วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562

story 3.1

                       หลังจากปัญหาที่ดาวเครย์ได้จบลงพวกเซนะกับเหล่ายอดขุนพลทั้ง 50 คนก็ได้เดินทางมายังโลกเพื่อปราบ shin กับพวก baron ที่ตอนนี้ได้ร่วมมือกันแล้วโดยเซนะได้มาช่วยอดีตราชันย์อันดับที่ 4 แต่ก็มาช้าไป พวก baron นำโดยราชันย์คนใหม่นามว่า อัลเดอุส  ได้เข้าจัดการกับเขาเป็นที่เรียบร้อย แต่เพราะการปรากฏตัวของเซนะจึงทำให้เหล่า baron ถึงกับหยุดชะงัก 1 ในยอดขุนพลลำดับที่ 7 ตัวแทนจาก United Sangtory สังกัดแคลน angle fether (ภายหลังเป็นเลขาคนสนิทของเซนะ)นามว่า ลีน่า พริซเซียร่า เซร่า จึงได้อาสาจัดการกับ อัลเดอุส และชนะไปได้ในที่สุด ข่าวการมาของเซนะได้ดังไปทั่วโลกอีกครั้ง เซนะที่กลับมาจึงรีบมุ่งไปหาอุยที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา เธอเศร้ามากที่อุยยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นเลยแม้แต่น้อยจนเจ้าตัวถึงกับร้องไห้ออกมาและเพราะน้ำตาหยดนั้นมันดันทำให้อุยฟื้นขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ราวกับเวทย์มนตร์ในนิทานไม่มีผิด ในช่วงนั้นเซนะจึงได้คอยดูแลอุยอยู่ตลอดเวลา โดยมีอยู่วันนึงเซนะก็ได้หยิบนิทานขึ้นมาอ่านให้อุยฟังเพื่อหวังว่าเธอจะหลับโดยนิทานเล่มนี้ถูกทำขึ้นโดยเซนะและโซโฟียตอนเด็กๆ เป็นเรื่องเราวอันน่าอัศจรรย์ของทุกอย่างโดยเรื่องนั้นเล่าว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นล้วนแต่มีจิตวิญญาณหรือแม้กระทั่งความมืดเองก็เช่นกัน ผ่านมาจนแล้วจนรอดความมืดนั้นก็ยังคงเป็นความมืด ความน่าเบื่อและความเซ็งจึงทวีคูณขึ้นและไม่นานความมืดก็ได้หลอมรวมกันจนกลายเป็นเด็กสาวคนหนึ่งนามว่า เรย์ เธอได้คิดว่าที่นี่มันดูมืดๆไปจึงได้สร้างดาวฤกษ์ขึ้น ตามด้วยสร้างดาวต่างๆขึ้นมาดูเล่น จากนั้นก็ค่อยๆสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาอีกมากมายเพื่อความสนุก และเขาก็คิดได้ว่าถ้ามีเขาแค่คนเดียวมันก็ไม่สนุก เรย์ จึงได้ให้กำเนิดมนุษย์คนแรกนามว่า เซฟิร่าขึ้นมา และเพราะเป็นลูกสาวคนแรกเธอจึงตามใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าเซฟิร่าจะขออะไรเธอก็พร้อมที่จะให้ได้หมดจนกระทั่งเธอมาขอเอาชีวิตของตน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระหว่างผู้สร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่งเรย์กับมนุษย์คนแรกนามว่าเซฟิร่าการต่อสู้นั้นได้จบลงที่ชัยชนะของเรย์และเซฟิร่าก็ถูกฆ่าตายแต่ไม่นานหลังจากนั้นเรย์ก็ได้ตายตามกันไปเพราะบาดแผลที่สาหัติจนเกินไป แต่ทว่าดวงวิญญาณของทั้งสองก็ได้จุติกลายมาเป็นมนุษย์โดยที่พวกเขาจะสูญเสียความทรงจำไป แต่หากเมื่อใดที่ทั้งสองได้ความทรงจำกลับคืนมาเมื่อนั้นการต่อสู้อย่างเมื่อครั้งในอดีตก็จะเกิดขึ้น... หลังจากเล่าจบอุยก็ขอเก็บนิทานเล่มนั้นเอาไว้ด้วยลางสังหรณ์แบบแปลก
                พวกเซนะได้เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองชิโอมิอีกครั้ง เซนะได้ให้พิเกียกับชิโอมิไปเรียนหนังสือ(อายุ 8 ขวบ) ในช่วงนั้นเองก็ได้มีปัญหามากมายเกิดขึ้น เพราะเนื่องจากลูกน้องของเซนะแต่ละคนเป็นสายมโนตัวท็อปแถมยังเชิดชูบูชาเขาสักยิ่งกว่าพระเจ้าอีก แต่ในขณะที่ความกาวกำลังคละฟุ้งอยู่นั้นก็ได้มีเจ้าชายจากประเทศนึงปรากฏขึ้น เขามีนามว่า เนเมซิส โดยเขามาที่ รร ชิโอมิเพื่อที่จะพาตัว ฮิคาริ ว่าที่คู่หมั้น(เรื่องเงินทองอ่ะนะ)ไปกับตนซึ่งหลังจากที่รู้ความจริงพวกเซนะจึงไม่ยอมอยู่เฉย 10 ผู้ก่อตั้งนำโดยเซนะได้ขอท้าประลองกับ เนเมซิส เพื่อชิงตัวฮิคาริคืนมา และเมื่อถึงวันประลองคู่ต่อสู้ของพวกเขากับกลายเป็น อดีตราชันย์จากแต่ละยุคสมัยที่ผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาถูกว่าจ้างมาเพื่อจัดการ 10 ผู้ก่อตั้งโดยเฉพาะและผลที่ออกมาก็เป็นตามคาด นอกจากเซนะ คนอื่นได้แพ้ไปจนหมด แต่เขากับยังไม่ยอมแพ้และสู้ต่อไปจนในที่สุดก็สามารถเอาชนะทีมของเนเมซิสทั้งหมดลงได้(เลือดท่วมอีกตามเคย)แต่เกมจบคนไม่จบ เนเมซิสได้ข่มขู่พวกเซนะว่าหากไม่ส่งตัวฮิคาริมาเขาจะนำกองทัพจากประเทศของตนรวมทั้งเหล่าประเทศพันธมิตรมาจัดการกับพวกของเซนะ ทางด้านของเซนะจึงแกล้งพูดโกหกไปว่า"นี่คุณคิดว่าผมเป็นใคร ผมคือบุตรชายของ king และ Queen สองผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกกับแค่ประเทศๆนึง จะลบมันให้หายไปก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย" เซนะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเถียง และพูดต่อไปอีกด้วยความกดดันจนทำให้ทุกคนรวมถึงเนเมซิสเชื่อกันหมด ฝั่งเนเมซิสจึงถอนตัวไปอย่างรวดเร็วส่วนเซนะก็ค่อยเฉลยความจริงแก่ทุกคนไปทำให้ชาวโลกถึงกับอ้าปากค้างกันไปตามๆกัน(โดนหลอกกันหมด55+) ในตอนจบเซนะก็ได้ขอให้ฮิคาริกลับมาเป็นหมอประจำตัวของตนอีกครั้งซึ่งเธอก็ได้ตอบรับคำขอนั้นเป็นอันจบ...
                       ในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าผู้คนในเมืองชิโอมิได้ตายไปจนเกิอบหมดจะเหลือก็เพียงแต่ ชิโอมิ ลีน่าและโอไรอ้อน ณ ซากเมืองชิโอมิ เด็กสาวได้นำดอกไม้มาไหว้หลุมศพทั้งน้ำตา และเจ้าของหลุมศพนั้นก็คือ Shirasaki Sena ใช่แล้วนั่นคือนางเอกของเรื่องนี้นั่นเอง... ในตอนนั้นเองที่อดีตราชันย์นามว่า ทับทิม ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าของชิโอมิ เธอบอกกับชิโอมิถึงตัวตนของ เซโร่! ชายผู้ซึ่งทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น(เรื่องที่เซนะจะตายนั่นเอง) โดยมันนั้นได้ทำการเปลี่ยนแปลงอดีตของเซนะ(ในศึกความฝันที่อยู่ๆก็มี duo ปริศนาปรากฏตัวขึ้น) เป้าหมายของมันคือการกำจัดเซนะทุกคน ทุกพาราเรียลเวิลด์เพื่อทำลายทุกจักรวาล(อ่านเสริมได้อีกในเนื้อเรื่องย่อยๆ) และในตอนนี้มันก็ได้จัดการกับเซนะเกือบจะหมดแล้วและเป้าหมายสุดท้ายก็คือเซนะคนปัจจุบัน ทับทิมจึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากพวกชิโอมิเพื่อหยุดแผนการของเซโร่  ทางด้านของเซนะที่ไม่รู้เรื่องหลังจากที่ไปฉลองวันเกิดของตนที่อนาคตพอตื่นขึ้นมากับพบกับพวกตำรวจล้อมรอบบ้านของตนไว้ ฝั่ง duo ของเซนะก็ตั้งท่าจะบวกอย่างเดียวสถานการณ์จึงแย่มากๆ พวกตำรวจได้อ้างกฏหมาย เนื่องจากเซนะได้แอบอ้างใช้ชื่อของคนเบื้องสูงอย่าง king กับ Queen + กับข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำลายทรัพสินย์ทางราชการ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ แถมเจตนาจะฆ่าเจ้าหน้าที่(ซึ่ง duo มันทำหมดเลยเซนะไม่เกี่ยวแต่ก็โดนไป) โดยเซนะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตถึงตรงนั้นเหล่า duo สายกาวของเซนะก็ได้จัดการซัดเจ้าหน้าที่ตรงหน้าบ้านจนหมด(แถมตามไประเบิด สน.ทิ้งอีก) เซนะจึงได้ไป รร ด้วยความรู้สึกหนักใจ หลังจากที่เรียนได้สักพักเรื่องจากตอนแรกก็ได้มา เซโร่ๆได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อหวังที่จะฆ่าเซนะ(ซิโอมิกับพิเกียไปเรียน duo ตนอื่นๆดันมีงานยุ่งพอดี) เซนะที่สู้กับเซโร่ตามลำพังจึงแพ้แบบขาดลอยพวกเพื่อนๆจึงถ่วงเวลาเซโร่เอาไว้และให้เซนะหนีไป และเหล่าเพื่อนๆของเซนะก็ค่อยๆตายไปทีละคนๆ(มันฆ่าเซนะมีเกือบทุกเวิลด์แล้วมันจึงได้พลังจากเวิลด์นั้นๆมาด้วย)เซนะได้จนมุมและกำลังจะถูกเซโร่ฆ่าแต่ก็ได้พวกทับทิมช่วยเอาไว้ได้ทันพร้อมกับพากันหนีไปยังโลกในอีก 5 ปีข้างหน้าก่อนจะเริ่มรักษาและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และทับทิมก็ได้บอกให้ทุกคนเตรียมพร้อมเพื่อสู้ศึกครั้งสุดท้ายกับเซโร่! ทางด้านของเซโร่ได้ประชันเข้ากับ อุยและซุบารุ พร้อมกันนั้นก็ได้เฉลยตัวจริงของตน เซโร่ ก็คือ เซนะ จากอีกพาราเรียลเวิลด์ และได้เล่าถึงเรื่องราวความเจ็บปวดจากโลกที่เขาอยู่ให้อุยฟังก่อนจะมุ่งหน้าไปยังอนาคตเพื่อเตรียมเปิดศึกสุดท้าย...
                        เซโร่ที่มาถึงอนาคตจึงได้เข้าปะทะกับพวกเซนะซึ่งประกอบไปด้วย เธอ ทับทิม ชิโอมิ โอไรอ้อน และลีน่า  ในขณะที่ทุกอย่างเริ่มสิ้นหวัง พวกเซนะกำลังจะแพ้ เซโร่ก็ได้สั่งให้ duo ของตน อาคาฟา อาร์ค เรย์! จัดการกับเซนะและก็เป็นชิโอมิที่เข้ามารับแทน การตายของชิโอมิทำให้เซนะถึงกับคุ้มคลั่งจนปฏิเสธโลกผลก็คือพลังของเซนะได้ตื่นขึ้นและมันก็กำลังทำให้โลกและจักรวาลเริ่มนับถอยหลังสู่กาลอวสารเร็วขึ้นจนกระทั่ง card สีดำที่ได้จากนิโครุส่องแสงขึ้นถึงแม้ว่าเธอจะตายไปแล้วแต่จิตวิญญาณนั้นก็ยังคงสถิตอยู่ใน card นั้นและคอยเฝ้ามองเซนะอยู่ตลอดเวลาดั่งคำสัญญาของเธอ เซนะกับนิโครุในจึงได้คุยกันและปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด เซนะได้เปลี่ยนพลังของตนที่กำลังระเบิดออกมานั้นเป็น card ที่ใช้จัดการกับเซโร่โดยเฉพาะและเพิ่มมาด้วยนิโครุ โอไรอ้อนและลีน่าที่พาวเวอร์อัพขึ้นเพื่อจัดการกับเซโร่ การต่อสู้นี้ได้เริ่มต้นขึ้นและจบลงด้วยชัยชนะของเซนะ โดยก่อนการโจมตีครั้งสุดท้ายของเซนะทับทิมได้โยนดาบแห่งกาลเวลาพาลาดเซเบอร์! ไปให้กับเซนะเพื่อจัดการกับเซโร่และเพราะพลังจากดาบจึงทำให้ความเสียหายทั้งหมดจากเซโร่หายไป ผลของมันทำให้เซนะจากทุกจักรวาลกลับมา คืนชีพทุกคนในชิโอมิที่ถูกจัดการไป รวมถึงเปลี่ยนแปลงอนาคตของชิโอมิและทุกคนในยุคนี้อีกด้วย  ภาพการต่อสู้นั้นได้ถูกฉายไปทั่วทุกจักรวาล(เรื่องใหญ่มาก) ทำให้เซนะในตอนนี้ได้กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดเซนะก็ได้หลับไปถึง 7 วันเต็มๆและเธอก็ได้ตื่นขึ้นมาพบกับอนาคตใหม่ อนาคตที่ชิโอมิยังไม่ตาย อนาคตที่เมืองชิโอมิยังอยู่ดี อนาคตที่ทุกคนยิ้มได้อย่างมีความสุข ในตอนจบหลังจากที่เซนะกลับไปยังยุคเดิม ทับทิมก็ได้เดินมาหาเซนะในอนาคตพร้อมกับต่อว่าเขาเล็กน้อย  ความจริงแล้วเซนะในยุคนี้รู้เรื่องของเซโร่อยู่ก่อนแล้วแต่เจ้าตัวกลับปล่อยให้เซโร่ทำทุกอย่างที่มันต้องการโดยไม่ไปขัดขวาง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์ให้กับตนเองในอดีตรวมทั้งชิโอมิในยุคนี้ด้วย (ยุคนี้คือสงบสุขมาก~)
                   

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2562

ยอดขุนพลอันดับที่ 17


                                เคาท์ หนึ่งใน duo ของ ชิราสากิ เซนะ ซึ่งเป็นถึง kok( king of king)ซึ่งเขาแต่เดิมนั้นเป็นลูกคุณหนูสุดร่ำรวยในแคลน(ประเทศ) ดาร์ค อิเล็กกูล่า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องแวมไพร์และผีดูดเลือดเป็นอย่างมาก ตัวเขานั้นแสนจะเบื่อกับชีวิตที่เป็นแบบนี้เต็มทน ชีวิตที่ทุกคนคอยเอาแต่ประจบเขา ชีวิตที่อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ จนกระทั่งวันนั้นมาถึง! วันที่พวก shin บุกโจมตีมายังแคลนที่เขาอยู่ ทุกคนต่างหวาดกลัวและหนีหายเข้าไปในความมืด เขาเองก็เช่นกัน ชีวิตของเขาที่เคยมีทุกอย่างแต่ตอนนี้กับไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทั้ง พ่อแม่และน้องสาวทุกคนถูกพวกมันฆ่าตายไปจนหมด ในขณะที่กำลังสิ้นหวังอยู่นั้นเองก็ได้มีเงาของคนๆหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาซึ่งคนๆนั้นก็คือ เซนะ ในตอนนั้นเคาท์คิดว่าเป็นพวก shin ที่ตามมาไล่ล่าเขา เขาจึงได้โจมตีใส่เซนะอย่างบ้าคลั่งแต่เซนะกับไม่ตอบโต้อะไรจนในที่สุดเคาท์ก็รู้ว่าเซนะไม่ใช่พวกเดียวกับ shin (ตอนนั้น duo คนอื่นๆจะพุ่งเข้าไปอัดเคาท์แล้วโชคดีที่เซนะห้ามเอาไว้ไม่งั้นเคาท์ตายแน่)เซนะได้ถามเคาท์ขึ้นมาว่า"ใครเป็นคนทำให้นายเจ็บปวด"พอเคาท์ตอบออกไปเซนะกับเหล่า duo ก็ได้เดินจากเขาไป พอวันต่อมาเคาท์ก็ได้รู้ข่าวว่าพวก shin ที่บุกมาที่แคลนของเขากำลังต่อสู้กับกลุ่มคนปริศนาอยู่ในตอนนั้นเคาท์จึงได้รีบเดินทางไปกับเหล่าลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งเพื่อไปดูลาดราวและแล้วเมื่อเขามาถึงกับพบว่าพวกที่กำลังปะทะกับ shin อยู่นั้นก็คือพวกของเซนะ จำนวนคนนั้นแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัดแต่พวกเขากับสู้ไม่ถอย ในตอนนี้พวกเขาได้ถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว เคาท์กับพวกจึงพุ่งฝ่าแนววงล้อมของศัตรูเข้าไปช่วยพวกของเซนะแต่นั่นก็ทำให้พวกเขาพลอยติดอยู่ในวงล้อมของศัตรูไปด้วย ในตอนนั้นเองที่เคาท์ได้ถามเซนะว่า"ทำไมนายถึงต้องทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ด้วย!"เซนะกับตอบออกไปแบบสั้นๆว่า"นายยังมีสิทธิ์ไปว่าคนอื่นด้วยหรอ..." ถูกอย่างที่เซนะพูด เขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนที่เอาชีวิตมาทิ้งทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าถ้าเข้ามาแล้วก็ต้องตายอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นเหล่าลูกน้องที่ตามมาด้วยก็เช่นกัน พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไงแต่ก็เลือกที่จะตามเขาเข้ามาอีก"หัวหน้า! พวกผมจะขอตายไปพร้อมกับคุณ/ใช่ค่ะ เพราะมีหัวหน้าอยู่พวกเราก็พร้อมที่จะสู้ถึงแม้ว่าจะต้องตายก็ตามที!/ถ้าไปกันหมดนี่ผมคงจะไม่เหงาแล้วสิครับ/ไปอาละวาดกันเลย!/ดิฉันเป็นเกียรติมากค่ะที่จะได้สู้เคียงข้างท่านในศึกครั้งสุดท้าย" ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแต่พวกเขากับยังยิ้มกันได้อีก
                                  ในตอนนั้นเองเซนะก็ได้เอ่ยชวนเคาท์ให้มาเป็น duo ของตน ถึงตอนนั้นเคาท์จึงได้ทำสัญญากับเซนะจนทำให้เคาท์ evo (วิวัฒนาการ) จนกลายเป็นร่างใหม่ที่ทรงพลัง ตัวเขาที่ได้รับพลังมาจึงได้ร่วมมือกับพวกของเซนะถล่มทัพของ shin จนพินาศไปในที่สุด ในตอนจบเซนะได้ขอให้เคาท์ออกเดินทางไปพร้อมกับตนเพื่อปราบเหล่า shin ทั้งหมด และเคาท์จึงได้ร่วมออกเดินทางร่วมกับเซนะไปด้วยซึ่งในตอนนั้นเคาท์ได้เป็นถึงตัวแทนของ ดาร์ค อิเล็คกูล่า ไปเสียแล้วและภายภาคหลังเขาก็คือ 1 ในยอดขุนพลของชิราสากิ เซนะ  ผู้มีพลังระดับทำให้ทั้งประเทศพังพินาศได้เลย....
                     

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

story 1.3 (end)

                          ย้อนกลับไปตอนก่อนหน้านี้ที่เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานหลังจากที่เซนะเพิ่งเข้าไปในโลกแห่งความฝัน พวก baron ได้ไล่ล่า cardrare ไปได้แล้ว 4 ใบ และอีก 2 ใบอยู่ที่ เซร่า กับ ฟรีด ซึ่งเป็นพรรคพวกของเซนะที่เคยร่วมกับบุกไปทำลายพวก baron พวกเขาทั้งสองที่รู้ว่าตนเองจะถูกเล่นงานจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนชิโอมิซึ่งอุยที่เป็นผู้อำนวยการก็ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่นั่นกับเป็นไปตามแผนของพวกมัน 1 ในแม่ทัพเทพของพวกมันมีคนที่สามารถเห็นอนาคตได้เหมือนกับเซนะและอุยอยู่ด้วยพวกมันจึงได้ส่งกองกำลังมายังชิโอมินำโดยแม่ทัพเทพถึง 5 คน การต่อสู้ระหว่าง baron กับชิโอมิจึงเริ่มเปิดศึกขึ้น ด้วยผลจากการบุกสายฟ้าแลบต่อให้ที่นั่นมี 10 ผู้ก่อตั้งอยู่ก็มิอาจต้านทานได้ไหว และไม่นานโรงเรียนชิโอมิก็ได้ถูกทำลายย่อยยับ นิโครุที่เป็นถึงราชันย์จึงต้องยันกองกำลังของศัตรูเอาไว้ด้วยตัวคน(แสนกว่าคน) เซร่ากับฟรีดก็ถูกแม่ทัพเทพฆ่าตาย และแล้ว cardrare ทั้ง 6 ก็ได้ตกไปอยู่กับ baron อีกทางด้าน 10 ผู้ก่อตั้งนำโดย เซสึนะ ก็ได้พยายามปกป้องชาวเมืองที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนอุยที่ปะทะกับแม่ทัพเทพถึง 5 คนอยู่นั้นก็ได้ถูกเล่นงานจนเกือบจะปางตายแต่ก็รอดมาได้เพราะได้ฮิคาริช่วยเอาไว้(10 ผู้ก่อตั้ง) เมืองทั้งเมืองมีม่านพลังกั้นเอาไว้จึงทำให้ไม่มีใครสามารถออกไปหรือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาได้เลย และหลังจากที่เซนะรู้ข่าวเธอจึงรีบมุ่งหน้ากลับไปยังชิโอมิทันที ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของพวกมันทุกอย่างเซนะที่รู้ข่าวกำลังไปหาพวกเขาพร้อมกับ cardrare อีก 6 ใบ เมื่อรวมกับ card ที่พวก baron ครอบครองอยู่ cardrare ทั้ง 12 จึงมารวมกันครบพอดี เพราะงั้นหน้าที่ของเช็คเกอร์เฟสจริงๆเลยก็คือการถ่วงเวลาเพื่อไม่ให้ เซนะ ไปยังเมืองชิโอมิได้ทัน  ผ่านไป 7 วันหลังจากที่สงครามเริ่มต้นขึ้นเซนะก็ได้เดินทางไปถึงเมืองชิโอมิและได้พุ่งผ่านม่านพลังเข้าไปอย่างง่ายดาย(พลังเธอทำได้ทุกอย่างจริงๆ)
                         ทางด้านนิโครุที่สู้มาตลอด 7 วันจึงแทบจะสู้ไม่ไหวแล้วแต่ก็ยังฝืนสู้ต่อไปผลก็คือในที่สุดเธอก็ได้พลาดท่าต่อแม่ทัพเทพ(หากแพ้=ตาย)เซนะได้วิ่งเข้ามารับร่างของเธอที่กำลังจะหายไปเอาไว้ทั้งน้ำตา เธอได้เพียงแต่พูดว่าขอโทษๆให้กับร่างของนิโครุที่กำลังจะหายไป และแล้วในที่สุดนิโครุก็ได้หายไปต่อหน้าต่อตาของเซนะ แสงจากร่างของเธอได้รวมกันเป็น card สีดำ 1 ใบเหลือทิ้งเอาไว้ให้กับเซนะ ในตอนนั้นเซนะก็ได้เศร้าจนเลยคำว่าร้องไห้ไปเรียบร้อยแล้วเธอที่สูญเสียคนรักไปจึงได้จิตหลุดไปในที่สุด มีแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้นในตอนนี้ ผลอีกอย่างก็คือมันตรงกับเงื่อนไขของพลังของเธอพอดี หากเมื่อใดก็ตามที่คนที่รักที่สุดของเธอ ตายต่อหน้าต่อตา เมื่อนั้นพลังก็จะถูกปลุกขึ้น เซนะที่พลังตื่นแล้วจึงได้จัดการแม่ทัพเทพตรงกน้าได้อย่างรวดเร็วเธอเคลื่อนที่ได้เร็วมากราวกับวาปได้ ในตอนก่อนที่จะมาเขาได้โทรไปขอกำลังเสริมจากเหล่ารุ่นพี่ที่เรียนจบไปนั่นก็คือพวก ราเซ็น(อดีต 10 ผู้ก่อตั้ง)ให้มาช่วยด้วย พวกเขาจึงได้ทำลายม่านพลังนั้นทิ้งและได้บุกเข้ามาโจมตีพวก baron พร้อมๆกับกองกำลังอื่นๆอีกมากมาย สงครามกำลังดำเนินไปจนถึงช่วงสุดท้ายในตอนนั้นเองเซนะก็ได้ปะทะกับเหล่าแม่ทัพเทพจนเลือดท่วมตัวและได้เดินขึ้นไปยังตึกสูงที่สุดของเมืองเพื่อไปปะทะกับแม่ทัพเทพคนสุดท้ายซึ่งมีนามว่า เนเมซิส! และเขากับเซนะ ผู้ใช้พลังของ cardrare ทั้ง 6 ใบเหมือนกันก็ได้เริ่มการต่อสู้สุดท้ายขึ้นในระหว่างการต่อสู้ทุกครั้งที่เธอใช้ card ใบไหนก็ตาม card ใบนั้นก็จะต้องหายไปนี่เป็นพลังของเนเมซิสจึงเรียกได้ว่าเป็นศึกสุดท้ายของเซนะจริงๆ เหล่าพรรคพวกของเธอค่อยๆหายไปทีละคน ทีละคนจนในที่สุดก็ไม่มีใครเหลืออีกต่อไปแต่นั่นก็ทำให้เนเมซิสต้องพบกับความพ่ายแพ้และกำลังจะหายไปแต่ในขณะนั้นเองมันก็ได้เข้ามาต่อย เตะ กระทืบใส่ร่างของเซนะพร้อมกับยิงปืนใส่ร่างของเธอจนบาดเจ็บสาหัติ(เกมจบคนไม่จบ)    เซนะจึงได้รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายกัดฟันลุกขึ้นมาเอาหมัดชกใส่หน้าของมันไปทีนึงก่อนที่เจ้าตัวจะล้มลงไปอย่างหมดสภาพ และในตอนนั้นเองก็ได้มีเฮลิคอปเตอร์สีดำปรากฏขึ้นด้านหลังของพวกเขาพร้อมๆกับแม่ทัพเทพอีกคนซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับเซนะแบบเป๊ะก่อนที่เธอจะสั่งให้เทียร์(1.1)ในร่างมังกรใช้เคียวตัดหัวของเนเมซิสทิ้งอย่างโหดเหี้ยม และในขณะที่กำลังนอนอึ้งอยู่นั้นราชันย์อันดับที่ 5 และ 2 อย่างอาซามิกับทับทิมก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ทับทิมได้หยิบ cardrare ทั้ง 12 ที่ตกอยู่ที่พื้นเดินไปทางเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับพูดทิ้งท้ายให้กับเซนะเอาไว้ว่า ขอบใจนะ เธอช่วยฉันได้มาเลยล่ะเซนะ... ก่อนที่พวกเขาจะพากันขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้วพากันหนีหายไป เซนะรับรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นการหลอกใช้เธอเพื่อรวบรวม card ทั้ง 12 ใบ การทรยศของทับทิมกับอาซามิถูกฉายไปทั่วโลกและนั่นจึงเป็นเหตุให้ราชันย์ในปัจจุบันทั้งหมดถูกปลดออกจากตำแหน่ง เมืองชิโอมิที่ผ่านพ้นสงครามมาได้จึงต้องได้รับการฟื้นฟู ส่วนทางโรงเรียนชิโอมิก็ได้ถูกปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างหนักจนต้องได้รับการซ่อมแซม ส่วนอุยได้รับบาดเจ็บจนตอนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปแล้ว ทุกๆวันเซนะจึงเอาดอกไม้มาเยี่ยมเธอถึงความจริงซุบารุ(รองผู้อำนวยการ)จะบอกว่าไม่ต้องก็ได้เพราะเซนะในตอนนี้ดูน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าอุยเสียอีก การจากไปของนิโครุทำให้ใบหน้าของเซนะที่แต่ก่อนเคยยิ้มแย้มตอนนี้กับกลายเป็นใบหน้าของคนที่กำลังอมทุกข์ไว้ แต่เซนะก็ขอกับซุบารุจนเขาต้องใจอ่อน เซนะกับอุยนั้นถ้าในมุมมองของซุบารุและคนทั่วไปแล้วสองคนนี้จะไม่ถูกกันมากๆเพราะเซนะมักจะทำเรื่องปวดหัวให้อุยต่อว่าเป็นประจำแต่สำหรับเซนะแล้วอุยก็เปรียบได้กับ แม่ ของเธอเลยทีเดียว เซนะได้กุมมือของอุยเอาไว้พร้อมกับบอกความรู้สึกในใจจริงของเธอทั้งหมดให้กับอุยได้ฟัง "สำหรับผมแล้วคุณน่ะเปรียบเหมือนกับแม่ของผมเลยนะคุณอุย ผมรู้นะว่าที่คุณดุผมอยู่บ่อยๆก็เพื่อจะทำให้ผมปรับปรุงตัวเองให้จริงจังกับชีวิต และผมก็รู้อีกว่าข้าวกล่องที่ใส่ไว้ในใต้โต๊ะของผมทุกวันความจริงแล้วมันเป็นข้าวกล่องฝีมือคุณ ตอนที่ผมถูกแกล้งเอารองเท้าไปซ่อนคุณก็เอารองเท้าคู่ใหม่มาให้ แล้วก็ตอนที่ผมจมน้ำคนที่ช่วยผมเอาไว้ก็คือคุณ คุณอุยผมน่ะตลอดมาคิดว่าคุณกับคุณซุบารุเปรียบดั่งกับพ่อแม่แท้ๆเลยนะ... เพราะงั้น...(น้ำตาไหล) ขอล่ะ... ช่วยลืมตาขึ้นมาทีเถอะ.... "
                          แต่ถึงแม้จะพูดไปก็ไม่มีแม้แต่เสียงตอบกลับเซนะที่เยี่ยมอุยเสร็จแล้วจึงกลับไปที่หลุมศพของนิโครุ ในระหว่างทางก็มีการเคารพหลุมศพของเซร่ากับฟรีดก่อนจะเดินตรงไปยังหลุมศพของนิโครุ เซนะได้ยืนต่อหน้าหลุมศพอยู่อย่างนั้นนานกว่าครึ่งชั่วโมงราวกับจะกำลังทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ตัวเขาในวันงานศพเขาได้ร้องไห้ต่อหน้าหลุมศพตลอด 7 วัน และทั้ง 7 วันนั้นกับมีฝนตกตลอดทั้งวันราวกับท้องฟ้ากำลังร้องไห้ให้กับเธอ... "นิโครุ... พี่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ... พี่ไม่สามารถปกป้องเธอเอาไว้ได้..... "เซนะได้หยุดชะงักไปก่อนจะทำใจและพูดต่อไปอย่างแผ่วเบา ในประโยคสุดท้ายนั้นในที่สุดเซนะก็ได้ยิ้มขึ้นมาราวกับเด็กๆก่อนจะเดินจากหลุมศพของเธอไป....

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562

story 1.2

                             10 ผู้ก่อตั้งนามว่า อามาดิโร่ ได้บุกเข้ามาโจมตีพวกของเซนะเพื่อทดสอบพลังของพวกเขาจนทำให้เซสึนะชายที่เก่งที่สุดของรุ่นได้นอนโรงบาลไป ส่วนพวกห้อง 5(ห้องของพวกเซนะ) คนอื่นๆก็ได้บาดเจ็บกันถ้วนหน้า หลังจากที่เซนะกลับมาและได้ทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเธอก็ได้บุกไปยังที่ที่ 10 ผู้ก่อตั้งและ 10 สุดยอดกำลังประชุมกันอยู่จนเกิดการต่อสู้ขึ้น โชคยังดีที่ผู้อำนวยการ/อาจารย์ของพวกเซนะนามว่า อุย ห้ามเอาไว้ได้ทัน แต่เรื่องมันยังไม่จบเซนะโกรธมากและขอถ้าพวกเขาทั้งหมดต่อสู้ และแล้วการต่อสู้ระหว่าง 10 ผู้ก่อตั้งกับ เซนะก็ได้เริ่มต้นขึ้น เสริมมาด้วยพวกเพื่อนๆของเซนะ little Nova นำโดย มาโกโตะกับลูเมีย พวกของฮาคุโอ นำโดย อามาเนะกับเซเรน่า พวกผู้ใช้ cardrare ทั้ง 12 นำโดย เซร่าและฟรีด พวกจากอนาคตนำโดยลูกสาวของเซนะ ชิโอมิกับเหล่าผู้พิทักษ์ และหนึ่งใน 10 ผู้ก่อตั้งนั้นนำโดยทับทิม ราชันย์อันดับที่ 2 ประกอบอยู่ด้วยนี่จึงไม่ใช่ศึกที่ง่ายอย่างที่คิด เพิ่มเติมก็คือเซนะโดนทับทิมล้างสมองและเข้าร่วมกับพวกเขาจนกลายเป็นหนึ่งใน 10 ผู้ก่อตั้งแถมยังเป็นหัวหน้าของพวกเขาอีกด้วย
และยิ่งกว่านั้น 10 สุดยอด อิชิกิ duo ที่เก่งที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้ก็ได้มาเป็น duo ให้กับเซนะ เซนะจึงใช้พลังที่ได้มาจัดการทีมของพวกมาโกโตะจนแทบจะย่อยยับ การแข่งนั้นถูกจัดขึ้นถึง 7 วันโดย ฝั่งของพวกมาโกโตะมีจำนวนคนทั้งสิ้น 127 คนกับถูกฝ่ายของ 10 ผู้ก่อตั้งที่มีสมาชิกเพียงแค่ 10 คน(ไม่นับ duo)จัดการลงจนเหลือเพียงแค่ 8 คนเท่านั้นในขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวังอยู่นั้นเองโอริกามิก็ได้จัดการ 10 ผู้ก่อตั้งนามว่า เอริกะ ลงได้ทุกอย่างดูเหมือนจะดีขึ้นจนกระทั่งเธอรู้ว่านอกจากตนเองเพื่อนทุกคนของเธอก็ได้แพ้ไปจนหมดแล้ว ใช่แล้วทุกคนแพ้ให้กับเซนะจนหมด ความหวังนั้นยิ่งหายไปเมื่อวันที่ 6 ของการแข่งเธอต้องปะทะกับเซนะและแน่นอนว่าเธอนั้นแพ้ ในขณะที่งานเหมือนจะจบลงในวันนี้ก็ได้มีเหล่ากลุ่มคนที่เป็นความหวังใหม่ปรากฏขึ้น
                              ราชันย์ทั้ง 6 นำโดยโซเฟียได้เข้ามาร่วมงานนี้พร้อมๆกับเหล่าสมาชิกห้อง 5 ที่ได้แอบไปฝึกวิชากันมาพวกเขาทั้งหมดที่เข้าร่วมหากนำ duo นับเข้าไปด้วยสมาชิกในทีมนี้จึงมีราวๆ 30 คน ได้ต่อสู้กับเหล่า 10 ผู้ก่อตั้งที่เหลืออยู่อีก 9 คนนำโดยเซนะ จนท้ายที่สุดโซเฟียก็สามารถนำทีมนี้ชนะไปได้โดยศึกสุดท้ายนั้นคือเซนะกับโซเฟียที่ต่อสู้กันและโซเฟียก็เป็นฝ่ายชนะไปได้ในที่สุดก่อนที่ราเซ็นจะออกมาเฉลยว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นก็เพื่อหาผู้สืบทอดตำแหน่งของพวกตนเพราะว่าอีกไม่กี่เดือนพวกเขาก็จะเรียนจบ และแล้วในตอนจบพวกเซนะก็ได้ไปเป็น 10 ผู้ก่อตั้งโดยมีพิธีอำลาให้กับพวกรุ่นพี่ที่เรียนจบไปพร้อมกันนั้นก็ได้บอกลากับทุกคนเพราะว่าเซนะต้องการที่จะออกเดินทางไปรอบโลกเพื่อฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นกว่านี้โดยเขานั้นได้ใช้สิทธิ์ของ 10 ผู้ก่อตั้งในการไม่เรียนเป็นเวลา 1 ปีเต็มและแล้วการออกผจญภัยของเซนะก็ได้เริ่มต้นขึ้น..... ผ่านไปครึ่งปีเซนะได้อายุย่างจะ 14 เขาได้ไปพัวผันกับคดีๆหนึ่งซึ่งเป็นคดีที่ใหญ่มากจนทุกคนบนโลกยังต้องจับตาเฝ้าระวังเมื่ออยู่ๆเหล่าคนที่นอนหลับอยู่นั้นกับไม่ตื่นขึ้น! โดยทุกคนเรียกปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้กันว่า โรคแห่งฝันร้าย เซนะจึงใช้พลังของตน(ที่ไม่รู้ทำได้ไง)เข้าไปใน โรคแห่งฝันร้าย(ติดอยู่ในความฝัน)โดยที่นั่นเขากับได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดในความฝัน ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ทั้งพ่อแม่ เพื่อนๆ ทุกอย่างทำให้เซนะรู้สึกดีใจมากจนอยากที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป ในขณะที่เซนะกำลังจะถูกโลกแห่งความฝันนี้กลืนกินตนก็ได้ชิโอมิช่วยเอาไว้และแล้วทั้งสองก็ได้ออกสืบจนพบกับความจริงอันน่าตกใจในความฝันนั้น เขาได้รู้ว่าที่ทุกคนนอนหลับไม่ตื่นนี้เป็นฝีมือของ baron หนึ่งในแม่ทัพเทพนามว่า เช็คเกอร์เฟส โดยมันคิดจะทำให้ทุกคนบนโลกไม่ตื่นจากความฝันและจะได้ครองโลก แต่แล้วเซนะก็สามารถปลดปล่อยทุกคนออกมาจากพลังของ เช็คเกอร์เฟสได้ มันที่โกรธมากจึงใช้พลังที่รวบรวมมาจากความฝันเพื่อจัดการกับเซนะ
                               พลังของมันได้ทำให้เมืองที่เซนะอยู่นั้นกลายเป็นโลกที่ความฝันและความจริงเชื่อมต่อกัน ตัวโกงจากในความฝันของเซนะจึงพากันออกมาซึ่งหัวหน้าของพวกมันก็คือไซเฟอร์(ตัวโกงตัวใหม่กับลูกสมุน) ทั้งเมืองได้ตกอยู่ในสงครามเซนะที่ต่อสู้เป็นอยู่คนเดียวจึงต้องรับมือกับเหล่าวายร้ายตัวฉกาจจากความฝันและในตอนนั้นเองโชคก็ดันเข้าข้างเมื่อพรรคพวกของเซนะในความฝันนำโดย โซเฟีย ได้เข้ามาช่วยเขาเอาไว้ เนื่องจากมันเชื่อมกับความฝันของเซนะด้วยจึงทำให้พวกเขาสามารถออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้การต่อสู้จึงเริ่มขึ้นอย่างเต็มรูปแบบและผลก็คือ เช็คเกอร์เฟส ถูกฆ่าตายแต่ทว่าเรื่องมันกับยังไม่จบเมื่อทุกอย่างยังคงไม่หายไป และแล้วในที่สุดไซเฟอร์ก็ได้ออกมาเป่าประกาศความจริงอันน่าตกตระลึงให้ฟังเมื่อมันวางแผนคิดจะมายึดครองโลกแห่งความเป็นจริงตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้ว(ความฝันจะปกครองความจริง!)พวกเซนะจึงต้องร่วมมือกันจัดการไซเฟอร์จนไล่ต้อนมีนจนเกือบจะจนมุมแต่แล้วก็ดันพลิคอีกเมื่ออยู่ๆ duo ปริศนาก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกินร่างของไซเฟอร์ไปจนได้พลังของมันมาและได้เข้าจู่โจมพวกของเซนะจนทีมพินาศ และแล้วมันก็ได้กลืนกินทุกคนที่เป็นความฝันเข้าไปโชคยังดีที่โซเฟียจับมือกับเซนะเอาไว้จึงไม่ถูกมันกิน(พลังของมันเองแต่มันก็ยังไม่รู้ตัวสักที) ทั้งสองจึงได้จัดการกับ duo ปริศนานั้นลงได้ในที่สุดพร้อมกับช่วยทุกคนเอาไว้ได้สำเร็จ ก่อนจบทุกคนได้โบกมือลาเซนะก่อนจะหายไป ส่วนโซเฟียก็ได้บอกรักกับเซนะก่อนที่จะหายไปเป็นคนสุดท้าย~(นก!) ทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยดีแต่ทว่ามันกลับเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของหายนะที่กำลังเกิดขึ้น....
                           

story 1.1

                    หลังจากการกลับมาจากอนาคตเซนะก็ได้ถูกเหล่าราชันย์ทั้ง 7 ในยุคนั้นเรียกรวมตัวโดยมี โซเฟีย ทับทิม โคมาริ นิโครุ ดัน อิสึมิและอาซามิ  คอยอยู่ที่ถภัตคารอาหารชื่อดัง โดยเซนะนั้นคิดว่าการเชิญเขาในครั้งนี้มานั้นจะเป็นการสั่งเก็บตัวเขาเจ้าตัวจึงเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับราชันย์ทั้ง 7 ความจริงแล้วมีเพียงแค่ราชันย์อันดับ 1 อย่างโซเฟียเท่านั้นที่เชิญเซนะมานอกนั้นคือพวกเขาตัดสินใจมากันเอง(ราชันย์อันดับที่ 7 ถึง 2)โดยขณะกำลังรอเซนะที่กำลังหลงทางอยู่นั้นก็ได้เกิดการปะทะกันระหว่างราชันย์กันขึ้นส่วนทางด้านเซนะที่ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นของอาหารก็ได้เดินไปยังห้องครัวและแล้วเขาก็ได้พบกับราชันย์อันดับที่ 2 หรือก็คือ ทับทิม กำลังทำอาหารอยู่เซนะกับทับทิมทั้งสองได้คุยกันจนสนิทสนมกันไปในที่สุด ทั้งสองได้ช่วยกันทำอาหารเพื่อนำมาเสิรฟ์ให้กับแขกหรือก็คือพวกโซเฟียนั่นเอง  หลังจากที่ขนอาหารมาเสิรฟ์พวกเขาก็ได้พบว่าห้องนั้นเละตุ้มเปะไปหมดแล้วเซนะจึงได้เข้าไปห้ามเหล่าราชันย์ที่กำลังอาละวาดอยู่โดยเพิ่งมารู้ทีหลังว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นใคร ทุกอย่างได้กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้งพวกเขาทั้ง 8 คนได้นั่งทานอาหารกันอย่างสงบก่อนที่โซเฟียจะเล่าความจริงเกี่ยวกับเซนะในอดีตให้ฟัง.... ในตอนที่เซนะอายุได้ 5 ขวบเธอได้ปรากฏตัวขึ้นที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษซึ่งตอนนั้นเซนะกำลังจะถูกพวกเด็กเกเรแถวนั้นรังแกอยู่ โซเฟียจึงได้เข้าไปช่วยเซนะโดยที่ในตอนนั้นเซนะเองก็ได้สูญเสียความทรงจำในอดีตไปเหมือนกัน โซเฟียจึงได้ตั้งชื่อให้กับ เซนะ โดยเป็นชื่อ ชิราสากิ เซนะ ซึ่งได้แนวคิดจากมังงะญี่ปุ่นและเธอก็ยังชวนเซนะไปอยู่ด้วยกันอีกด้วย ทั้งสองได้สนิทกันมากขึ้นและกลายเป็นคู่หูคู่ขากันตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
                   โซเฟียได้มอบแหวนหมั้นให้กับเซนะและสัญญาว่าจะแต่งงานกับเซนะแต่เซนะกับคิดว่ามันเป็นของกินจึงตอบตกลงเธอไป 5 ปีให้หลังพวกเธอได้ย้ายเข้าไปเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งโดยเป็นตอนนั้นเองที่พวกเธอได้พบกับพวกทับทิม(ราชันย์อันดับที่ 7-2ในปัจจุบัน)ในระหว่างชีวิตอันแสนสนุกของพวกเขาทั้ง 8 คนกำลังดำเนินไปด้วยดีนั้นอยู่ๆความแตกแยกก็ได้เกิดขึ้นภายในกลุ่มเมื่อโซเฟียดันแอบไปได้ยินเรื่องที่เซนะไปสารภาพรักกับทับทิมเข้า ในตอนนั้นเองจึงเกิดการปะทะกันระหว่างเซนะกับโซเฟียขึ้นและการทะเลาะกันในครั้งนั้นก็ทำให้เซนะเริ่มตีตัวออกห่างจากกลุ่ม และหลังจากที่พวกเขาได้เป็นราชันย์เซนะก็ได้หนีไปอยู่ที่อเมริก้าใต้แต่ในระหว่างทางกับเจออุบัติเหตุจนเรืออัปปางลงนี่จึงเป็นสาเหตุทำให้เซนะลอยขึ้นไปติดฝั่งบนเกาะญี่ปุ่นในสภาพโทรมไปหมดทั้งร่างอีกด้วย ในช่วงที่เล่าจบโคมาริก็ได้เข้ามากอดเซนะด้วยความคิดถึงโดยมีนิโครุที่เป็นน้องสาวได้ออกมาเฉลยว่าโคมาริเองก็เป็นน้องสาวอีกคนของเซนะ ในช่วงก่อนงานจะจบนิโครุขอให้เซนะเดินตามตนออกมาคุยกันข้างนอกและเธอก็ได้เล่าความจริงยิ่งกว่าให้ฟัง ในตอนที่เซนะสารภาพรักกับทับทิมนั้นเขาเพียงแค่หวังว่าจะได้กินอาหารฝีมือของทับทิมเพียงเท่านั้นซึ่งเขาก็ถูกปฏิเสธจากทับทิมไป ส่วนเรื่องของราชันย์นั้นในวันแข่งเพื่อคัดเลือกราชันย์รุ่นใหม่ที่สาเหตุที่เซนะไม่เข้าร่วมและโดนทุกคนทิ้งนั้นก็เพราะต้องการให้นิโครุไปเป็นราชันย์เนื่องจากทีมนึงมีสมาชิกได้เพียงแค่ 7 คนแต่ทีมของพวกเขาดันมีกัน 8 คน และนิโครุก็เป็นคนที่อ่อนที่สุดในกลุ่มเซนะจึงได้สละตำแหน่งของตนให้กับนิโครุ และตอนที่เซนะไปอเมริกาความจริงแล้วเธอไปสืบเรื่องของ baron จนได้ข้อมูลสำคัญมาและในขณะที่กำลังจะนำข้อมูลมาบอกพวกโซเฟียเซนะก็ถูกแม่ทัพเทพถึง 7 คนตามมาเล่นงาน
                   สาเหตุที่นิโครุรู้นั่นก็เพราะทับทิมกับอาซามิเป็นคนบอก เพราะเซนะในตอนนั้นได้บอกกับพวกทับทิมเผื่อเอาไว้อีกทีนึง หลังจากฟังความจริงทั้งหมดนิโครุก็ได้บอกรักกับเซนะส่วนเซนะเองก็ได้บอกรักกลับและทั้งสองได้จูบกันบนดาดฟ้าของภัตตาคาร(ซิสค่อนทั้งคู่)ก่อนจะเดินคู่กันกลับเข้าไปในภัตตาคารอีกครั้ง โซเฟียได้เชิญให้เซนะไปอยู่กับตนแต่เจ้าตัวดันปฏิเสธเพราะต้องการจะสะสางเรื่องที่ญี่ปุ่นก่อน หลังจากวันนั้นพวกโซเฟียก็ได้กลับประเทศของตนไปส่วนเซนะกับนิโครุนั้นก็ได้มีชีวิตอันหวานแหววของคู่รักกันอย่างหวานฉ่ำ ทั้งสองได้โทรหากันอยู่หลายครั้งหลายหนเพราะตอนนี้อยู่กันคนละโรงเรียน และบางครั้งก็จะออกมาเดทกันข้างนอกอีกด้วย แต่ความสุขก็เริ่มจะหายไปเมื่อเหล่า baron ได้เริ่มเคลื่อนไหวครั้งใหญ่โดยการเริ่มตามล่าหา cardrare ทั้ง 12 ใบที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกอย่างจริงจัง โดยพวกมันได้จัดการกับเหล่าผู้ครอบครอง card เหล่านั้นอย่างโหดเหี้ยมทั้ง ตัดหัว ฉีกร่างออก เสียบไม้ ตรึงกับไม้กางเขนเป็นต้น หลังจากที่เซนะกลับมาที่ชิโอมิอีกครั้งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เหล่าผู้แข็งแก่งที่สุดของโรงเรียนชิโอมิ 10 ผู้ก่อตั้ง นำโดย ราเซ็น(master) กับ 10 สุดยอด(duo) นำโดย อิซิกิ กลับมา พวกเขาทั้งหมดคือกลุ่มนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดของชิโอมิที่สำคัญคือพวกเขาทุกคนมีพลังที่ถัดเทียมกับราชันย์เลยก็ว่าได้

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

story 1

                   ชิราสากิ เซนะ เด็กสาวที่สูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก ตัวเขาทื่ตื่นขึ้นมากลางป่าได้เจอกับ duo! สิ่งมีชีวิตจากดาวเครย์ซึ่งมีหน้าที่คอยช่วย master หรือก็คือมนุษย์อย่างพวกเซนะในการต่อสู้ที่ใช้ card เป็นอาวุธ  ซึ่ง duo ของเซนะคือ เทียร์ สาวน้อยสุดโลลิร่างจริงเป็นมังกรสุดชั่วร้าย กับ นกชื่อ พิเกีย ซึ่งมีร่างจริงเป็นเพกาซัส ได้เข้ามาช่วยเหลือเขาที่มีแผลเต็มตัวเอาไว้ จากนั้นพวกเขาทั้งสามก็ได้ออกเดินทางจนมาถึงเมืองฮิโตมิ ที่เมืองแห่งนี้เซนะได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนฮิโตมิซึ่งกำลังจะปิดตัวลงโดยนักเรียนในโรงเรียนนั้นนำโดย มาโกโตะ กับ ลูเมีย เป็นผู้นำได้กลายมาเป็นเพื่อนของเซนะและได้ก่อตั้งองค์กรณ์ที่มีชื่อ little nova ขึ้นมาโดยพวกเขานั้นได้เดินทางไปทั่วญี่ปุ่นและได้เข้าช่วยเหลือเมืองต่างๆที่พวกเขาเดินทางผ่าน ในระหว่างการเดินทางนั้นพวกเขาก็ได้ปะทะกับองค์กรณ์ที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกนามว่า baron ทำให้พรรคพวกของเขาเริ่มทยอยตายไปทีละคนๆและแล้วการต่อสู้แบบเต็มรูปแบบระหว่าง little nova กับ baron ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
                   โดยสมาชิกระดับสูงทั้ง 17 คนของ baron จะมีฉายาว่า แม่ทัพเทพ โยฮันเนส ผู้อำนวยการของฮิโตมิเองก็เป็นหนึ่งในนั้นและเหล่าอาจารย์เองก็เป็นสมาชิกของ baron พวกเซนะจึงได้ปะทะกับพวกของโยฮันเนสอย่างช่วยไม่ได้ และการต่อสู้ครั้งนั้น เซนะ คือผู้ที่เหลือรอดเพียงคนเดียว เพื่อนๆของเขาทุกคนได้ตายไปจนหมด เซนะจึงได้ตัดสินใจออกเดินทางไปยังเมืองต่อไปซึ่งก็คือเมืองชิโอมิตามคำแนะนำของพิเกียและเข้าเรียนที่โรงเรียนชิโอมิ เซนะได้เข้าร่วมงานแข่งแห่งหนึ่งและได้เจอกับคนจากโรงเรียนฮาคุโอนามว่า เซเรน่า กับ อามาเนะ ตัวเขาที่ได้ปะทะกับเซเรน่าจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสไปพร้อมๆกัน อามาเนะจึงเข้ามาช่วยทีมของเซนะในขณะที่เจ้าตัวพักฟื้นอยู่ จากนั้นเซเรน่าจึงได้เข้าร่วมกับทีมของเซนะหลังจากที่รักษาตัวหายดีแล้ว พวกเธอทั้งสองได้ปะทะกับโทโดและเหล่าผู้พิทักษ์ซึ่งเป็นแชมป์ของงานนี้มาตลอด 10 ปี แต่ด้วยการเล่นโกงของโทโดทำให้พวกอามาเนะได้รับบาดเจ็บสาหัติก่อนที่เซนะจะพุ่งตัวเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันและได้ลงมือจัดการกับโทโดและลูกสมุนจนหมด สุดท้ายโทโดกับพรรคพวกก็ถูกจับโดยฝีมือของเซนะกับพรรคพวก หลังจากนั้นไม่นานเซนะก็ได้ย้ายเข้าไปเรียนที่ฮาคุโอในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน
                   card แรร์ทั้ง 12 ว่ากันว่ามันมีพลังอำนาจมากมายมหาศาลและมันก็คือเป้าหมายอย่างหนึ่งของ baron เซนะที่เป็นผู้ครอบครอง card จาก 2 ใน 12 cardrare จึงตกเป็นเป้าของเหล่า baron โดยพวกมันได้บุกมาโจมตีถึงฮาคุโอจนเกิดความเสียหายมากมาย เซนะที่ค้นหาที่อยู่ของพวกมันเจอจึงบุกเดี่ยวไปถึงรังของมันและได้ปะทะเข้ากับแม่ทัพเทพถึง 2 คน จนพลาดท่าและโดนหนึ่งในแม่ทัพเทพนามว่า โซระ เข้ายึดร่าง โชคยังดีที่พวกจากชิโอมิ ฮาคุโอ และ เซร่า กับ ฟรีด ที่เป็นผู้ครอบครอง cardrare ด้วยเหมือนกันกับเซนะเข้ามาช่วยไว้ได้ทันการต่อสู้จึงจบลงที่พวกเซนะชนะ หลังจากพักฟื้นตัวสำเร็จเซนะก็ได้เข้าไปลงแข่งในงานระดับภาคซึ่งตัวเขากับได้เจอ แม่ทัพเทพถึง 2 คนโดยตอนที่เขาจนมุมนั้นก็ได้มีชายปริศนาเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน และเขาก็คือ มาโกโตะ อดีตพรรคพวกของเซนะที่น่าจะตายไปแล้ว ไม่ใช่แค่นั้นพรรคพวกคนอื่นๆจากฮิโตมิก็ดันปรากฏตัวขึ้นอย่างคาดไม่ถึง พวกเขาทั้งหมดได้เข้าร่วมกับ baron เพื่อจัดการกับเซนะการต่อสู้ระหว่างเซนะกับพวกเขาจึงเริ่มขึ้น และในที่สุดเซนะก็ได้พ่ายแพ้ให้กับมาโกโตะและความจริงทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย
                    พวกเขาที่ตายไปแล้วได้เจอกับพระเจ้าและพระเจ้าก็ได้ทำให้พวกเขากลับไปยังโลกมนุษย์ได้อีกครั้งโดยก่อนหน้านั้นพวกเขาต้องฝ่าฝันอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่จากพระเจ้าซึ่งพวกเขาก็สามารถผ่านมันไปได้ สาเหตุที่พวกเขาเข้าร่วมกับ baron ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการจะฆ่าเซนะแต่เพียงแค่จะกันเธอให้ออกห่างจากการต่อสู้กับพวก baron แต่เพราะเซนะจึงทำให้พวกเขารวมทั้งมาโกโตะต้องเปลี่ยนแผนจนทรยศต่อพวก baron ในที่สุด ในขณะที่พวกเขา little nova กับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งแม่ของมาโกโตะจากอนาคตก็ได้โผล่มาพาตัว มาโกโตะกับ ลูเมีย ไปยังอนาคตต่อหน้าต่อตาเซนะทำให้เธอต้องตามไปยังอนาคตเพื่อไปพาตัวทั้งสองคนกลับมา มาโกโตะกับลูเมียทั้งสองนั้นแต่เดิมก็เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ยังเด็กแต่แล้วแม่ของเขา ลิลิธ ก็ได้จับพวกเขาทั้งสองคนเตรียมที่จะหมั้นกันพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะพากันหนีมายังอดีตเพื่อที่จะหนีงานหมั้น เซนะที่มาถึงอนาคตจึงได้พบกับหายนะเมื่อที่นั่นลิลิธได้เตรียมกองกำลังคนเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อที่จะจัดการเซนะอยู่แล้ว และในพวกนั้นยังมี 7 ราชันย์ เหล่าคนที่เก่งที่สุดจากแต่ละทวีปร่วมอยู่ด้วยเซนะที่ปะทะกับราชันย์อันดับที่ 3 จึงพ่ายแพ้ลงไปในที่สุด
                   ในขณะที่ทุกอย่างกำลังจะจบลงตัวเขาก็ถูกตัวเองในอดีตช่วยเอาไว้และพาไปฝึกวิชาจนกลับออกมาพร้อมกับพลังใหม่และได้เริ่มสู้อีกครั้งโดยปะทะเข้ากับราชันย์อันดับที่ 7 และ 6 จนเอาชนะมาได้ ในขณะเดียวกันลูกสาวของเซนะกับ duo ของเขาจากอนาคตก็ได้มาช่วยสู้จนจัดการราชันย์อันดับที่ 5 และ 4 ลงไปได้ในที่สุดพร้อมกับรีบตามมาสมทบกับเซนะที่จัดการราชันย์อันดับที่ 3 ได้สำเร็จและแล้วพวกเขาก็ต้องสู้กับราชันย์อันดับที่ 2 และ 1 ซึ่งมาดักรออยู่เกือบชั้นบนสุด ชิโอมิได้ถูกจัดการลงอย่างง่ายดายจึงทำให้เซนะต้องปะทะกับราชันย์อันดับที่ 2 และ 1 ตามลำพัง และแล้วเขาก็ได้เอาชนะไปได้และมุ่งหน้าต่อไปเพื่อที่จะไปหยุดพิธีหมั้นนั่น แต่แล้วเขาก็ถูกลิลิธที่ดักรออยู่จัดการตบลงไปถึงชั้นร่างสุดโดยเซนะนั้นแพ้ให้กับลิลิธิย่างขาดลอย ลิลิธ แม่ของมาโกโตะนั้นเป็นถึง queen ราชินีของโลกผู้ที่มีพลังมากที่สุด มาโกโตะกับลูเมียจึงใช้ช่วงชลมุนหนีออกมาจากงานหมั้นเพื่อมาช่วยเซนะจนทั้งสามต้องปะทะเข้ากับลิลิธ เซนะในอดีตจึงมอบพลังให้กับทั้งสามคนเพื่อใช้สู้กับลิลิธจนสามารถเอาชนะไปได้ในที่สุด

                   ลิลิธที่เห็นความมุ่นมั่นของทั้งสามจึงปล่อยพวกเขาไป ในตอนจบของศึกอนาคตมาโกโตะกับลูเมียได้ขออยู่ที่อนาคตเพื่อซ่อมแซมเมืองที่ถูกทำลายลงเพราะการต่อสู้ในครั้งนี้โดยให้สัญญาว่าเมื่อเสร็จจากตรงนี้แล้วพวกเขาจะกลับไปช่วยเซนะสู้กับ baron อย่างแน่นอน
                   

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562

256


                                               "รู้สึกตัวแล้วสินะมาโกโตะคุง.. พวกเรากำลังวิ่งวนไปมาอยู่ที่เดิม"

                                               ราวกับถูกฟ้าผ่าลงมาที่ตัวเขา เด็กหนุ่มได้ลุกขึ้นยืนบนรถพร้อมกับจ้องไปทางคนขับรถที่ดูแล้วไม่น่าไว้วางใจ เซนะที่เห็นท่าไม่ดีจึงยืนขึ้นตามพร้อมกับกอดแขนของมาโกโตะเอาไว้อย่างแน่น

                                                คนขับเองก็ดูเหมือนว่าจะรู้ตัวแล้วว่าถูกจับได้เขาจึงลุกขึ้นมาจากที่นั่งคนขับ ในขณะเดียวกันนั้นพวงมาลัยรถก็ยังคงหมุนและขับต่อไปอย่างไม่หยุดทั้งๆที่ตรงนั้นไม่มีใครบังคับอยู่เลยแท้ๆ
                                           
                                                 เขาได้หันมาทางนี้พร้อมกับค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว

                                                 ตัวเขานั้นมีรูปร่างสูงผอม ผมสสีน้ำตาล คางเรียวยาว ชุดของเขานั้นเป็นชุดของคนขับรถเมย์แต่พอมองดูดีๆแล้วสภาพของมันกับดูซอมซ่อแบบแปลกๆ ที่ใบหน้านั้นมองเห็นได้ไม่ชัดเพราะดันมีหมวกมาบังเอาไว้อยู่ แต่มาโกโตะกับพอจะคาดเดาใบหน้าของเขาได้แบบลางๆผ่านทางโครงสร้างของใบหน้า

                                                "ในที่สุดก็รู้ตัวแล้วสินะครับ" รอยยิ้มได้ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเขา ถึงตรงนี้มาโกโตะก็ไม่ไว้ใจเขาอีกต่อไปแล้ว

                                                "พวกฉันว่าจะลงแล้วเดินไปเองแล้วล่ะเพราะงั้นช่วยจอดรถทีจะได้ไหม"

                                                "เกรงว่าผมคงจะทำให้ไม่ได้หรอกครับ"

                                                "เดี๋ยวฉันจะให้ค่าเสียเวลาเพิ่มละกัน"

                                                "งั้นก็พอดีเลยครับ งั้นผมขอชีวิตคุณผู้โดยสารเป็นค่าเสียเวลาละกัน"

                                             

                                                 
255


                                              มีอะไรแปลกๆ! มาโกโตะได้มองไปรอบๆรถเมย์โดยสารที่เหมือนจะสภาพไม่ไหวแล้วอย่างใจจดใจจ่อ

                                              ก็จริงอยู่ว่าที่หิมะตกหนักขนาดนี้คงจะไม่มีไอบ้าคนไหนอยากจะออกเดินทางไปไหนมาไหนนักหรอกแต่ว่าการที่มีแค่พวกเรานั่งอยู่นี่ก็ทำเอาบรรยากาศไม่ค่อยดีเลยแฮะ รถเองก็ดูเก่ามากๆด้วยที่นั่งเองก็ดูสกปรกมากเกินไปถึงจะบอกว่ามันดูสมเหตุสมผลกับการที่ไม่มีใครอยากจะขึ้นก็เถอะแต่มันก็เกินไป
          
                                             ตัวเขาได้ลูบหัวของเซนะไปพลางๆราวกับมันจะช่วยทำให้เขาผ่อนคลายได้บ้าง สาวน้อยเองก็ดูเหมือนจะรู้สึกถึงความกังวลใจเล็กๆที่กำลังก่อตัวขึ้นอยู่ในอกเรื่อยๆจนเธอถึงกับลุกขึ้นมานั่ง

                                             "ป...เป็นอะไรหรือเปล่าเซนะ  อยู่ดีๆก็ลุกขึ้นนั่ง"

                                             "นี่มาโกโตะคุงลองมองออกไปนอกหน้าต่างสิ"

                                             ตัวเขาได้มองออกไปตามคำบอกของเธอจนพบกับป่าสนขนาดใหญ่ที่เห็นได้ทั่วไปตามทางชนบทแบบนี้ก่อนจะหันมาถามด้วยความสงสัย

                                             "แล้วทำไมหรอ?"

                                             "ก็จริงอยู่นะว่าเพราะเป็นแทบชนบทที่ห่างไกลความเจริญแต่ว่านะลองมองมันดูดีๆสิ"

                                             "จ้าๆ~ "ตัวเขาได้ขานรับเธอดุจดั่งสามีที่เชื่อฟังภรรยาด้วยสีหน้างงๆก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่คนธรรมดาๆจะไม่มีทางเห็นได้อย่างเด็ดขาด

                                             ภาพของต้นสนต้นเดิมๆที่กำลังฉายซ้ำไปซ้ำมาราวกับกำลังฉายหนังเรื่องเดิมซ้ำๆ
                                           

                                           

254


                                        ในระหว่างที่พวกเขากำลังโดยสารรถเมย์เก่าๆคันนึงอยู่นั้นเซนะก็ได้มองออกไปริมหน้าต่างเพื่อที่จะมองทิวทัศน์รอบๆก่อนจะหันมามองหน้าของมาโกโตะที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

                                        "เป็นอะไรไปหรอมาโกโตะคุง" สาวน้อยนั้นเหมือนรู้งาน เธอได้เขยิบเข้ามาใกล้ๆเขาอย่างน่าเอ็นดู หนุ่มน้อยจึงตอบสนองความน่ารักนั้นของเธอด้วยอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น

                                        "ฉันไม่เป็นอะไรหรอกเธอนั่นแหละไหวไหม"

                                        "อะไรไหวหรอ"

                                        "ก็แบบเมื่อคืนนั้นไง ที่ฉันทำเธอหนักไปหน่อยจนแดงไปหมดเลย"

                                        "ก็รู้สึกเจ็บๆอยู่นิดหน่อยนะแต่ว่าไม่เป็นอะไรหรอก"

                                        "ฉันก็อยากจะเชื่อเธออยู่หรอกนะเซนะ แต่เผอิญว่าเธอดันเป็นคนชอบพูดเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจเพราะงั้นฉันคงจะเชื่อเธอไม่ลงหรอก"

                                        "งั้นจะถอดชุดให้ดูเอาไหม"

                                        "แน่นอน! แต่ไม่ใช่ที่นี่รอหาที่เหมาะๆก่อนฉันจะตรวจดูทุกซอกทุกมุมของเธอแบบละเอียดเลย" ตัวเขาได้ใช้มือห้ามเซนะที่กำลังจะเตรียมถอดชุดออกอย่างรู้ทัน สาวน้อยเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจได้แล้วจึงหยุดความคิดนี้ไปก่อนที่จะมานั่งซบอกของหนุ่มน้อยอย่างน่ารัก

                                   
253


                                         เช้าวันรุ่งขึ้น!

                                         พวกเขาก็ได้ออกเดินทางจากเมืองนั้นเพื่อมุ่งหน้าไปที่เมืองชิโอมิโดยมีชาวบ้านต่างพากันมายืนโบกมือลาพวกเขากันอย่างอบอุ่น อันที่จริงหิมะนั้นก็ยังตกอยู่แถมมันยังไม่ค่อยจะสงบลงมากนักแต่พวกเขาก็มีเหตุผลที่จะต้องรีบออกเดินทาง

                                         นั่นก็เพราะเบลด้า! หลังจากที่พวกเขาตื่นขึ้นมาและเตรียมจะเรียกเบลด้าที่อยู่ห้องข้างๆมาทานข้าวด้วยพวกเขากับพบว่าเบลด้านั้นได้หายตัวไปอย่างลึกลับและที่เตียงนอนของเขากับพบกับเศษกระดาษที่เขียนข้อความจากเขาเอาไว้ว่า

                                         โทษทีแต่ฉันเป็นห่วงพวกเพื่อนๆก็เลยอยากจะออกเดินทางไปหาพวกนั้นเร็วๆ ถึงจะอยู่ด้วยกันไม่นานแต่ฉันก็สนุกมาก เซนะ มาโกโตะ ฉันหวังว่าพวกนายจะรักกันนานๆนะแล้วก็ขอให้สมหวังกันด้วย พวกนายน่ะเป็นคนดีเกินไปจนฉันไม่อยากจะให้พวกนายต้องมาเป็นอะไรไป ขอโทษด้วยนะสำหรับความหวังดีแต่ต่อจากนี้ฉันจะลุยเดี่ยวเอง จากเบลด้าสุดเท่!

                                        พวกเขาจึงได้รีบออกเดินทางตามเบลด้าไปในทันทีที่ได้อ่านข้อความนี้ท่ามกลางหิมะอันแสนไม่น่าไว้วางใจ

                                        เพราะพวกเขาถามทางจากคนในหมู่บ้านนั้นมาไว้ก่อนแล้วไม่นานนักพวกเขาก็ได้เจอกับถนน และได้รีบโบกมือขึ้นรถเมย์โดยสารแถวนั้นเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองถัดไปไปในทันที

                                         
252


                                      "อยากแล้วสินะ"

                                      "งื้อ..." เสียงตอบของเธอนั้นแผ่วเบามาก คงจะเป็นเพราะว่าเธออาจจะกำลังเขินอายอยู่ก็เป็นได้

                                      แต่แบบนี้ก็มองดูน่ารักไปอีกแบบ "งั้นก็~" มาโกโตะไม่รอช้ารีบผลักเธอลงไปนอนพร้อมกับเอาผ้าห่มสะบัดขึ้นมาห่มร่างของพวกตนจนมิดและเริ่มทำเรื่องลามกกัน

                                      "ม...มาโกโตะคุงอย่าดูดแรงแบบนั้นสิ~ "

                                      "ก็แบบมันอดใจไม่ไหวแล้วนี่น่า~"

                                      "ม...ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้>//////<"

                                      "ทำไมอ่ะ?"

                                      "ก็แบบว่า... ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันเป็นของมาโกโตะคุงหมดแล้ว..."

                                      "เซน้าาาาาาา~!"

                                      "ว๊ายยยยย~! มาโกโตะคุงเริ่มมาก็ใส่เลยหรอ! แบบนี้เค้าจะไม่ไหวเอาน้าาาาาา~ !"

                                      อ๊างงงงงง~! เสียงร้องครางของสาวน้อยได้ดังออกมาจากภายในผ้าห่ม ก่อนที่เธอจะถูกทำแบบเดิมอีกกว่าสิบๆครั้ง

                                 
                                     
251


                                   อันที่จริงมาโกโตะก็พูดเกินความจริงไปเยอะพอสมควร

                                   ถึงเธอจะทำตัวเหมือนเด็กอยู่บ้างแต่นั่นมันก็แค่นิสัย ทั้งความสามารถและสติปัญญาของเธอนั้นเติบโตจนล้ำอายุไปไกลโขแล้ว ร่างกายเองก็เช่นกัน ทั้งขนาดหน้าอกที่ใหญ่มากจนไม่คิดว่าจะเป็นขนาดของเด็กสาวมอต้นเอวและสระโพกที่ดูดีอย่างไร้ที่ติเองก็เซ็กซี่ชวนให้ใครหลายๆคนที่เห็นต้องหัวใจเต้นรัวกันไปตามๆกัน

                                   เด็กหนุ่มที่เห็นสาวน้อยน่ารักคนนี้กำลังร้องไห้จึงเขยิบหน้าเข้าไปจูบเธอเบาๆเพื่อให้เธอหยุดร้อง แต่จากตอนแรกที่คิดว่าจะแค่จูบสั้นๆตอนนี้มันกลับเป็นการดูดปากไปเสียแล้ว

                                   ลิ้นของทั้งสองได้พันกันขณะกำลังแลกน้ำลายอยู่แต่ภายในปาก มือของเขาได้เอื้อมเข้าไปกอดเธอเอาไว้แน่นๆจากนั้นมือก็ค่อยๆเริ่มเขยิบต่ำลงมาเรื่อยๆจนสัมผัสกับแก้มก้นของเธอ

                                   มันเป็นสัมผัสอันเนียนนุ่มที่รู้สึกดีมากจนแทบไม่อยากจะหยุดมือ เขาได้คลำมันไปเรื่อยๆจนมีเสียงหลุดของสาวน้อยดังขึ้น เธอเองก็ดูเหมือนจะมีอารมณ์ร่วมเข้าให้เสียแล้ว

                                   การดูดปากของทั้งสองจึงหยุดลงเพื่อให้พวกเขาได้พักหายใจกันก่อน

                                   "ม..มาโกโตะคุง... ฉัน... "
250


                                   ดูเหมือนว่าเธอเองจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างจากท่าทางของเขาเธอจึงกอดตอบเขากลับไปก่อนที่สาวน้อยจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงน่าฟัด

                                   "คืนนี้ฉันคงไม่ได้นอนอีกแล้วสินะ~"

                                   "ถ้าเธอไม่ไหวฉันจะหยุดก็ได้นะ"

                                   "ไม่อ่ะๆ ก็แบบถ้ามันทำให้มาโกโตะคุงมีความสุขได้กับแค่ความเหนื่อยแค่นี้น่ะมันจิ๊บๆ"

                                   "ตัวแค่นี้แต่เก่งจังเลยนะเรา" เขาได้คลายกอดออกก่อนจะนำใือข้างหนึ่งมาลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน

                                   "มาโกโตะคุงทำเหมือนฉันเป็นเด็กเลยอ่ะ"

                                   "ในสายตาของฉันเธอน่ะเหมือนเด็กอายุ 7 ขวบไม่มีผิด"

                                   "ตรงไหนอ่ะ!"

                                   "เกือบหมดทุกตรงเลย"

                                   "โหดร้ายยยยย~!" สาวน้อยถึงกับน้ำตาไหลพรากลงมาอย่างกับน้ำตกด้วยสีหน้าเอ๋อหน่อยๆ
249


                               "เปล่าหรอก.. พอดีว่าฉันลองคิดดูเล่นๆน่ะ"

                               "เธอไม่ต้องคิดมากไปหรอกเซนะ"

                               "ทำไมอ่ะ?"

                               "เพราะว่าการผจญภัยของเรามันยังมีต่อไปอีกเยอะแยะมากมายเลย ทั้งตอนที่พวกเราสร้างบ้านหลังเล็กๆอยู่ ทั้งตอนเข้าโรงเรียน ไม่แน่ว่าบางทีพวกเราอาจจะได้ไปเที่ยวที่อนาคตก็ได้"

                               ที่เขากล่าวมาทั้งหมดมันคือความต้องการของเขาล้วนๆ เขาอยากจะสร้างบ้านให้กับเซนะอยากจะให้เธอได้เรียนหนังสือ และถ้าหากเป็นไปได้ตัวเขาก็อยากที่จะพาเธอไปยังอนาคต อนาคตที่เขาจากมา

                               อยากจะแนะนำเพื่อนๆของเขาให้รู้จัก อยากจะโชว์เทคโนโลยีใหม่ๆจากอนาคตให้เธออึ้ง และอยากจะไปกล่าวขอโทษเพื่อนคนสำคัญ

                               ความฝันได้พุ่งพล่านออกมาเรื่อยๆในหัวของเขาแต่ทว่าทุกอย่างมันคงจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดทั้งหมด เขาจึงหยุดคิดกับความฝันบ้าบอนั่นแล้วหัวมาสนใจสาวน้อยที่กำลังกอดตนอยู่ข้างๆ

                               และในไม่ช้าตัวเขาก็ได้หันมากอดสาวน้อยร่างเล็กอย่างทะนุถนอม...

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562

248


                                           ไม่นานนักกลิ่นหอมอันแสนน่าเย้ายวนก็ได้พัดโชยออกมาตามสายลมจากข้างหลังของเขา ถึงแม้จะไม่ได้หันไปดูแต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเซนะที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังฟังจากเสียงฝีเท้าแล้วดูเหมือนว่าเธอจะกำลังเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ อ้อมแขนอันอ่อนนุ่มทั้งสองได้โอบกอดที่คอของเขาจากทางด้านหลัง

                                           มาโกโตะจึงได้หันหน้ามาหาเธอที่กำลังส่งยิ้มหวานให้กับเขาอยู่

                                           "มาโกโตะคุงกำลังทำอะไรอยู่หรอ~"

                                           "ฉันกำลังนั่งรอเธออยู่ไงเซนะ"

                                           ถึงแม้จะเป็นบนเตียงก่อนเข้านอนแต่เธอก็เลือกที่จะใส่ชุดนอนเป็นเพียงแค่เสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวหนึ่งกับชุดชั้นในสีขาวเผยให้เห็นท่อนล่างอันแสนเซ็กซี่แบบสุดๆทำเอาเขาแทบจะอดใจไม่ไหว หน้าอกที่ล้นออกมาจากชุดกำลังวเบียดเสียดไปมาอยู่ข้างหลังของเขา กลิ่นอายของเธอเองก็มีความหอมมากสักยิ่งกว่าพวกน้ำหอมราคาแพงพวกนั้นเสียอีก ตัวเธอที่เพอ่งออกมาจากห้องน้ำหมาดๆนั้นจึงยังมีส่วนที่ยังเปียกๆหลงเหลืออยู่และเพราะแบบนั้นเองชุดที่เธอใส่จึงแนบไปกับเนื้อของเธอจนได้วัมผัสเน้นๆทุกครั้งที่ร่างกายเบียดเสียดกันไปมา

                                           บรรยากาศเองก็เป็นใจให้ไม่น้อย...

                                           ในตอนนี้พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่บนเตียงแบบสองต่อสอง หากเขาจะลงมือทำอะไรกับเซนะก็คงจะไม่มีใครเข้ามาขัดได้อย่างแน่นอน

                                           สาวน้อยเองก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวเลยว่าเธออาจจะไม่ได้นอนทั้งคืนก็ได้

                                           "นี่มาโกโตะคุงถ้าหากว่าพวกเราไปถึงเมืองชิโอมิได้แล้วล่ะก็การผจญภัยของพวกเราก็คงจะจบลงสินะ"

                                           "ใครบอกเธอมาหรอ?"

                                           

                                           

                                         

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562

247


                                                           "รู้สึกว่าการกระทำมันดูขัดๆกับคำพูดนะ..."

                                                           "พูดมากน่า!" แรงบีบอัดได้เพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัวจนหน้าตาของเบลด้าเริ่มบูดเบี้ยวตามรูปร่างที่กำลังโดนบีบอัด

                                                           "นี่เซนะฉันว่าน่าจะเอาเจ้านี่ไปทำเป็นอาหารมื้อเช้าสักเลยนะ เนื้อดูท่าทางแน่นดีด้วย"

                                                           "ไม่น้า~ !" สัญชาตญาณของมันบอกว่าขืนเป็นแบบนี้ไม่น่ารอดแน่มันจึงรีบพุ่งไปอ้อนเซนะ สาวน้อยตรงหน้าผู้ที่เป็นความหวังเดียวของมันอย่างสุดชีวิต

                                                           "เซน้า~! ช่วยด้วย~!"

                                                           "โอ๋ๆ~ ไม่ต้องกลัวไปนะเบลด้า นี่มาโกโตะคุงก็อย่าไปแกล้งเบลด้าเขามากสิ ดูสิตัวสั่นใหญ่เลย" แล้วก็เป็นไปตามคาดเธอพร้อมที่จะช่วยเหลืออย่างที่คิด เซนะได้อุ้มเบลด้าขึ้นมากอดราวกับแม่ที่กำลังกอดปลอบใจลูกชาย ทว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนจะไม่ถูก

                                                           ในระหว่าที่เบลด้ากำลังนอนกอดหน้าอกของเซนะอยู่นั้นมันก็ได้แอบแหงนหน้ามามองเขาด้วยรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายที่ยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก

                                                            ไอเจ้าหมอนี่~! สายตาอาฆาตแบบสุดๆได้จ้องไปทางมันพร้อมๆกับปล่อยออร่าสุดน่าสะพรึงกลัวออกมา

                                                            จากค่ำคืนที่แสนจะโรแมนติกจึงจบลงด้วยความแค้นของมาโกโตะที่มีต่อเบลด้าและก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองไม่ถูกกัน เบลด้าเองหลังจากที่กินอิ่มแล้วจึงบินไปนอนบนเตียงของอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆกับห้องของพวกเซนะ

                                                            เด็กหนุ่มได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านทางหน้าต่างของห้องเพื่อแก้เซ็งขณะที่กำลังรอเซนะที่เข้าไปอาบน้ำอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง
246


                                               "ว่าแต่มาโกโตะคุงรีบทานต่อเถอะ"

                                               "ค๊าบๆ~ กลัวอาหารเย็นหมดก่อนใช่ไหมล่ะ~"

                                               "เปล่านะ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก.."

                                               "อ้าว.. งั้นกลัวอะไรอ่ะ?"

                                               เซนะได้จ้องมองต่ำลงมาที่โต๊ะอาหารตัวเขาจึงมองต่ำตามเธอลงมาจนพบกับเบลด้าที่สวาปามอาหารไปจนครึ่งโต๊ะแล้ว

                                               "กลัวเบลด้าจะทานหมดก่อนน่ะ"

                                               "นี่แก~ !!!"

                                               "แว๊กกกกก~ !" มาโกโตะได้รีบลุกขึ้นไปจับเบลด้าที่กำลังอ้าปากเตรียมพร้อมจะกินสเต็กที่อยู่บนจานมามะเหงกหัวไปมาอย่างน่าโมโห

                                               "ไอเราก็ว่าอยู่ว่าทำไมอาหารมันหายไปไหนที่แท้ก็เพราะนายนี่เองเบลด้า"

                                               "ก็พวกนายมัวแต่เลิฟซีนกันอยู่ฉันก็เลยกลัวว่าอาหารมันจะเย็นหมดสักก่อนก็เลยจะช่วยกินให้ก็เท่านั้นเอง~ "

                                               "แหม่ๆ~ ขอบคุณสำหรับความหวังดีน้า~ ช่างน่าซึ้งใจจริงจริ๊งงงงงง~"
แรงอัดได้เพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัวจนเริ่มเห็นหน้าของเบลด้าเปลี่ยนรูปร่างจากทรงกลมบล็อกเป็นทรงกระบอกและมันก็ค่อยๆแคบลงเรื่อยๆ  ใจเย็นๆเพ่~

245


                                         แต่อันที่จริงเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องนึกภาพให้เสียเวลาเพราะคนที่ทำอาหารจานนี้ได้นั่งทานอาหารอยู่ตรงหน้าของเขาอยู่แล้ว

                                         "เธอทำอาหารจานนี้สินะเซนะ" คำถามนี้เขาแทบจะไม่ต้องการคำตอบใดๆเลย นั่นก็เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นคนทำ

                                         รสชาติอันแสนมหัศจรรย์ที่ยิ่งกว่าเวทย์มนต์นี้คนที่จะทำอาหารจานแบบนี้ได้เท่าที่เขารู้จักก็มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นนั่นก็คือแม่ของเขากับเซนะ....

                                         "รู้ได้ไงอ่ะ" สาวน้อยได้ถามขึ้นก่อนจะกัดผลของเชอรี่เป็นคำเล็กๆและทานมันเข้าไปอย่างช้าๆ

                                         "อาหารของเธอฉันกินอยู่ทุกวันเพราะงั้นทำไมแค่นี้ฉันจะไม่รู้ล่ะ" ถึงความจริงมันจะมีมากกว่านั้นก็เถอะ... ตัวเขาไม่อยากจะพูดออกมาสักเท่าไหร่นักเพราะที่ตรงนี้นอกจากพวกเขาแล้วก็ยังมีพนักงานรวมถึงนักบรรเลงเพลงอยู่ห่างจากพวกเขาไปแค่ไม่กี่เมตร

                                         แต่ที่แน่ๆอาหารของเธอนั้นพูดได้เต็มปากเลยว่า

                                         เหนือกว่าอาหารของโรงแรมนี้อยู่หลายขุมมาก ต่อให้เป็นเชฟที่เก่งกาจขนาดไหนมาทำแข่งกับเธอก็ยังยากที่จะเอาชนะรสชาตินี้ของเธอลงได้

                                         สาวน้อยที่ได้ฟังแบบนั้นจึงทำหน้ามุ่ยออกมา

                                         "อะ..อ้าวเป็นอะไรไปหรอทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ"

                                         "ก็มาโกโตะคุงรูทันอ่ะ เลยอดเซอร์ไพส์เลย"

                                         "ข..ขอโทษละกัน แฮะ แฮะ..."

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562

244 


                                   เดิมทีที่ที่พวกเขานั่งคุยกันอยู่นั้นก็เป็นที่รับประทานอาหารได้อยู่แล้วซึ่งนั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเดินออกไปนั่งทานข้าวกันที่อื่นเลยแม้แต่น้อย แต่ความคิดของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อเจอกับโต๊ะอาหารบนดาดฟ้าของโรงแรมที่ตอนนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งจนมองเห็นดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับบนฟากฟ้าได้อย่างชัดเจน
                                   ซึ่งกลุ่มดาวเหล่านี้ยิ่งทำให้บรรยากาศในการทานข้าวได้อรรถรสเพิ่มขึ้รนไปอีก คงเพราะเป็นแถบชนบทจึงสามารถเห็นดาวได้ชัดเจนงั้นสินะแถมมันยังสวยยิ่งกว่าของท้องฟ้าจำลองอีกด้วย  ฉันไม่แปลกใจเลยที่เธอรีบเรียกพวกเรามาเซนะ....  มาโกโตะได้หันหน้าไปหาเธอพร้อมกับรอยยิ้ม และเซนะเองก็ได้ยิ้มตอบเขากับมา 
                                   และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พวกเขาส่งยิ้มให้กัน เสียงดนตรีจากการบรรเลงเพลงของนักดนตรีที่อยู่ข้างหลังก็ได้เริ่มต้นขึ้นมาโกโตะที่เกิดนึกสงสัยจึงหันไปมองทางต้นเสียงโดยคอนดักเตอร์หรือคนที่เป็นผู้คุมเพลงได้หันมายิ้มให้กับมาโกโตะ มันเป็นรอยยิ้มจากชายแก่ๆคนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันอบอุ่นมากๆ 
                                   เขาที่หันไปสบตากับคอนดักเตอร์แก่ๆราวกับพ่อบ้านคนนั้นได้สักพักจึงได้หันกลับมาหาเซนะเพื่อเป็นการไม่ให้เสียโอกาส   
                                   หลังจากที่พวกเราทั้งสามนั่งลงบนโต๊ะทานอาหารก็ได้มีการยกอาหารมาเสิร์ฟแทบจะทันทีโดยอาหารนั้นออกแนวไปทางอาหารฟูลคอร์สออกแนวอิตาลีซึ่งอาหารบางจานก็ดูประณีตและสวยงามจนแทบจะไม่อยากจะทานสิ่งสวยงามเหล่านี้เลย
                                   ถึงจะเป็นแถบชนบทแต่การบริการนั้นกับรู้สึกเทียบเท่ากับโรงแรมหรือภัตคารใหญ่ๆภายในเมืองไม่มีผิด ความคิดนี้ได้ผุดขึ้นมาจากความรู้สึกของเขาหลังจากที่ได้รับประทานอาหารท่ามกลางบรรยากาศรอบๆที่ดูสุดยอดมากๆ
                                   ตัวเขาที่กำลังเพลิดเพลินกับทุกอย่างที่ดูดีมากๆนี้แล้วกับต้องหยุดชะงักเมื่อเจอกับอาหารจานหนึ่งที่ดูแตกต่างจากทุกๆจานที่เขาเคยกินและเห็นมาจากที่นี่ ระดับอาหารของมันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจนมากๆ ทั้งความประณีต ความชำนาญ ทักษะ ทุกๆอย่างของคนทำได้บ่งบอกออกมาจากอาหารจานนี้หมดแล้ว
                                   ตัวเขาไม่รอช้ารีบตัดมันเป็นชิ้นเล็กก่อนที่จะนำมันเข้าไปในปากทันที รสชาติของอาหารจานนั้นได้เกินคำว่าอร่อยไปแล้ว ทั้งสัมผัสอันเหนียวนุ่ม รสชาติแฝงมากมาย เครื่องเทศต่างๆอีกหลายชนิด เพียงแค่คำแรกเท่านั้นเขาถึงกับวางมีดกับซ่อมลงแล้วนึกถึงหน้าของคนทำอาหารจานนี้ได้อย่างชัดเจน
243


                                           "ฉันว่าบางทีนายก็แสนรู้เกินไปนะเบลด้า"

                                           "นี่นายหลอกด่าฉันใช่ไหม"

                                           มังกรจิ๋วได้ทำท่าทางไม่พ่อใจแก่เด็กหนุ่ม แต่ท่าทางมันดูน่ารักเกินไปจนดูขัดกับอารมณ์ในตอนนี้เลย

                                           ถ้าเป็นเซนะคงไม่วายพุ่งเข้าไปกอดเบลด้าแน่ๆ มาโกโตะรีบนึกภาพของสาวน้อยสุดน่ารักที่พุ่งเข้ามากอดมังกรกระต่ายตัวนี้พร้อมกับเอาหน้าถูๆไถๆไปมาได้อย่างชัดเจน

                                           หลังจากที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่นานไม่นานนักเซนะในชุดผ้ากันเปื้อนก็ได้เดินมาตามพวกเขาทั้งสองไปทานข้าว ทันทีที่พวกเขาเห็นชุดของเธอก็ถึงกับรับดาเมจนี้ไม่ไหวจนเลือดกำเดาถึงกับไหลย้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก

                                           ถึงจะบอกว่าเธอในชุดกันเปื้อนแต่เธอก็ไม่ได้ใส่เพียงแค่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียวแต่อย่างใด ชุดของเธอที่เป็นชุดนักเรียนสีแดงขาวก็ยังสวมอยู่เพียงแต่ว่ามันถูกเพิ่มเข้ามาด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาวซึ่งในยามปกติเซนะก็เป็นคนที่น่ารักมากอยู่แล้ว เธอที่มาพร้อมกับความน่ารักเมื่อรวมกับผ้ากันเปื้อนสีขาวก็ทำให้ค่าความน่ารักเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัวเลยก็ว่าได้

                                           พลังทำลายล้างนี้สามารถทำให้เด็กหนุ่มกับมังกรหนุ่มแทบจะกระอักเลือดกันไปตามๆกันเลยก็ว่าได้

                                           อึ่ก.. พลังทำลายสูงมาก!

                                           "อยู่นี่เองมาโกโตะคุงแล้วก็เบลด้าด้วยตอนนี้ได้เวลาทานข้าวแล้วนะรีบไปทานมันก่อนที่จะเย็นดีกว่านะเดี๋ยวจะจืดหมด กำลังร้อนๆได้ที่เลยด้วย"

                                           "จ้าาาา~ " ทั้งสองพร้อมใจกันพูดออกมาอย่างพร้อมเพียงก่อนจะเดินนำเซนะไปยังห้องอาหาร