมได้ไหมครับ"
"ไม่เอาอ่ะ"
"ไวเกิ๊น! นะ นะขอร้องล่ะน้า~!"
"อ้อนยังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจฉันได้หรอก"
"เดี๋ยวให้อมยิ้มเอาป่ะ"เจ้าตัวจึงควักอมยิ้มที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาออกมาโชว์ให้เธอดู
"ฉันไม่ใช่เด็กนะ"
"งั้นหนังสือมุ่งสู่มหาลัยจำนวน 50 เล่ม"ว่าแล้วก็หยิบมันออกมาจากในเสื้อของตนราวกับนักมายากล หนังสือนั่นคือหนังสือที่พิเกียซื้อมาให้จนมันล้นบ้าน
"ฉันพึ่งขึ้นมัธยมเองนะ"
"เบ็ดตกปลาล่ะเป็นไง"เธอหยิบมันออกมาจากในเสื้อแจ็คเก็ต
"เห็นฉันเป็นนักตกปลารึ!"
"เงินจำนวนมหาศาลล่ะเป็นไง"พูดแล้วเธอก็ได้หยิบกระเป๋าใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงตน เนื่องจากกางเกงนี้เซนะเป็นคนทำมันขึ้นมาเองจึงมีเพียงแค่เซนะเท่านั้นที่มีกระเป๋าสุดแปลกแหวกแนวแบบนี้ เจ้าตัวจึงได้เปิดกระเป๋านั่นเพื่อโชว์เงินจำนวนมากที่อยู่ในนั้นให้โซเฟียดู
"เงินน่ะฉันมีเพียบอยู่แล้ว"
"งั้นจะให้ผมทำยังไงกันล่ะคุณถึงจะยอมแพ้อ่ะ"
"นี่เล่นถามกันดื้อๆเลยหรอ"
ในขณะนั้นเองอยู่ๆเขาก็รู้สึกได้ว่าพรรคพวกของตนนั้นกำลังตกที่นั่งลำบากและทันใดนั้นเองสติของเซนะก็ได้หลุดอีกครั้งโดยครั้งนี้แตกต่างกับครั้งที่แล้วตรงที่นี่เป็นฝีมือของใครบางคน ดวงตาของเซนะก็ได้เปลี่ยนจากตากลมๆใสๆเป็นสายตาคมกริบและดุดันขึ้นมาทันที
โซเฟียที่ยืนอยู่ข้างๆก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปในตัวของ
เซนะ "เป็นอะไรรึเปล่าเซนะ"
"ท่าทีและสายตาเธอดูแปลกๆไปนะ"
"เรียกฉันว่า เนเมซิส ตอนนี้ฉันได้ยึดร่างนี้ไว้ชั่วคราว"
"ว่าไงน่ะ!?"
"เวลาไม่คอยท่าหรอกนะพวกเราก็ต้องรีบไปกันแล้ว"
เจ้าตัวจึงอุ้มร่างของโซเฟียขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าสาวพร้อมกับเรียกปีกของตนออกมาแล้วพุ่งตัวออกไปจากปราสาทน้ำแข็งแห่งนี้
"กรี๊ด~! , ว่าแต่จะพาฉันไปไหนอ่ะ"
"ไปหาพรรคพวกของสึกุมิแล้วจัดการกับเจ้าปลาไหลยักษ์นั่น"
"ปลาไหล สึกุมิ???"
เธอจึงค่อยๆปะติดปะต่อเรื่องทุกอย่างเอง คนๆนี้หมายถึงคนที่อยู่ข้างในตัวเขาเรียกเซนะว่าสึกุมิหรือว่านี่จะเป็นชื่อจริงๆของเจ้าตัวงั้นคนๆนี้ที่รู้ถึงชื่อจริงก็คงมีเจตนาดีล่ะมั้ง จากเท่าที่สัมผัสได้ที่ข้างหน้านี้มีกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่กำลังสู้กันอยู่งั้นที่นั่นก็คงจะมีพรรคพวกของเซนะรวมถึงปลาไหลที่ว่านั่นด้วยสินะ.. เธอจึงกลืนน้ำลายลงก่อนจะสงบนิ่งเพื่อรวบรวมพลังเอาไว้สู้กับศึกข้างหน้านี้
Dy(ดีวาย) คือ อาวุธชนิดพิเศษที่หาได้จากโลกมิติที่สี่เท่านั้นซึ่งที่นั่นจะไม่ข้องเกี่ยวกับโลกอื่นๆรวมทั้งจะไม่ได้รับผลกระทบด้วย ครั้งนึงเซนะเคยไปยังโลกแห่งนั้นจนเจ้าตัวได้เป็นผู้กล้ารุ่นที่ 2 โดยการเอาชนะเบฮิมอสลงพร้อมกับช่วยเหลือทุกๆคนโดยองค์หญิงนามว่า เซดน่า ได้สร้าง Dy ให้เซนะจากแหวนของเจ้าตัวซึ่งคุณสมบัติของมันนั้นจะทำงานเมื่อผู้ถือครองตายโดยมันจะทำการลบล้างพลังรอบๆในรัศมีวงกว้างพร้อมกับคืนชีพผู้สวมใส่ขึ้นมาอีกครั้งโดยใช้ได้เพียงแค่หนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น
และแน่นอนว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน
"ทะ ที่นี่ที่ไหน"หลังจากที่เจ้าตัวลืมตาขึ้นเขาก็พบว่าตนนั้นกำลังนอนอยู่บนเตียงน้ำแข็งที่ถูกรองเอาไว้ด้วยผ้าหนาๆและหมอนอุ่นๆและเด็กสาวหน้าตาคุ้นๆ
ที่กำลังนั่งมองตนอยู่บนเก้าอี้
"นี่ยังไม่ไปสวรรค์ใช่ไหม"
เด็กสาวได้ถามไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
"แฮะๆๆ.. น้ำหน้าอย่างผมถ้าไปจริงก็คงได้ไปนรกแหละครับ"
"หัดคิดในแง่บวกสักหน่อยก็ดีนะ"
"นี่น่ะก็บวกสุดๆแล้วครับ แย่สุดคือผมเป็นวิญญาณและไม่ได้ไปเกิด"เจ้าตัวจึงค่อยๆลุกขึ้นเพื่อมองหน้าสาวน้อยคนนั้นให้ชัดๆ
ดวงตาสีน้ำเงินกลมโตแต่ก็ดูคมกริบ ริมฝีปากสีชมพูดูอ่วมอิ่ม ผมสีทองยาวสลวยราวกับนางแบบชื่อดัง ใบหน้านั้นเรียวเล็ก ผิวสีขาวเนียนมาสไตล์ยุโรป
หน้าอกหน้าใจสุดยิ่งใหญ่ที่มาในชุดไปรเวทคล้ายเจ้าหญิงองค์น้อยๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับคนหน้าแบบเธอเพราะงั้นเจ้าตัวจึงไม่ตกใจถ้าหากจะเห็นคนหน้าคล้ายๆเธออีกที่โลกแห่งนี้
"คุณชื่อ โซเฟีย สินะ"
"อ้าว~! รู้ได้ไงอ่ะ!?"เธอได้ตกตะลึงนิดๆ
"คือแบบผมมาจากโลกอื่นแล้วผมกับคุณก็เคยเจอกันที่โลกนั้นพอมาโลกนี้ผมก็เลยรู้ชื่อคุณยังไงล่ะ"
"อื้ม... เข้าใจแล้ว!"
เธอได้พยักหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้ม เซนะ จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นเข้าใจจริงๆ "เชื่อเขาเลย"
"ไม่ว่าคุณจะอยู่โลกไหนคุณนี่ก็ฉลาดเสมอเลยนะ"
"เรื่องฉลาดไม่ฉลาดเอาไว้ว่ากันที่หลังว่าแต่ต่อจากนี้จะทำไงต่อล่ะ"
"ก่อนอื่นก็ไปรวมตัวกับทุกคนแล้วจัดการกองทัพน้ำแข็งพร้อมกับจัดการดูโอ้ลอร์ดนั้นก่อนจะหาสาเหตุที่ทำให้โลกนี้เป็นแบบนี้แล้วค่อยทำทุกอย่างให้กลับเป็นเหมือนเดิม" สาวน้อยจึงลุกขึ้นยืนทันทีทันใด
"เป็นอะไรเปล่าครับอยู่ๆก็ยืนขึ้น"
"กะ ก็แบบกองทัพน้ำแข็งแล้วก็สาเหตุอ่ะก็ฉันนี่แหละที่เป็นคนทำ"
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง..."
หลังจากตั้งสติได้ปุ๊บก็ได้มีเสียงดังจากปราสาทน้ำแข็งลอยออกมา"ว่าไงน้า~!"ทำเอาฝูงเพนกวินรอบๆถึงกับตกใจ
"เอาจริงดิ! ว่าแต่คุณทำได้ไงอ่ะ!?"
"วิธีก็ง่ายๆรู้จักเวิลด์ไอเทมป่ะ มันคือไอเทมที่มีพลังสามารถเปลี่ยนโลกได้ฉันก็เลยใช้มัน ผลึกศูนย์องศา แช่แข็งทั้งโลกพร้อมกับปิดกั้นทางออกสำหรับหนีต่อด้วยใช้เรเจนไอเทม ซึ่งเป็นไอเทมระดับตำนาน สร้อยคอแห่งบัญชา รวมกับพลังน้ำแข็งของฉันจึงสร้างกองทัพน้ำแข็งขึ้นมาได้ยังไงล่ะส่วนเหตุผลที่ทำไปก็เพราะอยากหยุดทุกๆอย่างไว้เพื่อให้ทุกๆคนในโลกนี้ไม่ต้องเจ็บปวดกับอนาคตที่รอพวกเขาอยู่และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนฉันจึงมีหน้าที่ปกป้องโลกนี้ด้วยกองทัพน้ำแข็ง"
"เล่าซะหมดเปลือกขนาดนี้ตัวเอกอย่างผมก็ไม่ได้โชว์ของอ่ะดิ"สาวน้อยที่ได้ยินแบบนั้นจึงทำสีหน้าลนลานขึ้น เซนะที่เห็นแบบนั้นจึงหัวเราะออกมา
"คุณนี่ก็มีส่วนที่ต่างจากคุณโซเฟียที่ผมรู้จักเหมือนกันนะ"
"เขาเป็นคนอย่างไงหรอ???"
"สวย เก่ง ไร้เทียมทาน ถึงแม้จะดูเป็นคนโรคจิตนิดๆแต่เขาก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังทุกๆวันที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเธอผมคิดว่านั่นน่ะคือสวรรค์สำหรับผมแล้ว"
คำพูดนั้นได้ออกมาจากใจจริงถึงแม้ว่าวันเวลาแบบนั้นจะหายไปแล้วก็ตามที แต่เซนะก็ยังคงปราถนาวันเวลาแบบนั้นอยู่ลึกๆในใจ
"ฉันเริ่มอิจฉาตัวเองนิดๆแหะ"
"พูดแบบนั้นมันฟังดูแล้วแปลกๆนะครับ"
"ก็นั่นสิเนอะ"เธอได้หลุดหัวเราะออกมานิดๆ
"ว่าแต่คุณจะช่วยทำให้ทุกอย่างกลับเป็นแบบเดิมได้ไหมครับ"
"ไม่เอาอ่ะ"
"ไวเกิ๊น! นะ นะขอร้องล่ะน้า~!"
"อ้อนยังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจฉันได้หรอก"
"เดี๋ยวให้อมยิ้มเอาป่ะ"เจ้าตัวจึงควักอมยิ้มที่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาออกมาโชว์ให้เธอดู
"ฉันไม่ใช่เด็กนะ"
"งั้นหนังสือมุ่งสู่มหาลัยจำนวน 50 เล่ม"ว่าแล้วก็หยิบมันออกมาจากในเสื้อของตนราวกับนักมายากล หนังสือนั่นคือหนังสือที่พิเกียซื้อมาให้จนมันล้นบ้าน
"ฉันพึ่งขึ้นมัธยมเองนะ"
"เบ็ดตกปลาล่ะเป็นไง"เธอหยิบมันออกมาจากในเสื้อแจ็คเก็ต
"เห็นฉันเป็นนักตกปลารึ!"
"เงินจำนวนมหาศาลล่ะเป็นไง"พูดแล้วเธอก็ได้หยิบกระเป๋าใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงตน เนื่องจากกางเกงนี้เซนะเป็นคนทำมันขึ้นมาเองจึงมีเพียงแค่เซนะเท่านั้นที่มีกระเป๋าสุดแปลกแหวกแนวแบบนี้ เจ้าตัวจึงได้เปิดกระเป๋านั่นเพื่อโชว์เงินจำนวนมากที่อยู่ในนั้นให้โซเฟียดู
"เงินน่ะฉันมีเพียบอยู่แล้ว"
"งั้นจะให้ผมทำยังไงกันล่ะคุณถึงจะยอมแพ้อ่ะ"
"นี่เล่นถามกันดื้อๆเลยหรอ"
ในขณะนั้นเองอยู่ๆเขาก็รู้สึกได้ว่าพรรคพวกของตนนั้นกำลังตกที่นั่งลำบากและทันใดนั้นเองสติของเซนะก็ได้หลุดอีกครั้งโดยครั้งนี้แตกต่างกับครั้งที่แล้วตรงที่นี่เป็นฝีมือของใครบางคน ดวงตาของเซนะก็ได้เปลี่ยนจากตากลมๆใสๆเป็นสายตาคมกริบและดุดันขึ้นมาทันที
โซเฟียที่ยืนอยู่ข้างๆก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปในตัวของ
เซนะ "เป็นอะไรรึเปล่าเซนะ"
"ท่าทีและสายตาเธอดูแปลกๆไปนะ"
"เรียกฉันว่า เนเมซิส ตอนนี้ฉันได้ยึดร่างนี้ไว้ชั่วคราว"
"ว่าไงน่ะ!?"
"เวลาไม่คอยท่าหรอกนะพวกเราก็ต้องรีบไปกันแล้ว"
เจ้าตัวจึงอุ้มร่างของโซเฟียขึ้นมาในท่าอุ้มเจ้าสาวพร้อมกับเรียกปีกของตนออกมาแล้วพุ่งตัวออกไปจากปราสาทน้ำแข็งแห่งนี้
"กรี๊ด~! , ว่าแต่จะพาฉันไปไหนอ่ะ"
"ไปหาพรรคพวกของสึกุมิแล้วจัดการกับเจ้าปลาไหลยักษ์นั่น"
"ปลาไหล สึกุมิ???"
เธอจึงค่อยๆปะติดปะต่อเรื่องทุกอย่างเอง คนๆนี้หมายถึงคนที่อยู่ข้างในตัวเขาเรียกเซนะว่าสึกุมิหรือว่านี่จะเป็นชื่อจริงๆของเจ้าตัวงั้นคนๆนี้ที่รู้ถึงชื่อจริงก็คงมีเจตนาดีล่ะมั้ง จากเท่าที่สัมผัสได้ที่ข้างหน้านี้มีกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่กำลังสู้กันอยู่งั้นที่นั่นก็คงจะมีพรรคพวกของเซนะรวมถึงปลาไหลที่ว่านั่นด้วยสินะ.. เธอจึงกลืนน้ำลายลงก่อนจะสงบนิ่งเพื่อรวบรวมพลังเอาไว้สู้กับศึกข้างหน้านี้
ตอนที่ 11 hime
หลังจากที่พวกผมได้มาถึงโลกน้ำแข็งแห่งนี้เวลาก็ได้ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่งโมงเศษๆได้โดยตอนนี้พวกผมก็กำลังเดินตามหาร่องรอยสู่การช่วยเหลือทุกคน
และในไม่ช้าผมก็รู้สึกว่าตนนั้นเริ่มเข้าใกล้คำตอบเต็มทีแล้ว
ถ้าถามผมว่าผมไปเอาความมั่นใจนั้นมาจากไหนก็ลองถามพวกน้ำแข็งเดินได้นั่นสิ!
ที่เบื้องหน้าของพวกเซนะได้มีกองทัพน้ำแข็งมากมายออกมาต้อนรับ
รูปร่างของพวกมันนั้นแตกต่างกันออกไป มีทั้งแบบ มังกร คราเค็น คิไมร่า
และอื่นๆอีกมากมายโดยแน่นอนว่ามันต้องถูกสร้างมาจากน้ำแข็งส่วนจำนวนนั้นมากกว่าพันตัวได้
ในไม่ช้าพวกเซนะก็ได้ถูกพวกมันล้อมเอาไว้
"ธาตุของพวกมันคือน้ำแข็งงานนี้ต้องใช้ไฟแบบถี่ๆ"ตัวผมอีกคนได้วิเคราะห์ศัตรูอย่างใจเย็น
"ว่าแต่นอกจากผมมีใครใช้ไฟได้มั่งอ่ะ"
"หนูใช้ไฟไม่ได้ค่ะ"
"ฉันก็ด้วย"
"สรุปว่าผมต้องลุยเดี่ยวว่างั้น"
"ถึงจะใช้ไฟไม่ได้แต่ท่าอื่นน่ะมีเพียบเลยนะ"
"งั้นก็ฝากจัดการกับดูโอลอร์ดใต้เท้านี้ด้วยนะครับ"
"ใต้เท้า???"
ทั้งสองได้มองลงไปใต้เท้าตนจนได้พบกับสัปประหลาดขนาดยักษ์ ในไม่ช้ามันก็ได้พุ่งตัวออกมาจากพื้นน้ำแข็งทำให้พวกเซนะกระจัดกระจายกันออกไป
รูปร่างของมันนั้นคล้ายกับวัวขนาดยักษ์ไม่มีขาแต่มีครีบแทน ท่อนล่างคล้ายหางปลาลำตัวใหญ่ยาวชนิดที่ว่าเครื่องบินรวมกันสามสิบลำยังเทียบกับมันตัวเดียวไม่ได้เลย ที่ปากของมันมีเขี้ยวขนาดยักษ์คล้ายกับกรามของแมลงงอกออกมา ลำตัวสีเทาๆ
หลังจากที่มันโผล่ขึ้นมาจากพื้นน้ำแข็งตัวมันก็ได้ลอยอยู่กลางอากาศเพื่อที่จะมองดูหน้าตาของพวกเซนะอย่างชัดๆ
"พวกแกเองสินะ" สัปประหลาดตนนั้นได้พูดขึ้น
เซนะอีกมิติหนึ่งจึงจับมือน้องสาวของตนแล้วรีบวิ่งหนีไปทางอื่นเจ้าสัปประหลาดนั่นจึงบินตามพวกเธอไป
"ดะ เดี๋ยวก่อนสิคะพี่นี่เราจะวิ่งไปไหนกันคะ"
"ล่อมันให้ออกห่างจากที่นี่ให้มากที่สุดยังไงล่ะ"
ถูกอย่างที่พูด คืนปล่อยให้สัปประหลาดแบบนี้อาละวาดได้ล่ะก็มันยิ่งจะทำให้การต่อสู้ปั่นป่วนจนเละเทะไปกันใหญ่เซนะจากอีกมิติจึงล่อมันให้ไปไกลๆ
เพื่อให้ตนอีกคนสู้กับกองทัพน้ำแข็งได้อย่างสบายใจ
หลังจากที่มันถูกล่อไปแล้วเซนะก็ต้องมาเผชิญหน้ากับกองทัพน้ำแข็งนับพันๆตัวเจ้าตัวจึงพุ่งเข้าไปหามังกรน้ำแข็งแล้วใช้ดาบที่ตวัดเสียดสีจนเกิดไฟฟันใส่มันจนขาดเป็นครึ่งๆ ต่อด้วยพุ่งลงไปกลางวงศัตรูพร้อมกับตวัดดาบไปมาทำให้พวกมันถูกฟันเป็นวงกว้าง มิโนทอน้ำแข็งกับเซนทอน้ำแข็งจึงพุ่งเข้ามาแล้วเอาขวานฟันเข้าใส่เซนะ ทางด้านเซนะจึงดันมันผลักกลับไปพร้อมกับหมุนตัวแล้วฟันใส่ร่างของพวกมันจนขาดครึ่งท่อนพร้อมกับเอามืออีกข้างไปจับเขาของคิไมร่าน้ำแข็งที่กำลังพุ่งมาพร้อมกับเหวี่ยงมันออกไปไกลๆ
จะจัดการมันก็ไม่ใช่ปัญหาแต่จำนวนมันมากเกินไปขืนสู้เแบบนี้ต่อไปนานๆเราแย่แน่ เซนะนึกแล้วก็เจ็บใจ
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นกองทัพน้ำแข็งก็ได้กรูกันเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน โกเลมน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาจึงใช้หมัดของตนชกใส่เซนะจนปลิวไปชนกับเสาน้ำแข็ง เสือน้ำแข็งจึงกระโจนเข้าใส่เพื่อซ้ำให้ตายแต่เซนะก็ได้ใช้ดาบไฟแทงใส่กลางหน้าผากของมันจนร่างนั้นแตกกระจาย ซาลามานเดอร์น้ำแข็งจึงพุ่งเข้ามาชนใส่เซนะจนเลือดนั้นกระอักปาก"อั่กก.. "
ต่อจากนั้นมันจึงได้ขวิดล่างของเธอขึ้นมากลางอากาศพร้อมกับมีงูยักษ์น้ำแข็งแยกเขี้ยวพุ่งเข้ามาใกล้เซนะเรื่อยๆ เจ้าตัวจึงได้เตรียมตวัดดาบแต่ก็ถูก
นกฟินิกส์น้ำแข็งใช้กรงเล็บของมันล็อคเอาไว้"เสร็จกัน!"
เมื่ออยู่กลางอากาศแถมยังโดนล็อคดาบเอาไว้อีกเธอจึงโดนการโจมตีของงูน้ำแข็งนั่นเข้าเต็มๆ เขี้ยวของมันได้ฝังเข้าไปในร่างของเซนะจนทะลุอก เลือดนั้นค่อยๆไหลซึมออกมาจากปากแผลโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด สติของเซนะจึงค่อยๆหลุดไปเรื่อยๆท่ามกลางกองทัพน้ำแข็งนับพัน
หลังจากนั้นร่างของเซนะที่คาอยู่บนเขี้ยวก็ได้ค่อยๆหลุดและล่วงลงมาอย่างช้าๆ
"ขอโทษด้วยนะ ทุกคน... " สติของเธอจึงหลุดไปแบบสมบูรณ์ท่ามกลางเหล่าอสูรร้ายที่กำลังรอให้ร่างนั้นตกลงมา
พริบตาที่ร่างของเธอใกล้จะถึงพวกมันอยู่ๆพวกมันทั้งหมดก็ได้ถอยห่างจากตรงนั้นพร้อมกับแทนที่ด้วยการปรากฏตัวของสาวน้อยคนหนึ่ง เธอคนนั้นได้วิ่งเข้ามารับร่างของเซนะเอาไว้ พร้อมกับแสยะยิ้ม ก่อนที่พายุหิมะจะพัดร่างของทั้งสองหายไปอย่างไร้ร่องรอย...
วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)