วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 51 IV

                    "เซนะ! ฟังฉันให้ดีๆนะฉันเชื่อมั่นในตัวเธอและเชื่อมั่นด้วยว่าเธอกำลังมุ่งไปในเส้นทางที่ถูกต้องเพราะงั้นเธอต้องไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ และเพื่อการนั้นเธอต้องเอาชนะมาสเตอร์คิงส์ลงให้จงได้นะ bye~!"พูดเสร็จเธอก็ตัดสายทิ้งเพื่อที่จะหนีจากคำพูดของเซนะต่อจากนี้ที่เขาคิดและคาดการณ์เอาไว้แล้ว
                    ....อีกฝ่ายเป็นถึงมาสเตอร์คิงส์ผู้สร้าง duo ขึ้นมาในกรณีที่เลวร้ายที่สุดพวกเซนะอาจจะไม่สามารถใช้ duo ได้เลยและถ้าจำไม่ผิดพลังของเซสึนะก็คือพลังแห่งดวงดาว
                    โลกนี้มีกฏใหญ่อยู่ด้วยกันสี่ข้อหลักๆโดยข้อแรกก็คือ จะสามารถมี duo ได้เพียงแค่คนเดียว ข้อสองคือในร่างกายของคนๆหนึ่ง(Master)จะมีพลังอยู่หนึ่งอย่าง และข้อสาม duo ต้องคอยฟังคำสั่งของ Master ทุกประการและข้อที่สี่ duo และ Master จะต้องมีสัญญาที่เป็นเครื่องหมายยืนยันอยู่ที่ข้อมือโดยมันจะเป็นอักขระแปลกๆที่พวกเขาสามารถทำให้มองเห็นหรือไม่เห็นก็ได้ ซึ่งทั้งสี่อย่างนี้ก็คือกฎตายตัวของทุกจักรวาลแต่ทว่าในกรณีของ Masterking หรือก็คือ เซสึนะ เขาเป็นผู้ที่พิเศษออกไปเนื่องจากเขาคือผู้สร้าง duo ทั้งหมดขึ้นเพราะงั้นเขาจึงมีสัญญาของเหล่า duo ทั้งหมดและเมื่อเขาคิดจะใช้ประโยชน์จากข้อสามล่ะก็พวกเซนะกับเหล่า duo ก็คงจะต้องหันมาสู้กันเองอย่างแน่นอน
                    อุยได้พยายามที่จะนึกหาข้อได้เปรียบที่จะทำให้พวกเซนะเอาชนะได้
จนหัวแทบจะระเบิด ฝั่งเซนะที่ถูกตัดสายไปแบบดื้อๆจึงเดินไปพลางบ่นไปพลาง....
อะไรของเขากันนะ อยู่ดีๆก็โทรมาอยู่ดีๆก็วางสายไปผู้หญิงนี่เขาใจยากชะมัดเลยแฮะ.... เธอได้เดินต่อไปโดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่าถูกคนทั้งโลกนินทาอยู่"เอ็งก็เป็นผู้หญิงนิฟ่ะ!"
                    หลังจากที่คิดอะไรไปเพลินๆรู้ตัวอีกทีเจ้าตัวก็มาโผล่ยังโลกชั้นต่อไปซะแล้ว
                    เมื่อผ่านพ้นโพรงไม้ขนาดยักษ์ไปก็จะเป็นโลกแห่งน้ำที่มีน้ำตกจำนวนมากอยู่ หนึ่งในสถานที่ๆมนุษย์ยังไม่เคยได้มาถึงมาก่อน สุดยอดสถานที่พักผ่อนสุดงดงามของกาเซ็ทที่เป็นตำนาน

                    น้ำตกราชันย์เจ้าสมุทร! ชื่อนี้มีไว้ให้เรียนในหลักสูตรการเรียนการสอนซึ่งว่ากันว่าเป็นสถานที่ๆไม่มีจริงหรือมีแต่ก็ไม่เคยมีใครเคยพบเห็นแต่ถึงงั้นก็มีเขียนพรรณาเอาไว้มากมายในตำราเรียน โดยจะมีน้ำตกจำนวนมากอยู่ที่นั่น มีปลาแปลกประหลาดมากมายอาศัยอยู่ มีพืชพรรณธรรมชาติหายากอยู่เต็มไปหมด
และที่สำคัญน้ำของที่นี่มีความสะอาดมากจนถึงขั้นใช้บริโภคกันได้เลยทีเดียว
                   "ที่นี่เหมือนในตำราเรียนเป๊ะเลยแฮะ ว่าแต่ว่าคนเขียนเรื่องนี้รู้ได้ไง(ก็ไหนว่าไม่เคยมีมนุษย์เข้ามาที่นี่ได้ยังไงล่ะ)???"เธอจึงค่อยๆย้อนกลับไปตอนที่อ่านมันพร้อมกับเริ่มซูมไปที่ชื่อจนเห็นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่าคนเขียนก็คือ กาเซ็ท ...จะว่าไปเขาก็เป็นคนๆเดียวที่มาถึงที่นี่ได้เป็นคนแรกนี่เนาะว่าแต่ไหนบอกว่ามนุษย์ไม่เคยมาถึงที่นี่ไง หรือว่าเขาจะไม่ใช่มนุษย์!?....
                   แต่ถึงเขาจะเป็นมนุษย์หรือไม่ตอนนี้เรื่องนั้นมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
                   เซนะได้ถามทางจากพวกปลาที่ว่ายน้ำอยู่จึงได้รู้ทางไปโลกชั้นต่อไปโดยทางไปนั้นดันเป็นจุดที่ลึกที่สุดของโลกนี้ซึ่งต้องกระโดดลงไปเท่านั้นอีกด้วยในระหว่างการเดินทางก็ไม่มีแม้แต่เงาของราชันย์สักคนจนเซนะเริ่มแปลกๆใจ อันที่จริงที่นี่ก็มีราชันย์คอยเฝ้าอยู่คนนึงนามว่า อากิโตะ แต่หลังจากที่การต่อสู้นั้นเริ่มขึ้นเขาก็หายไปจากโลกนี้โดยทันที และสถานที่ที่เขาไปนั้นก็คือโลกถัดไปที่มีราชันย์อีกคนคอยประจำอยู่
                   อากิโตะ นั้นเป็นชื่อปลอมของชายที่มีผมสีน้ำตาลตั้งตรงและดวงตาสีแดงก่ำ หน้าตาอันเรียวแหลม ดวงตาอันคมกริบ และพลังของเขาจึงทำให้เขาเป็น
คนที่สมควรได้รับฉายาว่า แอสซาซินที่แท้จริง เขาเป็นคนที่มีลับลมคมในมากที่สุดในบรรดาราชันย์ทั้งหมดแต่กลับเซนะเท่านั้นที่เขาดูเหมือนจะเปิดใจให้และอันที่จริงเขาก็มีเป้าหมายอยู่เหมือนกัน เพราะงั้นเขาจึลต้องแกล้งตามน้ำโซเฟียไปก่อน
เพื่อรอคอยเวลานี้ให้มาถึงนี่เอง!
                    อากิโตะได้มุ่งหน้ามายังโลกถัดไปเพื่อตามหาคนๆนึง โดยโลกนี้นั้นคล้ายกับโลกเวทย์มนตร์ที่มีสิ่งก่อสร้างและพลังงานเวทย์มนตร์มากมายฟุ้งกระจายไปทั่วโลกนี้ อันที่จริงแต่เดิมโลกนี้เคยเป็นโลกที่มีนักเวทย์อันแสนจะทรงพลังมากมายอาศัยอยู่แต่ทว่าอยู่มาวันหนึ่งได้มีการทดลองเวทย์มนตร์สุดยอดขึ้น
แต่แล้วผลการทดลองก็ผิดพลาดซ้ำยังส่งผลให้โลกนี้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากโดยมันมีผลหลักๆคือทำให้มนุษย์ที่อยู่ที่นี่เกินหนึ่งชั่วโมงต้องตายลงเนื่องจากพลังเวทย์อันมหาศาลที่สะสมอยู่ที่โลกจะไหลทะลักเข้ามาในร่างกายและหากมันมีมากเกินกว่าที่ร่างกายนั้นจะรับไหวเขาคนนั้นก็จะต้องตายถ้าให้เปรียบเทียบก็คือ ปฏิกิริยา ออสโมซิส(การถ่ายเทพลังงานจากมากไปน้อย) นั่นเอง ทำให้นักเวทย์ทั้งหมดต้องอพยพจากโลกนี้ไปในที่สุด
                    แต่นั่นก็ไม่มีผลอะไรกับอากิโตะและราชันย์ที่อยู่ที่นี่นั่นก็เพราะว่าพวกเขาก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์กันไปเรียบร้อยแล้ว  อากิโตะได้เดินมายังซากห้องสมุดที่ถูกทิ้งร้างก่อนจะหันไปสบตากับราชันย์ที่มองเขาอยู่จากบนระเบียง
                    เธอคือ คามิคิตะ โคมาริ เป็นหนึ่งในราชันย์ผู้พิชิตเหมือนอากิโตะจุดเด่นคือผมสีส้มชอบไว้ผมแกละกับริบบิ้นสีแดงพร้อมกับประดับข้างด้วยดาวน่ารักๆ
ดวงตาของเธอนั้นมีสีเขียวดูหมองมัวเนื่องจากถูกโซเฟียควบคุมอยู่โดยเขาไปสืบมาแล้วว่าโซเฟียได้เจอกับโคมาริตอนอายุ 3 ขวบโดยตั้งแต่ตอนนั้นโซเฟียก็ได้คอยควบคุมร่างของเธอโดยตลอดมา
                   "นายน่าจะไปอยู่ที่ชั้นอื่นสิ อากิโตะ"เธอได้พูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้
               
                
                   

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 50 III

                       
                    "เอาล่ะในที่สุดก็หาวิธีได้แล้ว!!!"
                    "เย้~! ยินดีด้วยจ่ะแต่พี่ไม่ไหวแล้วล่ะ"เนื่องจากทั้งคิดทั้งพูดมามากกว่าห้าชั่วโมงเธอจึงเป็นลมสลบไปตรงนั้นเพราะร่างกายมันรับไม่ไหวแล้ว
                    "พะ พี่ทับทิมทำใจเอาไว้นะ"
                    เซนะเข้ามาเขย่าร่างของเธอทั้งน้ำตา
                    "เซนะจ่ะ.... "
                    "ครับ!"
                    "วันหลังช่วยเข้าใจให้เร็วกว่านี้หน่อยนะ"เธอได้เอามือยื่นขึ้นมาจับใบหน้าของเซนะก่อนจะหมดแรงแล้วสลบไปต่อหน้าต่อตาเซนะทำเอาเธอต้องเข้ามาสวมกอดร่างของทับทิมพร้อมกับร้องไห้ออกมาราวกับน้ำตก
                    "แง๊~!!! อย่าตายนะพี่ทับทิม  แล้วต่อจากนี้ใครจะทำอาหารอร่อยๆให้ผมทานล่ะ!!!"
                    ทับทิมจึงพูดขึ้นขณะสลบอยู่
                    "พี่แค่หลับเอง"
                 
                    "อ้าว!" เมื่อได้ยินอย่างนั้นเซนะจึงหยุดร้องไห้พร้อมกับอุ้มร่างของทับทิมพาไปยังที่ๆปลอดภัยก่อนจะออกวิ่งจากไป ....ขอโทษด้วยนะครับพี่ทับทิมอันที่จริงผมเข้าใจหมดทุกอย่างที่พี่พูดนั่นแหละแต่ผมก็ไม่อยากจะสู้กับพี่เพราะว่าผมชอบพี่ที่ทั้งใจดี ทั้งทำอาหารเก่งแถมยังสวยอีก และที่สำคัญที่สุดนั่นก็เพราะว่าพี่เป็นคนเดียวที่ยอมรับผมเป็นน้องซึ่งผมเองก็ดีใจที่มีพี่เป็นพี่ของผมและผมก็รู้ด้วยว่าพี่นั้นร่างกายอ่อนแอ ผมต้องขอโทษจริงๆครับที่ผมต้องทำอะไรแบบนี้แต่ผมก็ต้องไปต่อเอาไว้เสร็จงานนี้แล้วถ้าผมยังอยู่ผมก็จะกลับมาบอกความจริงกับพี่แน่ๆ.... แต่หารู้ไหมว่าทับทิมน่ะรู้อยู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
                    ถึงแม้ว่าเซนะในโหมดนี้กับทับทิมจะไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่ทับทิมก็อ่านใจลึกๆที่ซ่อนอยู่ของเซนะออกแบบทะลุปรุโปร่งยิ่งกว่าใครๆอันเนื่องมาจากความสนิทที่ยิ่งกว่าพี่น้องจึงทำให้เธอรู้ทุกๆอย่าง และจริงๆลึกๆในใจแล้วทับทิมก็ไม่อยากจะสู้กับเซนะจึงเป็นเหตุให้เธอเล่นตามน้ำเซนะไปอย่างเนียนๆ
                    ก็จริงอยู่ว่าที่ชื่อว่าโลกหกภิภพแต่ขนาดๆจริงของโลกนี้เล็กมากๆถ้าให้เปรียบก็ใหญ่เท่ากับประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆแล้วโลกนี้ก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดหกชั้นสัดส่วนของพื้นที่จึงถูกแชร์กันไปอย่างเท่าๆกันจนได้เป็นพื้นที่ขนาดเท่ากับระดับเมืองห้าเมืองถึงหกเมืองรวมกันในแต่ละชั้น แต่ทว่าชั้นต่อไปที่พวกเซนะกำลังจะไปต่อนั้นมีความพิเศษนิดหน่อยตรงที่ว่าก่อนการจะไปถึงทางลับที่เชื่อมไปยังชั้นนั้นจะมีอุปสรรคเกิดขึ้นมามากมาย อาทิเช่น แผ่นดินไหว สึนามิถล่ม พายุหิมะ และสิ่งต่างๆอีกมากมายที่เป็นระบบป้องกันชั้นต่อไป
                    ซึ่งพวกเทียร์ก็กำลังเจอกับสิ่งเหล่านั้นอยู่
                    "ทุกคนระวังข้างบนมีลูกเห็บขนาดยักษ์ตกลงมาแล้ว~!!!!"
                    แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จู่ๆก็มีลูกเห็บขนาดยักษ์ตกลงมาโดยไม่ทราบสาเหตุจนพวกเทียร์ต้องวิ่งหลบกันยกใหญ่"ซวยจริง~!!!!"

                    ซึ่งในบรรดาเส้นทางเหล่านั้นก็มักจะมีเส้นทางที่ปลอดภัยอยู่ด้วยเสมอ และเซนะที่ได้รับการช่วยเหลือจากนกน้อยตนหนึ่งก็ผ่านมาจนถึงเส้นทางลับได้อย่างปลอดภัย ที่นั่นเป็นโพลงต้นไม้ขนาดยักษ์ที่ภายในนั้นส่องแสงสวยงามราวกับแสงของอัญมณี
                    หลังจากบอกลานกน้อยเสร็จเซนะจึงวิ่งเข้าไปในโพรงนั่นและข้างในนั้นก็คือถ้ำคริสตัลที่ทั้งสวยและงดงามราวกับในนิทาน ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือของผู้สร้างเหล่าไอเทม กาเซ็ท ที่พวกเซนะได้เผชิญกันมา ไม่ว่าจะเป็นชุนซุยของโซเฟีย เรเพียร์ของตนก็ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นด้วยคนๆนี้ ส่วนเหตุผลที่เขาสร้างถ้ำนี้ขึ้นมานั่นก็เพราะจะเอาไว้เ็นที่พักผ่อน
                    เซนะจึงค่อยๆเดินไปพลางสำรวจไปพลางราวกับกำลังเดินศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ เพราะมันเป็นส่วนที่เรียกได้ว่าลึกมากๆแถมที่นี่ยังน้อยคนนักที่จะมีใครได้มาถึง
                    และเนื่องจากที่กาเซ็ทเป็นคนที่ชอบสร้างไอเทม ที่นี่จึงมีทั้งวงแหวนสำหรับทำพิธีกรรม และเศษวัสดุที่ใช้ทำอยู่เต็มไปหมด ถ้าหากเอาสิ่งของพวกนี้ออกไปขายล่ะก็จะเป็นสินค้าที่มีมูลค่ามหาศาลมากๆสำหรับเหล่านักวิจัยและค้นคว้า
                    แต่ทว่า... การเอาของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเราไปเป็นสิ่งไม่ดีเพราะงั้นห้ามทำเด็ดๆ! เพราะเหตุนี้เองเธอจึงเดินผ่านมันไปอย่างหน้าตาเฉยจนเหล่านักวิจัยที่ดูอยู่ต่างพากันหัวร้อนกันยกใหญ่"อ๊ากก!"
                    อุยที่รู้สึกเป็นห่วงจึงโทรสายเข้ามา
                    "นี่ๆถ้าหากเอาของพวกนั้นออกมาขายล่ะก็ได้รวยเละเลยนะ"
                    เซนะที่ได้ยินแบบนั้นจึงตอบกลับไป
                    "ของที่ไม่ใช่ของเราก็อย่าไปยุ่งสิ อีกอย่างผมก็มีเงินใช้อยู่แล้วเพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วง"
                    "อ้าว~! นี่ฉันคิดว่าเธอเป็นเด็กยากจนมาตลอดเลยนะ"
                    "ก็คุณไม่ยอมเช็คดูประวัติของผมให้ดีๆไง"
                    "พูดมากเดี๋ยวปั๊ดลดเกรดสักเลยดีไหม"
                    "เผด็จการเกิ๊น!"
                    "โฮ่ๆๆๆ.. ที่โรงเรียนฉันใหญ่สุดย่ะ!"
                    "ค๊าบๆๆๆ... ว่าแต่ตอนนี้พวกเทียร์ไปถึงชั้นไหนกันแล้วหรอ~!?" อุยจึงมองไปที่จอภาพด้านข้างก่อนจะตอบกลับไปอย่างใจเย็น"พวกเขายังอยู่ชั้นเดิมเลยล่ะ"
                    "ไหงเป็นงั้นไปได้ล่ะ!?"
                    "พวกเขาเดินไปแบบคนไม่รู้เส้นทางไม่เหมือนกับเธอที่สามารถถามทางจากนกได้ก็เลยเจอกลับกับดักมากมาย ล่าสุดก็เจอกับพายุทรายอยู่"
                    "เป็นงั้นไป.. "
                    "เรื่องนั้นช่างมันก่อนไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันก็มีเรื่องอยากจะถามเธอที่ตอนนี้ดูจะรู้เรื่องที่สุดก่อน จะยอมให้ความร่วมมือกับฉันไหม"
                    "ขืนไม่ยอมให้ความร่วมมือคุณก็จะหักเกรดผมนี่ดิ ยังไงผมก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่นสินะ" เซนะที่พอเดาทางอุยได้แล้วจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆส่วนอุยที่โดนเดาทางได้จึงหัวเราะคิกคักขึ้น
                    "รู้ใจฉันดีจังงั้นข้อแลกพ่อกับแม่ของเธอเป็นใคร"
                    "ข้อแรกผมก็ไม่รู้อ่ะ แต่พิเกียรู้นะ"
                    "อ้าว~! นี่เธอไม่รู้จักพ่อแม่ตัวเองเลยหรอ???"
                    "ผมเกิดมาพ่อกับแม่ก็ไม่อยู่แล้ว รู้สึกว่าพวกเขาจะติดงานจนต้องให้พิเกียมาคอยดูแลผมตั้งแต่ยังเด็กๆหรือจะเรียกได้ว่าพิเกียนี่แหละคือพ่อแม่ของผม ก็ว่าได้แล้วก็มีอยู่หลายครั้งที่ผมสงสัยเลยลองถามเจ้าตัวดูแต่เขาก็ไม่ยอมตอบพร้อมกับชอบอ้างเหตุผลด้วยงานเสมอเลย"
                    "เป็นเด็กขาดความรักความอบอุ่นนี่เอง งั้นข้อต่อไปวันเกิดล่ะ!"
                    "ผมเกิดวันที่ 14 ตุลาคม ปีxxxx"
                    "14 ตุลาวันเดียวกับฉันอีกด้วยแฮะ ต่อไปก็สถานที่จบการศึกษาระดับประถม"
                    "คือแบบผมเรียนจบมาหลายที่อ่ะเพราะงั้นข้ามข้อนี้ไปนะ"
                    "ช่วยไม่ได้ งั้นอนาคตอยากจะโตขึ้นทำอาชีพอะไรล่ะ!?"
                    "พี่เลี้ยงเด็ก"
                    "จะโดนเด็กเลี้ยงสักมากกว่านะ งั้นข้อต่อไปวิชาที่ชอบ"
                    "นี่ผมขอถามหน่อยว่าจะเอาข้อมูลนี้ไปทำอะไรกันแน่ครับ"เซนะเริ่มรู้สึกตระหงิดๆตั้งแต่ที่อุยเริ่มถามคำถามแบบนี้ขึ้นมาแล้ว เขาจึงใช้โอกาสนี้ถามขึ้นมามั่ง
                    "อ๋อ... นี่ฉันกำลังเขียนเอกสารของเธออยู่น่ะ เธอในปัจจุบันแค่ยื่นคำขอสอบเข้าพร้อมกับเอกสารที่แทบจะไม่ได้เขียนอะไรมาเลยในตรงส่วนนี้ฉันจึงต้องขอให้เธอช่วยบอกเพื่อกรอกเอกสารขอสมัครเข้าให้ถูกต้องด้วย"
                    "จะว่าไปมีโรงเรียนบ้าที่ไหนเขารับนักเรียนที่แทบจะไม่ได้กรอกเอกสารเข้ามาเรียนแล้วดันรับเข้ามาเรียนบ้างล่ะครับ"
                    "อันที่จริงฉันก็ไม่คิดจะรับเธอเข้ามาเรียนหรอกนะแต่เพราะมีใครหลายๆคนเสนอให้รับเธอเอาไว้แถมมีจำนวนเงินมหาศาลถูกส่งมาทางที่โรงเรียนพร้อมกับขอให้ตัวเธอได้เข้ามาเรียนที่นี่ด้วย ว่าง่ายๆก็เด็กเส้นดีๆนี่เอง"
                    "ไม่ต้องใช้คำว่าเด็กเส้นก็ได้นะครับ มันดูเจ็บแปล็บๆที่กลางอก"
                    "งั้นข้อต่อไปขนาดหน้าอกเธอเท่าไหร่กัน คัพ A หรือ B ว่ามา"
                    ">////< ข้ามข้อนี้ไปโลด~!!!!" เซนะได้หลับตาปี๋พร้อมกับตระคอกใส่อุยอย่างน่ารักซึ่งอันนี้เป็นคำถามที่อุยถามขึ้นมาเล่นๆ แต่เพราะแบบนั้นเองจึงทำให้ทุกคนได้เห็นท่าทางอันน่ารักน่าฟัดของเซนะ
                   
                   
                     
                   

                 
                   

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 49 II

                    "มันมีกฏของมันอยู่น่ะว่าหากผู้มีพลังของ พาลาด็อก(ผู้ควบคุมเวลา/นักท่องเวลา) เกิดใช้พลังใส่สิ่งมีชีวิตจะต้องถูกคำสาปโดยมีอยู่สองกรณีหนึ่งก็คือกลายเป็นฝุ่นผงและสลายหายไปหรือไม่ก็ได้รับชีวิตอันอมตะแล้วฉันก็ฝ่าฝืนมันจนได้กรณีที่สองมาน่ะ"
                    "งั้นพี่คงจะเหงามากเลยสินะที่ต้องอยู่คนเดียวน่ะ"
                    "ไม่หรอกๆเพราะฉันมีมาสเตอร์คิงส์คอยคุยเป็นเพื่อนเล่นด้วยกันน่ะ"
                    "คุยกับวิญญาณเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว"
                    "ฉันไม่อยากได้ยินคนที่คุยกับนกมาว่าฉันหรอกนะ"
                    ทั้งสองได้มองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาก
                    เซนะนับถือทับทิมเหมือนพี่สาวเพราะว่าเธอนั้นคอยทำอาหารอร่อยๆให้แถมยังชอบให้เซนะทำอะไรตามใจอยู่เสมอๆส่วนทับทิมก็คิดกับเซนะเหมือนเป็นน้องสาวสุดจะเอ๋อๆที่ชอบสร้างปัญหาต่างๆขึ้นมาอย่างต่อเนื่องซึ่งตรงนั้นเองที่ทำให้เธออยากจะเป็นพี่สาวของเซนะ เธอเพียงแค่อยากจะช่วยเหลือเซนะอยู่ตลอดเวลาและเพราะนิสัยแบบนี้เองทั้งสองคนจึงเข้ากันได้
                   แต่ในเมื่อมาถึงจุดที่ทั้งสองคิดต่างกันซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยจึงทำให้พวกเขาต้องมาสู้กันอย่างเลี่ยงไม่ได้
                   ....พลังของพี่ทับทิมคือ ควบคุมกาลเวลาเพราะงั้นจึงเสกอุกกาบาตที่เคยตกลงมายังโลกนี้ได้แต่นั่นก็ต้องมาจากการศึกษาประวัติศาสตร์ของโลกนี้อย่างละเอียดและถ่องแท้เท่านั้นถึงจะทำได้ แถมยังมีการสร้างอาณาเขตเพื่อหยุดทุกการเคลื่อนไหวรวมถึงเร่งเวลาของตัวเองให้เร็วขึ้นจนดูเหมือนกับว่าทุกสิ่งถูกหยุดเวลาแถมยังย้อนเวลาวัตถุทุกชนิดได้อีกด้วย ขอเพียงเป็นสิ่งไม่มีชีวิตเธอก็สามารถควบคุมเวลาของมันได้หมดทุกๆอย่างถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมืยากมากๆ
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดคือตอนนี้เธอเป็นอมตะอีกด้วยเพราะงั้นโจมตีทางกายภาพก็ไม่มีผลเท่าไหร่ ถ้าหากมาแนวนี้ก็มีแต่ต้องผนึกสถานเดียว...
                    ทับทิมที่มองอยู่จึงพูดขึ้นมาราวกับอ่านใจเซนะได้
                    "ถ้าคิดจะผนึกพี่ล่ะก็เสียแรงเปล่าๆเพราะว่าผนึกก็คือพลังงานสรุปก็คือเป็นสิ่งไม่มีชีวิตเพราะงั้นพี่ก็สามารถย้อนเวลามันกลับไปได้ด้วย"
                    "งั้นผมต้องทำไงอ่ะ!?"
                    "เล่นถามตรงๆเลยรึ!"
                    "ก็มันคิดไม่ออกนี่น่า~!!!"
                    ทับทิมจึงเอามือก่ายหน้าผากด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ
                    ....น้องฉันแท้ๆเลย.... ก่อนจะบอกวิธีเอาชนะตนเองให้เซนะฟัง"ฟังให้ดีนะเซนะ"
                    "ถึงจะเห็นว่าพลังของฉันมันดูโกงๆแต่มันมีจุดอ่อนอยู่ซึ่งอย่างแรกคือตัวผู้ใช้จะอ่อนแอมากตามสไตล์ผู้มีพลังนี้ซึ่งตรงนี้นั้นของฉันก็ถูกลบออกไปแล้วเนื่องจากความเป็นอมตะเพราะงั้นจะขอพูดไปถึงข้อสองเลยซึ่งนั่นก็คือการย้อนเวลาสิ่งมีชีวิตไม่ได้หรือถ้าให้พูดก็คือถ้าทำแล้วจะมีความเสี่ยงสูงในกรณีนี้ถ้าหากว่าใช้เลือดราดทั้งร่างเอาไว้ล่ะก็จะกันความสามารถของพี่ได้เนื่องจากเลือดเป็นสิ่งมีชีวิต"
                    "อันนั้นรู้แล้วแต่ไม่ทำอ่ะ"
                    "ทำไมอ่ะ???"
                    "ก็ผมกลัวเจ็บนี่น่า ขอวิธีอื่นที่ไม่เจ็บตัวหน่อยจิ"
                    "เรื่องมากจังเลยนะเรา งั้นก็วิธีสุดท้ายคือทำให้เวลาหายไปเข้าใจไหมเซนะ"
                    "ม่ายเข้าจาย???"
                    "งั้นก็นั่งฟังพี่เล่าให้เข้าใจนะเวลานั้นก็คือ...บลาๆๆๆ"
                    หลังจากนั้นผ่านไปสามชั่วโมงทับทิมก็ได้เล่าจบ
                    "เอาล่ะเข้าใจแล้วใช่ม๊า~!"
                    "ผมขอไปดำนาตอนนี้เลยได้ป่ะ รู้สึกมีเขางอกออกมาที่หัวแล้วดิ๊"เซนะพูดพร้อมกับเก็บข้าวของเตรียมกลับโลกเดิมเพื่อไปทำนา ทับทิมจึงหยุดเอาไว้ทันที
                    "เดี๋ยวสิ~! ใจเย็นๆน๊า~! เดี๋ยวพี่ช่วยคิดด้วยนะ"
                    "จะดีหรอ~???"
                    "ดีสิ!"
                    "งั้นก็ได้!"
                    พวกเธอสองคนจึงนั่งจับเข่าคุยกันกว่าสองชั่วโมงโดยที่ขนาดพวกอิซาโยอิมาถึงที่นั่นแล้วก็ยังถูกพวกเขาไล่ไปโลกชั้นต่อไปก่อนเลย
                    "ขอใช้สมองแป๊บ!"
                    "ไปกันก่อนเลยจ่ะทุกคน!"
                    พวกเขาจึงไปกันต่อโดยทิ้งสองคนนั้นให้อยู่กันตามลำพัง
               
ตอนที่ 48 I

                    "ราชันย์ผู้พิชิตผมรู้จักมาหมดทุกคนเพราะงั้นคุณไม่ใช่ราชันย์แน่นอนซึ่งถ้าหากว่าร่างที่คุณใช้อยู่นี้จะไม่ใช่ร่างจริงๆของคุณมันก็อีกเรื่องนึง"
                    ตัวเธอได้มองไปที่เด็กหนุ่มสุดห้าว
                    ผมของเขาสีน้ำตาลหยิกไปหยิกมา ดวงตาสีแดงลุกโชนราวกับเปลวเพลิงชอบสวมแว่นกันลมคาดไว้ที่หัวและสวมชุดมาในธีมนักผจญภัยที่ดูขยับเขยื่อนร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว
                    ....ดูจากชุดแล้วเขาคงเป็นพวกสู้ระยะประชิดแต่ถ้าดูจากร่างกาย(ในที่นี้พูดถึงกล้ามเนื้อ)เขาดูจะไม่ค่อยมีพลังทำลายมากกว่าหรือเท่ากับชินคุ เขาคงจะไม่ใช่พวกใช้กำลังตรงๆอาจจะเป็นพวกรอบคอบหรือใช้สมองมากกว่าก็ได้....
                    ดันที่เห็นสีหน้าของเซนะกำลังจ้องมาทางตนจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังประเมินความสามารถของเขาอยู่ แต่ถึงจะรู้อย่างงั้นเขาก็ยังคงไม่ยอมทำอะไรเลย
ราวกับจะยอมให้เวลากับเซนะเพื่อที่จะวิเคราะห์ความสามารถของตน
                    "ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะเล่าประวัติเล็กๆน้อยๆกับโลกที่พวกเราอยู่นี่ก็แล้วกัน เริ่มจากที่นี่แต่เดิมเคยเป็นโลกที่มีมนุษย์อาศัยอยู่แต่ว่ามนุษย์เหล่านั้นกับแสวงหาแต่การทำลาย พวกเขาชอบที่จะทำลายสิ่งต่างๆ จนโลกของตนนั้นถูกทำลายลงเรื่อยๆไม่นานความสนุกก็ได้หมดลงเมื่อโลกที่พวกเขาอยู่ไม่มีสิ่งที่น่าจะทำลายได้อยู่แล้วพวกเขาส่วนหนึ่งจึงออกไปจากโลกนี้เพื่อไปทำลายโลกต่างๆจนในที่สุดทางเบื้องบนก็ทนไม่ไหวกับการกระทำของพวกเขาจึงได้ยกกองกำลังจำนวนหนึ่งออกมาล้างบางคนของโลกแห่งนี้และชื่อขององค์กรณ์นั้นก็คือ ไลท์ลอร์ด เป็นองค์กรณ์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำให้ทุกๆจักรวาลอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขโดยผู้นำสูงสุดขององค์กรณ์แห่งนั้นก็คือ ท่านคานาเลีย กับเหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหกคนที่เมื่อครั้งในอดีตพวกเขาเคยต่อกรกับจอมวายร้ายนามว่า ซิริอุส ผู้ซึ่งมีเป้าหมายจะยึดครองทุกๆจักรวาลโดยมีองค์กรณ์ชื่อ ดาร์คลอร์ด และพวกเขาทั้งสองก็สู้กันจนกลายเป็นตำนานโดยท่านคานาเลียได้ทำการโค่นเขาลงแล้วได้ช่วยเหลือทุกๆจักรวาลเอาไว้ได้สำเร็จ และเมื่อจักรวาลหรือโลกไหนมีปัญหาองค์กรณ์นามว่าไลท์ลอร์ดก็จะเข้าไปช่วยเหลือซึ่งผลก็คือทำให้เกิดสงครามและฝ่ายของโลกนี้ก็ได้เอาชนะไปได้ในที่สุดอันเนื่องมาจากผู้พิทักษ์ทั้งหกและท่านคานาเลียต่างติดธุระจึงทำให้มีแต่กำลังรบจากแต่ละจักรวาลชั้นนำเท่านั้น และในขณะที่พวกเขากำลังจะถูกฆ่าหนึ่งในสมาชิกของดาร์คลอร์ดก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับทำการฆ่าพวกเขาทิ้งอย่างเลือดเย็นต่อหน้าต่อตากองทัพไลท์ลอร์ดจำนวนคนมหาศาลและเพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้โลกนี้เป็นโลกร้างที่มีสภาพแบบนี้ยังไงล่ะ"
                      หลังจากที่ดันเล่าจบเซนะก็ได้ทำสีหน้าสุดหน่ายใจ"นี่หรอเล็กๆน้อยๆอ่ะ! มาเยอะสักยิ่งกว่าอาจารย์สอนประวัติศาสตร์อีก"ดันที่ได้ยินแบบนั้นจึงหัวเราออกมาอย่างสนุกสนาน "ฮ่าๆๆๆ!"
                      "ก็ประวัติศาสตร์น่ะมันน่าสนใจสุดๆไปเลยนี่น่า ทั้งวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา เชื้อชาติ สายเลือด เมื่อผ่านกาลเวลาไปนานๆก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ให้คนรุ่นหลังศึกษาเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นทางการแพทย์ อุตสาหกรรม
กีฬา การเกษตร การปกครอง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังๆ พวกเขาจะเรียนรู้ทั้งสิ่งดีและไม่ดีแล้วเอามามาปรับใช้ตามยุคสมัยไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดหรือก็คือเพราะมีประวัติศาสตร์จึงมีอนาคตแบบใหม่ๆของมนุษย์เกิดขึ้นนั่นเอง เพราะงั้นแล้วพวกเราจึงต้องคอยศึกษาประวิติศาสตร์เอาไว้อยู่เสมอเพื่อที่จะเข้าใจไปถึงขั้นแก่นแท้ของมัน โชคดีแค่ไหนแล้วที่พวกเราไม่เกิดมาในยุคที่มีประวิติศาสตร์อันเลวร้าย ทั้งสงครามโลก ทั้งการก่อการร้าย ทั้งโรคระบาดอย่างหนัก ทั้งการค้าทาสและอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้คนในยุคนั้นต้องเสียเลือดบ้างก็ตายลงเพราะงั้นพวกเราจึงควรยินดีที่ได้เกิดมาในสมัยนี้สิ!"
                     "stop!!! เรามาสู้กันเถอะ!!"
                     "อ้าว งั้นก็ได้"
                     หลังจากตกลงกันได้แบบนั้นดันก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับแปลงร่างกลับคืนไปเป็นร่างจริงของตน จากเด็กหนุ่มสุดห้าวได้กลายเป็นเด็กสาวที่เซนะเองก็รู้จักดี ผมสีน้ำตาลสั้นอันสวยงามมาพร้อมกับกิ๊ฟติดผมสุดแปลกแหวกแนว ดวงตาสีแดงราวกับทับทิม มาพร้อมกับชุดในธีมแม่ครัวคนทำอาหารสุดน่ารัก
                     "พี่ทับทิม!!!"
                     "เอาล่ะนะเซนะ"
                     เธอได้เสกหอกคู่ใจออกมาฟาดใส่เซนะ เจ้าตัวจึงเสกดาบออกมารับการโจมตีนั้นเอาไว้แล้วคุยไประหว่างที่กำลังสู้กันอยู่
                     "ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ล่ะ!"
                     "เพราะว่าพี่ต้องการเห็นอนาคตรูปแบบใหม่ยังไงล่ะ"
                     "แต่อนาคตที่พี่ต้องการจะเห็นผมเชื่อว่ามันไม่ใช่อันนี้แน่"
                     "ตราบใดที่พี่ยังไม่เห็นกับตาตัวเองพี่ก็ยังไม่เชื่อหรอกนะ"
                     "ถึงตอนนั้นมันก็สายไปแล้วน่ะสิ!!!"
                     "เธอที่เป็นเด็กอยู่น่ะห้ามมาเถียงพี่นะ"
                     ทับทิมได้หลบดาบพร้อมกับเสกอุกกาบาตลงมายังเซนะ
                     "ตัวผมจริงๆน่ะอายุ 26 แล้วนะ!"
                     เธอได้เถียงกลับไปพร้อมกับฟาดดาบไปข้างหน้าจนเกิดลำแสงเพลิงพุ่งใส่อุกกาบาตนั่นจนมันถึงกับเกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ
และนั่นก็ทำให้มีเศษหินตกลงมาราวกับสายฝน
                     ทับทิมที่ลอยอยู่กลางอากาศจึงมองลงมายังเซนะพร้อมกับพูดสวนกลับไป
                     "แต่พี่อายุ 500 ปีขึ้นไปแล้วนะ ถ้าให้ประมาณอายุตอนนี้ก็ได้สัก 3,709 ปีได้ล่ะมั้ง"
                     "เอ๋~!!!" เซนะที่รู้ความจริงก็ถึงกับร้องลั่น
                 

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 47 hevan blue

                       เธอได้รวบรวมพลังใส่ไปที่เคียวจนขนาดนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เงาของมันได้ค่อยๆบดบังทุกแสงสว่าง  เธอได้สร้างเคียวยักษ์ขนาดเท่าตึกขึ้นมาตรงหน้าพวกมัน
                       "จงหายไปซะ  อบิสโซเร่ เดธไซด์!!!"


                       เคียวแห่งความตายได้พุ่งลงมายังร่างของพวกมัน พวกมันจึงต้องรับมันไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะผลอันเนื่องมาจากการสูดลมจากปรโลกมากเกินไปจนทำให้ร่างกายนั้นตายด้านลงทุกๆขณะ
                       แล้วเมื่อเคียวนั้นฟาดลงมา ทั้งบาเรียลมทั้งพื้นที่ยืนต่างก็ถูกทำลายลงจนหายเกลี้ยงเหลือเพียงแต่ลาวาที่กำลังไหลมารวมกันใหม่กับอิซาโยอิที่สร้างบาเรียมากันเอาไว้เท่านั้น
                       ....นี่ขนาดยังไม่ใช้อีกร่างยังทำได้ถึงขนาดนี้เธอนี่มันจะเก่งเกินมนุษย์ไปแล้ว
                       เขาได้นึกไปถึงตอนที่เธอใช้อีกร่าง
                       แม้แต่คนในระดับเดียวกับเธอยังต้องหวั่นเกรง อสูรร้ายที่มีพลังของเทพมารสิงสถิตอยู่ในร่าง
                       หลังจากกำจัดพวกมันได้สำเร็จฮิคาริก็ได้วิ่งตามมาสมทบ
                       และเมื่อเทียร์กับฮิคาริได้พบกันทั้งสองก็ได้ชี้นิ้วใส่กันไปตามระเบียบคู่กัด
                       "ยัยปอดบวมฮิคาริ!!!"
                       "ยัยอกแบนเทียร์!"
                     
                       "ทำไมยังไม่ตายไปอีกล่ะ!!!"พวกเธอต่างพูดพร้อมกันราวกับนัดกันมา ถึงแม้ว่าจะเห็นแบบนี้แต่ทั้งสองก็สนิทกันอยู่ในระดับหนึ่งนี่จึงเป็นการทักทายตามประสาเพื่อนที่เหมือนจะเป็นการสาปแช่งสักมากกว่าการทักทายในสายตาของคนนอกอย่างอิซาโยอิ
                       หลังจาดลปทักทายกันเสร็จพวกเขาก็ถูกฮิคาริทำแผลไปด้วยชวนคุยไปด้วย
                       "นี่เทียร์ได้บอกรักเซนะไปยัง"
                       "แล้วทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายไปบอกรักหมอนั่นกันล่ะ! ไอเจ้าคนเฮงซวยที่ไม่ค่อยสนใจฉันแถมยังชอบเอาสาวๆคนอื่นมาเข้าฮาเร็มเป็นว่าเล่นแถมล่าสุดก็ยังหาเรื่องมาให้ฉันต้องปวดหัวแล้วยังจะลบความทรงจำทั้งหมดของตัวเองทิ้งราวกับจะผลักภาระมาให้พวกฉัน ไอเจ้าบ้านั่นน่ะนะที่ฉันสมควรจะต้องไปบอกรักมันด้วย!!!"
                       ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในใจของเธอกับพูดสิ่งที่ขัดกันออกมา
                       ....ถ้าเป็นนิยายตาหวานล่ะก็สึกุมิคงเป็นเด็กผู้ชายที่ไม่สนอะไรเลย
นั่นแหละที่เป็นเสน่ห์ของเขาล่ะ ทั้งเท่ ทั้งไม่สนใจคนรอบตัว ทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายให้สำเร็จ เขาช่างเป็นคนที่ถูกใจของสาวๆหลายคนเหลือเกิน กรี๊ดด~! คิดแล้วก็ฟินค่า~!!!
                       ในขณะที่กำลังมโนอยู่นั้นหน้าเธอก็แดงก่ำราวกับสีของมะเขือเทศ
ตามประสาสาวน้อยใสๆน่ารัก ทำเอาฮิคาริถึงกับหัวเราะคิๆ
                       "ถ้าหากว่าเธอซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองหน่อยล่ะก็ เธอคงจะเป็นเด็กสาวที่ดูน่ารักขึ้นกว่านี้แน่ๆ"
                       "ของแบบนั้นฉันไม่ต้องการหรอกย่ะ!"
                       แต่ในใจ..  มันแน่นอนอยู่แล้วด้วยรูปร่างหน้าตาสุดโลลิของฉันถ้าหากฉันซื่อตรงเหมือนกับที่เธอบอกมาล่ะก็พวกสาวกหมีๆทั้งหลายคงจะฟินสุดๆไปเลยและหนึ่งในนั้นก็คือสึกุมิ แต่ก็นะ คาแลกเตอร์ของฉันมันเป็นแบบนี้เพราะงั้นถ้าให้ทำท่าออดอ้อนแบบนั้นล่ะก็ฉันขอบายล่ะ!!!
                       และอีกเหตุผลนึฝที่ทำให้เธอไม่อยากทำแบบนั้นก็เพราะว่ารอบๆตัวของเซนะมักจะมีพวกชอบทำแบบนั้นอยู่แล้ว เธอจึงคิดว่าถ้าหากทำแบบนั้นก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆจึงทำสิ่งที่ตรงข้ามกันนั่นก็คือนิสัยแบบที่เธอกำลังทำอยู่นี้และผลก็คือเขาก็มักจะทะเลาะกับเซนะอยู่ประจำ
                       แล้วเมื่อมันถอยกลับไม่ได้แล้วเขาจึงแถไปให้ถึงที่สุด
                       "ว่าแต่ฮิคาริเธอมาอยู่นี่ได้ไงอ่ะ???"
                       "อ๋อ... คือว่าแบบนี้นะ..."
                       หลังจากเล่าจบเทียร์ก็ได้ใช้เคียวที่เสกมาจ่อใส่หน้าฮิคาริ
                       "อย่างนี้นี่เอง~! เธออยากจะตายแบบไหนล่ะสั่งมาได้เลยนะ"
                       เทียร์พูดพร้อมรอยยิ้มสุดแสนจะชั่วร้าย
                       "จะ ใจเย็นๆก่อนเทียร์ เราคุยกันได้นะ!"
                       "ไม่เย็นแล้วโว๊ย~!!! เล่นหลอกทั้งฉันทั้งมิ(สึกุมิ)แถมยังอาศัยตอนที่มิหลับอยู่แอบลักหลับเธออีกงานนี้แม่ต้องเชือดทิ้ง~!!!"
                       "อิซาโยอิคุงช่วยที~!!!" ขณะที่เธอจะหันไปพึ่งพิงเขาอิซาโยอิก็รีบชิ้งหนีออกไปก่อนแล้ว"พอดีผมมีธุระน่ะเพราะงั้นท่านฮิคาริช่วยตัวเองไปก่อนนะครับ"
                       พูดจบเขาก็กระโดดจากหินด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งซึ่งแต่เดิมมันเคยเชื่อมต่อกันแต่เพราะเทียร์เส้นทางจึงถูกตัดขาดกันเป็นวงกว้าง และเมื่อไม่มีอะไรมาหยุดเทียร์ได้แล้วเธอจึงลงมือทรมาณฮิคาริจนเสียงร้องของเธอนั้นดังลั่นออกมา "อิย๊า~!!!"
                       และในขณะเดียวกันกับที่อิซาโยอิกำลังมุ่งหน้าไปที่ชั้นต่อไป เซนะก็มาได้มาเจอกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่โลกชั้นใหม่ โดยโลกชั้นนี้นั้นคือโลกที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเมืองซึ่งแต่ก่อนเคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ที่นี่
                      "คุณเป็นใครกัน"
                      เซนะได้ถามออกไปขณะที่พวกเขากำลังยืนจ้องตากันที่ถนนร้างแห่งหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงเสยผมก่อนจะตอบออกไปว่า
                       "ฉันชื่อ ดัน เป็นนักเรียนห้องสี่ของโรงเรียนชิโอมิในระดับชั้นเรียนเดียวกับเธอแถมยังเป็นหนึ่งในราชันย์ผู้พิชิตอีกด้วย!"
                     
                     
                       

                     
                       
                        
       
ตอนที่ 46 Goddemonia

                        ความจริงคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ในคำหลอกลวง ตัวตนของเทียร์เองก็เหมือนกัน....
                        เธอได้ใช้เคียวขนาดมหึมาฟาดมันใส่ไวเปอร์ไม่ยั้งพร้อมกับเสกบอลสีดำใส่ทั้งเซฟิรอสและเบิร์นโนว่าจนมันต้องถอยออกห่างจากอิซาโยอิ
                        "ขอบใจมากเทียร์!"
                        "ฉันแค่ตั้งใจจะเป่ามันให้กระจุยแล้วมันก็เหมือนกับจะบังเอิญเป็นการช่วยนายก็เท่านั้นแหละ"
                        เธอไม่ต้องการคำขอบคุณ!

                        เธอเพียงแค่สนุกกับการทำลายก็เท่านั้น
                       
                        และเมื่อเธอเริ่มเข้าสู่โหมดนี้อีกไม่นานเธอก็จะแปลงร่างเป็น duo เต็มตัว  ถ้าหากว่าศัตรูยังอยู่ถึงตอนนั้นล่ะก็นะ
                        เธอได้ใช้ประโยชน์จากลมปรโลกที่ตนสร้างขึ้นกระโดดขึ้นไปบนกระแสลมเพื่อให้มันพัดไปหาเจ้าพวกนั้น
                        "อย่าได้ใจให้มันมากนักนะเจ้าเปี๊ยก!"
                         ไวเปอร์ได้ตระโกนขึ้นพร้อมกับเสกดาบสายฟ้าซัดใส่เธอ
                         อิซาโยอิจึงสร้างบาเรียขึ้นมารอบๆตัวเธอเพื่อกันการโจมตีนั้นเอาไว้ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรอดมาได้แบบไร้รอยขีดข่วน"ฉันใช้หนี้คืนให้แล้วนะ!"
                        ...ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!  เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือเพราะมันคือความสนุกอย่างหนึ่งซึ่งนิสัยนี้ถูกสร้างมาให้เหมือนกับเซนะแบบเป๊ะๆ เธอจึงไม่แม้แต่จะหันไปขอบคุณเขาเลยสักนิด
                        เมื่อมาถึงร่างของไวเปอร์เธอก็ได้ใช้เคียวที่ดูดกลืนสายลมอัดใส่แบบไม่ยั้ง ไวเปอร์จึงได้นำดาบของตนเข้ามากันแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยทั้งสิ้น ดาบของมันได้ถูกฟันจนหักเละคามือก่อนจะถูกเคียวเฉือนเข้าที่ร่างจนเลือดนั้นกระเซ็นออกมา"ไวเปอร์!"
                        เซฟิรอสที่เห็นเพื่อนถูกทำร้ายจึงบินเข้ามาด้วยความไวเสียงจนเกิดโซนิคบูมขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าเทียร์นั้นจับทางได้แล้วจึงใช้ลมจากปรโลกพัดเอาอากาศนั้นออกไปจนทำให้บริเวณรอบๆตัวเธอเป็นสุญญากาศและก็เพราะว่าไม่มีอากาศที่เป็นตัวกลางเสียงจึงไม่เกิดโซนิคบูมขึ้น
                        และเมื่อไม่มีอะไรมารบกวนเธอจึงฟันใส่ร่างของเซฟิรอสจนแขนของมันขาดลงไปข้างหนึ่ง"อ๊าก~!!!"
                        เบิร์นโนว่าจึงกระโดดเข้ามาต่อยเธอแบบไม่ยั้งมือ
                        พสุธานั้นเริ่มสะเทือน ลาวาถึงกับเริ่มกลายเป็นละลอกคลื่น บาเรียลมเริ่มสั่นๆ ด้วยพลังของมันราวกับว่ากำลังบดขยี้แมลงอยู่ยังไงยังงั้น อิซาโยอิจึงทำได้แค่มองดูอยู่ห่างๆ
                        ไม่ใช่ว่าเขาไม่ช่วยเธอแต่เขาช่วยไปแล้ว พริบตาที่มันต่อยใส่เทียร์เขาก็ได้สร้างบาเรียมากันให้เธอแต่ก็ถูกพลังของหมัดนั่นทำลายลงอย่างง่ายดายและถึงแม้ว่าเขาจะสร้างมันมาทันแบบถี่ๆก็ไม่สามารถกันการโจมตีของมันเอาไว้ได้เลยแม้แต่น้อยและนั่นก็ทำให้เขาหยุดสร้างบาเรียเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้นมีแต่จะใช้พลังทิ้งไปอย่างสูญเปล่า
                         ....ถ้าเป็นเธอคงรอดใช่ไหมเทียร์....
                         แล้วเธอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
                         มือของเบิร์นโนว่าได้ถูกตัดทิ้งไปทั้งสี่มือก่อนที่มันจะหยุดการโจมตีแล้วร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด
                         "สมน้ำหน้า!"
                         เธอได้ใช้สายตาสุดมาคุจ้องมองมาที่ทั้งสาม
                         "นี่แกเป็นตัวอะไรกันแน่!"
                         "สำหรับพวกที่กากๆน่ะฉันคงจะไม่ต้องโชว์อีกร่างให้เห็นหรอก เพราะว่าอีกเดี๋ยวพวกแกก็จะต้องตาย... "
                       

                       

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 45 shining ray

                     
                   "ว่าแต่ว่าทำไมนายถึงมาเสนอหน้าเอาป่านนี้ล่ะ"
                   "พระเอกน่ะต้องออกหลังสุดสิจริงไหม แล้วความจริงฉันก็โผล่มาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วด้วย!"เซนะจึงหัวเราะแห้งๆไปพลางๆก่อนจะกลับไปนึกถึงตอนที่อิซาโยอิปรากฏตัว ในตอนนั้นเป็นตอนงานประลองที่เขาไปเข้าร่วมแล้วในตอนนั้นเขากับเซนะที่ไม่มีความทรงจำก็ได้สู้ตัดสินกันในรอบชิงโดยความจริงแล้วในตอนนั้นคนที่สู้อยู่ก็คือเทียร์ที่เข้ามาใช้ร่างเขาสู้ในชื่อใหม่อีกว่า เนเมซิส
                  แต่ถึงเขาจะเป็นคนนิสัยแบบนั้นก็ตามแต่ก็มีข้อดีหลายอย่าง เช่นหน้าตาอันหล่อเหลาจนสาวๆที่เห็นยังต้องกรี๊ดกันให้ลั่น ใบหน้าอันดูคมๆให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่ ทรงผมสีทองแต่งมาตามสไตล์พวกเกมเมอร์ ชอบสวมหูฟังขนาดใหญ่ที่ไม่รู้จะใส่ไว้ทำไมจนกลายเป็นเอกลักษณ์ ดวงตาสีม่วงคล้ายอเมทิสต์ สวมชุดนักเรียนสีน้ำเงินทั้งตัวพร้อมกับมีเสื้อยืดใส่ไว้อีกชั้นนึง และชื่อเต็มๆของเขานั่นก็คือ! อิซาโยอิ คาคามิจิ
                   แล้วที่สำคัญเขายังเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันกับพวกเซนะอีกด้วย
                   และถึงจะเห็นเป็นพวกอันธพาล นักเลง ที่ดูแล้วจะหาเรื่องชกต่อยไปวันๆแต่เขาก็เรียนเก่งมากๆแถมยังเก่งรอบด้านอีกด้วย
                   "จะว่าไปอิซาโยอิคุงอยู่ที่นี่ก็แสดงว่าเธอคนนั้นก็คงจะอยู่แถวๆนี้ด้วยสินะ"
                   "ครับ! อันที่จริงผมได้ห้ามเธอไว้แล้วแต่เธอไม่ยอมฟังผมเลย"
                   "ใครหรอเซนะ???"เทียร์ได้ถามขึ้นมาเพราะความอยากรู้
                   "เขาเป็น.. น้องสาวของฉันอีกคนน่ะ!"
                   "น้องสาวอีกคน!"
                   "เรื่องนี้มีเพียงแค่ฉันกับเขี้ยวเงินเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้"
                   อิซาโยอิได้พูดเสริมขึ้น
                   "โอเค! แต่ก่อนอื่นเรามาจัดการเจ้าสามหน่อตรงนั้นกันก่อนเถอะ มีมารยาทในการฟังมากจนน่าชม"
                   เธอได้ชี้นิ้วไปทาง duolord ที่ตอนนี้บ้างก็นอนงีบ บ้างก็เล่นเกม บ้างก็อ่านมังงะฆ่าเวลารอพวกเธอที่กำลังคุยไปพลางๆ
                   เมื่อถูกสนใจขึ้นอีกครั้งไวเปอร์จึงถอดแว่นสีดำขณะอ่านมังงะอยู่ออกแล้วถามขึ้นมาว่า
                   "อ้าว! คุยเสร็จกันแล้วหรอ"
                   "ก็ตามนั้นเอาล่ะพวกเรามาต่อกันเลย!"
                   ด้วยเสียงของเธอจึงทำให้ทั้งสามกลับเข้าสู้โหมดต่อสู้อีกครั้งนึงโดยที่คราวนี้ทั้งสามคิดจะฆ่าพวกเธอแบบจิงๆจังๆ
                   "ถ้างั้นอิซาโยอิคุง เทียร์! พวกเราสามคนมารวมแรงร่วมใจกันโค่นพวกเขาเถอะ"
                   "ฉันไม่ได้จะให้นายมาสู้สักหน่อย"
                   "อ้าว~!"
                   "นายน่ะไปต่อซะแค่เจ้าพวกนี้น่ะฉันกับเจ้าหูฟังจะจัดการมันเอง!"
                   "เจ้าหูฟัง!"อิซาโยอิได้กระตุกคิ้วขึ้นมาด้วยความที่ไม่ชอบใจชื่อที่เทียร์เรียกตนสักเท่าไหร่
                    หลังจากที่สบตากันมาได้สักพักเซนะจึงวิ่งเพื่อที่จะไปยังโลกต่อไปในทันที
                    แน่นอนว่าพวกทั้งสามไม่ยอมให้ผ่านไปได้ จึงเข้ามาขัดขวางแต่ก็ถูกพวกเธอหยุดเอาไว้จนทำให้เซนะวิ่งผ่านมันไปได้อย่างสบายๆ
                    ...ไปเลยสึกุมิ!... จากนั้นเธอจึงหันมาจัดการกับพวกมันต่อโดยการดันไวเปอร์ที่ฟาดเคียวมากลับไปแล้วใช้เคียวที่ใส่พลังเข้าไปจนกลายเป็นเคียวที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึงสามเท่า
                    และเมื่อเธอสะบัดมันไปมาลมจากปรโลกก็ได้พัดใส่ร่างของไวเปอร์จนมันถึงกับถอยห่างออกไปเรื่อยๆ
                    ลมจากปรโลกนั้นก็คือลมจากนรกที่มีกลิ่นไอแห่งความตายปะปนอยู่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่สูดมันเข้าไปความตายก็จะคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ และเมื่อร่างกายนั้นทนรับไม่ได้คนที่สูดก็จะต้องตาย ซึ่งก็นับรวม duo ด้วย
                    "สายลมนี้มันจะส่งผลถึงแกด้วยเพราะงั้นเธอรีบหยุดมันสักก่อนจะดีกว่า"
                    "ฉันชอบมันดีออก"เธอได้แลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก
                    "นี่เธอบ้าไปแล้วใช่ไหม! อยากตายหรือยังไงกัน!!!"
                   
                    "เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้นายฟังเอง!" อิซาโยอิได้พูดขึ้นพร้อมกับชกใส่หน้าของเซฟิรอสจนมันปลิวไป และพร้อมๆกันนั้นเขาก็ได้ใช้แขนทั้งสองกันการโจมตีของเบิร์นโนว่าเอาไว้พร้อมกับพูดต่อ
                    "เทียร์เขาไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นเทพมาร!!!"
                    "เทพมาร!?"
                    มันคือคำที่เอาไว้ใช้เรียกเทพกับปีศาจที่รวมกันซึ่งมันก็เป็นแค่คำที่สมมุติขึ้นมาทั้งนั้น และเทียร์ก็คือคนที่สมควรจะถูกเรียกว่าเทพมารที่สุด ในเรื่องสมมุติว่ากันว่าเทพมารนั้นมีพลังทัดเทียมหรืออาจจะมากกว่าพระเจ้าแถมยังมีพลังของจอมมารซึ่งคุ้นเคยกับนรกเป็นอย่างดีจึงทำให้มันไปมายังนรกและสวรรค์ได้
แล้วเมื่อใส่มันเข้าไปในความสงสัยนี้ก็จะได้ว่า เทียร์ที่เป็นเทพมารจึงสามารถเรียกลมจากปรโลกออกมาได้แถมยังไม่รับผลของลมนั่นอีกด้วยซึ่งนั่นก็เพราะมันเป็นลมที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั่นเอง แล้วทุกอย่างก็ไขข้อสงสัย
                   ซึ่งมันก็ทำให้ไวเปอร์ที่แทบไม่อยากจะเชื่อเรื่องแบบนี้ก็ยังต้องจำใจเชื่อ
                   
                 

                 
                 
               
                 

วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 44 5ds

                         "จะว่าไปอลิสฉันรู้สึกเหมือนคิดไปเองรึเปล่าว่าในคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้มีแค่ฉันกับนายสองต่อสองน่ะ"
                         "ฮ่าๆ คิดมากไปหรือเปล่าคุณหนูถ้าหากว่านอนคนเดียวไม่ได้ก็บอกผมได้นะครับ"
                         "ใช่สักทีไหนล่ะย่ะ!!!"เธอฉุนขาดก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไป
                         หลังจากที่อลิสใช้พลังของตนเช็คดูจนแน่ใจแล้วว่า
โอริกามิไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เขาจะพูดต่อจากนี้ได้ ตัวเขาจึงยืนขึ้นพร้อมกับพูดให้กับอะไรบางสิ่งที่กำลังอยู่ข้างหลังเขา
                         "นี่นายออกมาทำอะไรตอนดึกๆถ้าหากว่าคุณหนูเกิดรู้ตัวจริงของนายขึ้นมาจะทำยังไงกันล่ะ"
                         ไม่นานเสียงตอบกลับที่ดูแกร่งกล้าก็ดังขึ้น
                         "เธอมีชะตากรรมที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วและไม่ช้าหรือเร็วฉันกับเธอต้องได้พบกันอย่างแน่นอน"
                         "นายก็เลยปรากฏตัวออกมาเนี่ยนะ คุณหนูถึงจะเห็นแบบนั้นแต่เธอก็เป็นคนขวัญอ่อนอยู่ระดับนึงและถ้าเขาเกิดเห็นร่างจริงของนายเข้าบางทีเธออาจจะหวาดกลัวนายไปเลยก็ได้"
                         "ฉันอยู่มานานกว่านาย ตั้งแต่ตอนที่เธอเกิดมาฉันก็คอยเฝ้ามองเธอมาโดยตลอดเพราะงั้นเธอจะไม่มีทางตกใจกลัวฉันได้อย่างแน่นอนและอีกอย่างเธอก็เป็นลูกสาวของท่านผู้นั้นอีกด้วย"
                         "แต่ว่า... "
                         "ไม่มีแต่! อีกไม่นานโลกของเธอก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงนายเพียงแค่คอยผลักดันเธอก็แค่นั้นและนั่นก็คือหน้าที่ของนาย!"
                         หลังจากสิ้นเสียงมันก็ได้หายไปจากด้านหลังของอลิส
โดยทันที
                         ....ถึงจะแค่แว๊บๆแต่จิตอาฆาตของมันก็ไม่ธรรมดาเลยถ้าเป็นคนปกติทั่วไปมีหวังสลบเหมือดต่อหน้ามันแน่ๆแล้วเจ้าสัปประหลาดแบบนี้น่ะเหรอที่จะต้องมาเจอกับกับคุณหนู มันไม่มีทางเลยที่เธอจะไม่กลัวเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน....
                         แต่ถึงเขาจะกังวลไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเพราะว่าสิทธิในการตัดสินใจและคนกุมอำนาจของคฤหาสน์หลังนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นแม่ของโอริกามิซึ่งตอนนี้กำลังเดินอยู่วงการนางแบบจนไม่ค่อยมีเวลากลับมาบ้านเลยสักครั้ง
                         
                         และเพราะเหตุนี้เองเขาจึงถูกจ้างให้มาเป็นคนคอยดูแลเธอ
                         อลิสได้เดินไปยังห้องของเธอก่อนจะแอบมองเข้าไปก็ได้พบกับโอริกามิที่กำลังนอนกอดกับเซนะร่างจริงอยู่ ก่อนจะยิ้มแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ"เลสเบี้ยนชัวร์!"
                       
                       
                         ทางด้านของเซนะหลังจากผ่านมาได้ประมาณชั่วโมงนึงตัวเขาก็ได้เดินลงมาจนถึงโลกชั้นต่อไปและที่ไกลๆนั้นเขาสัมผัสได้ว่ามีใครกำลังสู้กันอยู่จึงรีบวิ่งไปดูยังที่เกิดเหตุโดยทันที
                         เมื่อมาถึงเขาก็พบกับอามาเนะและเทียร์กำลังสู้กับ duolord ทั้งสามอยู่ระหว่างทางเดินที่ทั้งสองข้างนั้นมีแต่ลาวาเจ้าตัวจึงรีบวิ่งตามมาสมทบทันที
                         "เฮ้~! เทียร์ปลอดภัยดีใช่ไหม!?"
                         "ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นฉันคงไม่ได้มายืนคุยกับนายอยู่แบบนี้หรอก!"ทักทายเสร็จเธอจึงหันไปหาอามาเนะ
                         และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้พบกับเธอเพราะงั้นพวกเขาจึงไม่ต้องมาแนะนำตัวกันให้เสียเวลา
                         "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะพี่จ๋า"อามาเนะชอบเรียกเซนะว่าพี่จ๋าตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ที่เดียวกันจึงทำให้มันติดนิสัยมาจนถึงวันนี้
และแน่นอนว่าเทียร์ไม่รู้เรื่องจึงได้รู้สึกหงุดหงิดเธอที่มาเรียกเซนะของเธออย่างสนิทชิดเชื้อแบบนี้ จ้อง...!
                         "นั่นสิ แต่ถ้าเธออยู่นี่ฉันก็พอเดาได้แล้วว่าคนที่เหลือที่ฉันต้องไปเจอจะเป็นใคร"
                         "ก็สมกับเป็นพี่จ๋าล่ะนะ"
                         "ว่าแต่นี่คงเป็นร่างปลอมสินะ ใช่รึเปล่า!?"
                         "ถูกต้อง! "
                         ว่าแล้วเธอก็แปลงร่างกลับไปเป็นร่างจริงท่ามกลางความอิจฉาของเทียร์ที่กำลังยืนดูทั้งสองสนทนากันแบบไม่สนใจเธอเลย จ้อง...!
                         หลังจากคืนร่างเดิมจากสาวน้อยดูเฉื่อยฉาก็ได้กลายเป็นเด็กหนุ่มผมทองสุดโฉดที่ดูหยั่งกับนักเลงไปเลย
                         และทั้งเทียร์และเซนะต่างก็รู้จักเขาดียิ่งกว่าใครๆ ทั้งสองจึงพร้อมใจกันเรียกชื่อของเขา

                         "อิซาโยอิ!!!"


                         "แม่นแล้ว~!"ตอนตอบเขาก็ได้ทำท่าและลีลาไปพร้อมๆกันด้วยจนทั้งสองยังต้องเอือมระอา
                       
                       
                       
                       

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 43 blue bird

                         หลังจากที่ออกจากคฤหาสน์ไปก็ผ่านเวลามา 2 วันกว่าๆซึ่งเข้าใกล้สู่วันที่สามเข้าไปทุกที ณ ที่โลกที่เซนะกับทุกคนอาศัยอยู่วันนี้เป็นวันหยุดของโรงเรียนเหล่านักเรียนปกติทั่วไปจึงใช้เวลายามว่างนี้หยุดพักผ่อนกันอย่างมีความสุข
                         เว้นแต่โอริกามิที่กำลังนอน นั่ง เดิน วิ่ง เพราะกลุ้มใจอยู่กับเซนะจนไม่เป็นอันทำอะไรกินเลย
                         "เอิ่ม.. คุณหนูเป็นห่วงองค์หญิงมากสินะครับ"
                         บอดี้การด์คนสนิทนามว่าอลิสได้พูดขึ้น
                         "ก็แน่อยู่แล้วสิ!!!"
                         "งั้นทำไมพวกเราไม่ไปช่วยองค์หญิงล่ะครับ"
                         "ฉันรู้ถึงระดับของตัวเองดี ถ้าหากว่าฉันไปอยู่ตรงนั้นคงเป็นได้แค่ตัวถ่วงเพราะงั้นฉันจึงเลือกที่จะไม่ไปไงล่ะ เหตุผลของฉันนี่มันฟังดูขี้ขลาดจังเลยเนาะอลิส"
                         ชายหนุ่มจึงส่ายหน้าพร้อมกับรินชาให้เธอ
                         "คุณหนูน่ะไม่ได้ขี้ขลาดหรอกครับเพราะถ้าไม่งั้นคุณหนูก็ไม่มานั่งกังวลอยู่แบบนี้หรอก"
                         "อลิส... "
                         "เพราะงั้นฝากขึ้นค่าแรงผมด้วยนะครับ อุตส่าห์พูดปลอบใจให้"
                         "ฉันผิดเองที่เคลิ้มไปกับนายอลิส"
                         "ฮ่าๆ.. ว่าแต่ว่าคุณหนูคิดว่าคนที่อยู่ในชั้นต่อไปจะเป็นใครงั้นหรอครับ"
                         "ถ้าให้เดาก็ราชันย์ทุกคนเลยนั่นแหละ!"จะว่าเดาก็ไม่เชิงเพราะว่าสองคนแรกที่โผล่มาก็คือชินคุและอามาเนะ
                         ถ้าหากว่ามาแนวนี้คนที่เหลือที่เป็นราชันย์เหมือนกันก็มี
อากิโตะ เลโอ โคมาริ ทับทิม และโซเฟีย ซึ่งจะกลายเป็น 7 ราชันย์ผู้พิชิตพอดีแถมถ้าหากทุกคนเป็นแค่ร่างปลอมเหมือนกับชินคุล่ะก็จะมีโอกาสสูงมากที่หนึ่งในคนนั้นคือเซสึนะ
                         แถมคนแรกที่เปิดมาก็มีร่างจริงอยู่ห้องเดียวกันอีกเพราะงั้นคนที่เหลืออาจจะอยู่ในห้องเดียวกันก็ได้ และปัญหาก็คือใครกันที่เป็นราชันย์ปลอมตัวมาในห้อง
                          "บางทีคนในห้องเราอาจจะมีราชันย์ปลอมตัวมาอยู่ก็ได้นายคิดว่าอย่างงั้นไหมอลิส"
                          "นั่นสินะครับก่อนอื่นเลย"เขาได้หยิบถ้วยชาที่ตนรินให้เธอมากินเองก่อนจะพูดต่อ
                          "ในห้องเราคนที่เป็นราชันย์มีอยู่ 5 คน!"
                          "ก่อนอื่นเลยนายเลิกเดิมชาของฉันเสมือนเป็นชาของตัวเองเถอะ"
                          "คนแรกก็ฮิคารินั่นแหละครับ!"
                          "ฟังฉันมั่งสิย่ะ!"
                          หลังจากโดนเขกกระบาลไปทีนึงอลิสจึงไปเอาถ้วยชาใหม่มาเสิรฟ์ให้ ก่อนจะพูดต่อ
                          "ว่าแต่คุณหนูคงยังไม่รู้สินะว่าฮิคาริน่ะที่จริงแล้วเธออยู่ห้องคิงส์ แถมยังมี ยูกะ เซสึนะและคนอื่นๆอีกที่อยู่ห้องคิงส์แต่มาอยู่ห้องห้านี้"
                          "สองคนหลังฉันพอรับได้แต่ไหงฮิคาริถึงไปอยู่ห้อง
คิงส์ได้ล่ะ เขาจับฉลากเธอไปหรอแล้วที่สำคัญทำไมนายถึงรู้เรื่องนี้ได้ล่ะ"
                          "คุณหนูอาจจะไม่รู้แต่ว่าฮิคาริน่ะเขาเก่งมากๆถ้าวัดกันจริงๆแต่ที่เห็นในการต่อสู้กับองค์หญิงเธอยังไม่ใช้ duo จริงๆเลย"
                          "งั้นเดมิอุสก็ไม่ใช่ duo ของเธออย่างนั้นหรอ~!?"
                          "น่าจะเรียกว่าร่างจำแลงมากกว่า ผมคิดว่าตัวจริงน่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง"
                          "แล้วนายไปรู้มาจากไหนกัน"
                          "เรื่องนั้นผมยังบอกไม่ได้ว่าผมเป็นนักฆ่าที่เผอิญว่าชอบหุ่นแบบเธอเลยแอบเข้าไปค้นในห้องพยาบาลเพื่อหาสิ่งสนใจเอาไว้ใช้ตีสนิทเธอจนไปพบกับไดอาลี่ที่เขียนไว้ละเอียดยิบซึ่งผมจำมันได้แค่เนี่ย"
                           "บนโลกนี้มีคำว่าสิทธิส่วนบุคคลอยู่นะแต่ก็เพราะนายฉันเลยได้รู้ข้อมูลดีๆ ขอบใจมาก"
                           "ถ้าเป็นเรื่องของเธอเดี๋ยวผมจะไปค้นหามาให้เลยครับเพื่อเป็นข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์กับคุณหนูต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ตีกอร์ฟ เดินเล่น ดูหนัง ฟังเพลงผมก็จะเสี่ยงชีวิตทำให้ได้ครับ"
                           "หยุดเลยย่ะ! หน้านายมันฟ้องว่าทำไปเพราะตัณหาส่วนตัวล้วนๆอีตาโรคจิตแล้วรู้สึกว่าคำพูดนายตอนหลังๆมันไม่เห็นจะไปเสี่ยงตรงไหนเลยด้วย!!!"เธอได้มองไปยังใบหน้าของอลิสที่ตอนนี้ดูหื่นกามแบบตรงไปตรงมาด้วยความคิดหนัก
                       
                       
                       
ตอนที่ 42 set so my her

                      หลังจากที่โดนตัดสายทิ้งไปเจ้าตัวจึงได้มุ่งหน้าวิ่งต่อไปอีกครั้ง
                      ....จะว่าไปทำไมเราถึงรู้สึกคุ้นจังเลยแฮะ คุณอุยกับเธอคนนั้นคงจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดหรอกนะ แต่เดี๋ยวก่อนนะ! รู้สึกว่าเธอจะเคยบอกเอาไว้ด้วยนี่ว่า พ่อแม่ของเธออยู่ที่ญี่ปุ่น แถมยังเป็นคนใหญ่คนโตอีกด้วย...
                      เธอได้นึกไปถึงน้องสาวไม่แท้คนหนึ่งที่เธอเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ในสมัยที่เขายังเก่งๆอยู่
                      ในบรรดาสมาชิกทีมเก่า เธอคนนั้นเรียกได้ว่าเป็นมือซ้ายของเขาเลย สายตาอันเฉียบคม รอยยิ้มอันแสนจะออดอ้อน รูปร่างและหุ่นที่ทำให้คนในทีมถึงกับอิจฉาแถมถ้าเป็นเรื่องของเซนะเธอก็จะคอยทำทุกอย่างแบบที่ขนาดถวายชีวิตให้ได้เลย
                      ถึงจะมีข้อดีมากมายแต่เธอก็ชอบมีข้อเสียที่แก้ไม่หายอยู่
                      อย่างแรกเลยคือเธอชอบเซนะที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นผู้หญิง อย่างที่สองคือเมื่อเธออยู่กับเซนะสองต่อสองเธอก็ชอบเข้ามาอ่อยอยู่เสมอยกตัวอย่างเช่น ใส่ชุดชั้นในใสๆจนเห็นทุกสัดส่วน ไม่ก็ใส่แต่เสื้อผ้าไม่ใส่ชุดชั้นใน หรือไม่ก็ชอบสร้างสถานการณ์ที่ทำให้เกิดอารมณ์อยู่บ่อยครั้งซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเธอทำไปเพราะว่าหลงรักเซนะ
                      แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตนแล้วหลังจากนั้นเธอก็ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย...
                      ในบรรดาสมาชิกทั้งหมดเจ็ดคนที่เคยอยู่ทีมเดียวกันมีคนนึงที่เขายืนยันได้อย่างแน่ชัดแล้วว่าตายไปแล้วนอกนั้นก็ได้ไปตามทางของแต่ละคน
                       ซึ่ง 4 ใน 7 ก็ได้มีครอบครัวกันไปแล้ว
                       จึงทำให้อีกสามคนที่เหลือซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเซนะดูเป็นคนแก่ไปเลย
                       ...อะ เอาเป็นว่าตอนนี้เราอย่าพึ่งมากลุ้มเรื่องสละโสดดีกว่าตอนนี้เราต้องรีบไปสมทบกับเทียร์โดยด่วน!!!....     
                       เมื่อคิดได้แบบนั้นตัวเขาจึงรีบสับฝีเท้าให้ไวขึ้นอีก

                       ถึงแม้ทางเดินจะดูมืดๆและน่ากลัวเมื่อเริ่มวิ่งเข้ามาลึกๆราวกลับเป็นบ้านผีสิงแต่เขาก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์แบบนี้เอาไว้แล้ว เธอจึงหยิบไฟฉายออกมาพร้อมกับใช้งานมันโดยทันที
                      "จะว่าไปชุดเราก็ขาดหลุดลุ่ยแล้วแฮะ คงได้เวลาเปลี่ยนชุดแล้วมั้ง" เธอได้บ่นพึมพำพร้อมกับมองสภาพชุดของตน
                      แขนเสื้อได้มีรอยขาดชนิดที่ว่าเผยหัวไหล่ออกมาให้เห็น
ส่วนกางเกงนั้นตรงหัวเข่าก็ขาดเป็นรอยยาวหลายต่อหลายที่ทำให้เผยให้เห็นผิวเนียนๆหลุดออกมาเล็กน้อย อันที่จริงตรงส่วนที่มีรอยขาดควรจะมีบาดแผลที่มีเลือดไหลอยู่แต่ก็เพราะฮิคาริที่ช่วยรักษาบาดแผลให้จึงไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย
                      เมื่อเห็นว่าสภาพไม่น่าจะไปสู้ต่อไหวเขาจึงหยุดวิ่งก่อน
                      "งั้นขอเปลี่ยนเสื้อผ้ามันตรงนี้เลยละกัน"
                      พริบตาที่พูดจบสายตาคนทั้งโลกก็ได้จ้องไปที่เรือนร่างของเธออย่างตาไม่กระพริบ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเธอเป็นผู้หญิงเพราะงั้นชายทุกคนจึงไม่พลาดที่จะดูชมเรือนร่างของเธอ
                      อย่าว่าแต่ผู้ชายเลยผู้หญิงเองก็เช่นกัน ถึงจะมีอยู่ไม่บ่อยครั้งที่เซนะจะแต่งตัวดูสมเป็นผู้หญิงแต่ทว่าในทันทีที่เธอแต่ง เธอก็จะสวยจนทุกคนยังคิดว่าเซนะในคาบผู้ชายนั้นเป็นคนละคนกับตอนแต่งหญิง และเพราะความสวยและความน่ารักที่นานๆทีจะได้เห็นจึงทำให้สาวๆถึงกับจ้องไปที่จอมอนิเตอร์กันอย่างใจจดใจจ่อ
                      ถ้าให้เปรียบกับเกมแล้วก็เหมือนกับการสุ่มกาชาที่ครั้งนึงจะมีของแรร์หลุดมาสักครั้งเพราะงั้นพวกเธอจึงจ้องมองกันอย่างตาไม่กระพริบ
                      และในตอนที่เซนะกำลังจะถอดอยู่นั้นเอง

                      ปิ๊บ~!  หน้าจอที่ฉายภาพของเธออยู่ก็พร้อมใจกันดับลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ชาวโลกจึงพากันโฮ่ร้องขึ้นมา"เจ้าจอภาพบ้า~!!!"
                      และเมื่อผ่านไปนานจอภาพก็ติดขึ้นอีกครั้งโดยเป็นภาพของเซนะที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วแถมมันยังเป็นชุดเดิมอีกต่างหาก ชายหนุ่มหลายคนจึงได้แต่ร้องไห้เจ็บใจกันไปตามๆกัน...
                   
                      "เอาล่ะ! เราก็รีบไปกันต่อดีกว่า คิๆ.."
                      เซนะจึงวิ่งต่อโดยที่หัวเราะร่าเหมือนกับจะรู้อะไรบางอย่างเมื่อกี้นี้

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 41 you no

                        ในระหว่างที่เจ้าตัวกำลังวิ่งลงบันไดไปเรื่อยอยู่นั้นเองก็ได้มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของตนดังขึ้น เจ้าตัวจึงได้หยุดวิ่งพร้อมกับรับสาย"ห้ามเดินไปคุยไปเด็ดขาดนะ"
                        "ฮัลโหลครับ นี่เซนะพูด"
                        "นี่ฉันเองอุยไง เธอยังพอจำฉันได้อยู่ไหม"
                        ....เดี๋ยวขอนึกแป๊บ! อ่อ เขาก็คืออาจารย์ที่ปรึกษาของเรานี่เองถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าตัวเราจะยังได้ส่งการบ้านเรื่อง สมการเชิงเส้น กฏของนิวตัน รายงานเรื่องเพศศึกษา ประวัติของบุคคลสำคัญ สงครามโลกครั้งหนึ่งถึงสอง การบ้านเรื่องปฏิกิริยารีดักชั่น การถ่ายเทพลังงาน พืชซีหนึ่งถึงพืชซีสี่ รายงานภาวะโลกร้อนแล้วก็อีกบลาๆๆ  ว่าแต่งานท่วมหัวขนาดนี้เรายังไม่โดนไล่ออกอีกเนาะ หรือว่าเขาจะโทรมาบอกเราว่าเธอน่ะกำลังจะโดนไล่ออกแล้วอะไรทำนองนั้น....
                       ตัวเขาที่มโนไปเองเออเองจึงรีบพูดแก้ตัวไป
                       "เอ่อ.. คือว่าผมตอนนี้กำลังประสบกับปัญหาหนักอยู่เดี๋ยวผมจะรีบทำการบ้านตามไปส่งหลังจากเคลียร์ปัญหานี้เสร็จแล้วที่หลังนะครับเพราะงั้นอย่าเพิ่งไล่ผมออกเลยน้า~!"
                       "ไล่ออกแน่ถ้าเธอยังไม่หยุดคิดเองเออเองแบบนี้น่ะ!"
                       "งั้นโทรมาหาผมทำไมอ่ะ ว่าแต่ไปเอาเบอร์ผมมาจากไหนกัน"
                       "เรื่องเบอร์ชั่งมันก่อนแต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่สำคัญมากๆจะมาบอก"
                       "ว่ามา"
                       "ตัวจริงของมาสเตอร์คิงส์ก็คือเซสึนะ!"
                       "ถ้าเรื่องนั้นผมรู้นานแล้ว"
                       "งั้นไอที่คุยกันตอนนั้นก็!"
                       "แค่หยอกล้อตามประสาคนรู้จักก็แค่นั้นแหละ"
                       ....ถึงความจริงจะมีอะไรมากกว่านั้นก็เถอะ.... เซนะเหยียดยิ้มขึ้นมา
                       "ว่าแต่ตัวผมทางนั้นปลอดภัยดีหรือเปล่าครับ"
                       เธอจึงหันไปมองที่จอภาพซึ่งกำลังฉายภาพของเซนะตัวจริงที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่บ้านโอริกามิ
                        "กำลังหลับสบายดีอยู่เลยล่ะ"
                        "อย่างงั้นหรอครับถ้างั้นผมขอฝากตัวผมด้วยนะ"
                        "พูดแบบนี้มันฟังดูอึนๆแฮะ"
                        "นั่นสินะครับ แฮะๆ.. " เซนะได้หัวเราะร่าก่อนจะพูดต่อ
                        "ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะครับเพราะว่าผมต้องรีบไปแล้ว"
                        "ฉันไม่อยากให้เธอไปเลยนะเซนะ... "
                        "อ่ะเร๊ะ!???" จากความทรงจำที่เห็นอุยก็เปรียบได้กับนางมารร้ายที่คอยจ้องจะเอาคืนเขาอยู่ตลอดเวลาเพราะงั้นเขาจึงรู้สึกตกใจมากเมื่อเธอพูดราวกับเป็นห่วงตนขนาดนี้
                        "ฉันไม่อยากให้พวกเธอต้องเข่นฆ่ากัน พวกเธอเป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดาๆเองนะโลกที่พวกเธอกำลังจะมุ่งไปต่อจากนี้ต้องเป็นโลกที่มีอนาคตสดใสรออยู่สิ มันต้องเป็นอย่างงั้นแท้ๆแล้วทำไม.. ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย!!!"
                        "โลกมันก็เป็นแบบนี้แหละครับแต่ว่านะผมจะเปลี่ยนแปลงมันเองเพราะงั้นช่วยรอหน่อยนะ"
                        "เซนะ... ว่าแต่ชาติไหนนายจะเปลี่ยนแปลงมันได้ล่ะ!"
                        "ก็ประมาณสัก 7,986,089,357,321,098 ล้านปีน่ะครับ ไม่นานหรอกใช่ม๊า~!!!"
                        "เยอะไปแล้วย่ะ! แถมยังนานโคตรๆเลยด้วย!!!"
                        "ช้าแต่ชัวร์นะ"
                        "มันช้าเกินไปแล้วย่ะ!"
                        "เอาน่าๆแล้วก็คุณอุยไม่ต้องเป็นห่วงพวกผมไปหรอกนะเพราะว่านี่มันก็เป็นแค่การทะเลาะกันของเพื่อนในห้องเรียนที่มีความคิดแตกต่างกันก็เท่านั้นเอง"
                        "สมงสมองไปหมดแล้วนะเธอน่ะ"
                        "ถึงจะเห็นว่าพวกเรากำลังสู้กันอยู่อย่างนี้ก็เถอะแต่พอเคลียร์ปัญหานี้ได้แล้วเดี๋ยวพวกผมก็จะกลับไปที่โรงเรียนชิโอมิพร้อมกันอย่างแน่นอนผมให้สัญญา"
                        "เซนะเธอมันโคตรเท่สักเมื่อไหร่!!"
                        "แป๋ว~!!! ผมอุตส่าห์สร้างบรรยากาศแบบนี้ขึ้นมาเลยนะ ใช้ให้คุ้มมั่งดิ!!!" 
                        ตู๊ด~! เธอได้ตัดสายทิ้งไปแบบไร้เยื่อใย
                        ...เฮอะๆๆ ดูเขาทำ!...
                               

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 40 dominating

                         อีกทางด้านหนึ่งบนโลกชั้นแรกเซนะกับฮิคาริที่ได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนสลบไปทั้งคู่ หลังจากเวลานั้นผ่านไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงเซนะก็ค่อยๆรู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับพบว่าตัวเองกำลังถูกฮิคาริจูบอย่างเมามันส์เลย
                         "อ้าว~! ตื่นแล้วหรอ!???"
                         หมัดจึงได้ทุบเข้าให้กางกระบาลเธอแบบเต็มเหนี่ยว"โอ๊ย! เจ็บ~!"
                         "ถ้าเกิดว่าสมองฉันได้รับการกระทบกระเทือนขึ้นมาล่ะจะว่าไง"
                         "ก็ใครใช้ให้เธอมาลักหลับฉันกันล่ะ!"
                         "โธ่! รู้งี้หน้าจะให้ยาชาไปด้วยจะได้ไม่มีแรงขยับตัวได้อีก"
                         "นั่นมันเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนแบบเต็มๆ"
                         "แฮ่ม... อุตส่าห์มีสาวน่ารักๆมาคอยประคบประหงมให้แบบนี้หัดรู้สึกดีใจสักมั่งสิ"
                         "ใครขอกันล่ะ!"เขาได้ตวาดใส่เธอ
                         "จะ ใจร้ายนี่เซนะลืมเรื่องในวันนั้นของพวกเราไปแล้วสินะ ค่ำคืนอันแสนจะเล่าร้อนจนต้องถึงกับถอดเสื้อผ้าทิ้งกันไปเลย"
                         "ตอนไหนฟ่ะ! อีกอย่างก่อนจะแช่ออนเซ็นก็ต้องถอดเสื้อผ้าอยู่แล้วสิ!"
                         "เอาเถอะๆ ว่าแต่เห็นฉันในสภาพนี้ไม่รู้สึกอะไรมั่งเลยหรือยังไง ตัวอย่างเช่นอยากเข้ามาปู๋ยี้ปู๋ยำฉันเป็นต้น"
                         สภาพของเธอในตอนนี้นั้นชุดขาดหลุดลุ่ยไปหมดจนเผยให้เห็นร่องอกบลาและกางเกงในสีชมพูแว๊บๆได้อย่างชัดเจน อันที่จริงเธอก็เป็นคนที่ทั้งหุ่นดีและก็สวยอยู่แล้วเพราะงั้นตัวเธอในสภาพดูนู๊ดๆแบบนี้จึงทำให้ชายหนุ่มหลายคนที่ได้เห็นถึงกับตั้งกันเลยทีเดียว  และอันที่จริงเซนะก็ชอบฮิคาริด้วยซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากความใจดีและนิสัยจริงๆของเธอที่ในตอนนี้ทุกคนเองก็ยังไม่รู้และคิดว่าเธอเป็นประเภทชอบอ๋อยเขาไปทั่วแทน
                         เซนะได้จ้องร่างของฮิคาริพร้อมกับถอนหายใจ
                         "ก็ไม่ได้เกลียดอะไรเธอหรอกนะแต่เพราะว่ามีคนดูอยู่ด้วยนี่สิฉันถึงไม่อยากพุ่งเข้าไปซบอกเธอ เด็กเขาดูอยู่ด้วยนี่สิ"
                         ที่เซนะพูดนั้นหมายถึงปรากฏการณ์ประหลาดที่อยู่ๆภาพการใช้ชีวิตประจำวันของเขาก็ถูกท่ายถอดสดไปยังจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ในแต่ละโลกโดยที่ไม่ทราบสาเหตุซึ่งเรื่องนี้ตัวเขาในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลย
                         ฮิคาริที่ได้ยินแบบนั้นจึงยิ้มร่าออกมา
                         "เซนะนี่น่ารักจัง~!"เซนะจึงหน้าแดงก่ำทันที
                         "ที่ฉันไม่ทำก็เพราะฉันกลัวเธอจะเสียหายนะ"
                         "หรอ~! ไม่ใช่ว่าหวงว่าจะมีคนเห็นเรือนร่างของฉันรึเปล่าเอ่ย~!"
                         "นี่จะหยุดพูดเรื่องติดเรทได้ยัง!!!"
                         "ชอบกลบเกลื่อนแบบนี้แหละถึงได้เดาใจง่ายน่ะ"
                         เขาถึงกับเถียงเธอไม่ออกเลยเพราะว่าเธอนั้นพูดแต่เรื่องจริงทั้งหมด ในบรรดาเหล่าเพื่อนพ้องทั้งหมดที่เขาเคยเจอมาเธอนี่แหละคือคนที่รับมือยากแบบสุดๆสำหรับเขา
                         แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงยังนับว่าเป็นเพื่อนอยู่ทั้งๆที่ดูเหมือนจะไม่ถูกกันสุดๆนั่นก็เพราะว่าความสามารถสุดยอดของเธอที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดเลยก็ว่าได้ และยังมีความเอาใจใส่เป็นอย่างดี(กับเซนะเท่านั้น)จึงทำให้ทั้งสองยังคงเป็นเพื่อนกันได้อยู่จวบจนถึงทุกวันนี้
                         เซนะจึงรีบลุกขึ้นเพื่อหนีจากเธอไปให้ไกลๆเพื่อที่ว่าจะไม่ถูกเธอปั่นประสาทเข้าให้อีก ฮิคาริที่มีบาดแผลเต็มตัวจึงได้แต่นั่งพิงต้นไม้ต้นหนึ่งพร้อมกับคอยเฝ้ามองแผ่นหลังของเซนะที่กำลังออกห่างจากเธอไปทุกที
                         ในจังหวะนั้นเองที่เธอได้รวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อพูดความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไป
                         "ขอให้โชกเลือดน้า~!"


                         "ดูเธออวยพร!"
                     
                         เซนะที่เหมือนจะได้รับคำแช่งมากกว่าคำอวยพรจึงได้วิ่งตรงไปยังชั้นต่อไปโดยทันที
                     
                       
                       

ตอนที่ 39 rock and roll

                          และขณะที่พยายามเอามือมาปิดหูแบบสุดชีวิต ร่างทั้งสิบของมันก็ได้พุ่งทยานเข้ามาพร้อมกับกงเล็บอันแหลมคมเพื่อหวังจะปลิดชีพเธอ และยังไม่ใช่เพียงแค่นั้นเบิร์นโนว่าที่รอจังหวะก็ได้บริ้งมาอยู่ด้านหลังของเธอพร้อมกับตั้งท่าเตรียมจะชกหมัดใส่ ไวเปอร์ที่รอโอกาสอยู่เหมือนกันจึงได้ชูดาบขึ้นมาเหนือหัวและได้ทำการเสกสายฟ้าสีม่วงลงมายังตรงร่างของเทียร์
                         ทุกทิศทุกทางของเธอได้ถูกโจมตีพร้อมๆกัน และมันก็ไม่มีช่องว่างที่จะสามารถหลบออกไปได้เลย
                         ....แย่แล้ว!...
                         
                         ในจังหวะนั้นเองก็ได้มีสายฟ้าสีเขียวมาโผล่ตรงหน้าของเทียร์
และข้างในสายฟ้านั้นก็มีเด็กสาวไว้ผมแกละปรากฏตัวขึ้น
                         .....ใครน่ะ???....
                         สาวน้อยที่ปรากฏตัวกระทันหันได้กางมือข้างหนึ่งออกมาข้างหน้าก่อนที่จะมีบาเรียสีเขียวรับการโจมตีพวกนั้นเอาไว้ แถมยังสามารถสะท้อนการโจมตีของทั้งสามกลับไปได้อย่างง่ายดาย"อะไรกัน!!!"
                         พวกมันจึงโดนการโจมตีของตัวเองเล่นงานไม่ก็กระเด็นออกไปจากตรงนั้น
                         "นี่เธอเป็นใครกัน???"
                         สาวน้อยจึงหันกลับไปตอบ
                         "ฉันชื่อ อามาเนะ เป็นหนึ่งใน 7 ราชันย์ผู้พิชิตเหมือนกับคนก่อนหน้านี้ที่เธอเคยเจอน่ะ" อามาเนะ เธอเป็นเด็กสาวผมสีน้ำตาลไว้ผมแกละที่มีดวงตาสีเขียวอ่อน รูปร่างของเธอนั้นดูเล็กน่ารักมากๆจนใครหลายคนที่ได้พบเจอกับเธอต้องขอถ่ายรูปด้วย ชุดที่เธอใส่อยู่ก็เป็นชุดนักเรียนแบบเดียวกับของยูกะและที่สำคัญเธอชอบนอนยิ่งกว่าชีวิตจิตใจ
                         ในตอนที่เซนะยังอยู่ในทีมราชันย์ผู้พิชิตซึ่งในตอนนั้นเขาเป็น duo ของโซเฟียผู้ซึ่งเป็นผู้นำของเหล่าราชันย์ทั้งปวงแถมเธอยังเป็นคนที่ได้รับฉายามาสเตอร์คิงคนปัจจุบันเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ในช่วงนั้นอามาเนะก็ได้พบกับเซนะเพราะเรียนอยู่ที่เดียวกันเป็นประจำและเธอยังชอบเรียกเซนะแทนว่า พี่จ๋า อีกด้วย ศึกครั้งล่าสุดที่พวกเขาร่วมสู้กันนั่นก็คือศึกของซิกฟรีดซึ่งหลังจากจบศึกนั้นเธอและเหล่าราชันย์ก็ได้แยกย้ายกลับประเทศของตนไป ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างงั้นแท้ๆ
                          เทียร์ที่เริ่มไปแล้วจึงเริ่มย้อนเวลานึกกลับไป และเธอก็ได้ปิ๊งขึ้นมาทันที
                          "คนก่อนหน้าก็เจ้าผมทองนั่นน่ะดิ!"เธอได้นึกย้อนกลับไปในชั้นแรกที่ได้พบกับชินคุที่มีความไวแสงจนถูกเซนะไล่เธอมายังชั้นนี้"แต่เดี๋ยวก่อนนะ!"
                          "ถ้างั้นเธอก็คือศัตรูสินะ!"
                          "เดี๋ยวฉันจะอธิบายทีหลังนะเอาเป็นว่าตอนนี้เราเป็นพวกเดียวกันโอเค๊"
                          "เอิ่ม... ท่างั้นฉันจะยอมเชื่อเธอก็ได้!"
                          "เอาล่ะท่างั้นพวกเราก็มาร่วมแรงร่วมใจจัดการมันกันเถอะ"
                          สาวน้อยได้ทำสายตาจ้องเขม็งไปทางเจ้าสามตัวนั้น
                          ไวเปอร์ที่เห็นอามาเนะจึงพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
                          "ท่านอามาเนะคิดจะทรยศต่อท่านมาสเตอร์คิงส์อย่างงั้นรึ!"
                          "ฉันจะทำตามแต่เขาคนนั้นเท่านั้นเพราะงั้นฉันจึงแสร้งทำเป็นพวกด้วยยังไงล่ะ!"เธอได้พูดพร้อมกับนึกถึงมาสเตอร์ที่แท้จริงของตนไปด้วย
                          "ผู้ที่ทรยศต่อท่านมาสเตอร์คิงส์ต้องถูกกำจัดทิ้ง!!"เบิร์นโนว่าจึงได้ระเบิดความโกรธออกมาจนเหล่าแม็กม่ารอบๆรวมตัวกันจนเกิดเป็นรูปร่างของมังกรขนาดยักษ์ที่ใหญ่กว่าตัวมันเองถึงสามเท่า
                          เซฟิรอสเองก็ได้พยักหน้าก่อนจะสะบัดปีกทั้งหกจนเกิดเป็นพายุ
ขนาดยักษ์คอยล้อมรอบพวกเขาทุกคนเอาไว้จนคล้ายกับโดม
                          "เขตแดนลมนี่มันดูท่าจะออกไปไม่ได้ง่ายๆนะ"
                          "ลมนั่นน่ะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขนาดหินขนาดยักษ์ยังถูกมันทำลายลงได้อย่างง่ายดายเพราะงั้นอย่าไปเข้าใกล้มันเชียวนะ"
                          อามาเนะได้พูดเสริมขึ้น
                          "แล้วต้องทำยังไงล่ะถึงจะออกไปได้"
                          "ถ้าคิดด้วยหลักการพื้นฐานแล้วสั้นๆง่ายๆคือต้องโค่นผู้ใช้ลง"
                          "สรุปก็คือต้องจัดการเจ้าครึ่งคนครึ่งนกงั้นสินะ"
                          ทั้งสองจึงมองไปทางเซฟิรอสพร้อมกัน

                         
                         
                           

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 38 to sky

                          เทียร์นั้นในอดีตเคยจะเป็นถึงว่าที่คู่หูของเซนะ เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อเซนะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบทำมันต่อหน้าเธอก็ตามทีและแล้วไม่นานวันเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อพิเกียถือกำเนิดขึ้นมา
                          เซนะจึงให้ความสำคัญกับเขาเป็นพิเศษตามประสาแม่ที่รักลูกมากๆและไม่นานพิเกียก็ถูกรับเลือกแทนที่จะเป็นเทียร์
                          ในตอนแรกทุกๆคนต่างก็คัดค้านกับการที่เซนะดันไปเลือกพิเกียนกน้อยที่เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นานแทนที่จะเป็นเทียร์ที่อยู่กับเขามาโดยตลอดแต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็ต้องฝืนใจยอมรับการตัดสินใจนั้น
                          เจ้าตัวในวันนั้นที่ได้จ้องตากับเซนะจึงรู้ได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังเจ็บปวดอยู่ แถมนั่นยังเป็นความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่มากๆจนเจ้าตัวไม่ยอมพูดถึงเหตุผลออกมา
                          เทียร์จึงได้แต่ทำใจยอมรับมันแล้วก็เดินจากไปอย่างช้าๆ
                          ....เธอคงจะเก็บซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดนั่นเอาไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนเห็นสินะ ยัยบ้า!!!.....
                       
                         และเพราะเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นเธอจึงมีพลังพอฟัดพอเหวี่ยงกับระดับ duolord หรืออาจจะมากกว่านั้น
                         เจ้าตัวได้เสกเคียวออกมาพร้อมกับควงมันจนเกิดใบมีดสีดำนับร้อยพุ่งไปยังร่างของทั้งสาม ไวเปอร์จึงได้เลื้อยหลบมันอย่างคล่องแคล่วส่วนเซฟิรอสก็ได้ใช้แรงลมจากการกระพือปีกเพียงครั้งเดียวปัดมันออกไปราวกับปัดแมลงวัน ทางด้านของเบิร์นโนว่าเจ้าตัวไม่ได้หลบหรือป้องกันแต่ปล่อยให้มันพุ่งเข้าใส่ร่างอย่างเต็มที่
                         สาเหตุที่มันไม่ทำเหมือนคนอื่นๆนั่นก็เพราะเกล็ดมังกรรวมถึงร่างกายของมันนั้นถูกสร้างขึ้นมาให้แข็งยิ่งกว่าเพชร การโจมตีของเทียร์จึงทำไม่ได้แม้แต่รอยขีดข่วน
                         ทางฝั่งของไวเปอร์ที่เลื้อยของเมาถึงตัวเทียร์จึงคายดาบที่อยู่ในปากออกมาพร้อมกันฟันมันใส่เธอ สาวน้อยจึงใช้เคียวปะทะกับมันซึ่งๆหน้า
                         "ไวสมกับเป็นงูจริงๆนะ"
                         "ฉันไม่ชอบให้เอาฉันไปเปรียบกับสัตว์ชั้นต่ำหรอกนะจะบอกให้!"
                         มันได้ฟันใส่เธอแบบรัวๆด้วยความที่ไม่ชอบ
                         "แต่นายต้องยอมรับมันนะว่าต้นแบบของนายก็คือมัน"
                         "เลิกพูดเรื่องไร้สาระกันดีกว่า!"
                         หางของมันได้ฟาดเข้าใส่ร่างของเธอจนปลิวไปกลางอากาศพร้อมกับยิงแสงเลเซอร์สีม่วงออกมาจากปากเพื่อซ้ำให้ชัวร์ เทียร์จึงไม่รอช้ารีบใช้ท่าพิเศษมากันเอาไว้
                         "โฮลี่ไชน์บอล!"
                         ตู้ม~!!! และแล้วก็ได้เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ แต่ทว่าเธอกับรอดมาได้ด้วยบอลสีขาวที่ปกป้องเธอเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที แถมเพราะเธออยู่ในบอลนั่นจึงทำให้แผลค่อยๆถูกรักษา
                         .....ท่านี้ใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวต่อวันแถมมันยังเปลืองพลังอีกด้วยและถึงจะรักษามันก็แค่บาดแผลเท่านั้นส่วนพลังนั้นมีแต่จะตกลงฮวบฮาบเลยเป็นท่าที่ฉันไม่ค่อยจะชอบใช้มันเท่าไหร่เลย แต่ก็นะสึกุมิก็ยัดเยียดสอนท่านี้ให้กับฉันคงเพราะเจ้าตัวจะเห็นอนาคตที่ฉันต้องมีโอกาสได้ใช้มันสินะ....
                         เซฟิรอสที่เห็นเธอจากระยะไกลจึงพุ่งเข้ามา
                         "ท่าคิดจะฮีลล่ะก็ถือว่าพลาดแล้วล่ะ!"
                         เขาได้ใช้ความเร็วที่ไวมากจนทำให้เกิดโซนิคบูมขึ้น ด้วยการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเสียงจึงทำให้อากาศนั้นเกิดการสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังขึ้นซึ่งมักพบบ่อยมากในงานที่ต้องขับเครื่องบินเป็นหลัก
                         แต่ทว่านี่ไม่ใช่โซนิคบูมธรรมดาเพราะว่ามันมีพลังของเซฟิรอสใส่เข้าไปด้วยจึงทำให้อานุภาพของเสียงนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นจนบอลแสงนั้นถึงกับแตกสลายหายไป"นี่มันเสียงบ้าอะไรกัน!"
                         "ท่าเมื่อกี้ดันใช้ได้แค่ครั้งเดียวด้วยสิ ซวยแล้ว!!!"
                         "มันยังไม่จบแค่นั้นหรอกนะ!"
                         "ว่าไงนะ!"
                         เขาที่พุ่งมาได้แยกร่างของตนออกเป็นสิบร่างและแน่นอนว่ายังมีโซนิคบูมคงไว้อยู่ทำให้ตอนนี้เสียงนั้นได้มีความอันตรายเกินกว่าระดับที่มนุษย์จะสามารถทนได้แล้ว
                         "แก้วหูช้าน~!!!"

                         
                       
                       
                       
ตอนที่ 37 bakana!

                         duolord มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ตัวโดยหลังจากศึกก่อนๆจึงทำให้ กลอเรียสซีกเกอร์ เวนูลูซิเฟอร์ คุมะและเดมิธถูกกำจัดไปจนเหลืออยู่เพียงแค่สามตัวเท่านั้นซึ่งพวกมันเหล่านั้นตอนนี้ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมๆกันที่ตรงหน้าของเทียร์
                         เซฟิรอส หนึ่งใน duolord ที่มีพลังแห่งลมโดยลมของเขานั้นมีพลังถึงกับปัดเป่าเมฆจำนวนมากให้หายไปได้เลย โดยรูปร่างของเขานั้นเป็นครึ่งคนครึ่งนกผสมกันมีสีขนเป็นสีเขียวมีปีกหกปีกและสวมชุดที่ดูเหมือนกับเป็นนินจาอยู่ ตัวต่อไปคือ เบิรน์โน่ว่า เช่นเดียวกับเซฟิรอสมันก็เป็น duolord เหมือนๆกันโดยมันมีรูปร่างเป็นมังกรไฟสี่แขนสี่เขาขนาดยักษ์ที่ยืนสองขาในแม็กม่าก็ยังไม่เป็นอะไรเลยทั้งสิ้น ว่ากันว่าแค่มันตัวเดียวก็สามารถทำลายทั้งประเทศได้เลยจนถูกขนานามอีกชื่อนึงว่า ราชันย์แห่งความวิบัติ! และสุดท้ายและท้ายสุดหนึ่งใน
duolord ที่มีพิษร้ายแรงและลำตัวยาวมาก ชื่อของมันก็คือ อัลเดอุส ไวเปอร์ หรือเรียกส้้นๆว่าไวเปอร์โดยมันเป็นงูขนาดยักษ์มีมืออยู่สองมือทั้งเกล็ดทั้งตัวเป็นสีม่วงคล้ายอเมทิสต์โดยมันมีขนาดใหญ่มากจนสามารถเขมือบวาฬเข้าไปได้สบายๆจนเป็นที่หวาดกลัวสำหรับคนที่พบเจอกับมัน
                         และทั้งสามก็ได้เข้ามาขวางทางเทียร์ที่กำลังรีบอยู่
                         "ฉันกำลังรีบอยู่นะรู้ไหม!!!"
                         อันที่จริงเพราะเธอร้อนเธอจึงรีบขึ้นมาทันที
                         ณ โลกที่เธออยู่หลังจากเดินผ่านบันไดลงมาที่ชั้นที่สองก็คือโลกที่ดูเหมือนกับนรก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ลาวาเต็มไปหมดซึ่งในลาวานั้นกับมีปลาประหลาดว่ายน้ำเล่นอยู่เป็นจำนวนมากแถมบางตัวก็กำลังจะกินปลาอีกตัวอย่างหิวกระหาย ที่โลกแห่งนี้ท้องฟ้าจะถูกปกคลุมไปด้วยขี้เถ้าภูเขาไฟจำนวนมากจนท้องฟ้านั้นเป็นสีดำมืดสนิท พื้นดินนั้นก็เป็นทางเดินค่อนข้างอันตรายมากๆเพราะมันเหมือนกับทางในเกมผจญภัยไปปราบมังกรร้ายที่ตามทางเดินนั้นไม่มีราวกั้นแถมทางเดินก็แคบจนเหมือนจะเดินไปได้ทีละคน
                         ตัวทางเดินก็คือหินที่ถูกกาลเวลาหล่อหลอมจนกลายเป็นทางเดินธรรมชาติ แถมที่ๆดูเหมือนกับนรกแบบนี้ก็ยังคงมีต้นไม้ขึ้นมาอยู่โดนพวกมันนั้นจะแตกต่างนิดนึงตรงที่จะมีไฟลุกขึ้นมาตามใบของพวกมันแถมใบพวกนั้นยังไม่ไหม้ตามอีกด้วยโดยพวกมันยังคงเดินได้อยู่เหมือนเดิม
                         เทียร์นั้นเป็นคนที่เหมือนกับเจ้าหญิงในนิทานถอดแบบออกมาเลยหนึ่งในนั้นคือไม่ค่อยชอบที่ๆมันร้อนๆและเพราะไม่ค่อยคุ้นเคยเหงื่อจึงไหลออกมาพลั่กๆจนเริ่มมองเห็นชุดชั้นในกันเลยทีเดียวเชียว
                         .....ไอโลกนี้มันร้อนสุดๆไปเลย ถ้าหากเรายังอยู่แบบนี้ต่อไปมีหวังละลายกลายเป็นน้ำก่อนแน่ๆ แล้วไอเจ้าสามตัวนี้มันก็ดูเหมือนจะไม่ยอมให้เราผ่านไปได้ง่ายๆด้วยนี่ดิ!....
                         "เฮ้! นี่พวกนายสามหน่อตรงนั้นน่ะรีบมาให้ฉันซัดเร็วๆสิ"
                         "ชั่งไม่รู้ระดับพลังของตัวเองบ้างเลยนะแม่สาวน้อย"
                         ....ว่าไงนะ!!!....
                         "เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ"
                         ....ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย!!!...
                         "ช่างเหมาะกับขนาดรูปร่างแบบนั้นจริงๆ"
                         ....นี่พวกมันหาว่าฉันเตี้ยอย่างงั้นรึ!!!...
                         หลังจากโดนทั้งสามดูถูกเธอจึงพุ่งเข้าใส่แบบไม่คิดน่าคิดหลัง
                         "พวกแกเตรียมตัวเละได้เลย~!!!"
                         และเพราะความประมาทจึงทำให้เกิดช่องโหว่ขึ้นมาเพียบ
                         เซฟิรอสจึงได้แยกร่างของตนออกเป็นสิบกว่าร่างแล้วทำการพุ่งใส่เธอราวกับพายุ เทียร์ที่โดนการโจมตีกระหน่ำแบบนั้นเข้าไปก็ทำให้ชุดนั้นมีรอยขาดเต็มไปหมดต่อด้วยไวเปอร์ที่ใช้หางขนาดยักษ์ฟาดใส่ร่างของเธอจนกระเด็นขึ้นไปกลางอากาศและตามด้วยหมัดทั้งสี่ของเบิรน์โนว่าที่อัดใส่เธอจนทำให้ร่างนั้นกระเด็นทะลุเสาหินไปหลายต่อหลายอันก่อนจะมาหยุดลงที่เสาหินขนาดยักษ์จนเลือดนั้นกระอั่กออกมาจากปากของเธอ"อั่กกก!!"
                         ไม่มีแม้แต่เวลาจะให้คิดทั้งสามได้ค่อยๆเข้ามาใกล้เธออย่างรวดเร็ว
                         ....แย่แล้วสิขืนเป็นแบบนี้เราตายแน่!!!....
                         สายตาของเธอนั้นได้เลือนลางเต็มทีแต่ก็ยังพอมองเห็นพวกมันทั้งสามได้อย่างเป็นรูปเป็นร่างอยู่
                         ....สึกุมิดูเหมือนว่าฉันจะไม่ไหวแล้วล่ะนั่นก็เพราะว่าที่นี่มันร้อนเกินไปหลังจากที่ฉันถูกมันฆ่าแล้วนายก็จะโผล่มาจากนั้นก็ต้องสู้กับพวกมันทั้งสาม
และเพราะที่นี่มันร้อนจนแทบอยากจะถอดชุดทิ้งนั่นจึงทำให้เหงื่อของเธอไหลพรั่กๆออกมาจนชุดนั้นมองทะลุเข้าไปจนเห็นชุดชั้นในแล้วหลังจากนั้นก็ คิกๆๆ แต่เอ่ะ! เดี๋ยวก่อนนะ!? ตอนนี้ภาพของสึกุมิถูกฉายไปทุกโลกเลยนี่หว่าถ้างั้นทุกๆคนก็จะเห็นสภาพอันน่าอับอายของสึกุมิน่ะสิ ฉะ ฉันไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด~!!!.... ด้วยความที่กิเลสนั้นมีมากมายจนทำให้ร่างกายนั้นถึงกับมีพลังเอ่อล้นขึ้นมาจนมองเป็นออร่าสีดำได้เลย
                         ร่างของเธอได้ลอยขึ้นพร้อมกับพลังแห่งกิเลสจนทั้งสามยังต้องถึงกับหยุดชะงัก
                         "ฉันจะไม่ยอมให้สึกุมิต้องตกอยู่ในสภาพอันน่าอับอายแบบนั้นแน่"
                         "ฮ่า~ห์!!! มันพูดอะไรของมัน!?"
                         "แฮ่กๆๆ... คนที่จะได้เห็นสึกุมิในเวอร์ชั่นสุดเซ็กซี่แบบนั้นแค่ฉันคนเดียวก็พอ ย๊า~!!!"
                         เธอได้พูดพร้อมกับจิ้นไปจนเลือดกำเดานั้นไหลออกมาทางจมูกทำเอาโอริกามิที่ดูอยู่ถึงกับฟันธงตามประสาของสาวน้อยที่กำลังมีความรักได้แล้วว่า ยัยนี่แหละคือศัตรูหัวใจอีกคน!
                         ส่วนพวกที่ดูไม่รู้เรื่องจึงได้แต่บ่นพึมพำในใจ...พูดอะไรฟ่ะ!!!...
                         

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 36 fight all fight

                         "งั้นก็พอดีเลยเซนะฉันเองก็มีอะไรอยากเซอร์ไพส์นายอยู่เหมือนกัน"
                         พูดจบเด็กหนุ่มก็ได้คลายร่างจำแลงออกไป
                         พริบตาที่แสงเจิดจ้าออกมาจากตัวเขาและดับลงไปความจริงอันน่าตกตระลึงก็ได้ปรากฏขึ้น
                         "ฮิคาริ!" ร่างของเด็กหนุ่มได้กลายมาเป็นสาวน้อยห้องพยาบาลที่คอยรักษาให้กับตนอยู่ทุกวัน เรื่องนี้มีเพียงแค่ราชันย์เท่านั้นที่รู้เพราะงั้นจึงไม่แปลกที่ทั้งโลกจะตกใจ"เอ๋~!!!"
                         "เอาล่ะทีนี้นายจะกล้าทำร้ายสาวน้อยน่ารักคนนี้ไหม"
                         พริบตาที่พูดจบเซนะก็ได้ใช้ท่า เกรย์เซอร์ซอร์ด สร้างน้ำแข็งพุ่งเฉียดร่างของเธอไปโดนเข้ากับร่างของเดมิอุสที่กำลังยืนขึ้นจนถูกแช่แข็งในพริบตาเดียว
                         "เอ๋!?.. "
                         "ตอนแรกฉันกะว่าจะออมแรงเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอถึงตายแต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะ!"เขาได้พูดออกมาพร้อมกับร้อยยิ้มอันแสนจะน่ากลัว
                         "เอ่อ.. ใจเย็นๆก่อนก็ได้นะที่นี่ก็อากาศดีด้วยมานั่งดื่มน้ำชากันมั้ย แฮะ แฮะ..."
                         "ขอฟันเธอสักทีเถอะ!!!"
                         ว่าแล้วเจ้าตัวก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อแถมมาพร้อมกับแววตาอันสุดจะโกรธแค้น
                         "งั้นก็ช่วยไม่ได้! เดมิอุสร่วมร่าง!"
                         ร่างของเดมิอุสจึงหายไปจากน้ำแข็งแล้วเข้ามารวมกับร่างของเธอจนกลายเป็นชุดเกราะสีทองอร่ามที่ดูทรงพลังมากซึ่งมาพร้อมกับหอกสีทองที่สุดแสนจะอลังการงานสร้าง
                         หอกนั้นได้รับดาบของเรเพียร์เอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เธอจะเตะเซนะจนร่างนั้นกระเด็นลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับใช้หอกพุ่งใส่รัวๆจนเกิดเป็นประกายแสงนับพันพุ่งใส่ร่างของเซนะ
                         .....จำนวนมันเยอะไปอย่างนี้เราหลบไม่พ้นแน่!!!....
                         ว่าแล้วร่างของเขาก็ถูกมันแทงเข้านับไม่ถ้วนจนเลือดนั้นกระเซ็นออกมาราวกับสายน้ำก่อนที่ร่างนั้นจะล่วงลงสู้พื้น"ยังหรอกน่า!"
                         ตัวเขาที่ได้สติกลับมาก็ได้ใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ก่อนที่ใบหน้าจะพุ่งใส่พื้นพร้อมกับหมุนตัวรอบนึงแล้วค่อยเอาเท้าลงพื้นอย่างธรรมดา
ราวกับว่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
                         "ถ้าจะดีใจที่รอดมาได้มันก็ยังเร็วไปนะ"
                         ฮิคาริไม่ยอมพลาดโอกาสที่ช่องโหว่มีอยู่เพียบเข้ามาแทงหอกเข้าใส่ร่างของเซนะจนทะลุท้องออกไป"ฉันชนะ!"
                         ด้วยความดีใจของเธอเซนะจึงใช้มือข้างหนึ่งโอบกอดร่างของเธอเข้ามาพร้อมกับเตรียมที่จะฟันใส่เธอเป็นครั้งสุดท้าย
                         "เอ๋! ทำไมฉันถึงขัดขืนนายไม่ได้เลยล่ะ!"
                         ฮิคาริได้พยายามดิ้นทุกวิถีทางแต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งมันน่าแปลกมากสำหรับเธอที่มีพลังมหาศาลขณะที่กำลังรวมร่างกับเดมิอุสอยู่แท้ๆ
                         "เดี๋ยวฉันจะเฉลยให้เอาไหม"
                         "อ่ะเร๊ะ!?"
                         "เธอจำการโจมตีครั้งแรกของฉันได้ไหม"
                         "อย่าบอกนะว่าสองท่าซ้อนนั่นน่ะ!?"
                         "ก่อนหน้านั้นอีกหน่อย"
                         "ถ้าก่อนหน้านั่นก็ตอนขว้างเทียร์จังไปอย่างงั้นรึ!???"
                         "ถูกต้อง! ในตอนที่เทียร์ผ่านเธอไปจังหวะนั้นเจ้าตัวก็ได้ใช้ท่า Shan paradise! มาร์คกิ้งท่าพิเศษเอาไว้ที่ตัวเธอเพื่อหวังจะให้มันทำงานตอนนี้ยังไงล่ะ! และผลก็คือทำให้เธอไม่สามารถขยับได้เป็นเวลา 10 นาที"
                         "ซวยแล้ว!"


                         "ถ้างั้นก็บ๊ายบาย~!!!"
                         หลังจากที่ฟันใส่เธอก็ได้ทำให้เกิดออโรร่าสีรุ้งทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตาซึ่งปรากฏการณ์นี้นั้นทำให้ชาวโลกที่ดูอยู่ถึงกับจ้องมองราวกับเห็นสิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติโดยมีฮิคาริเป็นผู้เสียสละโดนท่านั้นไปเต็มๆจนเสื้อผ้านั้นขาดหลุดรุ่ยไปหมด ทางด้านเซนะเองหลังจากที่ใช่ท่านั้นก็ได้สลบ
เหมือบลงไปกับพื้นเพราะความเจ็บปวดของบาดแผล