วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561

ตอนที่ 19 Who are you

                สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มตรึงเครียดขึ้นเรื่อยๆทั้งเนเมซิสทั้งคุมะต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่ความตายใกล้คืบคลานเข้ามา คุมะที่กำลังพูดกล่อมให้เธอหยุดการโจมตีได้แสยะยิ้ม มันได้เตรียมที่จะโจมตีสวนกลับในตอนที่เนเมซิสหยุดการโจมตี
                ...ใช่แล้ว ถึงมันจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ยังเป็นแค่มนุษย์ยังไงมนุษย์น่ะก็มีความกลัวที่ชื่อว่าความตายอยู่ภานในใจกันทุกคนพวกมันนั้นหวาดกลัวกับสิ่งนี้กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็ก นักบุญ นักบวช แม่ชีหรือแม้แต่พระราชาก็เช่นกันทุกคนล้วนแล้วแต่กลัวความตายกันทั้งนั้น ยิ่งจินตนาการก็ยิ่งหวาดกลัว ยิ่งคิดถึงมันก็ยิ่งหวาดระแวง ในยามที่พวกมันใกล้จะตายก็จะพยายามตะเกียจตะกายหาทางรอด
และใช้ทุกวิถีทางและแกก็ไม่ต่างกันหรอกเนเมซิส!
                 เมื่อใดที่แกหยุดเมื่อไหร่ข้าก็จะยิ่งลำแสงใส่แกอีกครั้งแต่ครั้งนี้บวกกับสภาพร่างกายของแกที่กำลังจะตายอยู่รอมร่อแล้ว คราวนี้แหละแกจะต้องตาย!!!...
                 มันได้เฝ้ารอโอกาสนั้นมาถึง ถึงแม้ว่าขา แขนและหางจะถูกตัดไปอย่างล่ะข้างแล้วก็ตามมันก็ยังรอคอยโอกาสอยู่
                 "ฉันคิดว่าฉันก็เคยบอกไปแล้วนะว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่ร่างของฉัน"
                 มันได้อ้าปากค้างกับคำตอบของเนเมซิส
                 ....บ้าแล้ว! ถ้าหากว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริงมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหยุดโจมตี ถึงแม้เจ้าของร่างมันจะตายแต่มันก็แค่ร่างของคนอื่นตัวมันจริงๆก็ไม่ได้รับผลอะไรเลย!!!....  มันจึงพยายามพูดเพื่อหาวิธีเอาตัวรอด
                 "ถ้างั้นแกไม่เป็นห่วงเจ้าของร่างนั้นเลยหรือยังไง!"
                 "ไม่อ่ะ สึกุมิน่ะยอมให้ฉันทำแบบนี้แน่ๆ"
                 มันได้เริ่มหน้าซีดลงเรื่อยๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเราแย่แน่!....
                 "ถ้างั้นแกก็จะถูกเพื่อนๆของมันตามฆ่าและเคียดแค้นไปทั่วทั้งชีวิตแกยังจะไม่ยอมหยุดอีกอย่างงั้นเหรอ!!!"
                 "แค้นก็แค้นไปดิฉันไม่สนใจใครทั้งนั้นนอกจากสึกุมิ!"
                 "ถ้าหากว่าเจ้าคนที่ชื่อว่าสึกุมิมันดันรู้ว่าแกฆ่าคนมันจะยังมองแกในแบบเดิมๆอยู่อีกหรือเปล่า!!!"
                 "ถ้างั้นเจ้าหมอนั่นคงไม่ได้มองฉันแล้วล่ะเพราะสึกุมิกับเซนะคือคนๆ
เดียวกัน!"
                  "แกคิดจะฆ่ามันอย่างงั้นรึ!"
                  เนเมซิสได้เงียบไปชั่วขณะ... "นี่แกพูดพร่ำอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว"
                  "แกคิดว่าฉันจะสู้จนทำให้สึกุมิต้องตายอย่างงั้นสินะ"

                  มันได้เบิกตาข้างนึงแบบกว้างๆ

                  "แกคงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าฉันอ่านใจคนได้น่ะ"

                  มันได้ทำสีหน้าสิ้นหวังแบบสุดๆขึ้น

                  "แกคิดจะฉวยโอกาสตอนฉันหยุดการโจมตีแล้วฆ่าฉันสินะ"

                  มันได้สลายพลังทั้งหมดที่กำลังรวบรวมอยู่ในปาก
               

                  "แล้วแกคิดหรือว่าตัวตนอันต้อยต่ำของแกจะทำให้พวกเราต้องสู้ถึงขนาดยอมแลกด้วยชีวิตได้อย่างงั้นเหรอไอเจ้าปลาไหล! แกมันก็แค่เศษทรายที่กำลังต่อกรกับจักรวาลอยู่แถมยังไม่รู้อีกว่าตัวเองน่ะอ่อนแอแค่ไหน"
                  หลังจากที่โจมตีไปนับพันๆครั้งเธอก็ได้เปลี่ยนทั้งแววตาและดาบจนกลายเป็นสีดำทมิฬ ท่าพิเศษที่เธอกำลังจะใช้ต่อจากนี้นั้นร้ายแรงยิ่งกว่าอินเฟอโนเวฟหลายต่อหลายเท่า มันคือท่าพิเศษต้องห้ามที่ถ้าหากใช้แล้วจะไม่มีใครเคยรอดชีวิตได้เลยโดยสาเหตุที่มันถูกเรียกว่าท่าต้องห้ามไม่ใช่เพราะสร้างภาระให้กับร่างกายเหมือนอินเฟอโน่เวฟหรือจะส่งผลเสียต่อผู้ใช้แต่อย่างใดแต่เป็นเพราะมันสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แบบไร้ทางสู้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นท่าต้องห้าม
                  "แกจงหายไปเพราะความอวดดีของแกซะ"
                  ดาบทมิฬได้พุ่งผ่านร่างของมันไปเพียงชั่วพริบตาเดียว
             
                  "ท่าพิเศษต้องห้าม อินเฟอร์โน่ซอร์ด!"
                  ทั้งคนดูทั้งคนมองต่างก็งงกลับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงมันจะเป็นท่าต้องห้ามก็ตามแต่มันก็ไม่ได้เกิดเอฟเฟ็คหรือมีอะไรเกิดขึ้นเลยซึ่งแตกต่างกับท่าก่อนๆเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุมะถูกฟันต่างก็เป็นที่น่าหวาดกลัว ร่างของมันได้ตกลงมากระแทกกับพื้นน้ำแข็งพร้อมกับหยุดหายใจและตายไปในที่สุด
                   จะว่าเพราะการโจมตีนั้นก็ไม่ได้เพราะบาดแผลจากการโจมตีนั้นไม่สาหัติมากเมื่อเทียบกับท่าก่อนๆ และจะโทษว่าเป็นเพราะบาดแผลก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้เพราะถึงมันจะโดนไปหลายต่อหลายท่าแต่มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ราวกับเป็นซอมบี้
                   โซเฟียที่หายดีแล้วจึงวิ่งเข้ามาหาเนเมซิสในทันที
                   "เมื่อกี้นี้นายทำอะไรอ่ะ???"
                   "นี่เธอฟื้นตั้งนานแล้วใช่ไหม!"
                   "อ้าวรู้ได้ไง!"
                   "ฉันมองเธออยู่ตลอด"
                   "ไม่น่าเชื่อคนอย่างนายที่เลือดเย็น หยิ่งแถมยังเอาแต่ใจเนี่ยนะ"
                   "ฉันจะถือว่าเป็นคำชมละกันส่วนเรื่องของท่าพิเศษท่านี้มันเป็นท่าพิเศษที่จะส่งวิญญาณไปสู่ยมลูกหรือพูดง่ายๆคือ ท่าส่งวิญญาณ"
                   "แต่ว่าเจ้านั่นมันยังไม่ตายสักหน่อยเพราะงั้นนายก็ไม่น่าจะส่ง
วิญญานมันไปได้สิ"
                   "ขอบเขตของท่านี้มันสุดๆยังไงล่ะถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ตายแต่ฉันก็สามารถส่งวิญญานมันไปได้เลย"
                   "แล้วความเสี่ยงไม่มีบ้างเลยเหรอ"
                   "ความเสี่ยงมีอยู่อย่างเดียวคือถ้าหากไม่ใช่ฉันหรือเซนะแล้วใช้ท่านี้ได้ล่ะก็โลกจะยุ่งเหยิงจนมันพังทลายลง" เธอได้คิดตามและพยายามจะลืมเรื่องของมันไป  ถึงจะเพียงแค่คิดเล่นๆแต่เธอก็ยังจินตนาการถึงภาพอันเลวร้ายออกมาได้อย่างชัดเจน
                   
                   
                 

               

               
                   
               
               
             

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น