วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

ตอนที่ 29 angry bird

                "จะว่าไปอายุจริงๆของเทียร์น่าจะ 30 ขึ้นสินะ"
                "แล้วมันจะทำไมหรอ???"
                "เตี้ย!"
                หลังจากจบบทสนทนานั้นเธอก็ได้อาละวาดจนสึกุมิได้แผลมาเต็มตัว
                พวกเขาทั้งสองจึงได้เริ่มออกเดินทางกันอีกครั้งโดยมีเป้าหมายเดิมคือโลกหกภิภพซึ่งที่นั่นออกจะแปลกจากโลกธรรมดาทั่วไปสักนิดหน่อย
                ตัวโลกนั้นมีขนาดเล็กกว่าโลกของพวกเขาซะอีก โดยที่โลกนั้นคือการนำโลกทั้งหกมาซ้อนทับกันท่าจะให้เปรียบเทียบก็คือในกล่องเมื่อเปิดมาก็จะมีกล่องและเมื่อเปิดออกอีกก็จะมีกล่องอีกกล่องไปเรื่อยๆจนครบหกกล่องมันคือโลกที่มีโลกอีกโลกและอีกโลกซ้อนทับกันจนดูเหมือนเป็นโลกๆเดียวโดยแต่ละโลกนั้นก็จะมีเส้นทางลับที่จะสามารถไปยังโลกอีกโลกนึงได้ซ่อนอยู่และที่โลกในสุดนั้นมีร่างของมาสเตอร์คิงส์ถูกผนึกเอาไว้อยู่
                และอีกสาเหตุนึงที่เขาเลือกที่จะผนึกร่างของตนเอาไว้ที่นั่นนั่นก็เพราะ
ที่โลกแห่งนั้นต่างเต็มไปด้วยอันตรายมากมายถึงขนาดที่ว่าต่อให้มีสักกี่ชีวิตก็ไม่พอ ในอดีตเคยมีทหารจากโลกหนึ่งบุกเข้าไปเพื่อหวังจะครอบครองโลกนี้และพวกเขาซึ่งมีจำนวนคนถึงหนึ่งแสนคนก็ได้ตายลงจนหมดในโลกแห่งนั้นเพียงในเวลาไม่นาน
                ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางผ่านประตูมิติก็ได้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากของสึกุมิการเดินทางของพวกเขาจึงถูกหยุดลงชั่วขณะ"ห้ามโทรขณะเดินทางเข้าใจนะ"
                "ฮัลโหลว~! ผมเซนะพูดครับ"
                "ฉันเซสึนะเอง"
                พริบตานั้นเธอได้ใช้มือปิดโทรศัพท์เอาไว้เพื่อที่จะทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงที่หลุดออกไป
                "เดี๋ยวก่อนนะฉันได้ใช้ eye the future ดูอดีตก็ไม่เห็นว่าตัวเองจะไปสนิทกับคุณเซสึนะเลยนี่น่าแล้วไหงเขาถึงมีเบอร์ฉันได้ล่ะ"
                "ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครล่ะ!"
                "ถามนกที่อยู่ข้างๆได้ป่ะ!"
                "เพ้อเจ้อน่า~! แถวนี้มันจะไปมีนกได้ไง"
                พูดจบเจ้าตัวก็หันไปรอบๆจนไปเจอกับนกเป็นฝูงเลย"มีด้วยหรอ!!!"
                หลังจากตลกกันพอแล้วเธอจึงคุยสายต่อ
                "เอิ่ม.. ไม่ทราบว่าคุณต้องการอะไรหรอครับ"
                "ที่ปลายทางข้างหน้าอาจจะมีอันตรายรอเธออยู่ฉันขอเตือนให้เธอรีบกลับมาซะ"
                "ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับแต่ถึงงั้นผมก็ต้องไปให้ได้"
                "ถ้างั้นปลายทางข้างหน้าของเธอก็จะมีแต่ความเจ็บปวดรอเธออยู่"
                "ถ้าเพื่อช่วยเพื่อนแล้วแค่นั้นจิ๊บๆครับ"
                "ทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายทิ้งเขาไปเนี่ยนะ"
                ต่อจากนี้คือบทสนทนาที่คนหลายคนยังต้องงง
                "ผมเชื่อว่าเพื่อนคนนั้นต้องเข้าใจและให้อภัยผมอย่างแน่นอน"
                "แล้วถ้าหากเพื่อนคนนั้นยังโกรธอยู่อีกล่ะ"
                "งั้นผมก็จะใช้เหตุผลเข้าปะทะกับเขา"
                "คนจะโกรธน่ะมันไม่ต้องมีเหตุผลหรอกนะ"
                "งั้นผมจะโกรธยิ่งกว่าเขาเอง"
                "วะ ว่าไงนะ!"
                เธอได้ผุดยิ้มขึ้นมา
                "ผมจะโกรธที่เขาร้องไห้ในตอนที่พวกเราจะจากกัน ผมจะโกรธที่เขาไม่ยอมเข้ามาหาผมเหมือนในอดีต ผมจะโกรธเขาเรื่องที่เขาทำเป็นเมินผมและที่ผมจะโกรธยิ่งกว่าก็คือตัวผมที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนคนนั้นเอาไว้ได้!"ถึงมันจะดูเป็นเหตุผลที่ไร้สาระแต่เขาก็รู้ว่าเธอพูดจริงทำจริง และเพราะเธอเป็นแบบนั้นแหละทำให้เขาต้องยอมแพ้ที่จะเกลี่ยกล่อมเธอ
                "ถ้างั้นเราก็คงต้องเป็นศัตรูกันสินะสึกุมิ!"
                "ก็ดูท่าจะเป็นอย่างนั้นแหละครับมาสเตอร์คิงส์!"
                สิ้นคำพูดนั้นทำให้ทุกคนที่มองและฟังอยู่ถึงกับอึ้งไปตามๆกัน
                บทสนทนาที่เมื่อกี้นี้พวกเขายังไม่ค่อยเข้าใจในตอนนี้พวกเขาเริ่มจะเข้าใจมันขึ้นทีละนิดแล้ว
                "แล้วฉันจะรอที่ชั้นลึกสุดละกัน"
                "เดี๋ยวผมจะไปหาแน่ๆครับช่วงที่ว่างๆอยู่ก็เดินเล่นรอผมไปก่อนเลย"
                เธอได้วางสายและหันไปหาเทียร์ที่กำลังชกกับนกฝูงนึงอยู่"ไปต่อกันเถอะเทียร์"
                "อ่า.. ก็ได้!"เธอจึงหยุดทะเลาะแล้วเริ่มเดินทางต่อ
                "เชื่อเขาเลย! เทียร์ไปทะเลาะกับพวกคุณนกเขาทำไมล่ะ"
                "ก็พวกนั้นมันกวนฉันอ่ะ!"เธอได้นึกภาพตอนที่พวกมันต่อตัวกันจนสูงกว่าเธอซะอีก แถมพวกมันยังมองด้วยใบหน้าเยาะเย้ยเธออีกด้วย
                "ถ้าเรื่องส่วนสูงล่ะก็พยายามดื่มนมมากๆเข้าไว้รับรองสูงแน่ๆ"
                "ฉันไม่อยากได้ยินจากคนที่กินแต่บะหนี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวันหรอกนะ"
                "หึ! เทียร์ไม่รู้อะไรสักแล้วบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปน่ะเป็น!"
                "อ๋อ... อย่างนี้นี่เอง!"
                "ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยเลย~!!!"
                "ฉันเบื่อที่จะฟังการสาธยายของนายเต็มทนแล้วพวกเรารีบไปกันต่อเถอะ"
                "หนูจ่ะฟ้องแม่~!!! แง้~!!!
                "หนวกหู! เงียบๆหน่อย!"
                "ครับ!" หลังจากโดนตวาดไปทีนึงทุกอย่างก็ดูเหมือนจะกลับมาจริงจังขึ้นอีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกับที่โรงเรียนชิโอมิหยุดอุยที่นั่งอยู่บนโต๊ะผู้อำนวยการและกำลังดูเซนะผ่านทางจอมอนิเตอร์อยู่ก็ได้หันไปมองภาพถ่ายรวมของห้องห้าที่พวกเซนะกำลังเรียนอยู่"ขอร้องล่ะทุกคนอย่าเป็นอะไรไปเลยนะ"
                 
       
                   
                 
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น