242
"ถ้านายตัดสินใจได้แบบนั้นฉันก็ไม่ว่าอะไร..."
ตลอดเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันถึงมันจะไม่นานมากนักแต่เบลด้ากับรู้สึกว่าตนสามารถเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความสามารถของทั้งสอง พวกเขาสองคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถถึงแม้จะยังไม่เผยออกมาให้เห็นในตอนนี้ก็ตามและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องปกป้องทั้งสองคนเอาไว้
"นี่มาโกโตะ นายสนใจที่จะมาทำสัญญากับฉันไหม"
"สัญญา"
duo และ master จะแสดงพลังออกมาได้ก็ต่อเมื่อได้ทำสัญญากัน ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องปฏิเสธเพราะเขาเองก็ต้องการพลัง
พลังที่จะปกป้องคนสำคัญ!
แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะทำสัญญากับเบลด้าเหมือนกัน
"โทษนะแต่ฉันขอไม่ทำสัญญากับนายละกัน"
"นายมีคนที่จะทำสัญญากับนายอยู่แล้วสินะ"
วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561
วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
241
ในตอนนี้เซนะคือคนที่สำคัญสำหรับเขาและเขาก็ไม่ยอมแน่หากคนที่สำคัญที่เขารักจะต้องเป็นอันตรายเพราะงั้นการให้เขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด แต่ถึงกระนั้น...
"นายคิดหรือว่าเธอจะยอม เท่าที่ฉันดูเธอจะต้องมาด้วยแน่ๆหากรู้ว่าพวกเราไปเจอกับอะไร"
"นายจะไปกับฉันจริงๆหรอเบลด้า!"
"ก็ฉันรู้ทางทำไมอ่ะ! แล้วนายก็อย่ามาเปลี่ยนเรื่องด้วย!!!"
"ขอโทษ" เขาถึงกับเหยียดยิ้มเมื่อถูกรู้ทันทุกอย่างแถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ถูก duo รู้ทันด้วย
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกฉันเตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้ว"
"ฉันหวังว่ามันจะได้ผลนะ"
"ก็ไม่รู้สิ"
"แต่ฉันบอกได้เลยว่าถ้าหากเซนะตามมาด้วยบางทีในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดหากพวกเราตายไปล่ะก็เซนะอาจจะต้อง.... " แค่คิดถึงภาพที่เบลด้าเคยเห็นมันก็ถึงกับหน้าซีดเผือก มาโกโตะเองก็พอจะเดาได้ไม่ยากเพราะว่ายังไงๆเซนะก็เป็นเด็กผู้หญิงแถมยังสวยขนาดนี้อีกด้วย
แต่ว่านั่นก็ไม่ได้อยู่ในความคิดของเขาตั้งแต่แรก เพราะอะไรนะหรอ.. นั่นก็เพราะว่าเขาไม่คิดที่จะแพ้!
"ไม่ต้องห่วงเบลด้าถ้ามีฉันอยู่เรื่องพวกนั้นก็ไม่มีทางเกิดขึ้นกับเซนะอย่างแน่นอน!"
ในตอนนี้เซนะคือคนที่สำคัญสำหรับเขาและเขาก็ไม่ยอมแน่หากคนที่สำคัญที่เขารักจะต้องเป็นอันตรายเพราะงั้นการให้เขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด แต่ถึงกระนั้น...
"นายคิดหรือว่าเธอจะยอม เท่าที่ฉันดูเธอจะต้องมาด้วยแน่ๆหากรู้ว่าพวกเราไปเจอกับอะไร"
"นายจะไปกับฉันจริงๆหรอเบลด้า!"
"ก็ฉันรู้ทางทำไมอ่ะ! แล้วนายก็อย่ามาเปลี่ยนเรื่องด้วย!!!"
"ขอโทษ" เขาถึงกับเหยียดยิ้มเมื่อถูกรู้ทันทุกอย่างแถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ถูก duo รู้ทันด้วย
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกฉันเตรียมแผนรับมือเอาไว้แล้ว"
"ฉันหวังว่ามันจะได้ผลนะ"
"ก็ไม่รู้สิ"
"แต่ฉันบอกได้เลยว่าถ้าหากเซนะตามมาด้วยบางทีในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดหากพวกเราตายไปล่ะก็เซนะอาจจะต้อง.... " แค่คิดถึงภาพที่เบลด้าเคยเห็นมันก็ถึงกับหน้าซีดเผือก มาโกโตะเองก็พอจะเดาได้ไม่ยากเพราะว่ายังไงๆเซนะก็เป็นเด็กผู้หญิงแถมยังสวยขนาดนี้อีกด้วย
แต่ว่านั่นก็ไม่ได้อยู่ในความคิดของเขาตั้งแต่แรก เพราะอะไรนะหรอ.. นั่นก็เพราะว่าเขาไม่คิดที่จะแพ้!
"ไม่ต้องห่วงเบลด้าถ้ามีฉันอยู่เรื่องพวกนั้นก็ไม่มีทางเกิดขึ้นกับเซนะอย่างแน่นอน!"
240
ก่อนจะแยกย้ายกันมาโกโตะได้หันมาคุยกับเบลด้าโดยบอกให้เซนะไปเตรียมทำอาหารเย็นจนตอนนี้เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
"จริงจังได้แล้วสินะ"
"รู้ด้วยหรอ??"
"หากคนฉลาดสองคนมาเจอกันมันมักจะจับไต๋กันได้น่ะ"
"นายใช่คนหรอ~"
"พิกัดของหัวหน้าของมันอยู่ที่เมืองถัดจากตรงนี้ไปอีก 5 เมืองโดยระหว่างทางที่ฉันผ่านเมืองพวกนั้นมาบอกได้เลยว่ามันมีสภาพไม่ต่างอะไรกับนรก"
"ชั่งมันสิ! เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็จะไป"
"แล้วเซนะล่ะ!"
"ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่นี่!"
สายตาของเขาเริ่มจริงจังขึ้นมา
ก่อนจะแยกย้ายกันมาโกโตะได้หันมาคุยกับเบลด้าโดยบอกให้เซนะไปเตรียมทำอาหารเย็นจนตอนนี้เหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
"จริงจังได้แล้วสินะ"
"รู้ด้วยหรอ??"
"หากคนฉลาดสองคนมาเจอกันมันมักจะจับไต๋กันได้น่ะ"
"นายใช่คนหรอ~"
"พิกัดของหัวหน้าของมันอยู่ที่เมืองถัดจากตรงนี้ไปอีก 5 เมืองโดยระหว่างทางที่ฉันผ่านเมืองพวกนั้นมาบอกได้เลยว่ามันมีสภาพไม่ต่างอะไรกับนรก"
"ชั่งมันสิ! เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็จะไป"
"แล้วเซนะล่ะ!"
"ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่นี่!"
สายตาของเขาเริ่มจริงจังขึ้นมา
239
"เข้าใจก็ดีแล้ว" เขาได้ถอนหายใจโล่งอก
"แตว่านะ"
"???"
"ถ้ามันจำเป็นฉันก็จะใช้มันอ่ะ0v0"
"นี่เธอ~!!!!" มาโกโตะทำท่าเหมือนจะกำลังโกรธให้ได้เลย
"เพราะงั้นช่วยสอนวิธีการใช้ให้กับเขาหน่อยจิ(เค้าอยากใช้ได้อ่ะ)"
( แป๊ว~! )
คำพูดสุดท้ายได้ทำให้มาโกโตะสงบลงในทันที
"โอเคร~ งั้นวันนี้พอแค่นี้ละกันแยกย้ายๆ"
"เดี๋ยวจิ~ สอนเค้าก่อนน้าาา~"
"ฝันไปเถอะ!"
"เข้าใจก็ดีแล้ว" เขาได้ถอนหายใจโล่งอก
"แตว่านะ"
"???"
"ถ้ามันจำเป็นฉันก็จะใช้มันอ่ะ0v0"
"นี่เธอ~!!!!" มาโกโตะทำท่าเหมือนจะกำลังโกรธให้ได้เลย
"เพราะงั้นช่วยสอนวิธีการใช้ให้กับเขาหน่อยจิ(เค้าอยากใช้ได้อ่ะ)"
( แป๊ว~! )
คำพูดสุดท้ายได้ทำให้มาโกโตะสงบลงในทันที
"โอเคร~ งั้นวันนี้พอแค่นี้ละกันแยกย้ายๆ"
"เดี๋ยวจิ~ สอนเค้าก่อนน้าาา~"
"ฝันไปเถอะ!"
238
"แต่ว่า!"
"???"
"พลังนี้แม่บอกกับฉันเอาไว้ว่า มันจะบั่นทอนชีวิตของผู้ใช้ไปเรื่อยๆจนในที่สุดคนๆนั้นก็จะต้องตาย"
"เข้าใจแล้ว! เป็นอย่างงี้นี้เอง!" เซนะได้พูดตอบขณะที่กำลังยิ้มออกมา
"นี่ฉันซีเรียสนะ!"
"ทำไมอ่ะ???"
"ก็เพราะว่าถ้าหากเธอใช้พลังนั่นละก็เธอจะมีอายุขัยที่สั้นลงยังไงล่ะ!"
"แล้ว??"
"ย่าของฉันเองจากที่ได้ยินมาจากแม่ท่านได้เสียชีวิตตอนอายุเพียงแค่ 30 กว่าๆเพราะใช้พลังนี้มากเกินไป เพราะงั้นที่ฉันตั้งใจเล่าให้เธอฟังขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าฉันไม่อยากให้เธอใช้พลังนั้เข้าใจไหม"
"อื้ม"
"แต่ว่า!"
"???"
"พลังนี้แม่บอกกับฉันเอาไว้ว่า มันจะบั่นทอนชีวิตของผู้ใช้ไปเรื่อยๆจนในที่สุดคนๆนั้นก็จะต้องตาย"
"เข้าใจแล้ว! เป็นอย่างงี้นี้เอง!" เซนะได้พูดตอบขณะที่กำลังยิ้มออกมา
"นี่ฉันซีเรียสนะ!"
"ทำไมอ่ะ???"
"ก็เพราะว่าถ้าหากเธอใช้พลังนั่นละก็เธอจะมีอายุขัยที่สั้นลงยังไงล่ะ!"
"แล้ว??"
"ย่าของฉันเองจากที่ได้ยินมาจากแม่ท่านได้เสียชีวิตตอนอายุเพียงแค่ 30 กว่าๆเพราะใช้พลังนี้มากเกินไป เพราะงั้นที่ฉันตั้งใจเล่าให้เธอฟังขนาดนี้นั่นก็เพราะว่าฉันไม่อยากให้เธอใช้พลังนั้เข้าใจไหม"
"อื้ม"
237
"โอเครงั้นฟังต่อนะ"
"อื้ม!"
"สนใจฉันมั่งดิโว๊ยยยยย~!!!" เบลด้าได้ลุกขึ้นมาตระโกนเรียกความสนใจแต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาเลย แม้แต่เซนะเองก็ตาม
เธอในตอนนี้อยากรู้เกี่ยวกับพลังที่ตนมีจึงนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ
"สาเหตุจริงๆที่แม่อยากให้ฉันเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงนั่นก็เพราะว่าจะให้ฉันได้มีพลังนี้นั่นเองเพราะว่าพลังนี้มีเพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้"
"ต่อเลยๆ" เซนะได้จ้องมาโกโตะอย่างตาไม่กระพริบ เธอให้อารมณ์เหมือนกับแมวน้อยน่ารักที่ตอนนี้กำลังจดจ่อและสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
"เอิ่ม... งั้นต่อนะ แม่ฉันเล่าว่าพลังนี้สามารถทำให้ผู้ใช้เห็นอนาคตล่วงหน้าได้รวมทั้งลางสังหรณ์และสิ่งที่ผุดขึ้นมาในลางสังหรณ์นั้นจะเป็นเรื่องจริงอาทิเช่น เธอสังหรณ์ว่าวันนี้ฝนจะตกและไม่ทันไรฝนก็จะตกจริงๆ"
"ส...สุดยอด!"
"โอเครงั้นฟังต่อนะ"
"อื้ม!"
"สนใจฉันมั่งดิโว๊ยยยยย~!!!" เบลด้าได้ลุกขึ้นมาตระโกนเรียกความสนใจแต่ก็ไม่มีใครสนใจเขาเลย แม้แต่เซนะเองก็ตาม
เธอในตอนนี้อยากรู้เกี่ยวกับพลังที่ตนมีจึงนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ
"สาเหตุจริงๆที่แม่อยากให้ฉันเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงนั่นก็เพราะว่าจะให้ฉันได้มีพลังนี้นั่นเองเพราะว่าพลังนี้มีเพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้"
"ต่อเลยๆ" เซนะได้จ้องมาโกโตะอย่างตาไม่กระพริบ เธอให้อารมณ์เหมือนกับแมวน้อยน่ารักที่ตอนนี้กำลังจดจ่อและสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
"เอิ่ม... งั้นต่อนะ แม่ฉันเล่าว่าพลังนี้สามารถทำให้ผู้ใช้เห็นอนาคตล่วงหน้าได้รวมทั้งลางสังหรณ์และสิ่งที่ผุดขึ้นมาในลางสังหรณ์นั้นจะเป็นเรื่องจริงอาทิเช่น เธอสังหรณ์ว่าวันนี้ฝนจะตกและไม่ทันไรฝนก็จะตกจริงๆ"
"ส...สุดยอด!"
236
( อ้าว~! ) คำถามใหม่ได้ผุดขึ้นทันที
" งั้นมาโกโตะคุงรู้ได้ยังไงอ่ะ!? "
" แม่ฉัน "
\\ แม่! //
มาโกโตะนั้นได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ของตนพร้อมกับได้ฝึกวิชาและความรู้ต่างๆมามากมายหนึ่งในนั้นก็คือพลังนี้...
" แม่ของฉันเขาเคยบอกเอาไว้ว่าอยากให้ฉันเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิง "
" เพราะนายมันน่าหมั่นไส้สินะ(ฉลาดเกินจนตูรับไม่ได้) แอ่ก! "
อยู่ๆโรงเท้าข้างหนึ่งก็ได้บินมาประทับเข้าที่เบ้าหน้าของเบลด้าเข้าอย่างจังจนลงไปนอนสลบอยู่ที่พื้น เซนะจึงจิ้มๆดูเพื่อยืนยันว่าตายยัง
" ยังมีชีวิตอยู่ไหม??"
" เลิกจิ้มเถอะ! "
( อ้าว~! ) คำถามใหม่ได้ผุดขึ้นทันที
" งั้นมาโกโตะคุงรู้ได้ยังไงอ่ะ!? "
" แม่ฉัน "
\\ แม่! //
มาโกโตะนั้นได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ของตนพร้อมกับได้ฝึกวิชาและความรู้ต่างๆมามากมายหนึ่งในนั้นก็คือพลังนี้...
" แม่ของฉันเขาเคยบอกเอาไว้ว่าอยากให้ฉันเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิง "
" เพราะนายมันน่าหมั่นไส้สินะ(ฉลาดเกินจนตูรับไม่ได้) แอ่ก! "
อยู่ๆโรงเท้าข้างหนึ่งก็ได้บินมาประทับเข้าที่เบ้าหน้าของเบลด้าเข้าอย่างจังจนลงไปนอนสลบอยู่ที่พื้น เซนะจึงจิ้มๆดูเพื่อยืนยันว่าตายยัง
" ยังมีชีวิตอยู่ไหม??"
" เลิกจิ้มเถอะ! "
235
"ก่อนอื่นเลยเพราะว่าเซนะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างฉันจึงได้พาเธอมา"
"อื้ม~! ฉันสังหรณ์ใจไม่ดีก็เลยตามลางสังหรณ์มาน่ะ"
"แต่ฉันว่ามันไม่ใช่ลางสังหรณ์หรอก~"
"หมายความว่าไงอ่ะ???" เบลด้ากับเซนะพร้อมใจกันงงและทำสีหน้าเอ๋อๆ
"ตระกูลชิราสากิคือตระกูลมิโกะ!"
\\ มิโกะ!? //
"ในอดีตบรรพบุรุษของพวกเราได้ใช้พลังนี้เพื่อต่อกรกับความชั่วร้ายเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้กล้าและคอยชี้นำพวกเขาเพื่อโค่นล้มอสูรร้ายที่มีพลังถึงขั้นเป่ามิติจนกระจุยได้เลยนามว่า ราฟาเอโร่ และพลังนั้นก็คือ ลางสังหรณ์สุดยอดกับพลังในการหยั่งรู้อนาคต"
"สุดยอด! นายเองก็มีด้วยอ่ะดิ!"
"เปล่าฉันไม่มีพลังแบบนั้นหรอก"
"ก่อนอื่นเลยเพราะว่าเซนะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างฉันจึงได้พาเธอมา"
"อื้ม~! ฉันสังหรณ์ใจไม่ดีก็เลยตามลางสังหรณ์มาน่ะ"
"แต่ฉันว่ามันไม่ใช่ลางสังหรณ์หรอก~"
"หมายความว่าไงอ่ะ???" เบลด้ากับเซนะพร้อมใจกันงงและทำสีหน้าเอ๋อๆ
"ตระกูลชิราสากิคือตระกูลมิโกะ!"
\\ มิโกะ!? //
"ในอดีตบรรพบุรุษของพวกเราได้ใช้พลังนี้เพื่อต่อกรกับความชั่วร้ายเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้กล้าและคอยชี้นำพวกเขาเพื่อโค่นล้มอสูรร้ายที่มีพลังถึงขั้นเป่ามิติจนกระจุยได้เลยนามว่า ราฟาเอโร่ และพลังนั้นก็คือ ลางสังหรณ์สุดยอดกับพลังในการหยั่งรู้อนาคต"
"สุดยอด! นายเองก็มีด้วยอ่ะดิ!"
"เปล่าฉันไม่มีพลังแบบนั้นหรอก"
วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561
234
"อื้ม!"
เธอได้ส่งยิ้มให้กับเบลด้าในขณะที่มันกำลังอ้าปากค้างพร้อมๆกับหันไปมองมาโกโตะสลับกับเธอไปมาอย่างตกใจ
เบลด้ารู้ได้ทันทีว่าเธอไม่มีทางโกหกเขาอย่างแน่นอนเพราะงั้นเขาถึงได้ตกใจมากเมื่อรู้ว่าทั้งหมดที่เล่ามานั้นคือความเป็นจริง
"impossible~!!!! , when pig fly~!!!"
"แต่มันเป็นไปแล้วน่ะสิ~"
"ขอฉันทำใจแป๊บ!"
หลังจากที่คิดหนักกันอยู่นานการประชุมก็ได้ดำเนินต่ออีกครั้ง
เซนะได้นำชามาเสิร์ฟให้กับทั้งสองคนก่อนจะมานั่งที่และจิบชาของตนไปอย่างสบายใจ
สองคนนั้นจึงเริ่มดื่มชาตามก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทีนึง
"โอเคร! มาประชุมกันต่อ!"
"อื้ม!"
เธอได้ส่งยิ้มให้กับเบลด้าในขณะที่มันกำลังอ้าปากค้างพร้อมๆกับหันไปมองมาโกโตะสลับกับเธอไปมาอย่างตกใจ
เบลด้ารู้ได้ทันทีว่าเธอไม่มีทางโกหกเขาอย่างแน่นอนเพราะงั้นเขาถึงได้ตกใจมากเมื่อรู้ว่าทั้งหมดที่เล่ามานั้นคือความเป็นจริง
"impossible~!!!! , when pig fly~!!!"
"แต่มันเป็นไปแล้วน่ะสิ~"
"ขอฉันทำใจแป๊บ!"
หลังจากที่คิดหนักกันอยู่นานการประชุมก็ได้ดำเนินต่ออีกครั้ง
เซนะได้นำชามาเสิร์ฟให้กับทั้งสองคนก่อนจะมานั่งที่และจิบชาของตนไปอย่างสบายใจ
สองคนนั้นจึงเริ่มดื่มชาตามก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทีนึง
"โอเคร! มาประชุมกันต่อ!"
233
เบลด้าแตกต่างจากเซนะตรงที่เขาไม่ได้รู้เรื่องของมาโกโตะผู้ซึ่งมาจากอนาคตจึงมีความตกใจไม่มากก็น้อยเมื่อเจอกับคำอธิบายครั้งนี้เข้าไป
ทางฝั่งของเซนะเองก็ได้มีคำถามขึ้นจากคำอธิบายเมื่อกี้นี้ของเขา
"แล้วมาโกโตะคุงเคยตรวจสอบไหมว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ในประวัติศาสตร์ในอดีตหรือเปล่า???"
"จะว่าไปฉันก็ยังไม่ได้ตรวจสอบเลยนี่น่า.. , แต่ว่าถ้าหากฉันเป็นคนที่มีผลต่อประวัติศาสตร์ในอดีตจริงๆล่ะก็ป่านนี้ฉันคงมีชื่อเสียงจนถูกกล่าวขึ้นบุคคลสำคัญของโลกแล้วล่ะ!"
หลังจากที่เงียบไปไม่นานเขาก็ได้ฉุกคิดเรื่องนึงขึ้นมาได้ เดี๋ยวก่อนนะ! ถ้าหากฉันดันไปทำอะไรที่ส่งผลให้ตัวเองมีชื่อในประวัติศาสตร์ล่ะก็มีหวังแม่รู้แน่ว่าเราอยู่ยุคนี้ โธ่เว้ย~! รู้งี้หน้าไปอนาคตแทน!
"เอิ่ม.. เซนะฉันตามไม่ทันแล้วอ่ะ" มังการจิ๋วได้เข้ามาสะกิดสาวน้อยเซนะจึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง หละงจากที่เบลด้าได้ฟังจบก็ได้มีเสียงอุทานขึ้นมาว่า what!!!
"คนจากอนาคต! เจ้านั่นเนี่ยนะ!"
เบลด้าแตกต่างจากเซนะตรงที่เขาไม่ได้รู้เรื่องของมาโกโตะผู้ซึ่งมาจากอนาคตจึงมีความตกใจไม่มากก็น้อยเมื่อเจอกับคำอธิบายครั้งนี้เข้าไป
ทางฝั่งของเซนะเองก็ได้มีคำถามขึ้นจากคำอธิบายเมื่อกี้นี้ของเขา
"แล้วมาโกโตะคุงเคยตรวจสอบไหมว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ในประวัติศาสตร์ในอดีตหรือเปล่า???"
"จะว่าไปฉันก็ยังไม่ได้ตรวจสอบเลยนี่น่า.. , แต่ว่าถ้าหากฉันเป็นคนที่มีผลต่อประวัติศาสตร์ในอดีตจริงๆล่ะก็ป่านนี้ฉันคงมีชื่อเสียงจนถูกกล่าวขึ้นบุคคลสำคัญของโลกแล้วล่ะ!"
หลังจากที่เงียบไปไม่นานเขาก็ได้ฉุกคิดเรื่องนึงขึ้นมาได้ เดี๋ยวก่อนนะ! ถ้าหากฉันดันไปทำอะไรที่ส่งผลให้ตัวเองมีชื่อในประวัติศาสตร์ล่ะก็มีหวังแม่รู้แน่ว่าเราอยู่ยุคนี้ โธ่เว้ย~! รู้งี้หน้าไปอนาคตแทน!
"เอิ่ม.. เซนะฉันตามไม่ทันแล้วอ่ะ" มังการจิ๋วได้เข้ามาสะกิดสาวน้อยเซนะจึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง หละงจากที่เบลด้าได้ฟังจบก็ได้มีเสียงอุทานขึ้นมาว่า what!!!
"คนจากอนาคต! เจ้านั่นเนี่ยนะ!"
232
เขาต้องการข้อมูลมากกว่านั้เพื่อยืนยันในหลายๆเรื่องให้แน่ชัดสักก่อน
"ก่อนอื่นฉันอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรณ์ที่นายหนีรอดออกมาได้หน่อยเบลด้า"
"ซีกสแกล์"
"???"
"มันคือชื่อขององค์กรณ์สินะ"
"ถูกต้อง โดยคนที่ฉันหนัีมาได้มันเป็นหัวหน้าหน่วยย่อยนามว่า ซิกส์!"
"ฉันเคยได้ยินชื่อนี้! ดูเหมือนว่าเขาจะมีชื่อเต็มๆว่า ซิกส์ เอ็ดเวิด เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องแต่ความอัจฉริยะของเขานั้นเป็นของจริงและเป็นที่ยอมรับกัน ในอนาคตเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์โดยตรงเลยเพราะว่าเขานั้นจะคิดค้นสิ่งที่สูตรยาอมตะขึ้นมาได้ซึ่งในอนาคตสูตรยาพวกนี้ได้ถูกทำลายลงไปจนหมดสิ้นเพราะมันคือการเล่นแร่แปรธาตุแห่งความมืดที่ไม่ควรถูกค้นพบและไม่ควรถูกล่วงรู้ในตอนนี้ยาอมตะของเขามีเหลืออยู่เพียงแค่ 3 หลอดเท่านั้น และในช่วงแรกของการทดลองเขาได้พรากชีวิตของผู้คนและ duo จำนวนมากไปแต่ฉันก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามันจะเป็นช่วงนี้เวลานี้และฉันก็ขอบอกได้เลยว่าหากเป็นเขาคนนั้นจริงๆแม้แต่ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะถ้าหากฉันทำอะไรผิดพลาดลงไปมันจะส่งผลต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้อย่างแน่นอน ตัวตนของเขานั้นมีความสำคัญจริงๆ"
เบลด้าถึงกับต้องอ้าปากค้างให้กับเขาหลังจากที่ได้ฟังจนจบ
เขาต้องการข้อมูลมากกว่านั้เพื่อยืนยันในหลายๆเรื่องให้แน่ชัดสักก่อน
"ก่อนอื่นฉันอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรณ์ที่นายหนีรอดออกมาได้หน่อยเบลด้า"
"ซีกสแกล์"
"???"
"มันคือชื่อขององค์กรณ์สินะ"
"ถูกต้อง โดยคนที่ฉันหนัีมาได้มันเป็นหัวหน้าหน่วยย่อยนามว่า ซิกส์!"
"ฉันเคยได้ยินชื่อนี้! ดูเหมือนว่าเขาจะมีชื่อเต็มๆว่า ซิกส์ เอ็ดเวิด เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องแต่ความอัจฉริยะของเขานั้นเป็นของจริงและเป็นที่ยอมรับกัน ในอนาคตเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์โดยตรงเลยเพราะว่าเขานั้นจะคิดค้นสิ่งที่สูตรยาอมตะขึ้นมาได้ซึ่งในอนาคตสูตรยาพวกนี้ได้ถูกทำลายลงไปจนหมดสิ้นเพราะมันคือการเล่นแร่แปรธาตุแห่งความมืดที่ไม่ควรถูกค้นพบและไม่ควรถูกล่วงรู้ในตอนนี้ยาอมตะของเขามีเหลืออยู่เพียงแค่ 3 หลอดเท่านั้น และในช่วงแรกของการทดลองเขาได้พรากชีวิตของผู้คนและ duo จำนวนมากไปแต่ฉันก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามันจะเป็นช่วงนี้เวลานี้และฉันก็ขอบอกได้เลยว่าหากเป็นเขาคนนั้นจริงๆแม้แต่ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันเพราะถ้าหากฉันทำอะไรผิดพลาดลงไปมันจะส่งผลต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้อย่างแน่นอน ตัวตนของเขานั้นมีความสำคัญจริงๆ"
เบลด้าถึงกับต้องอ้าปากค้างให้กับเขาหลังจากที่ได้ฟังจนจบ
231
ไม่ทันไรพวกเขาก็ต่างพากันเดินออกไปจากห้องนี้กันหมด
เซนะกับเบลด้าจึงหันมามองเขาด้วยความสงสัย
"นี่นายทำอะไรอ่ะ?"
"ฉันบอกกับพวกเขาว่าอยากได้เนื้อหมีจากภูเขาใกล้นี้มาทำอาหารตอนเย็นน่ะก็เลยสั่งให้พวกเขาออกไปหามันมาให้หน่อยแล้วก็อย่างที่เห็นนี่แหล่ะ"
"คุมะ???"
"แล้วมันใช่เรื่องไหมตอนนี้ฉันกำลังคุยเรื่องสำคัญกับนายอยู่นะ"
"มันไม่เกี่ยวหรอกเพราะงั้นไงฉันถึงสั่งไป เพื่อให้พวกเขาออกไปจากห้องนี้จนหมดแล้วทีนี้พวกเราก็จะได้คุยกันโดยที่ไม่มีใครคนอืี่นได้ยินยังไงล่ะ"
รอยยิ้มสุดชั่วร้ายได้โผล่ออกมาบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม ตัวเขาในตอนนี้ยิ่งกว่าตัวร้ายในกาตูนเสียอีก!
"เอาล่ะ งั้นเราก็มาเข้าเรื่องกันเถอะ"
ไม่ทันไรพวกเขาก็ต่างพากันเดินออกไปจากห้องนี้กันหมด
เซนะกับเบลด้าจึงหันมามองเขาด้วยความสงสัย
"นี่นายทำอะไรอ่ะ?"
"ฉันบอกกับพวกเขาว่าอยากได้เนื้อหมีจากภูเขาใกล้นี้มาทำอาหารตอนเย็นน่ะก็เลยสั่งให้พวกเขาออกไปหามันมาให้หน่อยแล้วก็อย่างที่เห็นนี่แหล่ะ"
"คุมะ???"
"แล้วมันใช่เรื่องไหมตอนนี้ฉันกำลังคุยเรื่องสำคัญกับนายอยู่นะ"
"มันไม่เกี่ยวหรอกเพราะงั้นไงฉันถึงสั่งไป เพื่อให้พวกเขาออกไปจากห้องนี้จนหมดแล้วทีนี้พวกเราก็จะได้คุยกันโดยที่ไม่มีใครคนอืี่นได้ยินยังไงล่ะ"
รอยยิ้มสุดชั่วร้ายได้โผล่ออกมาบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม ตัวเขาในตอนนี้ยิ่งกว่าตัวร้ายในกาตูนเสียอีก!
"เอาล่ะ งั้นเราก็มาเข้าเรื่องกันเถอะ"
230
จากความรักบนเตียงมันก็ได้ลามไปบนพื้นห้อง บนเก้าอี้ บนโต๊ะ ตรงหน้าต่าง และปิดท้ายคือที่ในห้องน้ำ
ทั้งสองได้ทำกันจนเวลานั้นล่วงเลยไปตอนเที่ยงของวันซึ่งหลังจากที่ทั้งสองทางข้าวเสร็จแล้วเบลด้าหรือมังกรกระต่ายตัวจิ๋วที่พวกเขาเข้าไปช่วยเอาไว้จนเกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้ได้วิ่งออกมาจากตรงไหนก็ไม่รู้ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเขาที่กำลังหยอกเล่นกันอยู่บนโต๊ะทานอาหารในห้องโถงขนาดใหญ่
หากเป็นช่วงงานเทศกาลหรือวันหยุดโกลด์เด้นวีคที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนที่ไหลมาเทมาเพราะอยากพักผ่อนจนเต็มที่นั่งไปหมด แต่เพราะมันไม่ใช่ช่วงนั้นบวกกับสภาพอากาศอันเลวร้ายช่วงนี้จึงทำให้ที่นี่มีแต่พวกเขาสามคนเท่านั้น
แต่เมื่อมีผลเสียก็ต้องมีผลดี..
เพราะว่าพวกเขาเป็นแขกคนแรกที่มาถึงที่นี่ชาวบ้านและทุกคนจึงเอาใจใส่พวกเขากันเป็นพิเศษตามสไตล์ของหมู่บ้านของนักท่องเที่ยวไล่ตั้งแต่มีคนทักทายเวลาไปไหนมาไหนจนถึงขั้นระดับผู้ใหญ่บ้านยังเดินเข้ามาคุยด้วยตนเองและถึงจะเป็นเด็กแต่เนื่องจากความรอบรู้ของมาโกโตะจึงทำให้ผู้คนที่นี่ดูแลและเอ็นดูพวกเขายิ่งกว่าเดิมอีก
มาโกโตะได้กวักมือเรียกพนักงานในโรงแรมคนนึงมาคุยด้วยก่อนที่พนักงานคนนั้นจะวิ่งไปบอกคนอื่นๆที่ยืนประจำอยู่...
จากความรักบนเตียงมันก็ได้ลามไปบนพื้นห้อง บนเก้าอี้ บนโต๊ะ ตรงหน้าต่าง และปิดท้ายคือที่ในห้องน้ำ
ทั้งสองได้ทำกันจนเวลานั้นล่วงเลยไปตอนเที่ยงของวันซึ่งหลังจากที่ทั้งสองทางข้าวเสร็จแล้วเบลด้าหรือมังกรกระต่ายตัวจิ๋วที่พวกเขาเข้าไปช่วยเอาไว้จนเกิดเรื่องขึ้นขนาดนี้ได้วิ่งออกมาจากตรงไหนก็ไม่รู้ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเขาที่กำลังหยอกเล่นกันอยู่บนโต๊ะทานอาหารในห้องโถงขนาดใหญ่
หากเป็นช่วงงานเทศกาลหรือวันหยุดโกลด์เด้นวีคที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนที่ไหลมาเทมาเพราะอยากพักผ่อนจนเต็มที่นั่งไปหมด แต่เพราะมันไม่ใช่ช่วงนั้นบวกกับสภาพอากาศอันเลวร้ายช่วงนี้จึงทำให้ที่นี่มีแต่พวกเขาสามคนเท่านั้น
แต่เมื่อมีผลเสียก็ต้องมีผลดี..
เพราะว่าพวกเขาเป็นแขกคนแรกที่มาถึงที่นี่ชาวบ้านและทุกคนจึงเอาใจใส่พวกเขากันเป็นพิเศษตามสไตล์ของหมู่บ้านของนักท่องเที่ยวไล่ตั้งแต่มีคนทักทายเวลาไปไหนมาไหนจนถึงขั้นระดับผู้ใหญ่บ้านยังเดินเข้ามาคุยด้วยตนเองและถึงจะเป็นเด็กแต่เนื่องจากความรอบรู้ของมาโกโตะจึงทำให้ผู้คนที่นี่ดูแลและเอ็นดูพวกเขายิ่งกว่าเดิมอีก
มาโกโตะได้กวักมือเรียกพนักงานในโรงแรมคนนึงมาคุยด้วยก่อนที่พนักงานคนนั้นจะวิ่งไปบอกคนอื่นๆที่ยืนประจำอยู่...
229
หลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างได้จบลงวันเวลาก็ได้ล่วงเลยไปสองสัปดาห์ มาโกโตะได้รักษาร่างกายของตนจนตอนนี้ได้กลับมาคืนสู่สภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว
เช้าๆของวันมาโกโตะก็ไม่พลาดโอกาสที่จะได้ร่วมรักกับสาวน้อยตรงหน้า พอเขารู้สึกตัวอีกทีสาวน้อยคนนั้นก็ได้ลงไปนอนหงายน้ำลายเยิ้มอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่แสนจะมีความสุข
"ไหวไหมเซนะ"
"ถ้าเพื่อมาโกโตะคุงฉันก็ไหวหมดนะ"
ตัวเขาได้เหยียดยิ้ม ชั่งเป็นคนที่น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ..
"น่ารักแบบนี้ฉันคงต้องจัดให้อีกสักยกแล้วล่ะ"
"เอ๋~!!!"
"หรือเธอจะไม่เอา!?"
"อ..เอาค่ะ เพราะงั้น.. ร..รบกวนด้วยนะคะ"
สาวน้อยได้มีอาการหน้าแดงบ่งบอกออกมาผ่านทางสีหน้าของเธอ มันยิ่งกระตุ้นให้ตัวเขายิ่งอยากทำเข้าไปใหญ่
หลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างได้จบลงวันเวลาก็ได้ล่วงเลยไปสองสัปดาห์ มาโกโตะได้รักษาร่างกายของตนจนตอนนี้ได้กลับมาคืนสู่สภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว
เช้าๆของวันมาโกโตะก็ไม่พลาดโอกาสที่จะได้ร่วมรักกับสาวน้อยตรงหน้า พอเขารู้สึกตัวอีกทีสาวน้อยคนนั้นก็ได้ลงไปนอนหงายน้ำลายเยิ้มอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่แสนจะมีความสุข
"ไหวไหมเซนะ"
"ถ้าเพื่อมาโกโตะคุงฉันก็ไหวหมดนะ"
ตัวเขาได้เหยียดยิ้ม ชั่งเป็นคนที่น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ..
"น่ารักแบบนี้ฉันคงต้องจัดให้อีกสักยกแล้วล่ะ"
"เอ๋~!!!"
"หรือเธอจะไม่เอา!?"
"อ..เอาค่ะ เพราะงั้น.. ร..รบกวนด้วยนะคะ"
สาวน้อยได้มีอาการหน้าแดงบ่งบอกออกมาผ่านทางสีหน้าของเธอ มันยิ่งกระตุ้นให้ตัวเขายิ่งอยากทำเข้าไปใหญ่
228
เซนะได้ครุ่นคิดอยู่นานแต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ประเด็นนี้จึงตกไป
หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดจบลงเซนะที่รอดมาได้จึงมุ่งตรงไปหามาโกโตะก่อนจะพบกับร่างของเขานอนชุ่มกองเลือดท่ามกลางพื้นหิมะอันหนาวเย็นเธอจึงรีบแบกร่างของเขามายังหมู่บ้านที่ตอนนี้พวกเขากำลังพักอยู่
เมื่อเดินเข้ามาถึงข้างในหมู่บ้านทุกคนก็ต่างพากันตกใจกันยกใหญ่ เนื่องจากตอนนั้นกำลังมีพายุหิมะอยู่เพราะงั้นการที่จะมีคนเดินเท้ามาถึงที่นี่ได้จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ทัศนวิสัยทั้งหมดโดนบดบัง อากาศและอุณหภูมิที่เย็นยะเยือกจนติดลบ แล้วแถมที่สำคัญคือเป็นเด็กผู้หญิงที่กำลังแบกร่างของคนมาด้วยยิ่งแล้วใหญ่
พวกเขาต่างพากันตกใจทันทีที่ได้เห็นร่างของเด็กหนุ่มผ่านบานกระจกของหน้าต่าง...
ร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือด บาดแผลตามตัวที่เยอะมากจนไม่สามารถนับมันได้หมด
ผู้คนต่างรีบพากันเปิดประตูบ้านของตนออกมาช่วยสาวน้อยร่างบางกันอย่างยกใหญ่ สุดท้ายพวกเขาก็ได้เข้าไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งของหมู่บ้านทั้งยังได้ความรักความเอ็นดูจากคนที่นี่เป็นพิเศษอีกด้วย...
เซนะได้ครุ่นคิดอยู่นานแต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ประเด็นนี้จึงตกไป
หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดจบลงเซนะที่รอดมาได้จึงมุ่งตรงไปหามาโกโตะก่อนจะพบกับร่างของเขานอนชุ่มกองเลือดท่ามกลางพื้นหิมะอันหนาวเย็นเธอจึงรีบแบกร่างของเขามายังหมู่บ้านที่ตอนนี้พวกเขากำลังพักอยู่
เมื่อเดินเข้ามาถึงข้างในหมู่บ้านทุกคนก็ต่างพากันตกใจกันยกใหญ่ เนื่องจากตอนนั้นกำลังมีพายุหิมะอยู่เพราะงั้นการที่จะมีคนเดินเท้ามาถึงที่นี่ได้จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ทัศนวิสัยทั้งหมดโดนบดบัง อากาศและอุณหภูมิที่เย็นยะเยือกจนติดลบ แล้วแถมที่สำคัญคือเป็นเด็กผู้หญิงที่กำลังแบกร่างของคนมาด้วยยิ่งแล้วใหญ่
พวกเขาต่างพากันตกใจทันทีที่ได้เห็นร่างของเด็กหนุ่มผ่านบานกระจกของหน้าต่าง...
ร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือด บาดแผลตามตัวที่เยอะมากจนไม่สามารถนับมันได้หมด
ผู้คนต่างรีบพากันเปิดประตูบ้านของตนออกมาช่วยสาวน้อยร่างบางกันอย่างยกใหญ่ สุดท้ายพวกเขาก็ได้เข้าไปพักในโรงแรมแห่งหนึ่งของหมู่บ้านทั้งยังได้ความรักความเอ็นดูจากคนที่นี่เป็นพิเศษอีกด้วย...
วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561
227
รุ่งเช้าของวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ทำกันตลอดทั้งคืนจนทำให้ร่างกายของทั้งสองเพลียจนแทบจะไม่มีแรงทำอะไนเลยแต่เรื่องนี้ก็ไม่เกินจากที่มาโกโตะคาดการณ์เอาไว้เท่าไหร่ เขาได้หยิบโพชั่นออกมาจากในกระเป๋ากางเกงซึ่งมันมีคุณสมบัติคล้ายกับยาชูกำลังแต่ผลลัพธ์นั้นสามารถเห็นได้เลยในทันที
แต่มันมีปัญหาอยู่ที่สี โพชั่นนั้นอย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือมีคุณสมบัติเหมือนยาชูกำลังเพราะงั้นจึงมีลักษณะเป็นของเหลวและเนื่องจากโพชั่นนั้นมีอยู่หลายประเภทหากมีอยู่สีเดียวอาจจะทำให้สับสนได้ทางผู้ผลิตจึงทำออกมาหลากสีและเพื่อแยกให้ออกจากสีภาชนะที่บรรจุมันจึงต้องเป็นแบบโปร่งแสงและสีที่มาโกโตะให้กับเซนะไปนั้นมันมีสีแดงสดราวกับเลือดของมนุษย์
เธอนั้นลังเลอยู่นานเลยว่า จะดื่มมันดีไหมหรือว่าจะไม่ดื่มดี สุดท้ายเธอก็จำใจดื่มมัน
"โอ๊ะ! อร่อยจัง~!"
"โพชั่นนั้นน่ะมันทำการแต่งสีสังเคราะห์และกลิ่นสังคราะห์ให้เหมือนกับน้ำของทับทิมเพื่อให้ดื่มได้ง่ายๆเหมาะกับเด็กๆอายุต่ำกว่า 6 ปีลงไปน่ะ"
"เด็ก"
คำๆนั้นของเขามันสื่อออกมาได้หลายความหมายมาก
รุ่งเช้าของวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ทำกันตลอดทั้งคืนจนทำให้ร่างกายของทั้งสองเพลียจนแทบจะไม่มีแรงทำอะไนเลยแต่เรื่องนี้ก็ไม่เกินจากที่มาโกโตะคาดการณ์เอาไว้เท่าไหร่ เขาได้หยิบโพชั่นออกมาจากในกระเป๋ากางเกงซึ่งมันมีคุณสมบัติคล้ายกับยาชูกำลังแต่ผลลัพธ์นั้นสามารถเห็นได้เลยในทันที
แต่มันมีปัญหาอยู่ที่สี โพชั่นนั้นอย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือมีคุณสมบัติเหมือนยาชูกำลังเพราะงั้นจึงมีลักษณะเป็นของเหลวและเนื่องจากโพชั่นนั้นมีอยู่หลายประเภทหากมีอยู่สีเดียวอาจจะทำให้สับสนได้ทางผู้ผลิตจึงทำออกมาหลากสีและเพื่อแยกให้ออกจากสีภาชนะที่บรรจุมันจึงต้องเป็นแบบโปร่งแสงและสีที่มาโกโตะให้กับเซนะไปนั้นมันมีสีแดงสดราวกับเลือดของมนุษย์
เธอนั้นลังเลอยู่นานเลยว่า จะดื่มมันดีไหมหรือว่าจะไม่ดื่มดี สุดท้ายเธอก็จำใจดื่มมัน
"โอ๊ะ! อร่อยจัง~!"
"โพชั่นนั้นน่ะมันทำการแต่งสีสังเคราะห์และกลิ่นสังคราะห์ให้เหมือนกับน้ำของทับทิมเพื่อให้ดื่มได้ง่ายๆเหมาะกับเด็กๆอายุต่ำกว่า 6 ปีลงไปน่ะ"
"เด็ก"
คำๆนั้นของเขามันสื่อออกมาได้หลายความหมายมาก
226
ค่ำคืนของทั้งสองยังอีกยาวไกล... ในช่วงของเที่ยงคืนผ้าห่มได้ถูกใช้เป็นผ้าคลุมร่างของทั้งสองแทน เพราะความเหนื่อยทั้งคู่จึงนั่งพักกันก่อนโดยในตอนนี้สาวน้อยได้นั่งอยู่บนตักของเด็กหนุ่มและทั้งสองก็ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันห่อหุ้มร่างของพวกเขาเอาไว้
มือของมาโกโตะได้โอบเอวของเซนะเอาไว้อย่างนุ่มนวลพร้อมๆกับนำคางของตนมาวางไว้บนไหล่ของสาวน้อย
"ไหวไหมเซนะฉันหวังว่าท้องน้อยๆนี้จะไม่เป็นไรนะ"
"หวาาา~>////< มาโกโตะคุงอย่าเล่นแบบนี้สิ" เด็กหนุ่มได้ใช้มือคลำๆลูบๆกับหน้าท้องของสาวน้อย มือทั้งสองของเซนะกำลังจับผ้าคลุมอยู่เพราะไม่งั้นพวกเขาต้องเจอกับความหนาวเย็นตรงๆเนื่องจากทั้งสองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย
และมาโกโตะก็รู้ดีว่าเซนะไม่ยอมให้เขาเป็นหวัดแน่ๆเพราะงั้นเขาจึงสามารถเล่นสนุกกับเรือนร่างของเธอได้อย่างหนำใจ
นิ้วชี้ของเขาได้เข้าไปแหย่สะดือของสาวน้อยส่วนอีกมือก็ได้จับหน้าอกของเซนะข้างหนึ่งเล่นไปเล่นมาราวกับของเล่น
"ก็เซนะน่ารักอ่ะ!"
"แง๊~>< ปล่อยเค้าไปเตอะ~!"
ค่ำคืนของทั้งสองยังอีกยาวไกล... ในช่วงของเที่ยงคืนผ้าห่มได้ถูกใช้เป็นผ้าคลุมร่างของทั้งสองแทน เพราะความเหนื่อยทั้งคู่จึงนั่งพักกันก่อนโดยในตอนนี้สาวน้อยได้นั่งอยู่บนตักของเด็กหนุ่มและทั้งสองก็ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันห่อหุ้มร่างของพวกเขาเอาไว้
มือของมาโกโตะได้โอบเอวของเซนะเอาไว้อย่างนุ่มนวลพร้อมๆกับนำคางของตนมาวางไว้บนไหล่ของสาวน้อย
"ไหวไหมเซนะฉันหวังว่าท้องน้อยๆนี้จะไม่เป็นไรนะ"
"หวาาา~>////< มาโกโตะคุงอย่าเล่นแบบนี้สิ" เด็กหนุ่มได้ใช้มือคลำๆลูบๆกับหน้าท้องของสาวน้อย มือทั้งสองของเซนะกำลังจับผ้าคลุมอยู่เพราะไม่งั้นพวกเขาต้องเจอกับความหนาวเย็นตรงๆเนื่องจากทั้งสองไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย
และมาโกโตะก็รู้ดีว่าเซนะไม่ยอมให้เขาเป็นหวัดแน่ๆเพราะงั้นเขาจึงสามารถเล่นสนุกกับเรือนร่างของเธอได้อย่างหนำใจ
นิ้วชี้ของเขาได้เข้าไปแหย่สะดือของสาวน้อยส่วนอีกมือก็ได้จับหน้าอกของเซนะข้างหนึ่งเล่นไปเล่นมาราวกับของเล่น
"ก็เซนะน่ารักอ่ะ!"
"แง๊~>< ปล่อยเค้าไปเตอะ~!"
225
"เซนะ..."
"คะ.. "
"คืนนี้อดนอน!"
"ค่ะ.. , อ..เอ๋~!!!!" เธอที่ขานรับไปตามปกติพอประมวลผลเสร็จจึงมีเสียงหลงร้องตามออกมาแบบติดๆ
"ไม่ต้องเอ๋เลย~!!!!"
"ว๊ายยยย~!"
มือของเด็กหนุ่มได้ถกเสื้อของสาวน้อยลงมาเล็กน้อยจนเห็นหัวไหล่ขาวๆเนียนๆของเธอก่อนที่จะทนไม่ไหวและเริ่มละเลงความรักกันบนเตียง
ท่ามกลางพายุหิมะในคืนนั้น แม้ว่าอุณหภูมิจะหนาวเป็นพิเศษแต่ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ชายหญิงสองคนกำลังทำอะไรที่เร่าร้อนมากจนอุณหภูมิรอบๆไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองได้ถอดเสื้อผ้าออกจนโป๊เปลือยและทำกันในที่มืดอย่างหนำใจ หากไม่มีประตูหรือหน้าต่างอยู่ล่ะก็ป่านนี้คนในโรงแรมคงจะได้ยินเสียงครางหลุดออกมาบ้างแล้ว
"เซนะ..."
"คะ.. "
"คืนนี้อดนอน!"
"ค่ะ.. , อ..เอ๋~!!!!" เธอที่ขานรับไปตามปกติพอประมวลผลเสร็จจึงมีเสียงหลงร้องตามออกมาแบบติดๆ
"ไม่ต้องเอ๋เลย~!!!!"
"ว๊ายยยย~!"
มือของเด็กหนุ่มได้ถกเสื้อของสาวน้อยลงมาเล็กน้อยจนเห็นหัวไหล่ขาวๆเนียนๆของเธอก่อนที่จะทนไม่ไหวและเริ่มละเลงความรักกันบนเตียง
ท่ามกลางพายุหิมะในคืนนั้น แม้ว่าอุณหภูมิจะหนาวเป็นพิเศษแต่ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ชายหญิงสองคนกำลังทำอะไรที่เร่าร้อนมากจนอุณหภูมิรอบๆไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองได้ถอดเสื้อผ้าออกจนโป๊เปลือยและทำกันในที่มืดอย่างหนำใจ หากไม่มีประตูหรือหน้าต่างอยู่ล่ะก็ป่านนี้คนในโรงแรมคงจะได้ยินเสียงครางหลุดออกมาบ้างแล้ว
224
"แต่มาโกโตะคุงพูดว่าไม่มีอะไรตั้งสองครั้งเลยนะแสดงว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลย"
ทีเรื่องแบบนี้ดันฉลาดทันทีเลยนะ! ถึงแม้ภายนอกจะส่งสายตาราวกับเทพบุตรแต่ภายใต้หน้ากากนั้นกับมีสายตาของปีศาจอยู่
"เซนะ~!"
"ว๊ายยยย!"
มือทั้งสองของเด็กหนุ่มได้เข้ามาจับไหล่ของสาวน้อยเอาไว้อย่างแน่นหนา หากมีเรื่องที่ทำให้เธอตกใจหรือมีอิมแพ็คมากพอโดยทั่วไปของมนุษย์จะทำให้มนูษย์หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นทันที
ในกรณีนี้เองก็เช่นกัน
ร่างกายของผู้หญิงนั้นถูกสร้างมาเพื่อให้มี sensitive ดีกว่าผู้ชายเพื่อเรื่องแบบนั้นโดยเฉพาะเพราะงั้นแล้วการที่สาวน้อยร่างบอบบางถูกมือของเด็กหนุ่มสัมผัสเข้ากับร่างกายของตนจึงเป็นเหตุให้ความสนใจนี้มาแทนที่กับของเรื่องๆก่อนทันที
เธอเบิ่งตากว้างขึ้นพร้อมกับเงียบลงไป
เธอกำลังรอฟังเด็กหนุ่มพูดอยู่
"แต่มาโกโตะคุงพูดว่าไม่มีอะไรตั้งสองครั้งเลยนะแสดงว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลย"
ทีเรื่องแบบนี้ดันฉลาดทันทีเลยนะ! ถึงแม้ภายนอกจะส่งสายตาราวกับเทพบุตรแต่ภายใต้หน้ากากนั้นกับมีสายตาของปีศาจอยู่
"เซนะ~!"
"ว๊ายยยย!"
มือทั้งสองของเด็กหนุ่มได้เข้ามาจับไหล่ของสาวน้อยเอาไว้อย่างแน่นหนา หากมีเรื่องที่ทำให้เธอตกใจหรือมีอิมแพ็คมากพอโดยทั่วไปของมนุษย์จะทำให้มนูษย์หันมาสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นทันที
ในกรณีนี้เองก็เช่นกัน
ร่างกายของผู้หญิงนั้นถูกสร้างมาเพื่อให้มี sensitive ดีกว่าผู้ชายเพื่อเรื่องแบบนั้นโดยเฉพาะเพราะงั้นแล้วการที่สาวน้อยร่างบอบบางถูกมือของเด็กหนุ่มสัมผัสเข้ากับร่างกายของตนจึงเป็นเหตุให้ความสนใจนี้มาแทนที่กับของเรื่องๆก่อนทันที
เธอเบิ่งตากว้างขึ้นพร้อมกับเงียบลงไป
เธอกำลังรอฟังเด็กหนุ่มพูดอยู่
223
"จะทำต่อไหม.. "
"อ..เอ่อ...อื้ม..!" เด็กหนุ่มถึงกับพูดติดขัดทันทีที่ต้องเจอกับคำถามแบบนี้
หากว่าที่ๆพวกเขากำลังอยู่นี่ไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยอากาศและหิมะหนาวเย็นล่ะก็ป่านนี้เขาคงจะมีเหงื่อไหลออกมาแน่ๆ พอเจอคำถามแบบนี้เรากับตอบแบบติดๆขัดๆเลยนะ เราเองก็ไม่ค่อยจะมีภูมิคุ้มกันไม่ก็ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลยนี่น่า~! เพราะงั้นมันจึงไม่แปลกสักหน่อยที่เราจะตะกุกตะกักแบบนี้... ตัวเขาได้พยายามคิดในแง่บวกเข้าไว้พร้อมกับหาเหตุผลให้ตนเองดูดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้ก็ไม่ต่างอะไรจากพวกหมาขี้แพ้ที่หาอะไรมาปลอบใจตนเองเลยแม้แต่น้อย
สติของเขาเริ่มจะจมดิ่งเข้าไปสู่โลกแห่งความคิดอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้เหมือนเขาจะรู้สึกตัวทันจึงรีบส่ายหน้าไปมาเพื่อเรียกคืนสติก่อนจะหันไปมองสาวน้อยที่กำลังทำหน้างงอยู่
"เป็นอะไรหรือเปล่ามาโกโตะคุง เห็นเมื่อกี้ส่ายหัวใหญ่เลย"
"ไม่มีอาร๊าย~ ไม่มีอะไร~ ที่ฉันส่ายหัวเมื่อกี้เพราะรู้สึกว่ามีแมลงอะไรสักอย่างเกาะอยู่บนหัวน่ะ"
"จะทำต่อไหม.. "
"อ..เอ่อ...อื้ม..!" เด็กหนุ่มถึงกับพูดติดขัดทันทีที่ต้องเจอกับคำถามแบบนี้
หากว่าที่ๆพวกเขากำลังอยู่นี่ไม่ใช่เมืองที่เต็มไปด้วยอากาศและหิมะหนาวเย็นล่ะก็ป่านนี้เขาคงจะมีเหงื่อไหลออกมาแน่ๆ พอเจอคำถามแบบนี้เรากับตอบแบบติดๆขัดๆเลยนะ เราเองก็ไม่ค่อยจะมีภูมิคุ้มกันไม่ก็ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลยนี่น่า~! เพราะงั้นมันจึงไม่แปลกสักหน่อยที่เราจะตะกุกตะกักแบบนี้... ตัวเขาได้พยายามคิดในแง่บวกเข้าไว้พร้อมกับหาเหตุผลให้ตนเองดูดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้ก็ไม่ต่างอะไรจากพวกหมาขี้แพ้ที่หาอะไรมาปลอบใจตนเองเลยแม้แต่น้อย
สติของเขาเริ่มจะจมดิ่งเข้าไปสู่โลกแห่งความคิดอีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้เหมือนเขาจะรู้สึกตัวทันจึงรีบส่ายหน้าไปมาเพื่อเรียกคืนสติก่อนจะหันไปมองสาวน้อยที่กำลังทำหน้างงอยู่
"เป็นอะไรหรือเปล่ามาโกโตะคุง เห็นเมื่อกี้ส่ายหัวใหญ่เลย"
"ไม่มีอาร๊าย~ ไม่มีอะไร~ ที่ฉันส่ายหัวเมื่อกี้เพราะรู้สึกว่ามีแมลงอะไรสักอย่างเกาะอยู่บนหัวน่ะ"
222
"งั้นก็ขอระบายกับเธอหน่อยแล้วกันนะสึกุมิ"
"อื้ม~ เรื่องอะไรก็ว่ามาได้เลย.. ว๊ายยยย~!!!!"
ไม่ทันขาดคำมาโกโตะก็ได้ไซร้คอของสาวน้อย ก็จริงอยู่ที่เซนะนั้นซื่อมาก ซื่อเกินจะเยียวยา แต่ถ้าลองโดนเข้าไปสักหน่อยสาวน้อยคนนั้นก็จะรับรู้ได้ถึงเจตนาของตนได้ทันที
เธอในตอนนี้ได้มีสีหน้าแดงขึ้นมาทันที
"คราวนี้ก็คงจะรู้แล้วนะว่าฉันต้องการอะไรกันแน่"
"อ..อื้ม.. เดิมทีฉันก็เป็นคนบอกกับมาโกโตะคุงเองเลยฉันขอโทษนะที่ไม่เข้าใจมาโกโตะคุงตอนช่วงเมื่อกี้นี้นะ"
"เธอเป็นแบบที่เธอเป็นนั่นแหละดีแล้ว.. "เขาได้เว้นจังหวะก่อนจะนำหน้าของตนมาไว้ตรงกันกับหน้าของสาวน้อย
"เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษฉันหรอก.. "
"นี่มาโกโตะคุง..."
"ว่า???"
"งั้นก็ขอระบายกับเธอหน่อยแล้วกันนะสึกุมิ"
"อื้ม~ เรื่องอะไรก็ว่ามาได้เลย.. ว๊ายยยย~!!!!"
ไม่ทันขาดคำมาโกโตะก็ได้ไซร้คอของสาวน้อย ก็จริงอยู่ที่เซนะนั้นซื่อมาก ซื่อเกินจะเยียวยา แต่ถ้าลองโดนเข้าไปสักหน่อยสาวน้อยคนนั้นก็จะรับรู้ได้ถึงเจตนาของตนได้ทันที
เธอในตอนนี้ได้มีสีหน้าแดงขึ้นมาทันที
"คราวนี้ก็คงจะรู้แล้วนะว่าฉันต้องการอะไรกันแน่"
"อ..อื้ม.. เดิมทีฉันก็เป็นคนบอกกับมาโกโตะคุงเองเลยฉันขอโทษนะที่ไม่เข้าใจมาโกโตะคุงตอนช่วงเมื่อกี้นี้นะ"
"เธอเป็นแบบที่เธอเป็นนั่นแหละดีแล้ว.. "เขาได้เว้นจังหวะก่อนจะนำหน้าของตนมาไว้ตรงกันกับหน้าของสาวน้อย
"เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษฉันหรอก.. "
"นี่มาโกโตะคุง..."
"ว่า???"
วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561
221
"ก็มังกรน่ารักตัวนั้นไง~"
"ฉันนึกว่ากระต่ายเสียอีก"
"แต่เบลด้าเขาบอกว่าเป็นมังกรนะ"
"สงสัยเห็นหูแล้วเผลอคิดเองเออเองน่ะ"
มาโกโตะได้พูดเล่น่ก่อนจะหยุดชะงักและคิดตาม ..แค่ duo ตัวเดียวเลยสินะเพราะท่าฟังจากคำพูดของเซนะแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้นแต่สู้กับกองทัพจำนวนมากด้วยตัวคนเดียวได้นี่ก็น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว! ต้องขอพูดเลยว่าสมแล้วกับที่พวกมันยกพลมาขนาดนี้เพราะถ้าหากมันไม่ได้แข็งแกร่งอะไรประมาณนี้ทางฝั่งของพวกมันคงจะไม่ส่งคนมาถึงขนาดนี้หรอก... แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกกวนใจมาโดยตลอดเลยก็คือพวกมันกำลังตามล่า duo ที่แข็งแกร่งระดับนี้อีกมากมายเลยสินะ ประเด็นก็คือหากเบลด้าที่หนีออกมาได้ยังขนาดนี้แสดงว่าขุมกำลังของ duo ที่พวกมันจับมาฆ่าและทำเป็นอวตารจะต้องแข็งแกร่งมากๆอย่างแน่นอน แค่สมมุติ..นี่เป็นแค่การสมมุติเท่านั้น! หากว่าในองค์กรณ์ของพวกมันเป็นคนที่มีพลังของอวตารหมดทุกคนเลยล่ะ มันจะต้องเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งจนไร้ทางต่อกรแน่ๆ... ความกังวลนี้ได้แสดงผ่านออกมาทางสีหน้าของเจ้าตัว สติของเขาที่หลุดเข้าไปในโลกแห่งความคิดจึงถูกเสียงของสาวน้อยเรียกกลับคืนมา
"มาโกโตะคุง... "
"อ่ะ! โทษทีๆฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ"
"ก็มังกรน่ารักตัวนั้นไง~"
"ฉันนึกว่ากระต่ายเสียอีก"
"แต่เบลด้าเขาบอกว่าเป็นมังกรนะ"
"สงสัยเห็นหูแล้วเผลอคิดเองเออเองน่ะ"
มาโกโตะได้พูดเล่น่ก่อนจะหยุดชะงักและคิดตาม ..แค่ duo ตัวเดียวเลยสินะเพราะท่าฟังจากคำพูดของเซนะแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้นแต่สู้กับกองทัพจำนวนมากด้วยตัวคนเดียวได้นี่ก็น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว! ต้องขอพูดเลยว่าสมแล้วกับที่พวกมันยกพลมาขนาดนี้เพราะถ้าหากมันไม่ได้แข็งแกร่งอะไรประมาณนี้ทางฝั่งของพวกมันคงจะไม่ส่งคนมาถึงขนาดนี้หรอก... แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกกวนใจมาโดยตลอดเลยก็คือพวกมันกำลังตามล่า duo ที่แข็งแกร่งระดับนี้อีกมากมายเลยสินะ ประเด็นก็คือหากเบลด้าที่หนีออกมาได้ยังขนาดนี้แสดงว่าขุมกำลังของ duo ที่พวกมันจับมาฆ่าและทำเป็นอวตารจะต้องแข็งแกร่งมากๆอย่างแน่นอน แค่สมมุติ..นี่เป็นแค่การสมมุติเท่านั้น! หากว่าในองค์กรณ์ของพวกมันเป็นคนที่มีพลังของอวตารหมดทุกคนเลยล่ะ มันจะต้องเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งจนไร้ทางต่อกรแน่ๆ... ความกังวลนี้ได้แสดงผ่านออกมาทางสีหน้าของเจ้าตัว สติของเขาที่หลุดเข้าไปในโลกแห่งความคิดจึงถูกเสียงของสาวน้อยเรียกกลับคืนมา
"มาโกโตะคุง... "
"อ่ะ! โทษทีๆฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ"
220
"พูดแล้วน้าาาา~"
"อื้ม! , ฉันพูดคำไหนคำนั้นไม่คืนคำแน่นอน!"
( ช่างเป็นคนที่ซื่อเหลือเกิน! )
มาโกโตะได้รู้สึกกลัวอนาคตต่อจากนี้ของเธอเสียแล้วบางทีความซื่อนี้อาจจะทำให้เธอตกที่นั่งลำบากเข้าในสักวันหนึ่งก็เป็นได้ แต่นั่นก็ไม่นับหากตอนนั้นยังคงมีตัวเขาคอยอยู่เคียงข้างเธออยู่ เขาได้จับร่างของสาวน้อยม้วนตัวลงไปลงนอนข้างๆพร้อมกับขึ้นคร่อมเธอไปด้วยเลย...
บาดแผลของเขานั้นได้สมานจนจะหายสนิทแล้วเพราะงั้นเขาสามารถทำเต็มที่กับเธอได้อย่างแน่นอน
ก่อนที่จะเริ่มลงมือ ตัวเขาได้ถามคำถามนึงกับเธอและนี่ก็เป็นคำถามที่สำคัญที่เขาอยากจะรู้มาตั้งนานแล้ว
"ว่าแต่เธอรอดมาจากเจ้าพวกเกราะดำนั่นได้ยังไงกัน???" ในตอนที่ทั้งสองแยกกันกองทัพของ zarc ได้มุ่งหน้าตามล่าเธอด้วยกำลังพลมหาศาล
"เบลด้าเขาช่วยฉันไว้น่ะ!"
"เบลด้า???"
"พูดแล้วน้าาาา~"
"อื้ม! , ฉันพูดคำไหนคำนั้นไม่คืนคำแน่นอน!"
( ช่างเป็นคนที่ซื่อเหลือเกิน! )
มาโกโตะได้รู้สึกกลัวอนาคตต่อจากนี้ของเธอเสียแล้วบางทีความซื่อนี้อาจจะทำให้เธอตกที่นั่งลำบากเข้าในสักวันหนึ่งก็เป็นได้ แต่นั่นก็ไม่นับหากตอนนั้นยังคงมีตัวเขาคอยอยู่เคียงข้างเธออยู่ เขาได้จับร่างของสาวน้อยม้วนตัวลงไปลงนอนข้างๆพร้อมกับขึ้นคร่อมเธอไปด้วยเลย...
บาดแผลของเขานั้นได้สมานจนจะหายสนิทแล้วเพราะงั้นเขาสามารถทำเต็มที่กับเธอได้อย่างแน่นอน
ก่อนที่จะเริ่มลงมือ ตัวเขาได้ถามคำถามนึงกับเธอและนี่ก็เป็นคำถามที่สำคัญที่เขาอยากจะรู้มาตั้งนานแล้ว
"ว่าแต่เธอรอดมาจากเจ้าพวกเกราะดำนั่นได้ยังไงกัน???" ในตอนที่ทั้งสองแยกกันกองทัพของ zarc ได้มุ่งหน้าตามล่าเธอด้วยกำลังพลมหาศาล
"เบลด้าเขาช่วยฉันไว้น่ะ!"
"เบลด้า???"
219
ถึงเธออยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ไม่ใช่ว่าเธอยอมรับที่ตัวของเธอนั้นเป็นคนที่วิเศษแต่อย่างใดแต่มันเป็นเพราะว่าสายตาอันแน่วแน่ของเขาที่ไม่มีแม้แต่ความลังเลเลยแม้แต่น้อย... สายตานั้นมันทำให้เธอรู้ว่ามาโกโตะเตรียมใจพร้อมถึงขั้นที่จะยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อเธออย่างแน่นอน
เพราะงั้นเธอก็ไม่ควรจะลังเลอีกต่อไป!
"งั้นมาโกโตะคุงช่วยทำกับฉันแบบนั้นตอนนี้เลยได้ไหม" มาโกโตะนั้นรับรู้ได้ทันทีเลยว่าสาวน้อยกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่แต่เพื่อเป็นการยืนยันให้ชัวร์ตัวเขาจึงต้องถามออกไปให้แน่ใจ
"ทำ... ???"
"sex ไง... "
( ชัดเจน! ) สิ่งที่เขาคิดเอาไว้ไม่ผิดเลย แต่ทำไมกันล่ะ!? ทำไมเธอถึงต้องการมันตอนนี้???
และไม่นานนักคำตอบก็ได้ตามมา
"ถ้าหากว่ามาโกโตะคุงยอมทำทุกอย่างเพื่อฉันตัวฉันก็ต้องทำทุกอย่างให้สมกับที่มาโกโตะคุงพยายามทำให้กับฉันและฉันก็คิดว่ามาโกโตะคุงชอบที่จะได้ทำแบบนั้นกับฉัน เพราะงั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ฉันอยากให้กับคุณ... "
ถึงเธออยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ไม่ใช่ว่าเธอยอมรับที่ตัวของเธอนั้นเป็นคนที่วิเศษแต่อย่างใดแต่มันเป็นเพราะว่าสายตาอันแน่วแน่ของเขาที่ไม่มีแม้แต่ความลังเลเลยแม้แต่น้อย... สายตานั้นมันทำให้เธอรู้ว่ามาโกโตะเตรียมใจพร้อมถึงขั้นที่จะยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อเธออย่างแน่นอน
เพราะงั้นเธอก็ไม่ควรจะลังเลอีกต่อไป!
"งั้นมาโกโตะคุงช่วยทำกับฉันแบบนั้นตอนนี้เลยได้ไหม" มาโกโตะนั้นรับรู้ได้ทันทีเลยว่าสาวน้อยกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่แต่เพื่อเป็นการยืนยันให้ชัวร์ตัวเขาจึงต้องถามออกไปให้แน่ใจ
"ทำ... ???"
"sex ไง... "
( ชัดเจน! ) สิ่งที่เขาคิดเอาไว้ไม่ผิดเลย แต่ทำไมกันล่ะ!? ทำไมเธอถึงต้องการมันตอนนี้???
และไม่นานนักคำตอบก็ได้ตามมา
"ถ้าหากว่ามาโกโตะคุงยอมทำทุกอย่างเพื่อฉันตัวฉันก็ต้องทำทุกอย่างให้สมกับที่มาโกโตะคุงพยายามทำให้กับฉันและฉันก็คิดว่ามาโกโตะคุงชอบที่จะได้ทำแบบนั้นกับฉัน เพราะงั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ฉันอยากให้กับคุณ... "
218
ใบหน้าของเธอนั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาได้อย่างชัดเจน น้ำตานั้นได้ไหลรินลงมายังแก้มของเธอก่อนจะหยดลงสู่ร่างของเขา
น้ำตาของเด็กสาวคนนี้มันทำให้ร่างกายของเขาที่บาดเจ็บขยับไปเอง... มือทั้งสองได้โอบกอดร่างของสาวน้อยไว้อย่างแน่นหนาเพื่อให้เธอแน่ใจว่าตนจะไม่ไปไหนอีกแล้วก่อนที่เขาจะลงมือจูบกับเธออีกรอบ....
รสชาติของจูบนี้มันช่างหวานและเย้ายวนจนแทบไม่อยากจะหยุด ตัวเขาคิดว่าความรู้สึกนี้คงจะไม่ต่างอะไรกับคนบ้าสักเท่าไหร่นัก...
หลังจากจูบที่สองจบลงมาโกโตะจึงได้นำหน้าของตนออกห่างจากหน้าของสาวน้อยก่อนจะใช้มือทั้งสองจับแก้มของเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้กับเธอ
"ฉันคงให้สัญญาแบบนั้นไม่ได้เพราะว่าบางครั้งตัวฉันก็ต้องเห็นเธอสำคัญก่อนเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว เพราะเธอน่ะเป็นยิ่งกว่าชีวิตของฉันสักอีกนะเซนะ.."
"มาโกโตะคุง... " สายตาอันแน่วแน่ของมาโกโตะที่กำลังสบตากับของเธออยู่มันได้ทำให้สาวน้อยถึงกับยอมแพ้ไปเลยในทันที
การเตรียมใจของเขานั้นคือของจริง...
"ฉันรู้ว่ามันลำบากใจสำหรับเธอแต่ฉันเชื่อน่ะว่าท่าเป็นคนอื่นล่ะก็ต้องทำแบบที่ฉันทำอย่างแน่นอน... นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่วิเศษขนาดนี้ยังไงล่ะ... "
ใบหน้าของเธอนั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาได้อย่างชัดเจน น้ำตานั้นได้ไหลรินลงมายังแก้มของเธอก่อนจะหยดลงสู่ร่างของเขา
น้ำตาของเด็กสาวคนนี้มันทำให้ร่างกายของเขาที่บาดเจ็บขยับไปเอง... มือทั้งสองได้โอบกอดร่างของสาวน้อยไว้อย่างแน่นหนาเพื่อให้เธอแน่ใจว่าตนจะไม่ไปไหนอีกแล้วก่อนที่เขาจะลงมือจูบกับเธออีกรอบ....
รสชาติของจูบนี้มันช่างหวานและเย้ายวนจนแทบไม่อยากจะหยุด ตัวเขาคิดว่าความรู้สึกนี้คงจะไม่ต่างอะไรกับคนบ้าสักเท่าไหร่นัก...
หลังจากจูบที่สองจบลงมาโกโตะจึงได้นำหน้าของตนออกห่างจากหน้าของสาวน้อยก่อนจะใช้มือทั้งสองจับแก้มของเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้กับเธอ
"ฉันคงให้สัญญาแบบนั้นไม่ได้เพราะว่าบางครั้งตัวฉันก็ต้องเห็นเธอสำคัญก่อนเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว เพราะเธอน่ะเป็นยิ่งกว่าชีวิตของฉันสักอีกนะเซนะ.."
"มาโกโตะคุง... " สายตาอันแน่วแน่ของมาโกโตะที่กำลังสบตากับของเธออยู่มันได้ทำให้สาวน้อยถึงกับยอมแพ้ไปเลยในทันที
การเตรียมใจของเขานั้นคือของจริง...
"ฉันรู้ว่ามันลำบากใจสำหรับเธอแต่ฉันเชื่อน่ะว่าท่าเป็นคนอื่นล่ะก็ต้องทำแบบที่ฉันทำอย่างแน่นอน... นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่วิเศษขนาดนี้ยังไงล่ะ... "
217
"ฉันกลัวมากเลยนะคะ"
"ขอโทษ.. " เขาพูดได้เพียงแค่นี้จริงๆ ตัวเขาเองนั้นก็รู้ดีว่าผิดเต็มๆที่ต้องทำให้เธอต้องเป็นห่วง เพราะงั้นนี่จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้...
ทางด้านของสาวน้อยจึงเขยิบร่างของตนขึ้นมาบนร่างของเด็กหนุ่ม ร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอมันทำให้มาโกโตะถึงกับเริ่มตื่นตูม ถึงแม้ว่าจะมีแต่ผ้าพันแผลพันอยู่เต็มตัวก็ตามแต่เขาก็รู้สึกถึงความนุ่มนิ่มนี้ได้อย่างชัดเจน
สุดท้ายแล้วสาวน้อยก็ได้นำหน้าของตนเข้ามาใกล้ๆก่อนจะลงมือจูบอย่างเล่าร้อน ในช่วงเวลานั้นมาโกโตะถึงกับทำตาโตค้างเอาไว้อย่างนั้น.... เมื่อผ่านไปได้สักพักเธอจึงหยุดจูบอันเล่าร้อนนี้เอาไว้ก่อนจะนำใบหน้านั้นออกห่างออกมา...
สายน้ำลายที่โยงระยางอยู่ทำให้บรรยากาศนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
"ขอบคุณนะมาโกโตะคุง.. ฉันรู้ดีว่ามาโกโตะคุงทำไปเพื่อฉันแต่ว่าฉันก็ไม่อยากให้คุณต้องมาเสี่ยงอันตรายเพื่อฉันขนาดนี้เพราะงั้นแล้ว.. ขอล่ะ..อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ.... "
"ฉันกลัวมากเลยนะคะ"
"ขอโทษ.. " เขาพูดได้เพียงแค่นี้จริงๆ ตัวเขาเองนั้นก็รู้ดีว่าผิดเต็มๆที่ต้องทำให้เธอต้องเป็นห่วง เพราะงั้นนี่จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้...
ทางด้านของสาวน้อยจึงเขยิบร่างของตนขึ้นมาบนร่างของเด็กหนุ่ม ร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอมันทำให้มาโกโตะถึงกับเริ่มตื่นตูม ถึงแม้ว่าจะมีแต่ผ้าพันแผลพันอยู่เต็มตัวก็ตามแต่เขาก็รู้สึกถึงความนุ่มนิ่มนี้ได้อย่างชัดเจน
สุดท้ายแล้วสาวน้อยก็ได้นำหน้าของตนเข้ามาใกล้ๆก่อนจะลงมือจูบอย่างเล่าร้อน ในช่วงเวลานั้นมาโกโตะถึงกับทำตาโตค้างเอาไว้อย่างนั้น.... เมื่อผ่านไปได้สักพักเธอจึงหยุดจูบอันเล่าร้อนนี้เอาไว้ก่อนจะนำใบหน้านั้นออกห่างออกมา...
สายน้ำลายที่โยงระยางอยู่ทำให้บรรยากาศนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
"ขอบคุณนะมาโกโตะคุง.. ฉันรู้ดีว่ามาโกโตะคุงทำไปเพื่อฉันแต่ว่าฉันก็ไม่อยากให้คุณต้องมาเสี่ยงอันตรายเพื่อฉันขนาดนี้เพราะงั้นแล้ว.. ขอล่ะ..อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ.... "
216
หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีดั่งสุภาษิตที่ว่า เมื่อผ่านเรื่องร้ายๆก็จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น... เด็กหนุ่มที่ฟื้นขึ้นมาจากการปะทะกันอย่างดุเดือดกับโครงกระดูกสุดแข็งแกร่งนามว่า zarc จนสามารถคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด ตัวเขาได้มองไปรอบๆแล้วเริ่มวิเคราะห์ทุกอย่างตามนิสัยของตนเองที่ถนัด ห้องไม้อุ่นๆให้ความรู้สึกของบ้านไม้เมืองหนาวตามแบบฉบับหนังฝรั่งสไตล์ยุโรปและเมื่อมองออกไปด้านข้างก็มีหน้าต่างกว้างๆบานหนึ่งซึ่งที่ข้างนอกนั้นกำลังมีหิมะตกอยู่ อย่างนี้นี่เอง.. ตัวฉันที่กำลังจะตายถูกเธอช่วยเอาไว้สินะ... เขาได้เขยิบร่างของตนดันตัวเองขึ้นไปให้พอจะนอนเอนหลังลงได้อย่างเบาๆพร้อมกับมองมาที่สาวน้อยที่นอนเฝ้าตนอยู่บนเตียง
ตัวเขาได้ยื่นมือข้างที่มีผ้าพันแผลไปลูบหัวของเด็กสาวอย่างถะนุถนอมอย่างเอ็นดู
"ขอบใจเธอมากนะเซนะ"
สัมผัสอันนุ่มนวลที่มือของเขารู้สึกได้จากการลูบผมของเธอมันช่างเป็นอะไรที่ทำให้ตัวเขาไม่อยากจะหยุดมือเลย...
และแล้วในไม่ช้าเธอก็ได้ตื่นขึ้นมาในสภาพที่ดูงัวเงียราวกับลูกแมวเพิ่งตื่น พอผ่านไปสักพักเธอก็เริ่มเปลี่ยนสีหน้าพร้อมกับจ้องมองตัวเขาแบบตาเป็นมัน
เธอแทบจะไม่ยอมกระพริบตาเลยแม้แต่น้อย ตัวเขาที่ถูกเธอจ้องเองก็เช่นกัน สำหรับเขาดวงตาของเธอนั้นราวกับมีเวทย์มนตร์อะไรสักอย่างที่ทำให้ตัวเขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลย
หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีดั่งสุภาษิตที่ว่า เมื่อผ่านเรื่องร้ายๆก็จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น... เด็กหนุ่มที่ฟื้นขึ้นมาจากการปะทะกันอย่างดุเดือดกับโครงกระดูกสุดแข็งแกร่งนามว่า zarc จนสามารถคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด ตัวเขาได้มองไปรอบๆแล้วเริ่มวิเคราะห์ทุกอย่างตามนิสัยของตนเองที่ถนัด ห้องไม้อุ่นๆให้ความรู้สึกของบ้านไม้เมืองหนาวตามแบบฉบับหนังฝรั่งสไตล์ยุโรปและเมื่อมองออกไปด้านข้างก็มีหน้าต่างกว้างๆบานหนึ่งซึ่งที่ข้างนอกนั้นกำลังมีหิมะตกอยู่ อย่างนี้นี่เอง.. ตัวฉันที่กำลังจะตายถูกเธอช่วยเอาไว้สินะ... เขาได้เขยิบร่างของตนดันตัวเองขึ้นไปให้พอจะนอนเอนหลังลงได้อย่างเบาๆพร้อมกับมองมาที่สาวน้อยที่นอนเฝ้าตนอยู่บนเตียง
ตัวเขาได้ยื่นมือข้างที่มีผ้าพันแผลไปลูบหัวของเด็กสาวอย่างถะนุถนอมอย่างเอ็นดู
"ขอบใจเธอมากนะเซนะ"
สัมผัสอันนุ่มนวลที่มือของเขารู้สึกได้จากการลูบผมของเธอมันช่างเป็นอะไรที่ทำให้ตัวเขาไม่อยากจะหยุดมือเลย...
และแล้วในไม่ช้าเธอก็ได้ตื่นขึ้นมาในสภาพที่ดูงัวเงียราวกับลูกแมวเพิ่งตื่น พอผ่านไปสักพักเธอก็เริ่มเปลี่ยนสีหน้าพร้อมกับจ้องมองตัวเขาแบบตาเป็นมัน
เธอแทบจะไม่ยอมกระพริบตาเลยแม้แต่น้อย ตัวเขาที่ถูกเธอจ้องเองก็เช่นกัน สำหรับเขาดวงตาของเธอนั้นราวกับมีเวทย์มนตร์อะไรสักอย่างที่ทำให้ตัวเขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้เลย
215
( ดูท่าเราจะมาได้แค่นี้สินะ... )
มือข้างหนึ่งของเขาได้เข้ามาจับร่างของตนก่อนจะเอามันออกมามองดูเพื่อยืนยันให้แน่ชัดอีกทีนึง เลือดสดๆของเขาติดมือข้างนั้นออกมาเต็มไปหมด...
ตัวเขาไม่ได้ตกใจสักนิดกับผลลัพธ์นี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขานั้นพอจะเดาได้จากความเสียหายที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นความเจ็บปวดส่งผ่านกระแสประสาทเข้ามายังสมองของเขาโดยตรง...
ความเจ็บปวดขนาดนี้.. แผลประมาณนี้ก็คงจะเหมาะสมแล้วล่ะ... รอยยิ้มฝืดๆของเขาได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้น สติของเขาเริ่มหายไปเรื่อยๆนับจากตอนนั้น
"มาโกโตะคุง!"
ก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าสู่ความเงียบสงัดก็ได้มีเสียงที่คุ้นหูดังขึ้น
( เซนะ... )
ปลอดภัยสินะ...
( ดูท่าเราจะมาได้แค่นี้สินะ... )
มือข้างหนึ่งของเขาได้เข้ามาจับร่างของตนก่อนจะเอามันออกมามองดูเพื่อยืนยันให้แน่ชัดอีกทีนึง เลือดสดๆของเขาติดมือข้างนั้นออกมาเต็มไปหมด...
ตัวเขาไม่ได้ตกใจสักนิดกับผลลัพธ์นี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเขานั้นพอจะเดาได้จากความเสียหายที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นความเจ็บปวดส่งผ่านกระแสประสาทเข้ามายังสมองของเขาโดยตรง...
ความเจ็บปวดขนาดนี้.. แผลประมาณนี้ก็คงจะเหมาะสมแล้วล่ะ... รอยยิ้มฝืดๆของเขาได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้น สติของเขาเริ่มหายไปเรื่อยๆนับจากตอนนั้น
"มาโกโตะคุง!"
ก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าสู่ความเงียบสงัดก็ได้มีเสียงที่คุ้นหูดังขึ้น
( เซนะ... )
ปลอดภัยสินะ...
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561
214
ทันทีที่การสนทนานั้นจบลงดาบยักษ์จึงได้ถูกเหวี่ยงลงมา มันได้ฟาดใส่ร่างของ zarc ร่างของมันได้ค่อยๆจมหายเข้าไปในพลังนั้นเรื่อยๆจนถูกพลังนั่นกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
เสาแสงยักษ์จึงปรากฏขึ้น พลังนั้นมีมากพอที่จะทำให้ร่างของ zarc นั้นถูกทำลายลงจนไม่เหลือซาก ส่วนผลลัพธ์นั้นเจ้าตัวได้รู้อยู่ก่อนแล้ว...
เพราะผลลัพธ์นี้เคยถูกบอกกับ zarc มาก่อนแล้วครั้งนึงซึ่งคนที่บอกก็คือ นายใหญ่ของมันนั่นเอง...
ก่อนที่ทุกอย่างจะสลายหายไปจนหมดมันได้มองมาทางมาโกโตะอย่างจริงจัง ...ไม่นึกเลยว่านอกจากท่านผู้นั้นแล้วจะยังมีคนที่คิดได้ถึงขนาดนี้.. เจ้าหนู.. ไม่ใช่สิ ชิราสากิ มาโกโตะ นายนี่มันอัจฉริยะของแท้เลย!....
ในไม่ช้าทุกอย่างก็ได้หายไปจนหมด เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเด็กหนุ่มที่มีเลือดชุ่มไปทั่วร่าง...
เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พลังมาโกโตะจึงได้สลายพลังของตนทิ้งไปจนเข้าสู่สภาวะไร้พลัง ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งลงได้แต่บาดแผลนั้นก็สาหัติเกินไป
ร่างกายของเขาเริ่มทรุดลงไปอย่างรวดเร็ว พายุหิมะเองก็เริ่มรุมแรงขึ้นมาเรื่อยๆ
ทันทีที่การสนทนานั้นจบลงดาบยักษ์จึงได้ถูกเหวี่ยงลงมา มันได้ฟาดใส่ร่างของ zarc ร่างของมันได้ค่อยๆจมหายเข้าไปในพลังนั้นเรื่อยๆจนถูกพลังนั่นกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
เสาแสงยักษ์จึงปรากฏขึ้น พลังนั้นมีมากพอที่จะทำให้ร่างของ zarc นั้นถูกทำลายลงจนไม่เหลือซาก ส่วนผลลัพธ์นั้นเจ้าตัวได้รู้อยู่ก่อนแล้ว...
เพราะผลลัพธ์นี้เคยถูกบอกกับ zarc มาก่อนแล้วครั้งนึงซึ่งคนที่บอกก็คือ นายใหญ่ของมันนั่นเอง...
ก่อนที่ทุกอย่างจะสลายหายไปจนหมดมันได้มองมาทางมาโกโตะอย่างจริงจัง ...ไม่นึกเลยว่านอกจากท่านผู้นั้นแล้วจะยังมีคนที่คิดได้ถึงขนาดนี้.. เจ้าหนู.. ไม่ใช่สิ ชิราสากิ มาโกโตะ นายนี่มันอัจฉริยะของแท้เลย!....
ในไม่ช้าทุกอย่างก็ได้หายไปจนหมด เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเด็กหนุ่มที่มีเลือดชุ่มไปทั่วร่าง...
เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พลังมาโกโตะจึงได้สลายพลังของตนทิ้งไปจนเข้าสู่สภาวะไร้พลัง ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งลงได้แต่บาดแผลนั้นก็สาหัติเกินไป
ร่างกายของเขาเริ่มทรุดลงไปอย่างรวดเร็ว พายุหิมะเองก็เริ่มรุมแรงขึ้นมาเรื่อยๆ
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561
213
แผนการของมาโกโตะนั้นสมบูรณ์แบบ!
"พลังของนายน่ะคือ The reborn พลังที่จะทำให้นายคืนชีพขึ้นมาหลังจากความตายสินะ.. แต่ฉันคิดว่าสาเหตุที่ทำให้นายสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้มันก็เพราะว่านายยังมีร่างนี้อยู่ก็ได้นะ"
"ร่าง!!?"
มันได้มองมายังร่างของตนที่เป็นโครงกระดูกก่อนจะหันมาหาเขาด้วยความสงสัย
"แกหมายความว่ายังไง!"
"ก็หมายความตรงๆเลยนั่นแหละ! พลังของแกมันเชื่อมต่ออยู่กับร่างถึงแม้จะเหลือแค่โครงกระดูกก็ตามแต่มันก็คือร่างเพราะงั้นแกถึงยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าหากว่าร่างของแกเกิดหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นผงเลยล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้น! คำตอบก็คือแกจะฟื้นคืนชีพไม่ได้ยังไงล่ะ!!!"
"แต่มันก็เป็นแค่สมมุติฐาน.."
"ฉันถึงต้องมาพิสูจน์ยังไงล่ะ!"
( ถ้าไม่ใช่ฉันก็ต้องตาย! )
แผนการของมาโกโตะนั้นสมบูรณ์แบบ!
"พลังของนายน่ะคือ The reborn พลังที่จะทำให้นายคืนชีพขึ้นมาหลังจากความตายสินะ.. แต่ฉันคิดว่าสาเหตุที่ทำให้นายสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้มันก็เพราะว่านายยังมีร่างนี้อยู่ก็ได้นะ"
"ร่าง!!?"
มันได้มองมายังร่างของตนที่เป็นโครงกระดูกก่อนจะหันมาหาเขาด้วยความสงสัย
"แกหมายความว่ายังไง!"
"ก็หมายความตรงๆเลยนั่นแหละ! พลังของแกมันเชื่อมต่ออยู่กับร่างถึงแม้จะเหลือแค่โครงกระดูกก็ตามแต่มันก็คือร่างเพราะงั้นแกถึงยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าหากว่าร่างของแกเกิดหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นผงเลยล่ะ มันจะเกิดอะไรขึ้น! คำตอบก็คือแกจะฟื้นคืนชีพไม่ได้ยังไงล่ะ!!!"
"แต่มันก็เป็นแค่สมมุติฐาน.."
"ฉันถึงต้องมาพิสูจน์ยังไงล่ะ!"
( ถ้าไม่ใช่ฉันก็ต้องตาย! )
212
"บ้าน่า! เหตุการณ์ที่จะพอเหมาะพอเจาะแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน"
"ฉันเลยสร้างมันขึ้นมายังไงล่ะ!"
มันถึงกับเถียงไม่ออก เพราะว่าครั้งนี้มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นมัน
เหตุการณ์ที่ถูกสร้างขึ้น สถานการณ์ที่มีคนเขียนและวาดฝันมันขึ้นมา
มาโกโตะได้ทำให้มันเป็นจริงอีกครั้งนึงแล้ว!
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอยู่หนึ่งข้อแห่งความได้เปรียบที่ทำให้ zarc ไม่เคยแพ้ใครมาก่อน
"แกคงยังไม่ลืมสินะว่าข้าน่ะเป็นอมตะ!"
"สิ่งที่แกอยากจะพูดก็คือถึงแกจะโดนฉันฟันยังไงแกก็รอดงั้นสินะ" มาโกโตะได้พูดในสิ่งที่ zarc คิดเอาไว้ ทว่าหากสิ่งนี้อยู่ในความคาดการณ์ของมาโกโตะอยู่แล้วล่ะ!
ในตอนนี้มันก็ได้รู้สึกตัวถึงเรื่องนี้แล้ว..
"บ้าน่า! เหตุการณ์ที่จะพอเหมาะพอเจาะแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน"
"ฉันเลยสร้างมันขึ้นมายังไงล่ะ!"
มันถึงกับเถียงไม่ออก เพราะว่าครั้งนี้มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นมัน
เหตุการณ์ที่ถูกสร้างขึ้น สถานการณ์ที่มีคนเขียนและวาดฝันมันขึ้นมา
มาโกโตะได้ทำให้มันเป็นจริงอีกครั้งนึงแล้ว!
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอยู่หนึ่งข้อแห่งความได้เปรียบที่ทำให้ zarc ไม่เคยแพ้ใครมาก่อน
"แกคงยังไม่ลืมสินะว่าข้าน่ะเป็นอมตะ!"
"สิ่งที่แกอยากจะพูดก็คือถึงแกจะโดนฉันฟันยังไงแกก็รอดงั้นสินะ" มาโกโตะได้พูดในสิ่งที่ zarc คิดเอาไว้ ทว่าหากสิ่งนี้อยู่ในความคาดการณ์ของมาโกโตะอยู่แล้วล่ะ!
ในตอนนี้มันก็ได้รู้สึกตัวถึงเรื่องนี้แล้ว..
211
ถ้าไม่รีบปิดล่ะก็เราเองก็คงจะไม่รอด... เขาได้ขว้างดาบของตนขึ้นไปทั้งๆที่ตัวดาบอาบไปด้วยเลือดสดๆที่ไหลออกมาจากร่างของเขา เลือดเหล่านั้นได้ถูกแรงเหวี่ยงจะกระเด็นออกมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
zarc ไม่รอช้ารีบพุ่งตัวไปหามาโกโตะที่ไร้ซึ่งอาวุธเพื่อหวังจะปลิดชีพของเขาซะ
"ลาก่อนเจ้าหนู!!!"
ดาบได้พุ่งมาหมายจะแทงเข้าที่หัวใจ มาโกโตะจึงได้เคลื่อนไหวในชั่วพริบตาทั้งๆที่ตอนนี้ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดจากหัวของเขาจนเห็นได้แต่ภาพลางๆเท่านั้น ตัวเขารู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะโจมตีโดนเพราะงั้นตัวเขาจึงต้องสร้างโอกาสนั้นขึ้นมาเอง
การขยับตัวของเขาทำให้ดาบขนาดยักษ์นั้นแทงพลาด ด้วยการขยับไปด้านข้างพร้อมกับอ้าแขนเมื่อดาบเฉียดเข้ากับข้างลำตัวเขาจึงได้ใช้แขนที่อ้าออกมาล็อคดาบของมันเอาไว้จนไม่สามารถขยับออกไปไหนได้ทั้งสิ้น
และแล้วโอกาสก็มาถึง!
ดาบที่โยนออกไปตอนแรกได้หล่นลงมาพอดีกับมือของเขาที่ชูขึ้นไปรับอย่างพอเหมาะพอเจาะ ดาบได้ถูกชูขึ้นไปข้างหลังก่อนจะอัดพลังเพิ่มเข้าไปจนมีออร่าราวกับภาพวาดจักรวาลล้อมรอบตัวดาบจนกลายเป็นเหมือนดาบยักษ์ที่ใหญ่กว่าดาบของ zarc ถึงสามเท่า
ถ้าไม่รีบปิดล่ะก็เราเองก็คงจะไม่รอด... เขาได้ขว้างดาบของตนขึ้นไปทั้งๆที่ตัวดาบอาบไปด้วยเลือดสดๆที่ไหลออกมาจากร่างของเขา เลือดเหล่านั้นได้ถูกแรงเหวี่ยงจะกระเด็นออกมาเป็นเส้นสายอย่างสวยงาม
zarc ไม่รอช้ารีบพุ่งตัวไปหามาโกโตะที่ไร้ซึ่งอาวุธเพื่อหวังจะปลิดชีพของเขาซะ
"ลาก่อนเจ้าหนู!!!"
ดาบได้พุ่งมาหมายจะแทงเข้าที่หัวใจ มาโกโตะจึงได้เคลื่อนไหวในชั่วพริบตาทั้งๆที่ตอนนี้ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดจากหัวของเขาจนเห็นได้แต่ภาพลางๆเท่านั้น ตัวเขารู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะโจมตีโดนเพราะงั้นตัวเขาจึงต้องสร้างโอกาสนั้นขึ้นมาเอง
การขยับตัวของเขาทำให้ดาบขนาดยักษ์นั้นแทงพลาด ด้วยการขยับไปด้านข้างพร้อมกับอ้าแขนเมื่อดาบเฉียดเข้ากับข้างลำตัวเขาจึงได้ใช้แขนที่อ้าออกมาล็อคดาบของมันเอาไว้จนไม่สามารถขยับออกไปไหนได้ทั้งสิ้น
และแล้วโอกาสก็มาถึง!
ดาบที่โยนออกไปตอนแรกได้หล่นลงมาพอดีกับมือของเขาที่ชูขึ้นไปรับอย่างพอเหมาะพอเจาะ ดาบได้ถูกชูขึ้นไปข้างหลังก่อนจะอัดพลังเพิ่มเข้าไปจนมีออร่าราวกับภาพวาดจักรวาลล้อมรอบตัวดาบจนกลายเป็นเหมือนดาบยักษ์ที่ใหญ่กว่าดาบของ zarc ถึงสามเท่า
210
มันได้ปล่อยพลังจากฝ่ามือออกมาเป็นบอลกลมๆสีดำพุ่งมาใส่ร่างของมาโกโตะนับสิบๆลูก ทางฝั่งของเขาจึงรีบใช้ดาบมาปัดการโจมตีทั้งหมดนั้นออกไป
มันมีจำนวนเยอะเกินไป!!! อันที่จริงจำนวนแค่นี้ถือว่าสบายๆมากหากเป็นยามปกติ แต่ก็เพราะพายุหิมะจึงทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นของมาโกโตะเสียหายอย่างหนัก...
และสิ่งที่ส่งผลตามมาอย่างเห็นได้ชัดเลยคือมีบอลหลุดมาถึงตัวเขา ชิส์!!! เขาได้แต่เจ็บใจและต้องทำใจรับการโจมตีนี้เอาไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้และผลที่เกิดตามมาก็คือการระเบิด!
แค่ครั้งเดียว.. แค่ครั้งเดียวเท่านั้นสถานการณ์ก็ได้พลิกทันที!!! ตัวเขาที่ถูกการระเบิดเข้าอย่างจังจึงทำให้สูญเสียสมาธิและนั่นจึงเป็นโอกาสให้ลูกอื่นๆที่ปล่อยตามออกมาถึงตัวเขาเรื่อยๆ การระเบิดจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลือดสดๆจึงได้กระเซ็นออกมาราวกับน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เมื่อการโจมตีถูกหยุดลงด้วยข้อจำกัดทางพลัง ร่างของมาโกโตะในสภาพเลือดชุ่มไปทั้งตัวก็ได้ปรากฏขึ้น....
เลือดสดๆได้กระเด็นออกมาจนทำให้หิมะรอบๆเป็นสีแดงไปหมด เมื่อได้รวมกับเลือดที่กำลังไหลออกมาจากร่างเพิ่มเติมไปอีกก็ยิ่งทำให้สีของหิมะรอบๆเข้มขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้จะเจ็บปวดแค่ไหน ต่อให้จะบาดเจ็บแค่ไหน แต่เขากับยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง
มันได้ปล่อยพลังจากฝ่ามือออกมาเป็นบอลกลมๆสีดำพุ่งมาใส่ร่างของมาโกโตะนับสิบๆลูก ทางฝั่งของเขาจึงรีบใช้ดาบมาปัดการโจมตีทั้งหมดนั้นออกไป
มันมีจำนวนเยอะเกินไป!!! อันที่จริงจำนวนแค่นี้ถือว่าสบายๆมากหากเป็นยามปกติ แต่ก็เพราะพายุหิมะจึงทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นของมาโกโตะเสียหายอย่างหนัก...
และสิ่งที่ส่งผลตามมาอย่างเห็นได้ชัดเลยคือมีบอลหลุดมาถึงตัวเขา ชิส์!!! เขาได้แต่เจ็บใจและต้องทำใจรับการโจมตีนี้เอาไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้และผลที่เกิดตามมาก็คือการระเบิด!
แค่ครั้งเดียว.. แค่ครั้งเดียวเท่านั้นสถานการณ์ก็ได้พลิกทันที!!! ตัวเขาที่ถูกการระเบิดเข้าอย่างจังจึงทำให้สูญเสียสมาธิและนั่นจึงเป็นโอกาสให้ลูกอื่นๆที่ปล่อยตามออกมาถึงตัวเขาเรื่อยๆ การระเบิดจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลือดสดๆจึงได้กระเซ็นออกมาราวกับน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เมื่อการโจมตีถูกหยุดลงด้วยข้อจำกัดทางพลัง ร่างของมาโกโตะในสภาพเลือดชุ่มไปทั้งตัวก็ได้ปรากฏขึ้น....
เลือดสดๆได้กระเด็นออกมาจนทำให้หิมะรอบๆเป็นสีแดงไปหมด เมื่อได้รวมกับเลือดที่กำลังไหลออกมาจากร่างเพิ่มเติมไปอีกก็ยิ่งทำให้สีของหิมะรอบๆเข้มขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้จะเจ็บปวดแค่ไหน ต่อให้จะบาดเจ็บแค่ไหน แต่เขากับยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง
209
ขาเองก็เริ่มฝืด มือเองก็เริ่มชา ร่างกายของเขากำลังเริ่มแข็งไปเรื่อยๆที่ละนิด ทีละนิด..
"เป็นอะไรไปเจ้าหนู แรงเริ่มจะตกไปเยอะแล้วนะ"
zarc เองก็สามารถสัมผัสมันได้จากการปะทะ การฟาดดาบที่มันเคยเสียเปรียบเรื่องแรงตอนนี้มันกับเทียบชั้นกับของมาโกโตะได้แล้ว และถ้าพูดให้ถูกคือพลังของมาโกโตะเองนั่นแหละที่ตกลงไป
มาโกโตะที่เริ่มจะลนลานจึงได้เริ่มร่ายเวทย์เพื่อหยุดการโจมตีของอีกฝ่าย ทาง zarc จึงยิงแสงเลเซอร์ออกมาจากตรงส่วนหัวกระโหลกที่เป็นตาของมัน ทำให้มาโกโตะต้องถอยไปตั้งหลักจนร่ายเวทย์ไม่ได้ ดาบยักษ์ได้ตาบมาฟาดเขาถึงที่เจ้าตัวจึงได้รับมันด้วยดาบของตนก่อนจะม้วนตัวออกไปด้านข้าง zarc จึงได้ใช้เท้าเตะแต่เขาก็สามารถเอาแขนมากันเอาไว้ได้ก่อนจะฟันเสยขึ้นไปจนมันต้องถอยหลบไปตั้งหลัก
มันได้มองมาทางนี้อย่างชื่นชม
ต้องขอยอมรับเลยว่าเจ้าหนูเก่งมากที่มาได้ถึงขนาดนี้แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะเข้าทางเราแล้วถึงได้ทำให้เกิดพายุหิมะขนาดนี้ขึ้น เพราะเหตุนี้เจ้าหนูเลยเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดเจนร่างกายที่เป็นมนุษย์นั้นไม่สามารถทนความหนาวได้นานนักหรอกและเมื่อรวมกับพลังที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นในตอนนี้ร่างกายของเจ้าหนูก็เริ่มพังลงมาเรื่อยๆ
ขาเองก็เริ่มฝืด มือเองก็เริ่มชา ร่างกายของเขากำลังเริ่มแข็งไปเรื่อยๆที่ละนิด ทีละนิด..
"เป็นอะไรไปเจ้าหนู แรงเริ่มจะตกไปเยอะแล้วนะ"
zarc เองก็สามารถสัมผัสมันได้จากการปะทะ การฟาดดาบที่มันเคยเสียเปรียบเรื่องแรงตอนนี้มันกับเทียบชั้นกับของมาโกโตะได้แล้ว และถ้าพูดให้ถูกคือพลังของมาโกโตะเองนั่นแหละที่ตกลงไป
มาโกโตะที่เริ่มจะลนลานจึงได้เริ่มร่ายเวทย์เพื่อหยุดการโจมตีของอีกฝ่าย ทาง zarc จึงยิงแสงเลเซอร์ออกมาจากตรงส่วนหัวกระโหลกที่เป็นตาของมัน ทำให้มาโกโตะต้องถอยไปตั้งหลักจนร่ายเวทย์ไม่ได้ ดาบยักษ์ได้ตาบมาฟาดเขาถึงที่เจ้าตัวจึงได้รับมันด้วยดาบของตนก่อนจะม้วนตัวออกไปด้านข้าง zarc จึงได้ใช้เท้าเตะแต่เขาก็สามารถเอาแขนมากันเอาไว้ได้ก่อนจะฟันเสยขึ้นไปจนมันต้องถอยหลบไปตั้งหลัก
มันได้มองมาทางนี้อย่างชื่นชม
ต้องขอยอมรับเลยว่าเจ้าหนูเก่งมากที่มาได้ถึงขนาดนี้แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะเข้าทางเราแล้วถึงได้ทำให้เกิดพายุหิมะขนาดนี้ขึ้น เพราะเหตุนี้เจ้าหนูเลยเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดเจนร่างกายที่เป็นมนุษย์นั้นไม่สามารถทนความหนาวได้นานนักหรอกและเมื่อรวมกับพลังที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นในตอนนี้ร่างกายของเจ้าหนูก็เริ่มพังลงมาเรื่อยๆ
208
ถูกต้องอย่างที่ zarc พูด มาโกโตะเริ่มที่จะเสียเปรียบมากขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่อยู่แบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่ทัศนวิสัยที่แย่ลงแต่มันรวมไปถึงร่างกายของเขาที่แย่ลงตามไปด้วย...
ร่างกายของคนเรานั้นทำไมถึงต้องมีคน... คำตอบนั้นง่ายมากนั่นก็คือเพื่อป้องกันความหนาวนั่นเอง...
แต่ก็ได้แค่ระดับนึงเท่านั้น...
เหตุผลก็เพราะมนุษย์ไม่ชอบอยู่ในที่ที่หนาวๆนี่จึงเป็นเหตุให้มนุษย์ไม่มีขนปุกปุยเหมือนกับหมีแถวขั้วโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นหากต้องพบเจอสภาพอากาศที่หนาวจัดแบบนานๆต่อให้เป็นมนุษย์ที่มีขนหนากว่าปกติก็สามารถเสียชีวิตได้ทันทีทันใด
และขั้นแรกก่อนการเสียชีวิตท่ามกลางความหนาวเย็นก็คือ อาการชา ซึ่งสาเหตุก็มาจากความหนาวเย็นโดยมันจะเริ่มลามไปทั่วร่าง...
แต่หากเป็นสถานการณ์แบบที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ มันก็จะยิ่งส่งผลต่อการต่อสู้มากขึ้นหลายต่อหลายเท่า หนึ่งในประสาทสัมผัสทั้ง 5 กายสัมผัสคือสิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายต่างๆที่เกิดขึ้นแต่ทว่าตอนนี้มันกลับเริ่มชาและใช้การไม่ได้ มันจึงเป็นตัวลดทอนความสามารถในการสัมผัสและจับดาบของมาโกโตะ จนถึงตอนนี้มาโกโตะเริ่มมือชาจนมือที่จับดาบเริ่มค่อยๆหลวมมากขึ้น..
ถูกต้องอย่างที่ zarc พูด มาโกโตะเริ่มที่จะเสียเปรียบมากขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่อยู่แบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่ใช่เพียงแค่ทัศนวิสัยที่แย่ลงแต่มันรวมไปถึงร่างกายของเขาที่แย่ลงตามไปด้วย...
ร่างกายของคนเรานั้นทำไมถึงต้องมีคน... คำตอบนั้นง่ายมากนั่นก็คือเพื่อป้องกันความหนาวนั่นเอง...
แต่ก็ได้แค่ระดับนึงเท่านั้น...
เหตุผลก็เพราะมนุษย์ไม่ชอบอยู่ในที่ที่หนาวๆนี่จึงเป็นเหตุให้มนุษย์ไม่มีขนปุกปุยเหมือนกับหมีแถวขั้วโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นหากต้องพบเจอสภาพอากาศที่หนาวจัดแบบนานๆต่อให้เป็นมนุษย์ที่มีขนหนากว่าปกติก็สามารถเสียชีวิตได้ทันทีทันใด
และขั้นแรกก่อนการเสียชีวิตท่ามกลางความหนาวเย็นก็คือ อาการชา ซึ่งสาเหตุก็มาจากความหนาวเย็นโดยมันจะเริ่มลามไปทั่วร่าง...
แต่หากเป็นสถานการณ์แบบที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ มันก็จะยิ่งส่งผลต่อการต่อสู้มากขึ้นหลายต่อหลายเท่า หนึ่งในประสาทสัมผัสทั้ง 5 กายสัมผัสคือสิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถรับรู้ได้ถึงภัยอันตรายต่างๆที่เกิดขึ้นแต่ทว่าตอนนี้มันกลับเริ่มชาและใช้การไม่ได้ มันจึงเป็นตัวลดทอนความสามารถในการสัมผัสและจับดาบของมาโกโตะ จนถึงตอนนี้มาโกโตะเริ่มมือชาจนมือที่จับดาบเริ่มค่อยๆหลวมมากขึ้น..
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561
207
"ถึงตาของฉันมั่งสักที"
อึ่ก... หมัดขวาตรงได้อัดใส่หน้าของมันเป็นการเริ่มต้นของการโต้กลับของมาโกโตะ แน่นอนว่าหากโดนชกก็จะต้องมีการกระเด็นไปด้านหลังแต่มาโกโตะก็ได้จับมันเอาไว้ไม่ให้ไปตามแรงพร้อมกับชกใส่มันรัวๆ
หลังจากชกเสร็จตัวเขาก็ได้กระโดดหมุนตัวเตะใส่หน้าของมันจนโครงกระดูกของมันถึงกับบิดเบี้ยว
"ลูกเตะ อินฟินิตี้"
"อั่กกก"
แรงมหาศาลได้ส่งผ่านไปยังทุกส่วนของร่างกายจนทำให้กระดูกที่ไม่มีวันหักของมันถึงกับเริ่มร้าว ร่างของมันได้ลอยไปชนกับภูเขาจนเกิดเป็นหลุมลึก มันที่เห็นมาโกโตะตามมาจะซ้ำจึงได้ร่ายเวทย์เพื่อที่จะซื้อเวลาแต่ก็ถูกมาโกโตะแคนเซิลเวทย์ของมันผลสุดท้ายมันจึงต้องกลิ้งหลบลูกเตะของมาโกโตะ ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดก็ได้มีหิมะตกลงมา...
ทั้งสองที่กำลังต่อสู้อย่าดุเดือดอยู่นั้นจึงเริ่มมีทัศนวิสัยการมองที่แย่ลงซ้ำยังทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นแล้ว ณ ตอนนี้ ทั้งสองที่โจมตีใส่กันอย่างไม่ไหวหวั่นต่ออุปสรรคได้ใช้เวลานั้นสนทนากัน
"ถึงแกจะเก่งยังไงก็ตามเจ้าหนูแต่แกก็ยังเป็นมนุษย์"
"ถึงตาของฉันมั่งสักที"
อึ่ก... หมัดขวาตรงได้อัดใส่หน้าของมันเป็นการเริ่มต้นของการโต้กลับของมาโกโตะ แน่นอนว่าหากโดนชกก็จะต้องมีการกระเด็นไปด้านหลังแต่มาโกโตะก็ได้จับมันเอาไว้ไม่ให้ไปตามแรงพร้อมกับชกใส่มันรัวๆ
หลังจากชกเสร็จตัวเขาก็ได้กระโดดหมุนตัวเตะใส่หน้าของมันจนโครงกระดูกของมันถึงกับบิดเบี้ยว
"ลูกเตะ อินฟินิตี้"
"อั่กกก"
แรงมหาศาลได้ส่งผ่านไปยังทุกส่วนของร่างกายจนทำให้กระดูกที่ไม่มีวันหักของมันถึงกับเริ่มร้าว ร่างของมันได้ลอยไปชนกับภูเขาจนเกิดเป็นหลุมลึก มันที่เห็นมาโกโตะตามมาจะซ้ำจึงได้ร่ายเวทย์เพื่อที่จะซื้อเวลาแต่ก็ถูกมาโกโตะแคนเซิลเวทย์ของมันผลสุดท้ายมันจึงต้องกลิ้งหลบลูกเตะของมาโกโตะ ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดก็ได้มีหิมะตกลงมา...
ทั้งสองที่กำลังต่อสู้อย่าดุเดือดอยู่นั้นจึงเริ่มมีทัศนวิสัยการมองที่แย่ลงซ้ำยังทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นแล้ว ณ ตอนนี้ ทั้งสองที่โจมตีใส่กันอย่างไม่ไหวหวั่นต่ออุปสรรคได้ใช้เวลานั้นสนทนากัน
"ถึงแกจะเก่งยังไงก็ตามเจ้าหนูแต่แกก็ยังเป็นมนุษย์"
206
"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจัง"
"มันก็พอกันนั่นแหละ"
ทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่กันอีกครั้งโดยคราวนี้ทั้งคู่ได้ใช้กำปั้นของตนอัดใส่กันแบบไม่ออมือและแน่นอนว่าฝ่ายที่โดนซัดจนปลิวนั้นก็คือฝ่ายของมาโกโตะ ทางด้าน Zarc จึงตามไปกระหน่ำโจมตีอย่างร้อนรน
หากเป็นอย่างที่เจ้าหนูพูด ไม่สิ มันเป็นจริงแน่ๆ ตัวเราต้องรีบปิดมันให้ได้โดยเร็วไม่ก็ต้องทนเอาไว้ให้ร่างกายของมันรับไม่ได้แล้วค่อยจัดการมันทีหลัง... เขาสัมผัสถึงพลังของมาโกโตะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในตอนแรกสุดพลังของมาโกโตะยังไม่ได้เสี้ยวนึงของมันเลยแต่ทว่าตอนนี้มันกลับเพิ่มขึ้นจนจะตามมาทันแล้ว
บ้าๆๆๆๆ บ้าไปแล้ว เจ้านี่มันกำลังพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนจะตามฉันทันอยู่แล้ว ตัวฉันที่อยู่ในโหมดอวตารเนี่ยนะ แถมมันยังได้รวมร่างเลยด้วย
หมัดอันแสนบ้าระห่ำได้กระหน่ำใส่ร่างของเด็กหนุ่มอย่างไม่ปราณีทั้งยังอ้าปากยิงพลังใส่ในระยะประชิดจนเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนผู้คนที่อยู่ใกล้ๆสามารถสังเกตุเห็นมันได้ เมื่อเห็นว่ามาโกโตะยังรอดออกมาได้มันจึงพุ่งไปหาโดยใช้ปีกสร้างแรงส่งที่รุนแรงจนเกิดโซนิคบูมจนเกิดหิมะถล่มลงมาในหลายต่อหลายที่ในระแวกนั้น
แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว หมัดของมันได้ถูกมือของมาโกโตะรับเอาไว้ได้อย่างสบายๆ ในตอนนี้พลังของมาโกโตะได้เพิ่มขึ้นจนอยู่ระดับเดียวกับของ Zarc ไปแล้ว...
"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจัง"
"มันก็พอกันนั่นแหละ"
ทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่กันอีกครั้งโดยคราวนี้ทั้งคู่ได้ใช้กำปั้นของตนอัดใส่กันแบบไม่ออมือและแน่นอนว่าฝ่ายที่โดนซัดจนปลิวนั้นก็คือฝ่ายของมาโกโตะ ทางด้าน Zarc จึงตามไปกระหน่ำโจมตีอย่างร้อนรน
หากเป็นอย่างที่เจ้าหนูพูด ไม่สิ มันเป็นจริงแน่ๆ ตัวเราต้องรีบปิดมันให้ได้โดยเร็วไม่ก็ต้องทนเอาไว้ให้ร่างกายของมันรับไม่ได้แล้วค่อยจัดการมันทีหลัง... เขาสัมผัสถึงพลังของมาโกโตะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในตอนแรกสุดพลังของมาโกโตะยังไม่ได้เสี้ยวนึงของมันเลยแต่ทว่าตอนนี้มันกลับเพิ่มขึ้นจนจะตามมาทันแล้ว
บ้าๆๆๆๆ บ้าไปแล้ว เจ้านี่มันกำลังพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนจะตามฉันทันอยู่แล้ว ตัวฉันที่อยู่ในโหมดอวตารเนี่ยนะ แถมมันยังได้รวมร่างเลยด้วย
หมัดอันแสนบ้าระห่ำได้กระหน่ำใส่ร่างของเด็กหนุ่มอย่างไม่ปราณีทั้งยังอ้าปากยิงพลังใส่ในระยะประชิดจนเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนผู้คนที่อยู่ใกล้ๆสามารถสังเกตุเห็นมันได้ เมื่อเห็นว่ามาโกโตะยังรอดออกมาได้มันจึงพุ่งไปหาโดยใช้ปีกสร้างแรงส่งที่รุนแรงจนเกิดโซนิคบูมจนเกิดหิมะถล่มลงมาในหลายต่อหลายที่ในระแวกนั้น
แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว หมัดของมันได้ถูกมือของมาโกโตะรับเอาไว้ได้อย่างสบายๆ ในตอนนี้พลังของมาโกโตะได้เพิ่มขึ้นจนอยู่ระดับเดียวกับของ Zarc ไปแล้ว...
205
"ขอบใจ... เพราะตอนที่ฉันสร้างหลุมศพให้นายฉันจะได้สลักชื่อได้ถูก"
ไม่เพียงแค่ Zarc เท่านั้นที่ยังไม่ยอมเอาจริงแต่มาโกโตะเองก็เช่นกัน และมันก็มีเหตุผลที่เขายัังไม่ยอมเอาจริงอยู่...
หากเราไม่เหลือพลังเอาไว้คงจะตามไปช่วยเซนะและปกป้องเธอเอาไว้ไม่ได้... แต่ถ้าหากไม่เอาจริงเราก็คงจะไม่รอด...
เพราะงั้น... ขอร้องล่ะ ใครก็ได้ช่วยปกป้องเธอที มาโกโตะได้เดินออกมาข้างหน้าพร้อมกับพลังที่ถูกปลดปล่อยจนอีกฝ่ายสัมผัสถึงมันได้
อะไรกัน ทำไมพลังของเจ้าหนูถึงกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ล่ะ เจ้าหนูนี่มันเป็นใครกันแน่....
"แกบอกเองสินะว่ายอมรับฉันเพราะงั้นนี่ก็คือการที่ฉันยอมรับแก พลังของฉันคือ The Infinity เป็นพลังอันไร้ขีดจำกัดที่สามารถเพิ่มพลังของฉันนขึ้นนไปได้เรื่อยๆแต่นั่นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันซึ่งนั่นก็คือร่างกายของฉันจะรับภาระหนักขึ้นเรื่อยๆและหากหยุดพลังนี้พลังของฉันก็จะถูกรีกลับไปจนอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้พลังนี้ได้อีกซึ่งอย่างน้อยๆก็สัก 1 ชั่วโมง เพราะงั้นฉันต้องจัดการนายให้ได้ก่อนที่ร่างกายของฉันจะรับพลังที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ไม่ไหว"
"บอกฉันหมดแบบนี้มันจะดีเหรอ.."
"ก็ถือว่าเท่าเทียมกันกับตอนแรกที่นายบอกพลังของนายให้กับฉัน"
"ขอบใจ... เพราะตอนที่ฉันสร้างหลุมศพให้นายฉันจะได้สลักชื่อได้ถูก"
ไม่เพียงแค่ Zarc เท่านั้นที่ยังไม่ยอมเอาจริงแต่มาโกโตะเองก็เช่นกัน และมันก็มีเหตุผลที่เขายัังไม่ยอมเอาจริงอยู่...
หากเราไม่เหลือพลังเอาไว้คงจะตามไปช่วยเซนะและปกป้องเธอเอาไว้ไม่ได้... แต่ถ้าหากไม่เอาจริงเราก็คงจะไม่รอด...
เพราะงั้น... ขอร้องล่ะ ใครก็ได้ช่วยปกป้องเธอที มาโกโตะได้เดินออกมาข้างหน้าพร้อมกับพลังที่ถูกปลดปล่อยจนอีกฝ่ายสัมผัสถึงมันได้
อะไรกัน ทำไมพลังของเจ้าหนูถึงกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ล่ะ เจ้าหนูนี่มันเป็นใครกันแน่....
"แกบอกเองสินะว่ายอมรับฉันเพราะงั้นนี่ก็คือการที่ฉันยอมรับแก พลังของฉันคือ The Infinity เป็นพลังอันไร้ขีดจำกัดที่สามารถเพิ่มพลังของฉันนขึ้นนไปได้เรื่อยๆแต่นั่นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันซึ่งนั่นก็คือร่างกายของฉันจะรับภาระหนักขึ้นเรื่อยๆและหากหยุดพลังนี้พลังของฉันก็จะถูกรีกลับไปจนอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้พลังนี้ได้อีกซึ่งอย่างน้อยๆก็สัก 1 ชั่วโมง เพราะงั้นฉันต้องจัดการนายให้ได้ก่อนที่ร่างกายของฉันจะรับพลังที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ไม่ไหว"
"บอกฉันหมดแบบนี้มันจะดีเหรอ.."
"ก็ถือว่าเท่าเทียมกันกับตอนแรกที่นายบอกพลังของนายให้กับฉัน"
204
ทุกย่างก้าวของมันได้ทำให้หิมะตรงส่วนที่มันเดินผ่านเริ่มละลายจนยุบตัวลงไปเป็นรอยเท้าคล้าวกับรอยเท้าของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วในช่วงยุคปลายของครีเทเชียสซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของไดโนเสาร์
"เป็นอะไรไปเจ้าหนูทำไมไม่บุกเข้ามาล่ะ หรือว่านายกำลังกลัว"
ดวงตาของมันจับจ้องมาที่ร่างของเด็กหนุ่มด้วยเพลิงโลกันต์ที่กำลังลุกโชนอยู่ภายในกระโหลก
ร่างกายของมันแค่ขนาดตัวก็สามารถกดดันมาโกโตะไปได้มากมายแล้ว...
ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดไว้ล่ะก็ถ้าหากเธอมายืนอยู่ตรงนี้แทนฉัน เธอก็คงจะยิ้มออกมาสินะ เซนะ....
ตัวเขาได้มองเห็นถึงใบหน้าในตอนนั้นของเธอ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่จินตนาการแต่ตลอดเวลาที่พวกเขาสองคนร่วมรักกันก็ทำให้ตัวเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยว่า เธอต้องยิ้มแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน...
"นี่แกน่ะไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันขอทราบชื่อจริงของนายหน่อยสิ"
"Zarc ชื่อของข้าคือ Zarc เจ้าจงจำเอาไว้ให้ดีก่อนตาย เจ้าเป็นคนที่ข้ายอมรับเจ้าหนู "
ทุกย่างก้าวของมันได้ทำให้หิมะตรงส่วนที่มันเดินผ่านเริ่มละลายจนยุบตัวลงไปเป็นรอยเท้าคล้าวกับรอยเท้าของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วในช่วงยุคปลายของครีเทเชียสซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของไดโนเสาร์
"เป็นอะไรไปเจ้าหนูทำไมไม่บุกเข้ามาล่ะ หรือว่านายกำลังกลัว"
ดวงตาของมันจับจ้องมาที่ร่างของเด็กหนุ่มด้วยเพลิงโลกันต์ที่กำลังลุกโชนอยู่ภายในกระโหลก
ร่างกายของมันแค่ขนาดตัวก็สามารถกดดันมาโกโตะไปได้มากมายแล้ว...
ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดไว้ล่ะก็ถ้าหากเธอมายืนอยู่ตรงนี้แทนฉัน เธอก็คงจะยิ้มออกมาสินะ เซนะ....
ตัวเขาได้มองเห็นถึงใบหน้าในตอนนั้นของเธอ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่จินตนาการแต่ตลอดเวลาที่พวกเขาสองคนร่วมรักกันก็ทำให้ตัวเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยว่า เธอต้องยิ้มแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน...
"นี่แกน่ะไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันขอทราบชื่อจริงของนายหน่อยสิ"
"Zarc ชื่อของข้าคือ Zarc เจ้าจงจำเอาไว้ให้ดีก่อนตาย เจ้าเป็นคนที่ข้ายอมรับเจ้าหนู "
203
พลังของอวตารนั้นแตกต่างจากการรวมร่างกันตามปกติอย่างมากหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วการร่วมร่างจะต้องใช้ทั้งมาสเตอร์และดูโอ้โดยจากทั้งสองอย่างละ 100 เปอร์เซ็นต์มารวมกันในร่างรวมจะได้เป็น 120 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเพราะเนื่องจากมันเป็นการรวมร่างที่ไม่ใช่การรวมร่างอย่างแท้จริงผิดกับของอวตารที่ได้พลังจากการเปลี่ยนร่างถึง 160 เปอร์เซ็นต์จึงไม่แปลกหากอวตารทุกคนจะมีพลังเหนือยิ่งกว่าผู้ที่รวมร่าง
โครงกระดูกของมันได้เพิ่มขนาดจนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามาโกโตะถึง 3 เท่า ตรงส่วนของช่องว่างในร่างกายที่เป็นกระดูกก็ได้ถูกเพลิงสีฟ้าแทรกออกมาตามช่องว่าง กระดูกหลังได้ยื่นออกมาจนคล้ายกับมือและคาดว่าน่าจะใช้บิน
ใบหน้าโครงกระดูกได้เริ่มยื่นออกมาข้างหน้าทีละนิด ทีละนิด จนกลายเป็นโครงกระดูกที่มีใบหน้าคล้ายกับของโครงกระดูกมังกร ตรงส่วนของบนหัวได้มีโครงกระดูกงอกออกมาจนเป็นเหมือนกับเขาของกระทิงสองเขา
มาโกโตะรับรู้ได้เลยว่า ที่เบื้องหน้าของตนนันมีสิ่งมีชีวืิตที่สุดยอดอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ปีศาจของจริงเลยนี่หว่า... ถ้าเรารอดกลับไปได้ล่ะก็จะขอรับความรักจากเธอสักหน่อยก็แล้วกันเซนะ..
ถ้าฉันรอดไปได้น่ะนะ...
ในที่สุดมันก็ได้ขยับตัวเพื่อมุ่งตรงมาทางนี้ ใช่แล้ว มันคือความตาย...
พลังของอวตารนั้นแตกต่างจากการรวมร่างกันตามปกติอย่างมากหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วการร่วมร่างจะต้องใช้ทั้งมาสเตอร์และดูโอ้โดยจากทั้งสองอย่างละ 100 เปอร์เซ็นต์มารวมกันในร่างรวมจะได้เป็น 120 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเพราะเนื่องจากมันเป็นการรวมร่างที่ไม่ใช่การรวมร่างอย่างแท้จริงผิดกับของอวตารที่ได้พลังจากการเปลี่ยนร่างถึง 160 เปอร์เซ็นต์จึงไม่แปลกหากอวตารทุกคนจะมีพลังเหนือยิ่งกว่าผู้ที่รวมร่าง
โครงกระดูกของมันได้เพิ่มขนาดจนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามาโกโตะถึง 3 เท่า ตรงส่วนของช่องว่างในร่างกายที่เป็นกระดูกก็ได้ถูกเพลิงสีฟ้าแทรกออกมาตามช่องว่าง กระดูกหลังได้ยื่นออกมาจนคล้ายกับมือและคาดว่าน่าจะใช้บิน
ใบหน้าโครงกระดูกได้เริ่มยื่นออกมาข้างหน้าทีละนิด ทีละนิด จนกลายเป็นโครงกระดูกที่มีใบหน้าคล้ายกับของโครงกระดูกมังกร ตรงส่วนของบนหัวได้มีโครงกระดูกงอกออกมาจนเป็นเหมือนกับเขาของกระทิงสองเขา
มาโกโตะรับรู้ได้เลยว่า ที่เบื้องหน้าของตนนันมีสิ่งมีชีวืิตที่สุดยอดอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ปีศาจของจริงเลยนี่หว่า... ถ้าเรารอดกลับไปได้ล่ะก็จะขอรับความรักจากเธอสักหน่อยก็แล้วกันเซนะ..
ถ้าฉันรอดไปได้น่ะนะ...
ในที่สุดมันก็ได้ขยับตัวเพื่อมุ่งตรงมาทางนี้ ใช่แล้ว มันคือความตาย...
202
แต่ก็ถือว่าเขายังคงเป็นอัจฉริยะอยู่ดี
สรุปก็คือเขาไม่เคยแพ้ใครเลยทั้งนั้นหากเป็นการต่อสู้ในเกมแบบ 1 ต่อ 1...
"นายน่ะพลาดแล้วที่มาสู้กับฉันตัวต่อตัวผนึกนี้น่ะจะไม่หยุดทำงานจนกว่าฉันจะตายสรุปง่ายๆก็คือนายน่ะจะขยับไม่ได้สัก 100 ปีกว่าจะถึงตอนนั้นแผนการและองค์กรณ์ของพวกนายก็คงจะถูกฉันจัดการหมดแล้วล่ะ"
"'งั้นนี่ก็คงจะเป็นการดวลที่สนุกสินะ"
"นายหมายความว่ายังไง"
"ฉันเองก็เหมือนกับแก เป็นคนที่ถ้าสู้ 1 ต่อ 1 แล้วยังไม่เคยแพ้ใครมาก่อนเลย..."
มันได้ใช้พลังอันมหาศาลของตนระเบิดออร่าสีดำออกมาจากภายในร่าง และเพราะพลังนั้นของมันจึงทำให้ผนึกเริ่มมีรอยร้าวเปลวเพลิงสีฟ้าที่ลุกโชนอยู่บนหัวของมันได้เริ่มลามไปทั่วร่างจนในที่สุดร่างของมันก็ได้มีไฟลุกขึ้นทั้งตัว
และมันก็ได้ลามมาถึงวงแหวนอาคมที่มาโกโตะทำไว้ก่อนจะเผามันจนมอดไหม้ไปในที่สุด สัญชาตญานของเขากำลังบอกว่าไม่ดีแน่หากยังอยู่ใกล้ๆตัวเขาจึงได้กระโดดไปข้างหลังเพื่อถอยกลับมาตั้งหลัก
ร่างกลายของมันได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ดูเหมือนกับการรวมร่างแต่มันไม่ใช่ มันคืออวตาร....
แต่ก็ถือว่าเขายังคงเป็นอัจฉริยะอยู่ดี
สรุปก็คือเขาไม่เคยแพ้ใครเลยทั้งนั้นหากเป็นการต่อสู้ในเกมแบบ 1 ต่อ 1...
"นายน่ะพลาดแล้วที่มาสู้กับฉันตัวต่อตัวผนึกนี้น่ะจะไม่หยุดทำงานจนกว่าฉันจะตายสรุปง่ายๆก็คือนายน่ะจะขยับไม่ได้สัก 100 ปีกว่าจะถึงตอนนั้นแผนการและองค์กรณ์ของพวกนายก็คงจะถูกฉันจัดการหมดแล้วล่ะ"
"'งั้นนี่ก็คงจะเป็นการดวลที่สนุกสินะ"
"นายหมายความว่ายังไง"
"ฉันเองก็เหมือนกับแก เป็นคนที่ถ้าสู้ 1 ต่อ 1 แล้วยังไม่เคยแพ้ใครมาก่อนเลย..."
มันได้ใช้พลังอันมหาศาลของตนระเบิดออร่าสีดำออกมาจากภายในร่าง และเพราะพลังนั้นของมันจึงทำให้ผนึกเริ่มมีรอยร้าวเปลวเพลิงสีฟ้าที่ลุกโชนอยู่บนหัวของมันได้เริ่มลามไปทั่วร่างจนในที่สุดร่างของมันก็ได้มีไฟลุกขึ้นทั้งตัว
และมันก็ได้ลามมาถึงวงแหวนอาคมที่มาโกโตะทำไว้ก่อนจะเผามันจนมอดไหม้ไปในที่สุด สัญชาตญานของเขากำลังบอกว่าไม่ดีแน่หากยังอยู่ใกล้ๆตัวเขาจึงได้กระโดดไปข้างหลังเพื่อถอยกลับมาตั้งหลัก
ร่างกลายของมันได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ดูเหมือนกับการรวมร่างแต่มันไม่ใช่ มันคืออวตาร....
201
"นายคงจะมีคำถามอยู่ในหัวแล้วสินะว่าสิ่งนี้มาได้ยังไงงั้นฉันจะอธิบายให้เอง มันมาจากตอนที่ฉันยิงเลเซอร์ใส่นายยังไงล่ะ!"
ย้อนกลับไปในตอนที่เขาปล่อยแสงเลเซอร์พุ่งออกมาใส่ king of dark ในตอนนั้นเขาได้คำนวณทุกๆอย่างเอาไว้ก่อนแล้ว การฟันแต่ละครั้งเขาก็ทำเพื่อสร้างวงแหวนเวทย์นี้ขึ้น เช่นเดียวกันการโจมตีที่เขาเผลอเปิดช่องว่างเอาไว้นั้นความจริงแล้วมันก็คือแผนของเขาที่ล่อให้อีกฝ่ายเห็นและโจมตีจากจุดที่เขาสร้างขึ้นเพื่อให้ตนเองสามารถสวนกลับได้อย่างง่ายดายในยามที่อีกฝ่ายติดกับ
มาโกโตะนั้นมีประสบการณ์การเล่นเกมมาเยอะพอสมควรและที่เขาชอบมากคือประเภทของเกม MMO ซึ่งเป็นเกมในโลกเสมือนจริงซึ่งในยุคนี้กำลังพัฒนาขึ้นมา
และในเกมประเภทนี้ก็จะมีการวางแผน ลงดันเจี้ยน กิลด์ และอีกมากมายที่น่าสนใจในโลกเสมือนแห่งนั้นเยอะแยะมากมาย
ในการต่อสู้ครั้งนี้เขาก็ได้ใช้ความสามารถที่ได้รับมาจากเกมให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด
และสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดนั่นก็คือการแข่งแบบ PVP (player vs player) หรือก็คือการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกัน
ในเกมแนวนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะคิดว่าบอสในดันเจี้ยนจะรับมือยากที่สุดเพราะค่า hp ที่สูง สกิลที่รุนแรง บางครั้งก็มีสกิลเรียกลูกน้องเก่งๆ
แต่หากมองในอีกแง่นึงซึ่งเป็นแง่ของระบบเหล่าบอสที่ทุกคนคิดว่ามันยากนักยาากหนานั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องจักรที่ใช้ตามโรงงาน
มีอยู่ช่วงนึงที่มาโกโตะสนใจในตัวของระบบเกมพวกนี้และก็มีนักออกแบบระบบของเกมทาบทามให้ไปลองดูงานที่ศูนย์วิจัยโดยตรงและนั่นเองจึงทำให้เขาได้เห็นกลไกของระบบทุกอย่างไล่ตั้งแต่การวางโปรแกรม การดีไซน์ตัวละคร การกำหนดลักษณะต่างๆ
และเหล่าบอสในเกมเองก็ไม่ต่างกัน
พวกมันเองก็ถูกตั้งระบบเอาไว้เช่นเมื่อโดนตีจากทางซ้ายก็จะใช้หางปัด เมื่อโดนโจมตีจากทางด้านหน้าให้ใช้ดาบฟันพวกมันทิ้ง
และบอสแต่ละตัวนั้นก็จะมีฟังก์ชันพิเศษขึ้นอยู่กับระดับของพวกมันในเกมซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปแบบที่แน่นอน
สรุปก็คือหากเรารู้กลไกการตอบสนองของมันเราก็สามารถรับมือได้ไม่ยาก
แต่บอสบางตัวก็ใช่ว่าแค่ดักทางมันได้จะทำให้ชนะ
แน่นอนว่า GM คงไม่ยอมให้มันง่ายดายขนาดนั้นหรอกเพราะไม่งั้นเกมก็จะเจ๋งไม่เป็นท่า
และสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นส่วนมากไม่สามารถผ่านด่านของบอสไปได้นั่นก็คือ LV ซึ่งรวมไปถึงค่าพลังเข้าไปด้วย
LV หรือ Level มันก็คือสิ่งที่พบได้ในเกมทั่วไปซึ่งหากเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ ค่าประสบการณ์
ยิ่งมีเลเวลสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งบ่งบอกถึงประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
และถึงแม้จะซื้อตัวละครมาแต่ถ้าประสบการณ์การเล่นไม่มีมันก็ไร้ค่า!
แล้วสิ่งนี้มันเกี่ยวอะไรกับการต่อสู้ครั้งนี้!?
คำตอบของเรื่องนี้อยูที่การ pvp ที่บอกไว้ในข้างต้น สำหรับมาโกโตะแล้วเขาสามารถโค่นบอสที่ต้องใช้จำนวนคนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวจนเป็นหนึ่งในฉายาของเขา อัจฉริยะนั่นเอง!
ซึ่งมีอีกหลายต่อหลายอย่างที่ทำให้เขาได้เป็นอัจฉริยะ
แต่หลังจากที่เขาเอาชนะบอสในเกมจนเคลียร์ได้หมด เขาจึงเล่น pvp กับคนอื่นเพื่อแก้เบื่อ
และนั่นก็ทำให้เขาติดใจในการ pvp ในที่สุด
เสน่ห์ของการ pvp กันสำหรับเขามันคือการต่อสู้อันนอกระบบหรือพูดง่ายๆคือการต่อสู้แบบตามใจฉันนั่นเองซึ้งวิธีนี้ทำให้เขาได้เห็นแนวทางใหม่ๆไม่ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆมา
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยแพ้ใครเลยแม้สักครั้งเดียว
สถิตการแข่ง pvp รวมทั้งหมดทุกเกมของเขาอยู่ที่ 802,965 ซึ่งสถิติการแพ้ของเขาคือ 0 แต่ทว่ากับมีการเสมอถึง 12 ครั้ง
"นายคงจะมีคำถามอยู่ในหัวแล้วสินะว่าสิ่งนี้มาได้ยังไงงั้นฉันจะอธิบายให้เอง มันมาจากตอนที่ฉันยิงเลเซอร์ใส่นายยังไงล่ะ!"
ย้อนกลับไปในตอนที่เขาปล่อยแสงเลเซอร์พุ่งออกมาใส่ king of dark ในตอนนั้นเขาได้คำนวณทุกๆอย่างเอาไว้ก่อนแล้ว การฟันแต่ละครั้งเขาก็ทำเพื่อสร้างวงแหวนเวทย์นี้ขึ้น เช่นเดียวกันการโจมตีที่เขาเผลอเปิดช่องว่างเอาไว้นั้นความจริงแล้วมันก็คือแผนของเขาที่ล่อให้อีกฝ่ายเห็นและโจมตีจากจุดที่เขาสร้างขึ้นเพื่อให้ตนเองสามารถสวนกลับได้อย่างง่ายดายในยามที่อีกฝ่ายติดกับ
มาโกโตะนั้นมีประสบการณ์การเล่นเกมมาเยอะพอสมควรและที่เขาชอบมากคือประเภทของเกม MMO ซึ่งเป็นเกมในโลกเสมือนจริงซึ่งในยุคนี้กำลังพัฒนาขึ้นมา
และในเกมประเภทนี้ก็จะมีการวางแผน ลงดันเจี้ยน กิลด์ และอีกมากมายที่น่าสนใจในโลกเสมือนแห่งนั้นเยอะแยะมากมาย
ในการต่อสู้ครั้งนี้เขาก็ได้ใช้ความสามารถที่ได้รับมาจากเกมให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด
และสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดนั่นก็คือการแข่งแบบ PVP (player vs player) หรือก็คือการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกัน
ในเกมแนวนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะคิดว่าบอสในดันเจี้ยนจะรับมือยากที่สุดเพราะค่า hp ที่สูง สกิลที่รุนแรง บางครั้งก็มีสกิลเรียกลูกน้องเก่งๆ
แต่หากมองในอีกแง่นึงซึ่งเป็นแง่ของระบบเหล่าบอสที่ทุกคนคิดว่ามันยากนักยาากหนานั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องจักรที่ใช้ตามโรงงาน
มีอยู่ช่วงนึงที่มาโกโตะสนใจในตัวของระบบเกมพวกนี้และก็มีนักออกแบบระบบของเกมทาบทามให้ไปลองดูงานที่ศูนย์วิจัยโดยตรงและนั่นเองจึงทำให้เขาได้เห็นกลไกของระบบทุกอย่างไล่ตั้งแต่การวางโปรแกรม การดีไซน์ตัวละคร การกำหนดลักษณะต่างๆ
และเหล่าบอสในเกมเองก็ไม่ต่างกัน
พวกมันเองก็ถูกตั้งระบบเอาไว้เช่นเมื่อโดนตีจากทางซ้ายก็จะใช้หางปัด เมื่อโดนโจมตีจากทางด้านหน้าให้ใช้ดาบฟันพวกมันทิ้ง
และบอสแต่ละตัวนั้นก็จะมีฟังก์ชันพิเศษขึ้นอยู่กับระดับของพวกมันในเกมซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปแบบที่แน่นอน
สรุปก็คือหากเรารู้กลไกการตอบสนองของมันเราก็สามารถรับมือได้ไม่ยาก
แต่บอสบางตัวก็ใช่ว่าแค่ดักทางมันได้จะทำให้ชนะ
แน่นอนว่า GM คงไม่ยอมให้มันง่ายดายขนาดนั้นหรอกเพราะไม่งั้นเกมก็จะเจ๋งไม่เป็นท่า
และสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นส่วนมากไม่สามารถผ่านด่านของบอสไปได้นั่นก็คือ LV ซึ่งรวมไปถึงค่าพลังเข้าไปด้วย
LV หรือ Level มันก็คือสิ่งที่พบได้ในเกมทั่วไปซึ่งหากเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ ค่าประสบการณ์
ยิ่งมีเลเวลสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งบ่งบอกถึงประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
และถึงแม้จะซื้อตัวละครมาแต่ถ้าประสบการณ์การเล่นไม่มีมันก็ไร้ค่า!
แล้วสิ่งนี้มันเกี่ยวอะไรกับการต่อสู้ครั้งนี้!?
คำตอบของเรื่องนี้อยูที่การ pvp ที่บอกไว้ในข้างต้น สำหรับมาโกโตะแล้วเขาสามารถโค่นบอสที่ต้องใช้จำนวนคนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวจนเป็นหนึ่งในฉายาของเขา อัจฉริยะนั่นเอง!
ซึ่งมีอีกหลายต่อหลายอย่างที่ทำให้เขาได้เป็นอัจฉริยะ
แต่หลังจากที่เขาเอาชนะบอสในเกมจนเคลียร์ได้หมด เขาจึงเล่น pvp กับคนอื่นเพื่อแก้เบื่อ
และนั่นก็ทำให้เขาติดใจในการ pvp ในที่สุด
เสน่ห์ของการ pvp กันสำหรับเขามันคือการต่อสู้อันนอกระบบหรือพูดง่ายๆคือการต่อสู้แบบตามใจฉันนั่นเองซึ้งวิธีนี้ทำให้เขาได้เห็นแนวทางใหม่ๆไม่ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆมา
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยแพ้ใครเลยแม้สักครั้งเดียว
สถิตการแข่ง pvp รวมทั้งหมดทุกเกมของเขาอยู่ที่ 802,965 ซึ่งสถิติการแพ้ของเขาคือ 0 แต่ทว่ากับมีการเสมอถึง 12 ครั้ง
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561
200
ท่าพิเศษ!
I
N
F
I
N
I
T
Y
L
I
N
E
พลังได้รวมกันที่จุดเดียวนั่นก็คือที่ปลายดาบก่อนที่เจ้าตัวจะพุ่งดาบไปข้างหน้าส่งผลให้เกิดแสงที่คล้ายๆกับแสงเลเซอร์พุ่งออกมาจากปลายดาบ
แสงนั่นได้พุ่งใส่อีกฝ่ายที่กำลังพุ่งมาหาตน ในช่วงก่อนการโดนโจมตีตัวมันได้หมุนตัวโดยใช้น้ำหนักจากดาบทำให้สามารถหลบวิถีของแสงเลเซอร์นั้นไปได้สำเร็จ
"เจ้าหนูถึงพลังที่อัดรวมกันที่จุดๆเดียวจะมีอนุภาพมากก็จริงแต่เพราะมันมีขนาดที่เล็กมากการที่ศัตรูจะรอดพ้นจากการโจมตีของท่านี้ไปได้ก็เป็นเรื่องง่ายๆเช่นกัน!"
แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็เก่งมากที่ไล่ต้อนฉันได้ถึงขนาดนี้เจ้าหนู ฉันคนนี้ต้องขอชมเลย!
"คิดว่าเป็นอย่างงั้นจริงดิ!"
"หมายความว่าไง ห่ะ!"
มันที่ไหวตัวทันจึงสามารถหลบแสงเลเซอร์ที่พุ่งมาจากด้านข้างได้อีกรอบ
แต่ทว่า! แสงเลเซอร์ที่พุ่งผ่านไปก็ได้วกกลับมาหามันอีกครั้ง อะไรกัน!?
ด้วยความตกใจมันจึงไม่สามารถหลบท่านี้พ้น
การโจมตีครั้งนี้จึงทำให้มันกระเด็นตกลงสู่พื้นหิมะไปในที่สุด
(อย่างนี้นี่เอง!) สายตาของมันได้จับจ้องขึ้นไปบนฟากฟ้า
ทันทีที่มันมองขึ้นไปทุกอย่างก็ได้กระจ่าง มาโกโตะกำลังขยับดาบไปมาเพื่อบังคับทิศทางของแสงเลเซอร์!
มันสามารถบังคับทิศทางของแสงจากดาบของมันได้สินะ แต่ถ้าอย่างงั้น!
คราวนี้มันได้พุ่งตัวขึ้นไปอีกรอบโดยเป้าหมายเหมือนเดิมนั่นก็คือการฆ่ามาโกโตะ
ทางด้านมาโกโตะจึงได้ขยับดาบไปมาเพื่อใช้แสงเลเซอร์ขัดขวาง แต่ครั้งนี้ทิศทางของมันถูกอ่านออกหมดจนสามารถหลบได้พ้นทั้งหมดและในไม่ช้ามันก็ได้เข้ามาถึงตัวของมาโกโตะ
ดาบของพวกเขาได้ปะทะกันก่อนที่ดาบของมาโกโตะจะถูกแรงจากดาบของมันผลักออกไปจนเปิดช่องโหว่ในที่สุด
"เจ้าหนูจุดบอดของท่าเมื่อกี้นี้มีอย่างเดียวนั่นก็คือการเคลื่อนไหวของมือ หากว่าศัตรูมองการเคลื่อนไหวของมือแกออกเมื่อไหร่มันก็ไม่ยากเลยที่จะหลบมันพ้น!"
"....."
"แกมาได้ไกลมากแล้วเจ้าหนู เพราะงั้นหลับให้สบายเถอะ!"
"โทษทีแต่ฉันยังไม่ง่วงว่ะ!"
คำพูดของเขาได้มาพร้อมกับมืออีกข้างที่กำลังถือบอลพลังงานอะไรสักอย่างเอาไว้อยู่
บ้าน่า! มันได้ตาค้างทันทีที่ได้เห็นสิ่งนั้น
มือของมันที่กำลังจะฟันในอีกรอบเพื่อเผด็จศึกนั้นพอคำนวณแล้วก็ยังช้ากว่าการโจมตีของมาโกโตะอยู่อีกมาก
อะไรกัน! ทำไมมันถึงพอดีขนาดนี้!? ช่องโหว่ของเรา ตำแหน่งของเรา ทุกๆอย่างมันจะพอดีเกินไปแล้ว!
"จงรับไปซะ ท่าพิเศษ อินฟินิตี้ พลาสม่า!"
บอลที่มีพลังอัดแน่นได้ถูกอัดใส่ร่างของมันก่อนที่ร่างของมันจะปลิวลงไปในกองหิมะอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ยอมล้มลงไปอีกแล้ว
"คิดว่าของแค่นี้จะทำอะไรฉันได้อย่างงั้นรึ!"
"ฉันก็เลยเตรียมไอนี่มาเซอร์ไพรส์ให้แกยังไงล่ะ"
เปี๊ยะ! เสียงดีดนิ้วของเขาได้ดังขึ้น
"เซอร์ไพรส์ , นี่มัน!?"
อยู่ก็มีวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาที่เท้าของมัน และเพราะพลังของวงเวทย์นี้จึงทำให้ร่างกายของมันขยับไม่ได้เลย
มาโกโตะที่บินลงมาจึงได้เดินตรงมาทางนี้พร้อมกับเริ่มเฉลยทุกๆอย่าง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)