วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 27 Reborn

                      สาวน้อยได้ลุกขึ้นจากน้ำตกพร้อมกับหยิบสิ่งนึงออกมาจากในกระเป๋า สิ่งนั้นดูคล้ายกับลูกอมซึ่งใครจะไปคิดล่ะว่ามันคือไอเทมระดับเรเจนซึ่งมีแต่ผู้กล้าเท่านั้นที่จะใช้งานมันได้
                      ตัวเธอจึงได้เขวี้ยงมันลงน้ำไป
                      "หลังจากนั้นก็ให้รอสามนาทีสินะ นี่ฉันนึกว่ากำลังต้มมาม่าอยู่เลย"
                      เธอได้หงุดหงิดนิดหน่อยเพราะมันดูเป็นวิธีใช้ที่ดูไม่เข้าท่ามากๆแถมยังมาจากคนที่เธอเกลียดสุดๆอีกด้วย แต่แล้วไม่นานผลลัพธ์ก็เริ่มแสดงออกมาอย่างช้าๆ ณ จุดที่สิ่งนั้นตกไปได้มีอะไรบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นมาจากมวลน้ำ
ในไม่ช้าเมื่อผ่านไปครบสามนาทีมันก่อได้ก่อตัวเป็นรูปร่างของคนที่เธอเกลียดที่สุดขึ้นมา
                      "โย๊ะ เทียร์!"
                      "ไปตายซะไปสึกุมิ!"เธอได้ทำหน้าเหมือนปลาตายทันทีที่ได้พบกันอีกครั้ง  ไอเทมที่เหมือนลูกอมนั่นมีไว้เพื่อถ่ายถอดจิตของคนๆหนึ่งซึ่งจะทำให้เกิดเป็นรูปร่างและนิสัยเหมือนกับคนๆนั้นแบบเป๊ะๆซึ่งถึงมันจะดูเป็นอาวุธเด็กเล่น
แต่ถ้าใช้งานเป็นล่ะก็สามารถนำความพิบัติมาสู่โลกได้เลย
                      ชื่อจริงของไอเทมนั่นก็คือ venus เป็นไอเทมที่ใช้ก็อปปี้ซึ่งมันสามารถก็อปมาได้มากถึง 90% ของร่างต้นแต่เพราะเวลาการคงอยู่ของมันมีจำกัด
สูงสุดอยู่ได้เพียงสามวันนับจากวันที่เริ่มใช้งานมันจึงเป็นได้แค่เรเจนคลาสแถมจำนวนที่ก็อปได้ยังแค่คนเดียวต่อครั้งจึงทำให้มันไม่ค่อยเป็นที่ต้องการสักเท่าไหร่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นไอเทมระดับสูงก็ตามที
                      แต่ทว่าหากคนที่ก็อปมานั้นเป็นสึกุมิ(ชื่อจริงของเซนะในอดีต)จากในอดีตล่ะก็มันก็อีกเรื่อง
                      สึกุมิจึงหยอกล้อเธอไปตามสเต็ปเดิม
                      "ยังซึนเดเระเหมือนอย่างเคยเลยนะถ้าหากเธอซื่อตรงกับตัวเองมากกว่านี้ฉันก็คงกล้าไปนอนกอดกับเธอทุกวันแล้วก็ได้"
                      "ใครเขาต้องการอ้อมกอดจากนายล่ะตาบ้า!"เธอได้ชี้นิ้วใส่เขา
                      "เชื่อเขาเลยผู้หญิงผมทองเนี่ยนิสัยแบบนี้ถอดแบบกันมาเลยนะ"
                      "นายจงขอโทษผู้หญิงผมทองทั้งประเทศซะไม่งั้นนายศพไม่สวยแน่ๆฉันฟันธง"
                       "จ้าๆ ว่าแต่จะเข้าเรื่องกันได้ยัง"
                       อยู่ๆสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน นั่นคือสัญญาณ
ของการเลิกคุยไร้สาระเอาไว้เพียงเท่านี้
                       "มาสเตอร์คิงส์มันต้องการจะคืนชีพขึ้นมายังยุคนี้เพื่อใช้ไอเทมระดับเวิลด์คลาสนามว่า เซราฟ เพื่อทำให้มนุษย์ไม่มีวันตายและตอนนี้เหล่าลูกสมุนของมันซึ่งนั่นก็คือ duolord ทั้ง 7 กำลังรวบรวมพลังเพื่อคืนชีพให้กับนายมันอยู่ซึ่งตอนนี้ 4 ใน 7 ม๋องไปแล้วด้วยฝีมือของฉัน! "
                       "แต่ฉันเช็คจาก eyes the future (พลังของมิโกะสายเลือดแท้
ที่สามารถหยั่งรู้อดีตและอนาคตได้) รู้สึกว่าจะมีตัวฉันด้วยที่โค่นมันนะ"
                       "หุบปากแล้วฟังแบบเงียบๆซะฉันอุตส่าห์จะกุเรื่องขึ้น"
                       "นั่นไง! ยอมรับแล้วด้วยว่าแต่งเรื่องขึ้น!"
                       "งั้นเล่าต่อนะ"
                       "อย่าเปลี่ยนเรื่องดิ!"
                       แต่เทียร์ก็ไม่ฟังแล้วเล่าต่อ
                       "อันที่จริงพี่แกเขามาจากยุคหลายพันปีนู้น! แต่เผอิญรู้ถึงการมีตัวตนของเซราฟเข้าและรู้ด้วยว่ามันจะทำงานได้ก็อีกตั้งพันปีข้างหน้าพี่แกก็เลยผนึกร่างของตนเอาไว้ที่โลกที่ชื่อ โลกหกภิภพ ส่วนวิญญาณนั้นก็แกล้งเนียนเป็นมนุษย์และคอยดูมนุษย์ผ่านทุกยุคทุกสมัยและสิ่งสำคัญที่ทำให้การคืนชีพนั้นสมบูรณ์ก็มีอยู่ด้วยกันสามอย่างนั่นก็คือ ร่าง วิญญาน และก็พลัง"
                      "พลังในที่นี้หมายถึงอะไรหรอ!?"
                      "จากเท่าที่มีในความทรงจำของคุมะรู้สึกว่าจะเป็นพลังชีวิตของมนุษย์นะ" ถ้ายังจำกันได้ในตอนที่โค่นคุมะได้สำเร็จเขาก็ได้ดูดเอาเถ้าถ่านหลัง
ความตายของมันเข้าสู่ร่างทำให้มีข้อมูลของคุมะอยู่ในหัวเธอ
                      "อย่างงั้นหรอกเหรอ.. "
                      "แล้วนายจะทำไงต่อจากนี้ดีล่ะนี่แหละคือสิ่งที่ฉันอยากจะฟังจากปากของนายในอดีต"
                      "เราก็จะบุกไปถึงโลกหกภิภพแล้วทำอย่างที่พวกเราเคยทำ"
                      "จะดีอย่างงั้นหรอ... "
                      "ทำไมอ่ะ???"
                      "สำหรับฉันน่ะมนุษย์ก็เป็นแค่พวกที่เกิดมาเพื่อตาย พวกคนเหล่านั้นจึงพยายามที่จะฝืนความตายแต่ก็ไม่สำเร็จแต่ถ้าหากใช้เซราฟล่ะก็พวกมนุษย์ทั้งหลายก็จะได้มีชีวิตชั่วนิรันดร์ จะได้อยู่กับคนสำคัญตลอดไป จะได้มีความสุขชั่วนิรันดร์ยังไงล่ะ และเพราะเหตุนี้เองฉันจึงคิดว่ามันจะดีอย่างงั้นหรอที่พวกเราจะไปหยุดยั้งแผนการนั้น"ถึงแม้ว่ารูปร่างจะดูเป็นเด็กแต่แท้ที่จริงแล้วข้างในนั้นเธอมีอายุเกือบๆจะสามสิบเพราะงั้นความคิดของเธอจึงเป็นผู้ใหญ่ และการแสดงความคิดเห็นออกมาได้ถึงขนาดนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
                      หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็นิ่งไปเหมือนกับกำลังจะรออะไรสักอย่าง อะไรบางอย่างที่คุ้นเหมือนครั้งในอดีต
                      ใช่แล้ว ตัวเธอในอดีตมักจะมีข้อโต้แย้งกับสึกุมิอยู่เสมอและเมื่อเธอพูดจบเขาก็จะพูดสวนขึ้นมาโดยคำพูดนั้นก็จะทำให้เทียร์ถึงกับต้องยอมรับและไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
                      เธอกำลังรออยู่ รอสึกุมิที่กำลังจะพูดต่อจากนี้...
                       
                     
                     
                         
                       
                         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น