ตอนที่ 30 sleeping forest
อุยได้มองย้อนไปตอนที่พวกเขาทั้งเจ็ดคนได้มาสมัครยังโรงเรียนแห่งนี้ ในตอนนั้นเธอคิดไปว่าพวกเขาเป็นแค่เพียงเหล่าเด็กๆใสๆที่ยังอ่อนต่อโลกภายนอกอยู่เพราะงั้นเธอจึงอยากจะคอยสั่งสอนและคอยปกป้องพวกเขาอยู่เสมอ
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังก้าวขึ้นไปอีกขั้น
เธอรู้อยู่แล้วว่าเซสึนะคือมาสเตอร์คิงส์และรู้ถึงอีกตัวตนนึงที่พวกเขาปิดบังเอาไว้ ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ที่เธอเพิ่งรู้สึกตัวเองว่านั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ที่เธอรู้แต่เป็นเพราะเซสึนะอยากที่จะให้เธอรู้อยู่แล้วต่างหาก เขาจึงแกล้งเปิดเผยตัวตนจริงๆเพื่อให้เธอได้รู้
และในวันๆหนึ่งตอนที่เขามาส่งรายงานแทนยูกะพวกเขาทั้งสองจึง
มีโอกาสได้คุยกันสองต่อสองในห้องของผู้อำนวยการ
"นี่ครับรายงาน"
"ขอบใจมากเลยจ่ะเซสึนะ เธอนี่สมกับเป็นรองประธานจริงๆ"
"ผมชักอยากจะรู้แล้วดิว่าใครมันเป็นคนคิดแบบนั้น"
เขาทำหน้าไม่พอใจขึ้นมาชั่วขณะ
"แฮ่ม... เรื่องนั้นช่างมันเถอะไหนๆพวกเราก็อยู่กันสองต่อสองแล้วเพราะงั้นเรามาทำอะไรสนุกๆกันไหม"
"พูดแบบนี้กับเด็กหนุ่มอายุ 13 มันไม่ดีนะครับ"
"ถ้าเธอทำล่ะก็ฉันก็คงจะไปฟ้องยูกะจังแน่ๆเพราะงั้นเธอต้องไม่กล้ายุ่งกับฉันอย่างแน่นอนชัวร์ป๊าบ!"
"นี่ยูกะมีอิทธิพลกับผมขนาดนั้นเชียวหรอ"
"เป็นถึงศรีภรรยาในอนาคตเชียวนะไม่มีอิทธิพลถึงขนาดนีิ้นั่นดิแปลก"
"อนาคตเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนได้คุณก็รู้"
"แต่เธอก็ชอบยูกะจังไม่ใช่หรือไงแถมทางนั้นเองก็มีใจให้กับเธอแบบเต็มที่ด้วยเรื่องนั้นเธอน่าจะรู้ดีกว่าใครๆนะ"
"ผมไม่ปฏิเสธ ว่าแต่เรื่องสนุกๆที่ว่าคืออะไรล่ะ"
"เปลี่ยนเรื่องเฉยเลย~!"
"รีบๆเล่ามาได้แล้วครับ!"
หลังจากหยอกจนพอใจแล้วอุยก็เริ่มทำหน้าแบบจริงจังขึ้น
"เธอคือมาสเตอร์คิงส์สินะเซสึนะ"
"ครับ!"
"ทำไมเธอถึงจงใจบอกใบ้ฉันล่ะ เธอน่ะรอบคอบอยู่เสมอจนไอที่เธอเผลอหลุดทำออกมามันดูไม่เข้ากับบุคลิกของเธอเลย"
เธอได้นึกย้อนไปถึงตอนที่เซสึนะทำสมุดหล่นแล้วจงใจให้เธอเห็นอะไรบางอย่างในนั้น ไม่ใช่แค่นั้นในตอนที่อุยกำลังเดินไปหาสมุดอ่านในห้องสมุดเขาก็จงใจผลักสมุดจากชั้นวางข้างๆเธอตกลงมาแบบเนียนๆและสมุดเล่มนั้นก็เกี่ยวข้องกับมาสเตอร์คิงส์ และทุกอย่างที่เขาทำก็ล้วนเกี่ยวข้องกับมันทั้งสิ้น
ทำให้เธอถึงรู้ความจริงได้ในที่สุด
"ตัวผมไม่อยากจะโกหกทุกคนไปมากกว่านี้แล้วครับ เรื่องมันก็แค่นั้น"
"นั่นสิเนาะฉันก็เข้าใจดีเลยล่ะว่าถ้าเรื่องของเธอเกิดรั่วไหลออกไปจะเป็นไงและฉันก็เข้าใจด้วยว่าการที่ต้องปิดบังความลับกับเพื่อนๆมันจะทำให้รู้สึกไม่ดีขนาดไหน"
"เปล่าไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ"
"อ้าว~!! แล้วเรื่องไร???" ตรงนี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของประเด็นความพีค
"พอดีว่าผมกำลังทำแผนการที่จะเปลี่ยนแปลกโลกครั้งใหญ่อยู่ผมก็เลยอยากให้คุณอุยทราบไว้ก่อนน่ะครับเพื่อที่ว่าคุณอุยจะได้รับรู้และเข้าใจถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อจากนี้แบบไม่งง"
"นี่ฉันผู้อำนวยการโรงเรียนนะไม่ใช่โฆษกของรายการทีวีที่จะมานั่งบรรยายให้คนอื่นเขาเข้าใจในเรื่องที่เธออยากจะทำต่อจากนี้น่ะ"ว่าแล้วเธอก็เอามือข้างนึงทุบโต๊ะก่อนที่ทั้งสองจะเอาแต่จ้องตากันแบบตาไม่กระพริบ
ผ่านไปสักพักเซสึนะก็จึงเป็นฝ่ายพูดก่อน
"เจ็บไหมครับมือน่ะ"
"โคตาระเจ็บเลยล่ะ"
หลังจากที่ทำแผลให้อุยเสร็จแล้วทั้งสองคนจึงกลับมาเข้าเรื่องเดิมกันอีกครั้ง
"เอาล่ะมีอะไรก็ว่ามา"
"งั้นผมขอเล่าแบบไม่เกรงใจล่ะนะ"
"งั้นช่วยเล่าแบบเกรงใจสุดๆเลยละกัน"
"ตัวผมนั้นเคยพลัดพรากจากคนรักไปและผมก็เจ็บใจที่ไม่สามารถห้ามคนที่รักเอาไว้ได้ผมจึงคิดจะใช้ไอเทมที่ชื่อเซราฟทำให้ทุกคนบนโลกเป็นอมตะเพื่อที่จะทำให้ทุกคนได้อยู่กับคนที่ตนเองรักชั่วนิรันดร์ จบแล้ว!"
"สั้นเกินไปแล้วย่ะ!"เธอได้ตวาดใส่เขาเพราะนึกว่ามันจะมาเป็นเรื่องราวแบบวรรณกรรมซึ่งมีหลายต่อหลายตอน แต่นี่มันแค่สามบรรทัดเอง!
"ก็ขอแบบเกรงใจสุดๆไม่ใช่หรอครับ ยังจะมาตวาดใส่ผมอีก"
"มันก็สั้นไปสำหรับประเด็นที่มันน่าจะโคตรของโคตรจะเป็นตัวดำเนินเรื่องนี้น่า~!"
"สั้นๆได้ใจความมันก็เหมาะเด็กยุคใหม่ดีนิครับคืนเล่าเป็นวรรณกรรมมาล่ะก็เป็นใครก็ต้องหลับกันหมดแน่เลย"
"โอเคๆงั้นฉันผิดเองขอโทษด้วยละกัน!"
"งั้นขอพูดเสริมหน่อยนะ"
"stop!" เธอได้ควักหมอนออกมาจากรินชักแล้วเอามันมานอนหนุน
บนโต๊ะทำงานก่อนจะให้สัญญาณ"เล่าต่อได้เลย!"ทำเอาเซสึนะถึงกับฉุนขาดกระชากหมอนที่เธอกำลังหนุนอยู่แล้วเขวี้ยงทิ้งออกนอกหน้าต่างไป"หมอนฉ้าน~!"
"ผมแค่จะพูดกับคุณเฉยๆแล้วหมอนนี่มันอะไรกันนี่คุณกะจะมานอนฟังผมเลยนี่หว่าเผลอๆจะไม่ฟังผมด้วยซ้ำ!!!"
"กะ ก็มัน... "
"ก็มันอะไรครับ!"เจ้าตัวได้ทุบโต๊ะตามเป็นการสร้างความกดดันให้กับเธอ
"ก็มันพักเที่ยงแล้วนี่น่า! หลังจากกินข้าวเสร็จร่างกายของคนเราก็จะเริ่มรู้สึกง่วงเป็นธรรมดาเพราะงั้นฉันจะนอนก็ไม่ผิดนี่น่า~!"
"คุณเป็นเด็กอนุบาลหรือไง~!!"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น