หน้าที่ 82
''เอิ่ม... ผมไม่เกี่ยวใช่ไหม''
''เอ็งอ่ะตัวดีเลย''
พิเกียตวาดใส่เซนะแบบไม่ปราณีส่วนเซนะก็หน้าเหวอไปตามบท บรรยากาศตึงเครียดเริ่มหายไปอย่างช้าๆ ทุกอย่างเริ่มค่อยๆเข้าที่เข้าทางขึ้น เฮเรน่าเองก็ไม่ดูมีจิตมุ่งร้ายใดๆเว้นแต่คนที่อยู่ด้านหลังที่เซนะรู้สึกสะกิดใจมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว
...คุ้นๆอ่ะ เรารู้สึกไปเองหรือว่าเขาดูเหมือนคลับคล้ายคลับคากับใครบางคนที่เรารู้จัก ใครกันน้า....
''โอเคงั้นมาเข้าเรื่องกันต่อนะคะ''
''ขอผมถามอะไรหน่อยจะได้ไหม''
''ว่ามาเลยค่ะ''
''คุณเป็นญาติกับไอจังหรือเปล่า..''
สายตาของทุกคนจึงมองไปาหาเด็กสาวร่างเล็กที่ตอนนี้มีน้ำตาปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าเธอคือ ไอจัง สมาชิกห้อง 5 ที่ในอดีตเคยสู้ร่วมกับเซนะ เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กหน้ารักร่างเล็กผมสีส้มยาวสลวย ดวงตาสีเขียวกลมโตน่ารัก ใบหน้ากลมมน สวมเสื้อหนังน่ารักนุ่มนิ่มอาวุธประจำตัวคือพลั่ว
ในศึกก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นกำลังให้กับพวกเซนะเพื่อโค่นเบฮีมอสศัตรูตัวฉกาจที่เคยทำให้เซนะต้องตายไปครั้งหนึ่งแต่โชคดีที่ตอนนั้นได้อาวุธชิ้นนึงช่วยไว้จึงรอดมาได้พร้อมกับสามารถพลิคล็อคกลับมาชนะได้ในที่สุด
จากนั้นเธอจึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับเซนะเป็นอันจบภาคนั้น
เด็กสาวตัวเล็กได้เดินมาข้างหน้าทุกคน ตัวเธอนั้นสั่นไปหมดซึ่งมาพร้อมกับความสับสน เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ไม่รู้ว่าเธอควรจะพูดอะไรดี เธอสับสนกลับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในวันนั้นตอนที่เธออายุได้แค่ 7 ขวบ
ก็เป็นวันที่เธอต้องสูญเสียแม่ไปและเธอก็เป็นคนฝังร่างของแม่กับมือ แต่แล้วก็ได้มีคนที่หน้าตาเหมือนกับแม่ของเธอยืนอยู่ตรงหน้า นั่นทำให้เธอรู้สึกสับสนมากๆ
เด็กสาวได้รวบรวมความกล้าทั้งหมดถามออกไป
''คุณคือคุณแม่ของฉันใช่ไหมคะ''
''ใช่แล้วจ่ะไอจัง''
น้ำตาของสาวน้อยจึงได้ไหลออกมาราวกับน้ำตก เธอไม่เคยรู้สึกดีใจเท่านี้มาก่อนเลย
แต่ดูเหมือนเฮเรเน่จะไม่ได้คล้อยตามอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น เธอหันไปมองเซนะด้วยใบหน้ามีความสุขมากๆ
''ท่านเซนะดิฉันขอขอบคุณท่านจริงๆนะคะที่คอยดูแลไอให้"
"มะ ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่ไม่ต้องเติมคำว่าท่านก็ได้"
"งั้นองค์หญิงเซนะเป็นยังไงคะ"
"ขอแบบเดิมเตอะ"เซนะได้ตอบไปแบบยิ้มเจื่อนๆ ตัวเลือกของเธอทำเอาเซนะถึงกับแทบไม่อยากจะเลือกกันเลยทีเดียว เธอไม่ชอบให้ใครเรียกตนในฐานะของผู้หญิงสักเท่าไหร่นั่นก็เป็นเพราะเธอชอบเป็นผู้ชายมากกว่า
"ว่าแต่คุณเฮเรน่ากับพิเกียเป็นอะไรกันหรอครับ"
"เพื่อนร่วมงานกันค่ะ" อยู่ๆก็มีเสียง เฮ๊ย! ดังแทรกขึ้นแต่เซนะก็ไม่สนใจมันและถามต่อไปอีก
"งานอะไรหรอครับ???"
"รุกรานจักรวาลค่ะ!"หญิงสาวพูดเรื่องใหญ่ๆด้วยรอยยิ้มราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งตรงกันข้ามกับพวกอุยที่หน้าเริ่มกับมาซีดอีกครั้งเว้นแต่เซนะที่หน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เธอเชื่อที่เฮเรเน่พูดทุกอย่างราวกับเป็นคำพูดของโซเฟีย
(เขาเอาจริง!)
วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
หน้าที่ 81
"ว่าแต่นี่น่ะหรอโรงเรียนธรรมดาสามัญทั่วไปน่ะ"
ดีเธอเป็นลูกคุณหนูโดยแท้จริง พ่อแม่ของเธอนั้นคอยบริหารธุรกิจรายใหญ่อยู่ต่างประเทศนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องอยู่ตัวคนเดียว
ดีเธอเป็นลูกคุณหนูโดยแท้จริง พ่อแม่ของเธอนั้นคอยบริหารธุรกิจรายใหญ่อยู่ต่างประเทศนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องอยู่ตัวคนเดียว
บวกกับเธอเปฺ็นลูกสาวคนเดียวจึงทำให้พ่อแม่ประคบประหงมเป็นพิเศษ เพราะงั้นเธอจึงได้ทุกอย่างที่ดีที่สุดนั่นก็คือการได้รับการสอนจากโรงเรียนคุณหนูจึงเป็นเหตุให้เธอไม่เคยเรียนโรงเรียนสามัญชนทั่วไปเลย เพราะงั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาอยู่โรงเรียนธรรมดาเธอจึงดีใจมากจนตอนนี้เก็บอาการไม่อยู่แล้ว
"นี่ๆเซนะช่วยพาฉันเดินชมที่นี่ได้ไหม"
"ก็ได้อยู่หรอกครับแต่ก่อนอื่นต้องขอผู้อำนวยการก่อน"
"ผู้อำนวยการ~!" เธอมองไปหาอุยก่อนจะหันมาตอบเซนะอย่างไว
"โอเค อยู่ได้!"
"เฮ้ย!"
"เฮ้อ~!"เซนะได้เอามือก่ายหน้าผากพร้อมกับถอนหายใจยาวๆ เพราะการมาของดีจึงทำให้ห้อง 5 ต้องวุ่นวาย อุยได้บอกกับทุกคนว่าให้ดีมาเรียนได้ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนดีจึงกลายมาเป็นสมาชิกของห้อง 5 พร้อมกับได้ที่นั่งอยู่หลังเซนะ
ที่สำคัญคือทุกคนยอมรับในตัวดีได้อย่างรวดเร็ว คงเป็นเพราะนิสัยส่วนมากของคนในห้องนี้ไม่ธรรมดาอยู่แล้วจึงทำให้ดีปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
"นี่เซสึนะชอบใครกว่ากันน่ะ" ดีได้เข้ามากระซิบข้างหูของเซสึนะในระหว่างการเดินทางไปเรียนวิชาพละที่โรงยิม ยูกะจึงแอบจ้องดีเขม็ง
"นี่เธอหมายถึงใครล่ะ"
"ก็ยูกะจังกับเซนะยังไงล่ะ"
"ทำไมถึงเป็นสองคนนั้นล่ะ"
"ยังต้องถามอีกหรอ~" ดียิ้มร่า เธอมองเซสึนะออกหมดทุกอย่าง ยัยตัวร้าย! เซสึนะได้เหยียดยิ้ม
"ฉันเลือกเซนะ"
"แล้วยูกะจังอ่ะ"
"ฉันก็ชอบเหมือนกัน"
"นี่คิดจะควบสองคนเลยหรอ"
"ถ้าตอนนี้น่ะได้แต่ถ้าเซนะได้ความทรงจำกลับมานั่นก็อีกเรื่อง"
"ทำไมหรอ???"
"เพราะว่าเซนะเหมือนจะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว"ดีได้แต่ทำสีหน้าอึ้ง เธอไม่เคยคิดว่าเซนะจะมีคนที่ชอบอยู่แล้วและก็ไม่ใช่แค่ดีเท่านั้นที่อึ้ง
เหล่าเพื่อนๆที่เดินอยู่ห่างๆก็เหมือนจะได้ยินจึงต่างคนต่างพากันสีหน้าแปลกๆ หนักที่สุดคืออุยกับซุบารุที่ถึงกับหยุดเดินไปเลย ซุบารุคือรองผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้โดยเขารับหน้าที่เป็นครูประจำชั้นควบคู่กับอุย ส่วนเซนะนั้นเพราะกำลังคุยกับพิเกียอยู่จึงไม่ได้ยิน
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเริ่มจะเงียบลง เฮเรน่าก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา
เฮเรน่า รองขุนพลของ darklord องค์กรณ์ที่ชั่วร้ายที่สุดได้ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับชายสวมผ้าคลุมคนหนึ่ง เพียงแค่การปรากฏตัวของเธอก็ทำให้บรรยากาศถูกปกคลุมด้วยความตึงเครียด
เธอได้เหลือบมองมาที่เด็กสาวที่หน้าคล้ายตนซึ่งตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังตัวสั่นเพราะความสับสนมากมายก่อนจะหันมามองเซนะที่ตอนนี้กำลังมองเธอด้วยความสนใจอยู่
"ไม่ต้องตกใจไปหรอกค่ะ ฉันแค่อยากจะมาคุยกับคนๆหนึ่งก็เท่านั้นเอง"
"เป้าหมายของเธอคือเซนะสินะ!" เซสึนะได้เข้ามาคุ้มกันเธออย่างไวพร้อมกับเตรียมตั้งท่าพร้อมสู้
"เปล่าค่ะ"
"เธอจะมาที่โรงเรียนทำไมมิทราบ!" พิเกียได้ตวาดใส่เธอแบบไม่ลังเลทำเอาสายตาของทุกคนจ้องมาที่เขากันหมดก่อนที่เซนะจะมาสกิดถามเรื่องหนึ่ง
"พิเกียรู้จักเขาด้วยหรอ??"
"ไปๆ ชิ๊วๆ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน!"พิเกียได้โบกมือไล่เซนะจนเฮเรเน่ถึงกับหลุดขำออกมา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพิเกียท่านเซนะสมควรจะรู้ความจริงบ้างแล้วค่ะ"
"เขาว่างั้นอ่ะ"เซนะหันไปมองพิเกียส่วนพิเกียได้แต่ทำใจ
พร้อมกับพูดแบบขอไปที เอางั้นก็ได้
"งั้นมาเริ่มสนทนากันเลยนะคะพิเกียก่อนอื่นช่วยตอบหน่อยสิคะว่าจะไปอยู่ฝ่ายไหนระหว่าง darklord กับ lightlord พวกเราจะได้เตรียมใจถูกค่ะ"
"ฉันอยู่ข้างเซนะเพราะงั้นถ้าหากเซนะเข้าร่วมกับฝ่ายไหนฉันก็อยู่ฝ่ายนั้น"
"นี่ๆเซนะช่วยพาฉันเดินชมที่นี่ได้ไหม"
"ก็ได้อยู่หรอกครับแต่ก่อนอื่นต้องขอผู้อำนวยการก่อน"
"ผู้อำนวยการ~!" เธอมองไปหาอุยก่อนจะหันมาตอบเซนะอย่างไว
"โอเค อยู่ได้!"
"เฮ้ย!"
"เฮ้อ~!"เซนะได้เอามือก่ายหน้าผากพร้อมกับถอนหายใจยาวๆ เพราะการมาของดีจึงทำให้ห้อง 5 ต้องวุ่นวาย อุยได้บอกกับทุกคนว่าให้ดีมาเรียนได้ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนดีจึงกลายมาเป็นสมาชิกของห้อง 5 พร้อมกับได้ที่นั่งอยู่หลังเซนะ
ที่สำคัญคือทุกคนยอมรับในตัวดีได้อย่างรวดเร็ว คงเป็นเพราะนิสัยส่วนมากของคนในห้องนี้ไม่ธรรมดาอยู่แล้วจึงทำให้ดีปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
"นี่เซสึนะชอบใครกว่ากันน่ะ" ดีได้เข้ามากระซิบข้างหูของเซสึนะในระหว่างการเดินทางไปเรียนวิชาพละที่โรงยิม ยูกะจึงแอบจ้องดีเขม็ง
"นี่เธอหมายถึงใครล่ะ"
"ก็ยูกะจังกับเซนะยังไงล่ะ"
"ทำไมถึงเป็นสองคนนั้นล่ะ"
"ยังต้องถามอีกหรอ~" ดียิ้มร่า เธอมองเซสึนะออกหมดทุกอย่าง ยัยตัวร้าย! เซสึนะได้เหยียดยิ้ม
"ฉันเลือกเซนะ"
"แล้วยูกะจังอ่ะ"
"ฉันก็ชอบเหมือนกัน"
"นี่คิดจะควบสองคนเลยหรอ"
"ถ้าตอนนี้น่ะได้แต่ถ้าเซนะได้ความทรงจำกลับมานั่นก็อีกเรื่อง"
"ทำไมหรอ???"
"เพราะว่าเซนะเหมือนจะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว"ดีได้แต่ทำสีหน้าอึ้ง เธอไม่เคยคิดว่าเซนะจะมีคนที่ชอบอยู่แล้วและก็ไม่ใช่แค่ดีเท่านั้นที่อึ้ง
เหล่าเพื่อนๆที่เดินอยู่ห่างๆก็เหมือนจะได้ยินจึงต่างคนต่างพากันสีหน้าแปลกๆ หนักที่สุดคืออุยกับซุบารุที่ถึงกับหยุดเดินไปเลย ซุบารุคือรองผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้โดยเขารับหน้าที่เป็นครูประจำชั้นควบคู่กับอุย ส่วนเซนะนั้นเพราะกำลังคุยกับพิเกียอยู่จึงไม่ได้ยิน
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเริ่มจะเงียบลง เฮเรน่าก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา
เฮเรน่า รองขุนพลของ darklord องค์กรณ์ที่ชั่วร้ายที่สุดได้ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับชายสวมผ้าคลุมคนหนึ่ง เพียงแค่การปรากฏตัวของเธอก็ทำให้บรรยากาศถูกปกคลุมด้วยความตึงเครียด
เธอได้เหลือบมองมาที่เด็กสาวที่หน้าคล้ายตนซึ่งตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังตัวสั่นเพราะความสับสนมากมายก่อนจะหันมามองเซนะที่ตอนนี้กำลังมองเธอด้วยความสนใจอยู่
"ไม่ต้องตกใจไปหรอกค่ะ ฉันแค่อยากจะมาคุยกับคนๆหนึ่งก็เท่านั้นเอง"
"เป้าหมายของเธอคือเซนะสินะ!" เซสึนะได้เข้ามาคุ้มกันเธออย่างไวพร้อมกับเตรียมตั้งท่าพร้อมสู้
"เปล่าค่ะ"
"เธอจะมาที่โรงเรียนทำไมมิทราบ!" พิเกียได้ตวาดใส่เธอแบบไม่ลังเลทำเอาสายตาของทุกคนจ้องมาที่เขากันหมดก่อนที่เซนะจะมาสกิดถามเรื่องหนึ่ง
"พิเกียรู้จักเขาด้วยหรอ??"
"ไปๆ ชิ๊วๆ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน!"พิเกียได้โบกมือไล่เซนะจนเฮเรเน่ถึงกับหลุดขำออกมา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพิเกียท่านเซนะสมควรจะรู้ความจริงบ้างแล้วค่ะ"
"เขาว่างั้นอ่ะ"เซนะหันไปมองพิเกียส่วนพิเกียได้แต่ทำใจ
พร้อมกับพูดแบบขอไปที เอางั้นก็ได้
"งั้นมาเริ่มสนทนากันเลยนะคะพิเกียก่อนอื่นช่วยตอบหน่อยสิคะว่าจะไปอยู่ฝ่ายไหนระหว่าง darklord กับ lightlord พวกเราจะได้เตรียมใจถูกค่ะ"
"ฉันอยู่ข้างเซนะเพราะงั้นถ้าหากเซนะเข้าร่วมกับฝ่ายไหนฉันก็อยู่ฝ่ายนั้น"
วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
คอนที่ 80 yummy
"คุณ เซเรน่า!?"
ทั้งห้องได้หันไปมองเซนะที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมาพูดอย่างไร้เหตุผลโดยเฉพาะโอริกามิที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอถึงกับตะลึงแทนทุกคน และก็เป็นเธอที่เป็นตัวแทนของทั้งห้องถามเซนะ
"ปะ เป็นอะไรไปหรอเซนะ"
"อยู่ที่นี่ใช่ไหมคุณเซเรน่า"
"เซเรน่า???"
"แน่นอน!"
เสียงที่ดังก้องกังวาลขึ้นมาจากตรงไหนก็ไม่รู้ในห้องได้มาพร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กสาวนามว่าเซเรน่าที่ตอนนี้ดันมายืนอยู่ตรงข้างๆอุยแล้ว หิวข้าวอ่ะเซนะ
"พอมีอะไรให้ฉันกินบ้างไหม~" ดี เซเรน่า หรือเรียกสั้นๆว่า ดี
สาวน้อยผมสีม่วงผู้มาพร้อมกับนัยตาสีแดง เธอคือสาวน้อยที่เรียนอยู่โรงเรียนฮาคุโอซึ่งครั้งนึงเซนะเคยไปเรียนอยู่ที่นั่นโดยโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนหญิงล้วน เซนะที่ชอบแต่งชายจึงต้องพบกับปัญหามากมายจนผ่านพ้นมันมาได้และเธอก็ได้ตั้งชมรมขึ้นมาซึ่งชมรมนั้นมีนามว่า ชมรมนกน้อยอาสา โดยมีสมาชิกอยู่ 7 คนพร้อมกับมีคณะกรรมการนักเรียนเข้ามาป่วนอยู่เป็นระยะๆทำให้ชมรมนี้ต้องเดือดร้อน
ชื่อของเธอที่ทุกคนชอบเรียกกันคือ ดี แต่เซเรน่าขอให้เซนะเรียกนามสกุลตนเพราะเซนะเป็นคนสำคัญของเธอหรือเพราะเธอถูกใจเซนะก็ไม่รู้
พลังของเธอคือ soul พลังของวิญญาณคุณสมบัติคือสามารถทะลุผ่านทุกอย่างไปได้ ลอยได้ ทำให้คนมองไม่เห็นตน ซึ่งเธอก็ดูมีความลับอยู่อีกมากมายหลายอย่างที่เซนะไม่รู้ ซึ่งเธอก็เป็นคนบอกเซนะเองเลยว่าอย่าเชื่อใจตนให้มากแต่เธอก็คอยช่วยเหลือเซนะมาเสมอซึ่งในสายตาของเซนะนับว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของตน
เซนะได้มองมาทางเซเรน่าพร้อมกับยกข้าวกล่องของตนส่งให้เธอ เธอจึงไม่รอช้ารีบเขมือบข้าวเข้าปากอย่างอเร็ดอร่อย
"นี่เซนะไหงถึงรู้ว่าฉันอยู่อ่ะ"
"ก็ผมเห็นนิครับ"
"เห็นวิญญาณเนี่ยนะ"
"อื้ม!" ทุกคนต่างพากันอึ้งในตัวของเธอ มีแต่เซสึนะที่ยิ้มเจื่อนๆเพราะรู้อยู่แล้วกับเซเรน่าที่พูดขึ้นมาว่า สมกับเป็นเซนะ
"แล้วนี่ออกมาทำไมอ่ะ" โรงเรียนของพวกเธอมีกฏเคร่งขัดว่าต้องอยู่แต่ในโรงเรียนถ้าหากไม่ได้รับอนุญาติก็ห้ามออกมาเด็ดขาด แต่ดีดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น
"ฉันออกมาหาเซนะอ่ะ"
"คุณครูเขารู้เรื่องนี้ไหม"
"โดดมาอ่ะ"
"ไม่รู้สินะ"เธอได้เอามือก่ายหน้าผากก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้อำนวยการโรงเรียนฮาคุโอ เซนะกับผู้อำนวยการโรงเรียนฮาคุโอนั้นสนิทกันโดยผู้อำนวยการคนนี้ไม่มีใครเคยเห็นหน้ามาก่อนเลยจนกระทั่งเซนะปรากฏตัวขึ้น เขาเรียกเซนะไปคุยอะไรสักอย่างก่อนจะได้เบอร์โทรผู้อำนวยการมา
แถมยังเคยเห็นหน้าของผู้อำนวยการอีกด้วย
หลังจากโทรไปสักพักก็มีคนรับสายทันทีและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินเสียงผู้อำนวยการโรงเรียนนี้
"มาแล้วค่า~!"เสียงใสๆของสาวน้อยได้ดังขึ้น นั่นทำให้ทุกคนถึงกับอึ้งไปตามๆกัน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้อำนวยการโรงเรียนฮาคุโอจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่สิ่งที่ทำให้อึ้งกว่าก็ยังไม่จบเมื่อเซนะพูดสนทนากับเขาแบบห้วนๆ
"นี่ฉันเองเซนะ"
"เซนะจังมีอาใยหยอ~"
"เด็กเธอหลุดมาอ่ะ"
"อ่อ~ รู้อยู่แล้วล่ะ"
"แล้วปล่อยมาทำไมมิทราบ~!"เขาได้ตวาดใส่ผู้อำนวยการอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง
"ดีจังเขาเป็นเด็กดีเพราะงั้นฝากด้วยนะเซจัง"
"ฉันไม่รับฝาก!"
"ไปล่ะ!" ตู๊ด~! เสียงการตัดสายดังขึ้นมาทันทีที่เธอพูดจบ
เซนะได้แต่ทำใจแล้วหันมามองดีที่ตอนนี้ยิ้มแฉ่งเลย
"เซนะนี่สุดยอดจริงๆ"
"เรื่องอะไรหรอ???"
"ก็เรื่องที่คุยกับผู้อำนวยการไงคุยกันอย่างสนิทสนมเชียวนะ"
"เป็นคนรู้จักน่ะ"
"เขาเป็นใครหรอ???"
"บอกไม่ได้อ่ะ เดี๋ยวเขาโกรธ"
"คุณ เซเรน่า!?"
ทั้งห้องได้หันไปมองเซนะที่จู่ๆก็ลุกขึ้นมาพูดอย่างไร้เหตุผลโดยเฉพาะโอริกามิที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอถึงกับตะลึงแทนทุกคน และก็เป็นเธอที่เป็นตัวแทนของทั้งห้องถามเซนะ
"ปะ เป็นอะไรไปหรอเซนะ"
"อยู่ที่นี่ใช่ไหมคุณเซเรน่า"
"เซเรน่า???"
"แน่นอน!"
เสียงที่ดังก้องกังวาลขึ้นมาจากตรงไหนก็ไม่รู้ในห้องได้มาพร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กสาวนามว่าเซเรน่าที่ตอนนี้ดันมายืนอยู่ตรงข้างๆอุยแล้ว หิวข้าวอ่ะเซนะ
"พอมีอะไรให้ฉันกินบ้างไหม~" ดี เซเรน่า หรือเรียกสั้นๆว่า ดี
สาวน้อยผมสีม่วงผู้มาพร้อมกับนัยตาสีแดง เธอคือสาวน้อยที่เรียนอยู่โรงเรียนฮาคุโอซึ่งครั้งนึงเซนะเคยไปเรียนอยู่ที่นั่นโดยโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนหญิงล้วน เซนะที่ชอบแต่งชายจึงต้องพบกับปัญหามากมายจนผ่านพ้นมันมาได้และเธอก็ได้ตั้งชมรมขึ้นมาซึ่งชมรมนั้นมีนามว่า ชมรมนกน้อยอาสา โดยมีสมาชิกอยู่ 7 คนพร้อมกับมีคณะกรรมการนักเรียนเข้ามาป่วนอยู่เป็นระยะๆทำให้ชมรมนี้ต้องเดือดร้อน
ชื่อของเธอที่ทุกคนชอบเรียกกันคือ ดี แต่เซเรน่าขอให้เซนะเรียกนามสกุลตนเพราะเซนะเป็นคนสำคัญของเธอหรือเพราะเธอถูกใจเซนะก็ไม่รู้
พลังของเธอคือ soul พลังของวิญญาณคุณสมบัติคือสามารถทะลุผ่านทุกอย่างไปได้ ลอยได้ ทำให้คนมองไม่เห็นตน ซึ่งเธอก็ดูมีความลับอยู่อีกมากมายหลายอย่างที่เซนะไม่รู้ ซึ่งเธอก็เป็นคนบอกเซนะเองเลยว่าอย่าเชื่อใจตนให้มากแต่เธอก็คอยช่วยเหลือเซนะมาเสมอซึ่งในสายตาของเซนะนับว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของตน
เซนะได้มองมาทางเซเรน่าพร้อมกับยกข้าวกล่องของตนส่งให้เธอ เธอจึงไม่รอช้ารีบเขมือบข้าวเข้าปากอย่างอเร็ดอร่อย
"นี่เซนะไหงถึงรู้ว่าฉันอยู่อ่ะ"
"ก็ผมเห็นนิครับ"
"เห็นวิญญาณเนี่ยนะ"
"อื้ม!" ทุกคนต่างพากันอึ้งในตัวของเธอ มีแต่เซสึนะที่ยิ้มเจื่อนๆเพราะรู้อยู่แล้วกับเซเรน่าที่พูดขึ้นมาว่า สมกับเป็นเซนะ
"แล้วนี่ออกมาทำไมอ่ะ" โรงเรียนของพวกเธอมีกฏเคร่งขัดว่าต้องอยู่แต่ในโรงเรียนถ้าหากไม่ได้รับอนุญาติก็ห้ามออกมาเด็ดขาด แต่ดีดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น
"ฉันออกมาหาเซนะอ่ะ"
"คุณครูเขารู้เรื่องนี้ไหม"
"โดดมาอ่ะ"
"ไม่รู้สินะ"เธอได้เอามือก่ายหน้าผากก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาผู้อำนวยการโรงเรียนฮาคุโอ เซนะกับผู้อำนวยการโรงเรียนฮาคุโอนั้นสนิทกันโดยผู้อำนวยการคนนี้ไม่มีใครเคยเห็นหน้ามาก่อนเลยจนกระทั่งเซนะปรากฏตัวขึ้น เขาเรียกเซนะไปคุยอะไรสักอย่างก่อนจะได้เบอร์โทรผู้อำนวยการมา
แถมยังเคยเห็นหน้าของผู้อำนวยการอีกด้วย
หลังจากโทรไปสักพักก็มีคนรับสายทันทีและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้ยินเสียงผู้อำนวยการโรงเรียนนี้
"มาแล้วค่า~!"เสียงใสๆของสาวน้อยได้ดังขึ้น นั่นทำให้ทุกคนถึงกับอึ้งไปตามๆกัน พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้อำนวยการโรงเรียนฮาคุโอจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่สิ่งที่ทำให้อึ้งกว่าก็ยังไม่จบเมื่อเซนะพูดสนทนากับเขาแบบห้วนๆ
"นี่ฉันเองเซนะ"
"เซนะจังมีอาใยหยอ~"
"เด็กเธอหลุดมาอ่ะ"
"อ่อ~ รู้อยู่แล้วล่ะ"
"แล้วปล่อยมาทำไมมิทราบ~!"เขาได้ตวาดใส่ผู้อำนวยการอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ ทุกคนได้แต่อ้าปากค้าง
"ดีจังเขาเป็นเด็กดีเพราะงั้นฝากด้วยนะเซจัง"
"ฉันไม่รับฝาก!"
"ไปล่ะ!" ตู๊ด~! เสียงการตัดสายดังขึ้นมาทันทีที่เธอพูดจบ
เซนะได้แต่ทำใจแล้วหันมามองดีที่ตอนนี้ยิ้มแฉ่งเลย
"เซนะนี่สุดยอดจริงๆ"
"เรื่องอะไรหรอ???"
"ก็เรื่องที่คุยกับผู้อำนวยการไงคุยกันอย่างสนิทสนมเชียวนะ"
"เป็นคนรู้จักน่ะ"
"เขาเป็นใครหรอ???"
"บอกไม่ได้อ่ะ เดี๋ยวเขาโกรธ"
วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 79 defensive
โรงเรียนชิโอมินั้นได้แบ่งคุณครูออกเป็นเฉพาะๆห้องไปเลยโดยเฉพาะห้องคิงส์คุณครูที่คุมห้องเหล่านี้จะต้องมีความสามารถมากกว่าคนอื่นๆเพราะไม่งั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถรับมือกับเด็กห้องนี้ได้อย่างแน่นอน...
ในขณะที่พวกเซนะกำลังจะเดินเข้าโรงเรียนก็ได้มีครูสาวสวยคนหนึ่งคอยยืนยิ้มให้กับพวกตนอยู่ เธอคือเรเพียร์ครูสาวประจำห้องคิงส์ที่เคยไปทำภารกิจกับเซนะมาแล้วครั้งนึงจนเป็นเหตุให้พบกับโซเฟียและเป็นชนวนไปสู่การต่อสู้ที่โลกหกภิภพ การพบพานของทั้งสองจึงเรียกได้ว่ามาพร้อมกับหายนะจริงๆ
"อรุณสวัสดิ์นะคะท่านเซนะ"
"เช่นกันครับว่าแต่เลิกเรียกผมว่าท่านนำหน้าเถอะครับ"
"ดีใจเถอะค่ะเพราะคนที่ทำให้ฉันเรียกแบบนี้ได้มีแค่สามคนเท่านั้นและหนึ่งในนั้นก็คือท่านค่ะ"
"ผมไม่เห็นจะดีใจเลยอ่ะ"เซนะได้ทำหน้าเหนื่อยใจส่วนเรเพียร์ก็ได้แต่หัวเราะร่า ทั้งสองได้มองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้กันแล้วเดินผ่านกันไป
"รู้จักเรเพียร์แล้วหรอเซนะ"พิเกียได้ชะโงกหน้าหลังจากที่เธอเดินจากไปแล้ว
"ก็นิดหน่อยนะ ว่าแต่พิเกียรู้จักคุณเรเพียร์ด้วยหรอ"
"ไม่รู้จักอ่ะดิแปลกยัยนั่นน่ะเป็นรองขุนพลของ lightlord
ซึ่งมีคานาเลียเป็นผู้นำเชียวนะ"
"เอิ่ม....???"เธอได้ทำหน้าเอ๋อขึ้นมาทันที
"นี่ไม่ตั้งใจเรียนวิชาสังคมเลยสินะ"
"อ้าว~ รู้ได้ไง"
(จบแล้วชีวิต)
หลังจากที่เข้ามานั่งในห้องเรียนพิเกียก็เริ่มสาธยายเรื่องของ lightlord ให้ฟังเผอิญว่าอุยดันเดินผ่านมาพอดีจึงช่วยสอนให้อีกแรง และนั้นจึงทำให้เซนะได้รู้เรื่องแล้วว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไง
"สรุปง่ายๆสั้นๆได้ใจความคือคุณเรเพียร์เป็นคนที่ยิ่งใหญ่สินะ"
"ใหญ่จริงๆนั่นแหละ คัพดีเลยมั้งน่ะ"
"เฮ้ยๆ นั่นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันต้องการให้เซนะรู้สักหน่อย ว่าแต่ยัยนั่นใหญ่พอๆกับเซนะเลยนี่หว่า"
"ว่าแต่ทำไมคนใหญ่โตขนาดนั้นถึงมาอยู่ที่แบบนี้อ่ะ"
"จะบอกว่าที่นี่มันกระจอกเกินไปสินะ ฮึ่ม!"เธอได้ใช้สายตาจ้องใส่เซนะอย่างกดดัน
"ปะ เปล่านะครับ!"
"งั้นก็แล้วไป คืออันที่จริงน่ะนะนอกจากเธอแล้วก็ยังมีคนอื่นอีก" โดย คานาเลีย มีผู้พิทักษ์อยู่ 6 คนซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมเรเพียร์เข้าไปด้วย โดยพวกเขาเหล่านี้แต่ก่อนเคยร่วมสู้ด้วยกันกับคานาเลียอย่างเกรียงไกรกับพวก darklord แต่หลังจากที่ทุกอย่าเริ่มสงบสุขข่าวคราวของพวกเขาก็เริ่มหายไปโดยใครจะไปคิดล่ะว่าพวกเขาจะมาอยู่ที่นี่แทน
"คนแรกก็ครูประจำชั้นห้อง 4 เซนโอ บุรุษผมสีแดงที่เรียกได้ว่าหล่อลากกระชากใจสาวๆหลายคน ถัดมาก็ห้อง 3 อาจารย์สาวนามว่า โมนิก้า
ที่มาพร้อมกับร่มคู่ใจที่ไม่รู้ว่าจะกางทำไมเพราะอยู่ในอาคารเรียน ต่อไปก็ห้อง 2
ครูไฟแรงอย่าง เร็น ที่ชอบทำตัวแบบแมวๆ ถัดมาอีกคือห้อง 1 ซึ่งนำโดยเรเพียร์
และอีกคนภารโรงประจำโรงเรียนที่มาพร้อมชุดอัศวินนามว่า ไกอุส สุดท้ายและท้ายที่สุด ฝ่ายบริหารการเงิน โดโรธี สาวแว่นชอบใส่ชุดเมดเป็นอันครบทั้ง 6 ผู้พิทักษ์"
"เย้~ แล้วสรุปว่าพวกเขามาที่นี่ทำไมอ่ะ"
"คำตอบง่ายๆสั้นๆพักร้อน"
(สั้นเกิ๊น!)
หลังจากที่ทั้งสามกำลังคุยกันเพลินๆเด็กนักเรียนคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันมา ในตอนนี้เวลาได้ล่วงเลยมากว่า 7 โมงแล้ว เด็กๆเริ่มนั่งประจำที่เพื่อเตรียมเรียนคาบต่อไป และแล้วเซนะก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างและอะไรบางอย่างนี้ก็คอยเฝ้ามองเขามาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้ได้ถึงมัน
หิวอ่ะ!....
โรงเรียนชิโอมินั้นได้แบ่งคุณครูออกเป็นเฉพาะๆห้องไปเลยโดยเฉพาะห้องคิงส์คุณครูที่คุมห้องเหล่านี้จะต้องมีความสามารถมากกว่าคนอื่นๆเพราะไม่งั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถรับมือกับเด็กห้องนี้ได้อย่างแน่นอน...
ในขณะที่พวกเซนะกำลังจะเดินเข้าโรงเรียนก็ได้มีครูสาวสวยคนหนึ่งคอยยืนยิ้มให้กับพวกตนอยู่ เธอคือเรเพียร์ครูสาวประจำห้องคิงส์ที่เคยไปทำภารกิจกับเซนะมาแล้วครั้งนึงจนเป็นเหตุให้พบกับโซเฟียและเป็นชนวนไปสู่การต่อสู้ที่โลกหกภิภพ การพบพานของทั้งสองจึงเรียกได้ว่ามาพร้อมกับหายนะจริงๆ
"อรุณสวัสดิ์นะคะท่านเซนะ"
"เช่นกันครับว่าแต่เลิกเรียกผมว่าท่านนำหน้าเถอะครับ"
"ดีใจเถอะค่ะเพราะคนที่ทำให้ฉันเรียกแบบนี้ได้มีแค่สามคนเท่านั้นและหนึ่งในนั้นก็คือท่านค่ะ"
"ผมไม่เห็นจะดีใจเลยอ่ะ"เซนะได้ทำหน้าเหนื่อยใจส่วนเรเพียร์ก็ได้แต่หัวเราะร่า ทั้งสองได้มองหน้ากันก่อนจะยิ้มให้กันแล้วเดินผ่านกันไป
"รู้จักเรเพียร์แล้วหรอเซนะ"พิเกียได้ชะโงกหน้าหลังจากที่เธอเดินจากไปแล้ว
"ก็นิดหน่อยนะ ว่าแต่พิเกียรู้จักคุณเรเพียร์ด้วยหรอ"
"ไม่รู้จักอ่ะดิแปลกยัยนั่นน่ะเป็นรองขุนพลของ lightlord
ซึ่งมีคานาเลียเป็นผู้นำเชียวนะ"
"เอิ่ม....???"เธอได้ทำหน้าเอ๋อขึ้นมาทันที
"นี่ไม่ตั้งใจเรียนวิชาสังคมเลยสินะ"
"อ้าว~ รู้ได้ไง"
(จบแล้วชีวิต)
หลังจากที่เข้ามานั่งในห้องเรียนพิเกียก็เริ่มสาธยายเรื่องของ lightlord ให้ฟังเผอิญว่าอุยดันเดินผ่านมาพอดีจึงช่วยสอนให้อีกแรง และนั้นจึงทำให้เซนะได้รู้เรื่องแล้วว่าเรื่องนี้มันเป็นมายังไง
"สรุปง่ายๆสั้นๆได้ใจความคือคุณเรเพียร์เป็นคนที่ยิ่งใหญ่สินะ"
"ใหญ่จริงๆนั่นแหละ คัพดีเลยมั้งน่ะ"
"เฮ้ยๆ นั่นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันต้องการให้เซนะรู้สักหน่อย ว่าแต่ยัยนั่นใหญ่พอๆกับเซนะเลยนี่หว่า"
"ว่าแต่ทำไมคนใหญ่โตขนาดนั้นถึงมาอยู่ที่แบบนี้อ่ะ"
"จะบอกว่าที่นี่มันกระจอกเกินไปสินะ ฮึ่ม!"เธอได้ใช้สายตาจ้องใส่เซนะอย่างกดดัน
"ปะ เปล่านะครับ!"
"งั้นก็แล้วไป คืออันที่จริงน่ะนะนอกจากเธอแล้วก็ยังมีคนอื่นอีก" โดย คานาเลีย มีผู้พิทักษ์อยู่ 6 คนซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมเรเพียร์เข้าไปด้วย โดยพวกเขาเหล่านี้แต่ก่อนเคยร่วมสู้ด้วยกันกับคานาเลียอย่างเกรียงไกรกับพวก darklord แต่หลังจากที่ทุกอย่าเริ่มสงบสุขข่าวคราวของพวกเขาก็เริ่มหายไปโดยใครจะไปคิดล่ะว่าพวกเขาจะมาอยู่ที่นี่แทน
"คนแรกก็ครูประจำชั้นห้อง 4 เซนโอ บุรุษผมสีแดงที่เรียกได้ว่าหล่อลากกระชากใจสาวๆหลายคน ถัดมาก็ห้อง 3 อาจารย์สาวนามว่า โมนิก้า
ที่มาพร้อมกับร่มคู่ใจที่ไม่รู้ว่าจะกางทำไมเพราะอยู่ในอาคารเรียน ต่อไปก็ห้อง 2
ครูไฟแรงอย่าง เร็น ที่ชอบทำตัวแบบแมวๆ ถัดมาอีกคือห้อง 1 ซึ่งนำโดยเรเพียร์
และอีกคนภารโรงประจำโรงเรียนที่มาพร้อมชุดอัศวินนามว่า ไกอุส สุดท้ายและท้ายที่สุด ฝ่ายบริหารการเงิน โดโรธี สาวแว่นชอบใส่ชุดเมดเป็นอันครบทั้ง 6 ผู้พิทักษ์"
"เย้~ แล้วสรุปว่าพวกเขามาที่นี่ทำไมอ่ะ"
"คำตอบง่ายๆสั้นๆพักร้อน"
(สั้นเกิ๊น!)
หลังจากที่ทั้งสามกำลังคุยกันเพลินๆเด็กนักเรียนคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันมา ในตอนนี้เวลาได้ล่วงเลยมากว่า 7 โมงแล้ว เด็กๆเริ่มนั่งประจำที่เพื่อเตรียมเรียนคาบต่อไป และแล้วเซนะก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างและอะไรบางอย่างนี้ก็คอยเฝ้ามองเขามาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้ได้ถึงมัน
หิวอ่ะ!....
วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 78 EVO
Darklord องค์กรณ์มืดที่หวังจะปกครองทั้งจักรวาลในอดีตจวบจนตอนนี้พวกเขาก็ยังรอคอยคำสั่งจากผู้เป็นหัวหน้าอยู่ตลอดเวลาและ Lightlord ก็คือองค์กรณ์ที่คอยขัดขวางพวกเขาโดยผู้นำของพวกเขามีชื่อว่า คานาเลีย เธอเป็นทั้งเจ้าหญิงและเป็นผู้นำทัพต่อสู้กับ darklord โดยผู้นำของมันก็คือ ซิริอุส ชายที่ชั่วร้ายที่สุดในทุกๆจักรวาล ซิริอุส เขาเคยเป็นผู้นำทัพอันเกรียงไกรเข้าปกครองจักรวาลแต่ก็ถูก คานาเลีย หยุดเอาไว้ได้แต่นั่นก็ไม่ทำให้ darklord ล่มสลายลงกลับกันทางด้านของ lightlord กับสูญเสียกำลังพลไปอย่างมหาศาล และในตอนนี้พวกมันก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งโดยสัญญานของการเปิดสงครามได้เริ่มต้นขึ้นจากการปรากฏตัวของ เฮเลน่า รองขุนพลของ darklord ผู้ซึ่งปรากฏตัวออกมาตอนศึกของโวเฟียกับเซนะ หลังจากการปรากฏตัวของเธอจักรวาลก็เริ่มปั่นป่วนโดยเหล่า darklord ได้บุกทำลายกองกำลังของ lightlord ตามแต่ละจักรวาล
เดิมที lightlord ก็เกิดจากการรวมตัวกันของตัวแทนของจักรวาลเพื่ิอสร้างเป็นองค์กรณ์นี้ขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อคอยดูแลความสงบของโลกซึ่งก็ไม่ต่างจากตำรวจโดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จักรวาลที่หนึ่งซึ่งจักรวาลนี้คือจักรวาลที่แข็งแกร่งที่สุดตามชื่อ องค์กรณ์ศูนย์กลางที่ทำหน้าที่บริหารจัดการซึ่งขึ้นตรงต่อคานาเลียมีชื่อว่า องค์กรณ์โลก โดยมีเหล่าสมาชิกในสภาคอยบริหารอยู่เพียงแค่สิบคน ไม่นับรวมหัวหน้า
ท่ามกลางการประชุมที่เริ่มจะตึงเครียดผู้เฒ่าที่ไว้หนวดเครายาวสุดได้ทำการนั่งคิดไปมาอยู่หลายรอบพร้อมกับมองไปทางผู้บริหารคนอื่นๆที่ตอนนี้เริ่มมีปากเถียงกันซะแล้ว ก่อนจะเอามือมาก่ายหน้าผากแล้วเอียงหูฟัง
ชายรูปร่างกำยำผมสีดำนามว่า ไซโอ ได้เอามือทุบโต๊ะพร้อมกับแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา
''นี่คือการเริ่มต้นของสงครามพวกเราควรจะจัดตั้งหน่วยค้นหาแล้วรีบตามหาที่มั่นของพวกมันโดยเร็ว'' ยังไม่ทันคาดขำหญิงสาวผมน้ำตาลยาวนัยตาสีเขียวนามว่า อีจีฟ ก็ได้พูดขึ้น ''แต่ดิฉันคิดว่าการฟื้นฟูจะต้องทำก่อนนะคะ''
''หากไม่ทำให้มั่นคงครั้งต่อไปที่พวกเขาบุกมาอีกก็จะเป็นจุดจบขององค์กรณ์ได้''
''ฉันขอค้านความคิดของเธอจะได้ไหมอีจีฟ'' อยู่ๆชายหนุ่มสวนฮู๊ดปิดบังใบหน้าที่นั่งตรงกันข้ามกับเธอก็ได้พูดขึ้นทำให้ทั้งโต๊ะประชุมหันมาสนใจเขากันหมด อีจีฟเองก็ได้เงียบลงไปเพื่อรอฟังความคิดเห็นของเขาอย่างว่าง่าย เชิญว่ามาเลยค่ะ
''เวน่อม''
''ฉันคิดว่าความคิดของเธอนั้นก็ดีแต่ว่าฉันคิดว่าความคิดของไซโอก็ไม่เลว อีกอย่างเธอเคยได้ยินคำนี้ไหม การโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด''
''คุณก็ยังคงเอาแต่ใช้ความคิดง่ายๆเหมือนเด็กๆเลยนะคะ ก็จริงอยู่ที่ว่าความคิดของคุณนั้นถูกอยู่แต่นั่นมันก็เอาไว้ใช้กับในกรณีที่กองกำลังเราสมบูรณ์ดีกว่านะคะ''
''พอดีว่าฉันมันโง่เพราะงั้นช่วยขยายความให้ทีจะได้ไหม''
ก่อนที่อีจีฟจะเริ่มพูดขึ้นเด็กสาวดวงตาสีแดงผมสีทองซึ่งเป็นสายเลือดของแวมไพร์ชั้นสูงก็ได้ชิงตัดหน้าเธอพูดไปเสียแล้ว
''นายก็ลองคิดเล่นๆสิว่าหากใช้ตัวเลขเปรียบเทียบเป็นจำนวน 100 แล้วตอนนี้ถูกเก็บไปแล้ว 50 เหลืออีก 50 หากแบ่งกำลังออกไปตามหาครึ่งนึงนั้นก็คือ 25 แล้วอีกฝ่ายกำลังมี 100 เต็มเปี่ยม ถึงจะหาฐานที่มั่นศัตรูเจออย่างน้อยที่สุดก็ไม่น่าจะมีใครเหลือดรอดกลับมา นายพอจะเข้าใจไหมเวน่อม''
''แจ่มแจ้งเลยป้าอีคริฟ''
''ระวังตอนนอนให้ดีเจ้าหนูเวน่อม'' อีคริฟถึงจะเห็นเป็นเด็กอายุ 13 แต่อายุจริงๆปาไปหลักร้อยแล้วเพราะงั้นเธอจึงถือได้ว่ามีอายุมากที่สุดในสภาแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เวน่อมจึงได้ใช้จุดนั้นแซวเธอได้แบบไม่ยั้ง แต่ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจะระเบิดพลังเพื่อสู้กัน สองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆจึงปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่านั้นออกมา
''เวน่อมนายเลิกแหย่อีคริฟได้แล้ว''
''เบลเซ่...'' เขาได้หันไปมองชายผู้ซึ่งสวมชุดคลุมสีน้ำเงินสายตาคมดุจเหยี่ยวผมสีฟ้าที่กำลังมองมาทางนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเหงื่อตกราวกับหนูที่ถูกเหยี่ยวจ้อง
''อีคริฟเธอก็อยู่มานานยังจะใช้อารมณ์แบบเด็กๆอยู่อีกนะ''
''ไกอา...''เธอได้หันไปมองแท็บสีฟ้าซึ่งนั่นก็คือไกอาซึ่งตัวจริงนั้นเป็นปริศนามีเพียงแต่ชื่อของเขาเท่านั้นที่ทุกคนรู้โดยทุกครั้งที่เริ่มการประชุมก็จะมีแท็บนี้โผล่ขึ้นมาทุกครั้งและไกอาก็จะพูดผ่านสิ่งนี้ ตัวตนของเขาไม่มีใครทราบจนต้องตั้งสมมุติฐานกันเอาเองว่าเขาเป็นผู้ชายโคตรเท่เนื่องจากสันนิษฐานจากเสียง
ทั้งสองที่ถูกตักเตือนจึงนั่งลงอย่างไม่สบอารมณ์
ในตอนนี้อีกสี่คนที่นั่งอยู่เงียบๆมาโดยตลอดก็เริ่มพูดขึ้น
''หมดเรื่องสนุกสักแล้วแฮะ''ชายผู้มืดมนได้พูดพร้อมกับหมุนเก้าอี้ไปมา
''แล้วนายจะหมุนเก้าอี้ทำไมมิทราบ J (joker)''
''เสือกจังเลย บารอน''ชายหนุ่มสวมหมวกถือคถายังคงยิ้มกริบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากที่โดน j ต่อว่าเอา คงเพราะเขายังสงบได้แบบนี้จึงทำให้ บารอน ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม แต่ก็มีอีกคนที่รับไม่ได้กับคำพูดแบบนั้นของ j
เขาคนนั้นก็คือ แอสเตอร์ คนที่สวมฮู้ดสีขาวปิดบังตัวตนอย่างมิดชิด
''ฉันอยากจะรู้จริงใครเลือกนายมา j ''
''ใครกันน้อ.... ''
''จะใครก็ช่างแต่พวกเราถูกรับเลือกมาแล้วเพราะงั้นพวกเราต้องทำหน้าทีนี้อย่าเต็มที่''
ชายสวมชุดเกราะสีขาวจรดเท้าได้พูดขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยพลังออกมา พลังนั้นได้ทำให้บรรยากาศหนักแน่นจนคนอื่นๆนอกจากระดับผู้บริหารถึงกับสลบ ต่อจากนั้นผู้เฒ่าผู้ซึ่งมีอำนาจใหญ่ที่สุดก็ได้เริ่มพูดขึ้นมาบ้าง
''ฉันเข้าใจในความหมายที่นายอยากจะสื่อแต่ช่วยระงับพลังหน่อยจะได้ไหม บิยอน''
''ต้องขออภัยด้วยท่านโอดิน''ตัวเขาได้รีบสะกดพลังและใจเย็นลงในทันที
''ฉันเข้าใจสิ่งที่พวกเธออยากจะสื่อหมดนั่นแหละแล้วฉันก็พอจะได้ข้อสรุปเรื่องนึงที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับแรกแล้ว''
''อะไรหรอคะ''
''ถ้าไม่สนุกฉันขอผ่าน''
'' j สักวันฉันจะฆ่านาย''
''ใจเย็นๆไว้ก่อนแอสเตอร์''
''พวกผู้ชายทำไมชอบเป็นแบบนี้กันจังเนาะเวน่อม''
''ไม่ต้องมาเนาะเลยป้า''
''เงียบๆหน่อยเจ้าพวกเด็กบ้า''
ด้วยคำพูดของเขาเพียงแค่ประโยคเดียวห้องประชุมก็ได้กลับมาเงียบอีกครั้ง โอดิน ชายคนนี้ในอดีตตอนสมัยหนุ่มๆเคยเป็นถึงชายที่ทุกคนกล่าวขานกันว่าแข็งแกร่งที่สุดก่อนที่ซิริอุสจะเกิดขึ้นมาเสียอีก ถึงแม้จะแก่ลงไปจนอายุเข้าขั้นหลักร้อยแต่ถึงอย่างนั้นพลังของเขาก็ยังคงทรงพลังอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
และแล้วเมื่อทุกอย่างเงียบลงโอดีนจึงได้พูดต่อ
''เราต้องหาสมาชิกเพิ่ม''
พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงท่ามกลางบรรยากาหมอกควันยามเช้า ปีกสีขาวได้โผบินลงมาในเมืองชิโอมิ หลังจากการหายไปของเขาทำให้เซนะต้องขาดเพื่อนคุยไปและแล้วในที่สุดเขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าอันไม่ค่อยสู้ดีเสียเท่าไหร่ นกน้อยได้บินร่อนลงมายังเด็กสาวที่ตอนนี้อยู่ในคราบของเด็กชายก่อนจะปรากฏตัวตรงหน้าทำเอาเด็กสาวดีใจมากจนพุ่งเข้าไปเพื่อหวังจะกอดนกน้อยตนนั้น
''พิเกีย แอ่ก'' ก่อนจะถูกบาทาอัดหน้าเข้าให้ ''เมื่อไหร่เธอจะเลิกขี้แงฟ่ะ'' หลังจากถูกถีบคว่ำเซนะก็รีบตั้งสติลุกขึ้นมาถามพิเกียที่ตอนนี้ดูเศร้าๆ
''เป็นอะไรไปหรอ หน้าตาดูเศร้าๆอยู่เลยนะ''
''ขอโทษนะ.... ''
''ถ้าเรื่องที่โดนถีบไม่ต้องไปใส่ใจมันหรอก ฉันโดนถีบจนชินแล้วอ่ะ''
''เปล่ามันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก...''
''แล้วเรื่องอะไรอ่ะ?''
''ฉันบอกเธอตอนนี้ไม่ได้อ่ะ บอกไปก็มีแต่จะทำให้เธอวี๊ดว๊ากเปล่าๆ'' จบจากตรงนั้นเธอรู้ว่าไม่ควรถามต่อจึงจับร่างของพิเกียเข้ามากอด งั้นฉันจะไม่ถามต่อแล้วล่ะ
''เอาไว้สักวันท่าพิเกียอยากเล่าก็มาเล่าได้เลยนะ''
''ก็เอาตามนั้นละกัน'' พิเกียเชื่อฟังคำพูดของเซนะอย่างง่ายดาย คงเป็นเพราะว่าเซนะในตอนนี้ช่างดูอ่อนโยนราวกับนางฟ้ามากๆเจ้าตัวจังทำการซุกอกเซนะอย่างว่าง่าย อันที่จริงถ้าหากเป็นเซนะในเวอร์ชั่นผู้หญิงก็คงจะดีกว่านี้ พิเกียได้แต่คิดแบบนั้นอยู่แต่ภายในใจโดยได้แต่จินตนาการเอาเองว่านี่คือหน้าอกสุดยิ่งใหญ่ที่เจ้าตัวซุกอกนอนอยู่ทุกวัน กลิ่นหอมที่ชวนให้เคลิ้มจากร่างกายของเธอ คำพูดอันแสนวิเศษราวกับน้างฟ้า แค่คิดถึงเซนะเวอร์ชั่นนั้นก็ทำเอาพิเกียถึงกับน้ำลายสอแล้ว ....ทำไมเราช่างคิดอกุศลกับเซนะขนาดนี้นะขืนปล่อยไว้ฉันคงควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่แหงมๆ.... คิดได้แบบนั้นพิเกียจึงหยุดเอาหน้าซุกอกพร้อมกับกระพือปีกออกจากอ้อมกอดของเซนะ
ตอนที่พิเกียกระพือปีกบินออกจากอ้อมกอดของตนไปเซนะก็ได้ทำหน้าเสียดายขึ้นมาทันที แต่เมื่อพิเกียหันมาเซนะก็ได้รีบเปลี่ยนสีหน้าให้ไวทำเอาใครหลายคนรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย
''จะว่าไปช่วงที่ฉันไม่อยู่ถูกแมวตัวไหนรังแกมาบ้างเปล่า''
''ไม่มีนะว่าแต่ถามทำไมอ่ะ''
''ก็ถ้ามีเดี๋ยวฉันจะอาสาไปอัดมันเอง''
(นักเลงแท้)
เซนะได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้กับพิเกียก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปโรงเรียนกันตั้งแต่เช้าตรู่
Darklord องค์กรณ์มืดที่หวังจะปกครองทั้งจักรวาลในอดีตจวบจนตอนนี้พวกเขาก็ยังรอคอยคำสั่งจากผู้เป็นหัวหน้าอยู่ตลอดเวลาและ Lightlord ก็คือองค์กรณ์ที่คอยขัดขวางพวกเขาโดยผู้นำของพวกเขามีชื่อว่า คานาเลีย เธอเป็นทั้งเจ้าหญิงและเป็นผู้นำทัพต่อสู้กับ darklord โดยผู้นำของมันก็คือ ซิริอุส ชายที่ชั่วร้ายที่สุดในทุกๆจักรวาล ซิริอุส เขาเคยเป็นผู้นำทัพอันเกรียงไกรเข้าปกครองจักรวาลแต่ก็ถูก คานาเลีย หยุดเอาไว้ได้แต่นั่นก็ไม่ทำให้ darklord ล่มสลายลงกลับกันทางด้านของ lightlord กับสูญเสียกำลังพลไปอย่างมหาศาล และในตอนนี้พวกมันก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งโดยสัญญานของการเปิดสงครามได้เริ่มต้นขึ้นจากการปรากฏตัวของ เฮเลน่า รองขุนพลของ darklord ผู้ซึ่งปรากฏตัวออกมาตอนศึกของโวเฟียกับเซนะ หลังจากการปรากฏตัวของเธอจักรวาลก็เริ่มปั่นป่วนโดยเหล่า darklord ได้บุกทำลายกองกำลังของ lightlord ตามแต่ละจักรวาล
เดิมที lightlord ก็เกิดจากการรวมตัวกันของตัวแทนของจักรวาลเพื่ิอสร้างเป็นองค์กรณ์นี้ขึ้นมาโดยมีเป้าหมายเพื่อคอยดูแลความสงบของโลกซึ่งก็ไม่ต่างจากตำรวจโดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จักรวาลที่หนึ่งซึ่งจักรวาลนี้คือจักรวาลที่แข็งแกร่งที่สุดตามชื่อ องค์กรณ์ศูนย์กลางที่ทำหน้าที่บริหารจัดการซึ่งขึ้นตรงต่อคานาเลียมีชื่อว่า องค์กรณ์โลก โดยมีเหล่าสมาชิกในสภาคอยบริหารอยู่เพียงแค่สิบคน ไม่นับรวมหัวหน้า
ท่ามกลางการประชุมที่เริ่มจะตึงเครียดผู้เฒ่าที่ไว้หนวดเครายาวสุดได้ทำการนั่งคิดไปมาอยู่หลายรอบพร้อมกับมองไปทางผู้บริหารคนอื่นๆที่ตอนนี้เริ่มมีปากเถียงกันซะแล้ว ก่อนจะเอามือมาก่ายหน้าผากแล้วเอียงหูฟัง
ชายรูปร่างกำยำผมสีดำนามว่า ไซโอ ได้เอามือทุบโต๊ะพร้อมกับแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา
''นี่คือการเริ่มต้นของสงครามพวกเราควรจะจัดตั้งหน่วยค้นหาแล้วรีบตามหาที่มั่นของพวกมันโดยเร็ว'' ยังไม่ทันคาดขำหญิงสาวผมน้ำตาลยาวนัยตาสีเขียวนามว่า อีจีฟ ก็ได้พูดขึ้น ''แต่ดิฉันคิดว่าการฟื้นฟูจะต้องทำก่อนนะคะ''
''หากไม่ทำให้มั่นคงครั้งต่อไปที่พวกเขาบุกมาอีกก็จะเป็นจุดจบขององค์กรณ์ได้''
''ฉันขอค้านความคิดของเธอจะได้ไหมอีจีฟ'' อยู่ๆชายหนุ่มสวนฮู๊ดปิดบังใบหน้าที่นั่งตรงกันข้ามกับเธอก็ได้พูดขึ้นทำให้ทั้งโต๊ะประชุมหันมาสนใจเขากันหมด อีจีฟเองก็ได้เงียบลงไปเพื่อรอฟังความคิดเห็นของเขาอย่างว่าง่าย เชิญว่ามาเลยค่ะ
''เวน่อม''
''ฉันคิดว่าความคิดของเธอนั้นก็ดีแต่ว่าฉันคิดว่าความคิดของไซโอก็ไม่เลว อีกอย่างเธอเคยได้ยินคำนี้ไหม การโจมตีคือการป้องกันที่ดีที่สุด''
''คุณก็ยังคงเอาแต่ใช้ความคิดง่ายๆเหมือนเด็กๆเลยนะคะ ก็จริงอยู่ที่ว่าความคิดของคุณนั้นถูกอยู่แต่นั่นมันก็เอาไว้ใช้กับในกรณีที่กองกำลังเราสมบูรณ์ดีกว่านะคะ''
''พอดีว่าฉันมันโง่เพราะงั้นช่วยขยายความให้ทีจะได้ไหม''
ก่อนที่อีจีฟจะเริ่มพูดขึ้นเด็กสาวดวงตาสีแดงผมสีทองซึ่งเป็นสายเลือดของแวมไพร์ชั้นสูงก็ได้ชิงตัดหน้าเธอพูดไปเสียแล้ว
''นายก็ลองคิดเล่นๆสิว่าหากใช้ตัวเลขเปรียบเทียบเป็นจำนวน 100 แล้วตอนนี้ถูกเก็บไปแล้ว 50 เหลืออีก 50 หากแบ่งกำลังออกไปตามหาครึ่งนึงนั้นก็คือ 25 แล้วอีกฝ่ายกำลังมี 100 เต็มเปี่ยม ถึงจะหาฐานที่มั่นศัตรูเจออย่างน้อยที่สุดก็ไม่น่าจะมีใครเหลือดรอดกลับมา นายพอจะเข้าใจไหมเวน่อม''
''แจ่มแจ้งเลยป้าอีคริฟ''
''ระวังตอนนอนให้ดีเจ้าหนูเวน่อม'' อีคริฟถึงจะเห็นเป็นเด็กอายุ 13 แต่อายุจริงๆปาไปหลักร้อยแล้วเพราะงั้นเธอจึงถือได้ว่ามีอายุมากที่สุดในสภาแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เวน่อมจึงได้ใช้จุดนั้นแซวเธอได้แบบไม่ยั้ง แต่ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจะระเบิดพลังเพื่อสู้กัน สองคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆจึงปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่านั้นออกมา
''เวน่อมนายเลิกแหย่อีคริฟได้แล้ว''
''เบลเซ่...'' เขาได้หันไปมองชายผู้ซึ่งสวมชุดคลุมสีน้ำเงินสายตาคมดุจเหยี่ยวผมสีฟ้าที่กำลังมองมาทางนี้ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเหงื่อตกราวกับหนูที่ถูกเหยี่ยวจ้อง
''อีคริฟเธอก็อยู่มานานยังจะใช้อารมณ์แบบเด็กๆอยู่อีกนะ''
''ไกอา...''เธอได้หันไปมองแท็บสีฟ้าซึ่งนั่นก็คือไกอาซึ่งตัวจริงนั้นเป็นปริศนามีเพียงแต่ชื่อของเขาเท่านั้นที่ทุกคนรู้โดยทุกครั้งที่เริ่มการประชุมก็จะมีแท็บนี้โผล่ขึ้นมาทุกครั้งและไกอาก็จะพูดผ่านสิ่งนี้ ตัวตนของเขาไม่มีใครทราบจนต้องตั้งสมมุติฐานกันเอาเองว่าเขาเป็นผู้ชายโคตรเท่เนื่องจากสันนิษฐานจากเสียง
ทั้งสองที่ถูกตักเตือนจึงนั่งลงอย่างไม่สบอารมณ์
ในตอนนี้อีกสี่คนที่นั่งอยู่เงียบๆมาโดยตลอดก็เริ่มพูดขึ้น
''หมดเรื่องสนุกสักแล้วแฮะ''ชายผู้มืดมนได้พูดพร้อมกับหมุนเก้าอี้ไปมา
''แล้วนายจะหมุนเก้าอี้ทำไมมิทราบ J (joker)''
''เสือกจังเลย บารอน''ชายหนุ่มสวมหมวกถือคถายังคงยิ้มกริบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากที่โดน j ต่อว่าเอา คงเพราะเขายังสงบได้แบบนี้จึงทำให้ บารอน ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม แต่ก็มีอีกคนที่รับไม่ได้กับคำพูดแบบนั้นของ j
เขาคนนั้นก็คือ แอสเตอร์ คนที่สวมฮู้ดสีขาวปิดบังตัวตนอย่างมิดชิด
''ฉันอยากจะรู้จริงใครเลือกนายมา j ''
''ใครกันน้อ.... ''
''จะใครก็ช่างแต่พวกเราถูกรับเลือกมาแล้วเพราะงั้นพวกเราต้องทำหน้าทีนี้อย่าเต็มที่''
ชายสวมชุดเกราะสีขาวจรดเท้าได้พูดขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยพลังออกมา พลังนั้นได้ทำให้บรรยากาศหนักแน่นจนคนอื่นๆนอกจากระดับผู้บริหารถึงกับสลบ ต่อจากนั้นผู้เฒ่าผู้ซึ่งมีอำนาจใหญ่ที่สุดก็ได้เริ่มพูดขึ้นมาบ้าง
''ฉันเข้าใจในความหมายที่นายอยากจะสื่อแต่ช่วยระงับพลังหน่อยจะได้ไหม บิยอน''
''ต้องขออภัยด้วยท่านโอดิน''ตัวเขาได้รีบสะกดพลังและใจเย็นลงในทันที
''ฉันเข้าใจสิ่งที่พวกเธออยากจะสื่อหมดนั่นแหละแล้วฉันก็พอจะได้ข้อสรุปเรื่องนึงที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับแรกแล้ว''
''อะไรหรอคะ''
''ถ้าไม่สนุกฉันขอผ่าน''
'' j สักวันฉันจะฆ่านาย''
''ใจเย็นๆไว้ก่อนแอสเตอร์''
''พวกผู้ชายทำไมชอบเป็นแบบนี้กันจังเนาะเวน่อม''
''ไม่ต้องมาเนาะเลยป้า''
''เงียบๆหน่อยเจ้าพวกเด็กบ้า''
ด้วยคำพูดของเขาเพียงแค่ประโยคเดียวห้องประชุมก็ได้กลับมาเงียบอีกครั้ง โอดิน ชายคนนี้ในอดีตตอนสมัยหนุ่มๆเคยเป็นถึงชายที่ทุกคนกล่าวขานกันว่าแข็งแกร่งที่สุดก่อนที่ซิริอุสจะเกิดขึ้นมาเสียอีก ถึงแม้จะแก่ลงไปจนอายุเข้าขั้นหลักร้อยแต่ถึงอย่างนั้นพลังของเขาก็ยังคงทรงพลังอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
และแล้วเมื่อทุกอย่างเงียบลงโอดีนจึงได้พูดต่อ
''เราต้องหาสมาชิกเพิ่ม''
พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงท่ามกลางบรรยากาหมอกควันยามเช้า ปีกสีขาวได้โผบินลงมาในเมืองชิโอมิ หลังจากการหายไปของเขาทำให้เซนะต้องขาดเพื่อนคุยไปและแล้วในที่สุดเขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าอันไม่ค่อยสู้ดีเสียเท่าไหร่ นกน้อยได้บินร่อนลงมายังเด็กสาวที่ตอนนี้อยู่ในคราบของเด็กชายก่อนจะปรากฏตัวตรงหน้าทำเอาเด็กสาวดีใจมากจนพุ่งเข้าไปเพื่อหวังจะกอดนกน้อยตนนั้น
''พิเกีย แอ่ก'' ก่อนจะถูกบาทาอัดหน้าเข้าให้ ''เมื่อไหร่เธอจะเลิกขี้แงฟ่ะ'' หลังจากถูกถีบคว่ำเซนะก็รีบตั้งสติลุกขึ้นมาถามพิเกียที่ตอนนี้ดูเศร้าๆ
''เป็นอะไรไปหรอ หน้าตาดูเศร้าๆอยู่เลยนะ''
''ขอโทษนะ.... ''
''ถ้าเรื่องที่โดนถีบไม่ต้องไปใส่ใจมันหรอก ฉันโดนถีบจนชินแล้วอ่ะ''
''เปล่ามันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก...''
''แล้วเรื่องอะไรอ่ะ?''
''ฉันบอกเธอตอนนี้ไม่ได้อ่ะ บอกไปก็มีแต่จะทำให้เธอวี๊ดว๊ากเปล่าๆ'' จบจากตรงนั้นเธอรู้ว่าไม่ควรถามต่อจึงจับร่างของพิเกียเข้ามากอด งั้นฉันจะไม่ถามต่อแล้วล่ะ
''เอาไว้สักวันท่าพิเกียอยากเล่าก็มาเล่าได้เลยนะ''
''ก็เอาตามนั้นละกัน'' พิเกียเชื่อฟังคำพูดของเซนะอย่างง่ายดาย คงเป็นเพราะว่าเซนะในตอนนี้ช่างดูอ่อนโยนราวกับนางฟ้ามากๆเจ้าตัวจังทำการซุกอกเซนะอย่างว่าง่าย อันที่จริงถ้าหากเป็นเซนะในเวอร์ชั่นผู้หญิงก็คงจะดีกว่านี้ พิเกียได้แต่คิดแบบนั้นอยู่แต่ภายในใจโดยได้แต่จินตนาการเอาเองว่านี่คือหน้าอกสุดยิ่งใหญ่ที่เจ้าตัวซุกอกนอนอยู่ทุกวัน กลิ่นหอมที่ชวนให้เคลิ้มจากร่างกายของเธอ คำพูดอันแสนวิเศษราวกับน้างฟ้า แค่คิดถึงเซนะเวอร์ชั่นนั้นก็ทำเอาพิเกียถึงกับน้ำลายสอแล้ว ....ทำไมเราช่างคิดอกุศลกับเซนะขนาดนี้นะขืนปล่อยไว้ฉันคงควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่แหงมๆ.... คิดได้แบบนั้นพิเกียจึงหยุดเอาหน้าซุกอกพร้อมกับกระพือปีกออกจากอ้อมกอดของเซนะ
ตอนที่พิเกียกระพือปีกบินออกจากอ้อมกอดของตนไปเซนะก็ได้ทำหน้าเสียดายขึ้นมาทันที แต่เมื่อพิเกียหันมาเซนะก็ได้รีบเปลี่ยนสีหน้าให้ไวทำเอาใครหลายคนรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย
''จะว่าไปช่วงที่ฉันไม่อยู่ถูกแมวตัวไหนรังแกมาบ้างเปล่า''
''ไม่มีนะว่าแต่ถามทำไมอ่ะ''
''ก็ถ้ามีเดี๋ยวฉันจะอาสาไปอัดมันเอง''
(นักเลงแท้)
เซนะได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้กับพิเกียก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปโรงเรียนกันตั้งแต่เช้าตรู่
ตอนที่ 77 The Last
หลังจากที่คลายร่างรวมเทียร์จึงเดินเข้ามาหาเซนะที่ตอนนี้ร่างเรืองแสงอยู่ส่วน duo ของโซเฟียก็ได้กระจัดกระจายกันไปอีกครั้ง ทุกๆคนได้แต่พากันยืนนิ่งราวกับกำลังจะไว้อาลัยเซนะที่กำลังจะหายไป
พวกเขาต่างพากันเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้เพื่อไม่ทำให้เซนะต้องมาเป็นห่วง บทสรุปสุดท้ายของการต่อสู้นี้ก็คือการจากไปของเซนะอย่างไม่ต้องสงสัย
โซเฟียได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองมาทางเซนะทั้งน้ำตา
"พวกเราคงถูกคำสาปสินะ คำสาปที่ทำให้พวกเราต้องแยกจากกันเสมอเลย"
"ถ้าเป็นงั้นจริงคงต้องหาวิธีแก้คำสาปแล้วล่ะ"
ทั้งสองได้ตาจ้องมองกันท่ามกลางทุ่งหญ้าที่ยังมีส่วนงดงามเหลือเอาไว้อยู่ ในตอนนี้เซนะได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของทุกคนพร้อมกับรอยยิ้มอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เธอไม่ได้คิดว่าการจากลาครั้งนี้จะเป็นเพียงการจากลาครั้งสุดท้ายเพราะงั้นเธอจึงไม่ร้องไห้หรือเสียใจใดๆเลยออกมาทั้งนั้น
ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนจะโศกเศร้าดวงตะก็ได้ค่อยๆลับขอบฟ้าลงราวกับกำลังจะแสดงถึงการจากไปของเซนะ พลังของเธอนั้นเหลืออีกไม่มากแล้วในตอนนี้ ร่างกายของเธอกำลังหายไปเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ ความเงียบสงับสุดท้ายได้ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความมืดมิดยามเย็น บัดนี้แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าลงไปเสียแล้ว
เมื่อพระอาทิตย์หายไปพระจันทร์จึงเข้ามาแทนที่ ณ ตรงที่พวกเขาอยู่นั้นคือช่องโหว่ขนาดยักษ์ที่เชื่อไปยังโลกแต่ละโลกได้พอดี แสงของพระจันทร์ทั้งห้าจึงส่องลงมายังพวกเขาจนทำให้พื้นรอบๆนั้นสว่างจ้าขึ้นราวกับเป็นแสงของหิ่งห้อย ภายใต้แสงนี้ร่างของเซนะก็ค่อยๆหายไปแต่แล้วก็ได้มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นซึ่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือเทียร์ duo ของเซนะที่ตอนนี้กลับมาจากร่าง
มังกรทมิฬแล้ว
"มีอะไรอย่างนั้นหรอ!?"
"ฉันมีเรื่องที่อยากพูดกับนายมานานแล้วเพราะงั้นตั้งใจฟังฉันให้ดีนะ"
"ว่ามาสิ... " ถึงตรงนี้ทุกคนก็ได้แต่คิดว่าจะเป็นประโยคซึ้งๆตามแบบฉบับการ์ตูนแนวเลิฟคอมมานดี้ซึ่งทุกคนก็เล่นคิดผิดกันหมดเลย
"นายเป็นคนกินพุ้ดดิ้งที่ฉันแช่เอาไว้ตอนศึกโซดิแอคใช่ไหม"
"อ้าว~! รู้ได้ไง!?"
"วันนั้นมันมีแค่ฉันกับนายที่อยู่ที่นั่นถ้าไม่ใช่นานแล้วจะเป็นใครมิทราบ และนายก็ออกไปสู้กับพวกใต้ดินตอนศึกเวนดีเช่ใช่ไหม!"
"ก็แบบตอนนั้นเทียร์หลับอยู่ฉันก็เลยไม่กล้าปลุกอ่ะ"
"ยัง ยังไม่พอตอนที่ฉันไปทำงานนายก็แอบเล่นเกมของฉันต่อจนเคลียร์เควสทั้งหมดสินะ"
"ก็แบบมันเซ็งๆอ่ะ"
"ตอนศึกแกรนด์ซีดนายก็ยังลุยเดี๋ยวไปตบเกรียนบอสมันคนเดียวโดยไม่เหลือให้ฉันเล่นสนุกมั่งเลย"
"สงครามจะได้จบลงเร็วๆไง"
''แล้วตอนศึกของคริสโตเฟอร์นายก็ไม่มาบอกมารายงานฉันสักคำแต่นายกลับบอกลีน่าให้มาช่วยเนี่ยนะ''
''ก็ตอนนั้นเทียร์ดันปิดเครื่องไม่รับสายของฉันนี่น่า''
''จะว่าไปก็จริงแฮะ'' ตอนนั้นเทียร์ยังคงงอนเซนะเรื่องพิเกียเลยทำเป็นไม่สนใจเพิ่มเติมคือเธอขอแยกตัวออกห่างจากเซนะเพื่อเรียกร้องความสนใจสุดท้ายก็เลยปิดแม้กระทั่งช่องทางการสื่อสารทุกชนิด ทำเอาช่วงนั้นเซนะสามารถเที่ยวเล่นได้อย่างหนำใจจนรู้ตัวอีกทีก็มีงานมาให้เธอเท่ากับกองภูเขาเสียแล้ว (ใครมันโยนงานมาฟ่ะ)
ณ ตอนนี้ร่างของเซนะใกล้หายไปเต็มที โซเฟียได้แต่มองดูด้วยความเจ็บปวด
''นี่เซนะ ยังจำตอนเด็กๆที่นายชอบพูดถึงความฝันของตัวเองได้อยู่หรือเปล่า''
''ความฝันที่ชอบพูดว่าจะทำลายจักรวาลใช่ไหม ฉันจำได้แม่นเลยล่ะ''
''ตอนนี้นายเปลี่ยนใจยัง''
''ฉันยังไม่เปลี่ยนใจหรอกแค่ตอนนี้กำลังรออะไรบางอย่างอยู่''
''อะไรที่ว่านั้นคือ?''
''บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ รอเอาไว้ลุ้นกันดีกว่า''
''เจ้าคนหัวดื้อ''
''ก็พอกันนั่นแหละ''
ฉากสุดท้ายของทั้งสองนั้นทุกคนได้คิดเพียงแค่ว่าพวกเขาแค่หยอกล้อกันโดยยังไม่มีใครเลยที่รู้สึกไหวตัวกับคำพูดของเซนะ และมันก็เป็นตัวเริ่มของสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิด เพียงพริบตาที่ทั้งสองยิ้มให้กันร่างของเซนะก็ได้หายไปจากตรงนั้น
ภายใต้แสงสว่างของดวงจันทร์น้ำตาของสาวน้อยก็ได้ไหลรินออกมา ท่ามกลางหมู่ดาวที่เรียงรายอย่างสวยงามได้มีแสงสว่างกลุ่มหนึ่งร่องลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า แสงเหล่านั้นได้ช่วยแต่งเติมท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สว่างจ้าขึ้นอีก จากนั้นไม่นานก็ได้มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ เสียงนั้นได้เริ่มต้นจากโซเฟียต่อด้วยคนอื่นๆ ทุกคนได้ก้มหน้าร้องไห้เว้นแต่เทียร์ที่คอยมองดูฉากสุดท้ายของแสงที่กำลังจะหายไปโดยแสงสุดท้ายนั้นคือแสงสว่างทั้งหมด 13 จุดซึ่งในตอนนั้นทุกคนยังไม่รู้ถึงความหมายนี้เลยแม้แต่น้อย แสงสุดท้ายจึงได้หายไปในไม่ช้า
การเดินทางของพวกเขาจึงได้จบลงทุกคนต่างก็พากันกลับมายังโลกเดิมโดยที่ๆพวกเขามุ่งไปนั้นก็คือโรงเรียนชิโอมิ พวกเขาใช้เวลาเกือบรุ่งสางกว่าจะมาถึงโรงเรียนนี้ได้และที่นั่นก็มีอุยผู้อำนวยการโรงเรียนยืนรอพวกเขาอยู่นานแล้ว เธอคอยเฝ้ามองการต่อสู้ของลูกศิษย์ตนอย่างตาไม่กระพริบและเธอก็คอยภาวนาให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย
ทุกคนต่างเงียบกริบจนกระทั่งอุยได้พูดขึ้น
''พวกเธอรู้ไหมว่ามันทำให้ใครอีกหลายคนต้องเดือดร้อนน่ะ''
''พวกเราต้องขอโทษจริงๆค่ะ'' โซเฟียได้เดินออกมาขอโทษด้วยใบหน้าอันแสนจะสำนึกผิด ทุกคนเองก็ได้แสดงสีหน้าออกมาเช่นเดียวกับเธอ แต่ยังไม่ทันไรอุยก็ได้เดินเข้ามาเพื่อที่จะพยายามโอบกอดพวกเขาทุกคนเอาไว้ เธอน่ะโกรธมากโกรธที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่คอยเฝ้ามองลูกศิษย์ตนเองเข่นฆ่ากัน....
เพราะงั้นการที่ทุกคนกลับกันมาได้อย่างปลอดภัยจึงไม่มีอะไรที่จะน่าดีใจเท่านี้อีกแล้ว
''พวกเธอบ้าๆๆๆๆๆ บ้าที่สุด พวกเธอรู้ไหมว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนกลับการที่ได้แต่คอยเฝ้ามองแต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างนึง แถมโรงเรียนนี้ดันมีแต่เด็กแบบนี้อยู่กันให้เพียบเลยด้วย คนเป็นอาจารย์อย่างฉันก็เลยต้องมาคอยเป็นห่วงพวกเธอยังไงล่ะ ถะ ถ้าหากว่าพวกเธอ ไม่กลับมาหาฉันล่ะก็ ฉันคง ฉันคง... ''
ต่อจากตงนั้นเธอก็ได้พูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วยทำให้คนอื่นๆฟังเธอไม่รู้เรื่องแต่ถึงงั้นทุกคนก็พอรับรู้ได้ผ่านทางน้ำตาของเธอ ทำให้มีน้ำตาไหลออกมาตามๆกัน
ณ เวลา 6:30 น. เซนะตัวจริงก็ได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางอ้อมกอดและหน้าอกของฮิคาริเธอตื่นขึ้นมาในสภาพโป๊เปลือยไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนจะใช้ผ้าห่มมาคลุมร่างและเดินออกไปจากห้องนั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ร่างความคิดแต่ภาพการต่อสู้ทั้งทุกอย่างก็ได้ผุดขึ้นมาในหัวของเซนะ ตัวเธอได้รีบแต่งตัวและเดินออกจากคฤหาสน์เพื่อไปยังโรงเรียน ในตอนนั้นเองเธอก็ได้เดินผ่านคนสวมผ้าคลุมสีแดงก่อนที่เขาจะหยุดแล้วหันมามองเซนะพร้อมกับถกผ้าคลุมส่วนหัวลง สายตาของเทียร์ได้จ้องมองมายังแผ่นหลังของเซนะเธอได้มองมันก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินจากไป
''Litte Nova กำลังจะเกิดขึ้นอีกสินะ''ตัวเธอได้บ่นพึมพำออกมาก่อนจะไปยังโลกถัดไป การผจญภัยครั้งใหม่ของเซนะจึงได้เริ่มต้นขึ้นจากการเดินผ่านกันครั้งนี้
หลังจากที่คลายร่างรวมเทียร์จึงเดินเข้ามาหาเซนะที่ตอนนี้ร่างเรืองแสงอยู่ส่วน duo ของโซเฟียก็ได้กระจัดกระจายกันไปอีกครั้ง ทุกๆคนได้แต่พากันยืนนิ่งราวกับกำลังจะไว้อาลัยเซนะที่กำลังจะหายไป
พวกเขาต่างพากันเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้เพื่อไม่ทำให้เซนะต้องมาเป็นห่วง บทสรุปสุดท้ายของการต่อสู้นี้ก็คือการจากไปของเซนะอย่างไม่ต้องสงสัย
โซเฟียได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองมาทางเซนะทั้งน้ำตา
"พวกเราคงถูกคำสาปสินะ คำสาปที่ทำให้พวกเราต้องแยกจากกันเสมอเลย"
"ถ้าเป็นงั้นจริงคงต้องหาวิธีแก้คำสาปแล้วล่ะ"
ทั้งสองได้ตาจ้องมองกันท่ามกลางทุ่งหญ้าที่ยังมีส่วนงดงามเหลือเอาไว้อยู่ ในตอนนี้เซนะได้ยืนอยู่เบื้องหน้าของทุกคนพร้อมกับรอยยิ้มอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข เธอไม่ได้คิดว่าการจากลาครั้งนี้จะเป็นเพียงการจากลาครั้งสุดท้ายเพราะงั้นเธอจึงไม่ร้องไห้หรือเสียใจใดๆเลยออกมาทั้งนั้น
ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนจะโศกเศร้าดวงตะก็ได้ค่อยๆลับขอบฟ้าลงราวกับกำลังจะแสดงถึงการจากไปของเซนะ พลังของเธอนั้นเหลืออีกไม่มากแล้วในตอนนี้ ร่างกายของเธอกำลังหายไปเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ ความเงียบสงับสุดท้ายได้ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความมืดมิดยามเย็น บัดนี้แสงสุดท้ายของพระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าลงไปเสียแล้ว
เมื่อพระอาทิตย์หายไปพระจันทร์จึงเข้ามาแทนที่ ณ ตรงที่พวกเขาอยู่นั้นคือช่องโหว่ขนาดยักษ์ที่เชื่อไปยังโลกแต่ละโลกได้พอดี แสงของพระจันทร์ทั้งห้าจึงส่องลงมายังพวกเขาจนทำให้พื้นรอบๆนั้นสว่างจ้าขึ้นราวกับเป็นแสงของหิ่งห้อย ภายใต้แสงนี้ร่างของเซนะก็ค่อยๆหายไปแต่แล้วก็ได้มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นซึ่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือเทียร์ duo ของเซนะที่ตอนนี้กลับมาจากร่าง
มังกรทมิฬแล้ว
"มีอะไรอย่างนั้นหรอ!?"
"ฉันมีเรื่องที่อยากพูดกับนายมานานแล้วเพราะงั้นตั้งใจฟังฉันให้ดีนะ"
"ว่ามาสิ... " ถึงตรงนี้ทุกคนก็ได้แต่คิดว่าจะเป็นประโยคซึ้งๆตามแบบฉบับการ์ตูนแนวเลิฟคอมมานดี้ซึ่งทุกคนก็เล่นคิดผิดกันหมดเลย
"นายเป็นคนกินพุ้ดดิ้งที่ฉันแช่เอาไว้ตอนศึกโซดิแอคใช่ไหม"
"อ้าว~! รู้ได้ไง!?"
"วันนั้นมันมีแค่ฉันกับนายที่อยู่ที่นั่นถ้าไม่ใช่นานแล้วจะเป็นใครมิทราบ และนายก็ออกไปสู้กับพวกใต้ดินตอนศึกเวนดีเช่ใช่ไหม!"
"ก็แบบตอนนั้นเทียร์หลับอยู่ฉันก็เลยไม่กล้าปลุกอ่ะ"
"ยัง ยังไม่พอตอนที่ฉันไปทำงานนายก็แอบเล่นเกมของฉันต่อจนเคลียร์เควสทั้งหมดสินะ"
"ก็แบบมันเซ็งๆอ่ะ"
"ตอนศึกแกรนด์ซีดนายก็ยังลุยเดี๋ยวไปตบเกรียนบอสมันคนเดียวโดยไม่เหลือให้ฉันเล่นสนุกมั่งเลย"
"สงครามจะได้จบลงเร็วๆไง"
''แล้วตอนศึกของคริสโตเฟอร์นายก็ไม่มาบอกมารายงานฉันสักคำแต่นายกลับบอกลีน่าให้มาช่วยเนี่ยนะ''
''ก็ตอนนั้นเทียร์ดันปิดเครื่องไม่รับสายของฉันนี่น่า''
''จะว่าไปก็จริงแฮะ'' ตอนนั้นเทียร์ยังคงงอนเซนะเรื่องพิเกียเลยทำเป็นไม่สนใจเพิ่มเติมคือเธอขอแยกตัวออกห่างจากเซนะเพื่อเรียกร้องความสนใจสุดท้ายก็เลยปิดแม้กระทั่งช่องทางการสื่อสารทุกชนิด ทำเอาช่วงนั้นเซนะสามารถเที่ยวเล่นได้อย่างหนำใจจนรู้ตัวอีกทีก็มีงานมาให้เธอเท่ากับกองภูเขาเสียแล้ว (ใครมันโยนงานมาฟ่ะ)
ณ ตอนนี้ร่างของเซนะใกล้หายไปเต็มที โซเฟียได้แต่มองดูด้วยความเจ็บปวด
''นี่เซนะ ยังจำตอนเด็กๆที่นายชอบพูดถึงความฝันของตัวเองได้อยู่หรือเปล่า''
''ความฝันที่ชอบพูดว่าจะทำลายจักรวาลใช่ไหม ฉันจำได้แม่นเลยล่ะ''
''ตอนนี้นายเปลี่ยนใจยัง''
''ฉันยังไม่เปลี่ยนใจหรอกแค่ตอนนี้กำลังรออะไรบางอย่างอยู่''
''อะไรที่ว่านั้นคือ?''
''บอกตอนนี้ก็ไม่สนุกน่ะสิ รอเอาไว้ลุ้นกันดีกว่า''
''เจ้าคนหัวดื้อ''
''ก็พอกันนั่นแหละ''
ฉากสุดท้ายของทั้งสองนั้นทุกคนได้คิดเพียงแค่ว่าพวกเขาแค่หยอกล้อกันโดยยังไม่มีใครเลยที่รู้สึกไหวตัวกับคำพูดของเซนะ และมันก็เป็นตัวเริ่มของสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิด เพียงพริบตาที่ทั้งสองยิ้มให้กันร่างของเซนะก็ได้หายไปจากตรงนั้น
ภายใต้แสงสว่างของดวงจันทร์น้ำตาของสาวน้อยก็ได้ไหลรินออกมา ท่ามกลางหมู่ดาวที่เรียงรายอย่างสวยงามได้มีแสงสว่างกลุ่มหนึ่งร่องลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า แสงเหล่านั้นได้ช่วยแต่งเติมท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สว่างจ้าขึ้นอีก จากนั้นไม่นานก็ได้มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ เสียงนั้นได้เริ่มต้นจากโซเฟียต่อด้วยคนอื่นๆ ทุกคนได้ก้มหน้าร้องไห้เว้นแต่เทียร์ที่คอยมองดูฉากสุดท้ายของแสงที่กำลังจะหายไปโดยแสงสุดท้ายนั้นคือแสงสว่างทั้งหมด 13 จุดซึ่งในตอนนั้นทุกคนยังไม่รู้ถึงความหมายนี้เลยแม้แต่น้อย แสงสุดท้ายจึงได้หายไปในไม่ช้า
การเดินทางของพวกเขาจึงได้จบลงทุกคนต่างก็พากันกลับมายังโลกเดิมโดยที่ๆพวกเขามุ่งไปนั้นก็คือโรงเรียนชิโอมิ พวกเขาใช้เวลาเกือบรุ่งสางกว่าจะมาถึงโรงเรียนนี้ได้และที่นั่นก็มีอุยผู้อำนวยการโรงเรียนยืนรอพวกเขาอยู่นานแล้ว เธอคอยเฝ้ามองการต่อสู้ของลูกศิษย์ตนอย่างตาไม่กระพริบและเธอก็คอยภาวนาให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย
ทุกคนต่างเงียบกริบจนกระทั่งอุยได้พูดขึ้น
''พวกเธอรู้ไหมว่ามันทำให้ใครอีกหลายคนต้องเดือดร้อนน่ะ''
''พวกเราต้องขอโทษจริงๆค่ะ'' โซเฟียได้เดินออกมาขอโทษด้วยใบหน้าอันแสนจะสำนึกผิด ทุกคนเองก็ได้แสดงสีหน้าออกมาเช่นเดียวกับเธอ แต่ยังไม่ทันไรอุยก็ได้เดินเข้ามาเพื่อที่จะพยายามโอบกอดพวกเขาทุกคนเอาไว้ เธอน่ะโกรธมากโกรธที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่คอยเฝ้ามองลูกศิษย์ตนเองเข่นฆ่ากัน....
เพราะงั้นการที่ทุกคนกลับกันมาได้อย่างปลอดภัยจึงไม่มีอะไรที่จะน่าดีใจเท่านี้อีกแล้ว
''พวกเธอบ้าๆๆๆๆๆ บ้าที่สุด พวกเธอรู้ไหมว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนกลับการที่ได้แต่คอยเฝ้ามองแต่ทำอะไรไม่ได้สักอย่างนึง แถมโรงเรียนนี้ดันมีแต่เด็กแบบนี้อยู่กันให้เพียบเลยด้วย คนเป็นอาจารย์อย่างฉันก็เลยต้องมาคอยเป็นห่วงพวกเธอยังไงล่ะ ถะ ถ้าหากว่าพวกเธอ ไม่กลับมาหาฉันล่ะก็ ฉันคง ฉันคง... ''
ต่อจากตงนั้นเธอก็ได้พูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วยทำให้คนอื่นๆฟังเธอไม่รู้เรื่องแต่ถึงงั้นทุกคนก็พอรับรู้ได้ผ่านทางน้ำตาของเธอ ทำให้มีน้ำตาไหลออกมาตามๆกัน
ณ เวลา 6:30 น. เซนะตัวจริงก็ได้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางอ้อมกอดและหน้าอกของฮิคาริเธอตื่นขึ้นมาในสภาพโป๊เปลือยไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนจะใช้ผ้าห่มมาคลุมร่างและเดินออกไปจากห้องนั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ร่างความคิดแต่ภาพการต่อสู้ทั้งทุกอย่างก็ได้ผุดขึ้นมาในหัวของเซนะ ตัวเธอได้รีบแต่งตัวและเดินออกจากคฤหาสน์เพื่อไปยังโรงเรียน ในตอนนั้นเองเธอก็ได้เดินผ่านคนสวมผ้าคลุมสีแดงก่อนที่เขาจะหยุดแล้วหันมามองเซนะพร้อมกับถกผ้าคลุมส่วนหัวลง สายตาของเทียร์ได้จ้องมองมายังแผ่นหลังของเซนะเธอได้มองมันก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินจากไป
''Litte Nova กำลังจะเกิดขึ้นอีกสินะ''ตัวเธอได้บ่นพึมพำออกมาก่อนจะไปยังโลกถัดไป การผจญภัยครั้งใหม่ของเซนะจึงได้เริ่มต้นขึ้นจากการเดินผ่านกันครั้งนี้
วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 76 help me
"ไม่เอา!"เสียงตระโกนจากในจิตใจได้เปลี่ยนกลายมาเป็นคำพูด
"เซนะ... "
"ฉันไม่ยอมพลาดเหมือนครั้งนั้นอีกแล้ว!" เซนะได้เข้ามากอดโซเฟียเอาไว้ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะตกลงสู่พื้น
"ถ้าขืนเป็นแบบนี้เราได้ตายคู่แน่"
"ไม่หรอกฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอกโซเฟีย ฉันอยากจะบอกเธอมาโดยตลอดเลยว่าฉันน่ะรักเธอแต่ก็ไม่กล้าสักทีจนเวลาผ่านไปฉันก็มีงานจนต้องแยกกับเธอทำให้ฉันไม่ได้บอกความในใจกับเธอสักทีนึง ฉันขอโทษเธอด้วยนะโซเฟีย"
เธอรู้ดีว่ามันไม่น่าให้อภัยแต่เธอก็ยังอยากจะพูดสิ่งนี้กับเธอ
เธอรักโซเฟีย....
สิ่งนี้ไม่ว่ามันจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เธอรักโซเฟียที่สุดเพราะงั้นเธอถึงจะต้องทิ้งเธอเอาไว้ที่นั่น ณ ตอนนั้น หากเป็นคนที่สำคัญก็ไม่อยากที่จะทำให้เขาต้องพบกับเรื่องร้ายๆ โลกของเซนะในตอนนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ท่าตนไม่ฆ่าก็จะเป็นฝ่ายถูกสักเอง
สำหรับโซเฟียในตอนนั้นมันออกจะโหดร้ายเกินไปและบางทีเธออาจจะเป็นบ้าไปเลยก็ได้ และที่สำคัญที่สุดสำหรับการตัดสินใจทิ้งโซเฟียไปนั่นก็เป็นเพราะเธอกลัวว่าตนจะปกป้องโซเฟียเอาไว้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าตัวเขาเองจะไม่เก่งแต่ว่าบางครั้งมันก็มีช่วงที่เธอเผลอใจอ่อนไม่ก็ลดกำลังการป้องกันลง หากเป็นแบบนั้นเข้าสักวันโซเฟียอาจจะต้องตายเพราะมาอยู่ข้างๆกายตนอย่างแน่นอน
โซเฟียที่ได้ยินแบบนั้นจึงสะกดความคิดของตนเอาไว้ไม่อยู่
"ฉะ ฉันเองก็รักเธอเหมือนกัน รัก รักมากๆ รักที่สุดเลย!!"
เธอได้พูดออกมาแบบไม่อายคนและทุกๆครั้งก็จะมีน้ำตาไหลออกมาราวกับอดกลั้นมานานซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง ตลอดมาเธอได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในใจ ตอนที่อยู่ด้วยกันเธอก็เอาแต่แอบเขินอายจนไม่กล้าที่จะบอกรัก (แอบมองเธออยู่นะจ่ะแต่เธอไม่รู้อะไรบ้างเลย~!) ตอนจากกันก็ไม่กล้าแม้แต่จะไปตามหา (ไม่กล้าโทรไปหาอ่ะ) ตอนเจอกันอีกครั้งเธอบอกไปหลายต่อหลายครั้งก็จริงแต่นั่นมันเหมือนกับในฐานะของพี่สาวมากกว่าคนรัก (น่าร๊าก~!) พอตอนเจอกันอีกครั้งที่ญี่ปุ่นเซนะก็ดันไม่กลับไปอยู่กลับเธออีก(อ้าว~! กรรม!)
แต่ตอนนี้เธอกลับคิดว่าตนนั้นสามารถพูดออกมาได้หมดทุกอย่างแล้วเธอจึงไม่รอช้าที่จะพูดมัน
"ฉันน่ะนะความจริงแล้วยังมีเรื่องที่อยากจะทำอะไรกับเธออีกมากมาย!" เธอได้ตระโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับโอบกอดร่างของเซนะเอาไว้ทั้งน้ำตา
ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนกำลังตกลงมาได้เหมือนมันนานขึ้นจนเหมือนกับเวลาถูกหยุดเอาไว้ ซึ่งนี่ก็เป็นฝีมือของทับทิมราชันย์แห่งกาลเวลาที่คอยยืนดูทั้งสองสู้กันอยู่ตลอด โซเฟียได้ตระโกนออกมาราวกับอัดอั้นคำพูดมานานแสนนาน
"ตลอดมาฉันน่ะ ฉัน.. คิดถึงเธอมาตลอดเลย~!!! คอยเฝ้ามองมาตลอด คอยเป็นห่วงเธอมาตลอด อยากจะอยู่เคียงข้างเซนะ อยากจะเป็นทุกกำลังให้กับเธอ อยากจะคอยให้กำลังใจเธออยู่ข้างๆ อยากจะสู้เคียงข้างเธอไปด้วยกัน อยากจะใช้เวลาร่วมกันมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนสนุก ตอนเศร้า ตอนหัวเราะหรือจะเป็นตอนที่โกรธก็ตาม เพราะงั้นฉัน ฉันยังไม่อยากตาย~!!!"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
เซนะได้หลับตาพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่พวกเธอจะตกถึงพื้นทับทิมก็ได้ใช้พลังของตนเพื่อชะรอแรงจากการตกก่อนที่ทุกๆคนจะพร้อมใจกันจับมือของกันและกันเพื่อรอรับการตกของพวกเขา
แน่นอนว่ามันได้ผล พวกเธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ฮิคาริที่เป็นหมอจึงเดินเข้ามาเพื่อเตรียมจะรักษาเซนะก่อนแต่ก็ถูกเธอไล่ให้ไปรักษาโซเฟียโดยให้เหตุผลว่ามันไม่จำเป็นแล้ว
"อย่าบอกนะว่าเซนะ.. "
"ใช่แล้ว ฉันกำลังจะหายไป" ร่างของเขาได้เรืองแสงขึ้นเป็นการเริ่มสัญญาณของการหายไป ฮิคาริได้ทำตาเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ
"เธอรีบไปรักษาโซเฟียเถอะฮิคาริ"
"เดี๋ยวก่อนเซนะฉันพอจะทำให้นายอยู่ต่อไปได้ถ้าหากฉันเริ่มทำมันตั้งแต่ตอนนี้"
"ไปซะฮิคาริ!!!"คำตวาดของเธอทำให้ฮิคาริถึงกับสะดุ้ง เธอเพิ่งจะเคยเห็นเซนะพูดแบบนี้กับตนเป็นครั้งแรก มันทำให้เธอต้องฝืนใจกัดปากตอบไป
"รับทราบ" ฮิคาริรับคำขอร้องของเซนะอย่างง่ายดายก่อนจะเดินไปหาโซเฟียเพื่อรักษา
"ไม่เอา!"เสียงตระโกนจากในจิตใจได้เปลี่ยนกลายมาเป็นคำพูด
"เซนะ... "
"ฉันไม่ยอมพลาดเหมือนครั้งนั้นอีกแล้ว!" เซนะได้เข้ามากอดโซเฟียเอาไว้ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะตกลงสู่พื้น
"ถ้าขืนเป็นแบบนี้เราได้ตายคู่แน่"
"ไม่หรอกฉันไม่ยอมให้เธอตายหรอกโซเฟีย ฉันอยากจะบอกเธอมาโดยตลอดเลยว่าฉันน่ะรักเธอแต่ก็ไม่กล้าสักทีจนเวลาผ่านไปฉันก็มีงานจนต้องแยกกับเธอทำให้ฉันไม่ได้บอกความในใจกับเธอสักทีนึง ฉันขอโทษเธอด้วยนะโซเฟีย"
เธอรู้ดีว่ามันไม่น่าให้อภัยแต่เธอก็ยังอยากจะพูดสิ่งนี้กับเธอ
เธอรักโซเฟีย....
สิ่งนี้ไม่ว่ามันจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เธอรักโซเฟียที่สุดเพราะงั้นเธอถึงจะต้องทิ้งเธอเอาไว้ที่นั่น ณ ตอนนั้น หากเป็นคนที่สำคัญก็ไม่อยากที่จะทำให้เขาต้องพบกับเรื่องร้ายๆ โลกของเซนะในตอนนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ท่าตนไม่ฆ่าก็จะเป็นฝ่ายถูกสักเอง
สำหรับโซเฟียในตอนนั้นมันออกจะโหดร้ายเกินไปและบางทีเธออาจจะเป็นบ้าไปเลยก็ได้ และที่สำคัญที่สุดสำหรับการตัดสินใจทิ้งโซเฟียไปนั่นก็เป็นเพราะเธอกลัวว่าตนจะปกป้องโซเฟียเอาไว้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าตัวเขาเองจะไม่เก่งแต่ว่าบางครั้งมันก็มีช่วงที่เธอเผลอใจอ่อนไม่ก็ลดกำลังการป้องกันลง หากเป็นแบบนั้นเข้าสักวันโซเฟียอาจจะต้องตายเพราะมาอยู่ข้างๆกายตนอย่างแน่นอน
โซเฟียที่ได้ยินแบบนั้นจึงสะกดความคิดของตนเอาไว้ไม่อยู่
"ฉะ ฉันเองก็รักเธอเหมือนกัน รัก รักมากๆ รักที่สุดเลย!!"
เธอได้พูดออกมาแบบไม่อายคนและทุกๆครั้งก็จะมีน้ำตาไหลออกมาราวกับอดกลั้นมานานซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง ตลอดมาเธอได้แต่เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ในใจ ตอนที่อยู่ด้วยกันเธอก็เอาแต่แอบเขินอายจนไม่กล้าที่จะบอกรัก (แอบมองเธออยู่นะจ่ะแต่เธอไม่รู้อะไรบ้างเลย~!) ตอนจากกันก็ไม่กล้าแม้แต่จะไปตามหา (ไม่กล้าโทรไปหาอ่ะ) ตอนเจอกันอีกครั้งเธอบอกไปหลายต่อหลายครั้งก็จริงแต่นั่นมันเหมือนกับในฐานะของพี่สาวมากกว่าคนรัก (น่าร๊าก~!) พอตอนเจอกันอีกครั้งที่ญี่ปุ่นเซนะก็ดันไม่กลับไปอยู่กลับเธออีก(อ้าว~! กรรม!)
แต่ตอนนี้เธอกลับคิดว่าตนนั้นสามารถพูดออกมาได้หมดทุกอย่างแล้วเธอจึงไม่รอช้าที่จะพูดมัน
"ฉันน่ะนะความจริงแล้วยังมีเรื่องที่อยากจะทำอะไรกับเธออีกมากมาย!" เธอได้ตระโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับโอบกอดร่างของเซนะเอาไว้ทั้งน้ำตา
ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนกำลังตกลงมาได้เหมือนมันนานขึ้นจนเหมือนกับเวลาถูกหยุดเอาไว้ ซึ่งนี่ก็เป็นฝีมือของทับทิมราชันย์แห่งกาลเวลาที่คอยยืนดูทั้งสองสู้กันอยู่ตลอด โซเฟียได้ตระโกนออกมาราวกับอัดอั้นคำพูดมานานแสนนาน
"ตลอดมาฉันน่ะ ฉัน.. คิดถึงเธอมาตลอดเลย~!!! คอยเฝ้ามองมาตลอด คอยเป็นห่วงเธอมาตลอด อยากจะอยู่เคียงข้างเซนะ อยากจะเป็นทุกกำลังให้กับเธอ อยากจะคอยให้กำลังใจเธออยู่ข้างๆ อยากจะสู้เคียงข้างเธอไปด้วยกัน อยากจะใช้เวลาร่วมกันมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนสนุก ตอนเศร้า ตอนหัวเราะหรือจะเป็นตอนที่โกรธก็ตาม เพราะงั้นฉัน ฉันยังไม่อยากตาย~!!!"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
เซนะได้หลับตาพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่พวกเธอจะตกถึงพื้นทับทิมก็ได้ใช้พลังของตนเพื่อชะรอแรงจากการตกก่อนที่ทุกๆคนจะพร้อมใจกันจับมือของกันและกันเพื่อรอรับการตกของพวกเขา
แน่นอนว่ามันได้ผล พวกเธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ฮิคาริที่เป็นหมอจึงเดินเข้ามาเพื่อเตรียมจะรักษาเซนะก่อนแต่ก็ถูกเธอไล่ให้ไปรักษาโซเฟียโดยให้เหตุผลว่ามันไม่จำเป็นแล้ว
"อย่าบอกนะว่าเซนะ.. "
"ใช่แล้ว ฉันกำลังจะหายไป" ร่างของเขาได้เรืองแสงขึ้นเป็นการเริ่มสัญญาณของการหายไป ฮิคาริได้ทำตาเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ
"เธอรีบไปรักษาโซเฟียเถอะฮิคาริ"
"เดี๋ยวก่อนเซนะฉันพอจะทำให้นายอยู่ต่อไปได้ถ้าหากฉันเริ่มทำมันตั้งแต่ตอนนี้"
"ไปซะฮิคาริ!!!"คำตวาดของเธอทำให้ฮิคาริถึงกับสะดุ้ง เธอเพิ่งจะเคยเห็นเซนะพูดแบบนี้กับตนเป็นครั้งแรก มันทำให้เธอต้องฝืนใจกัดปากตอบไป
"รับทราบ" ฮิคาริรับคำขอร้องของเซนะอย่างง่ายดายก่อนจะเดินไปหาโซเฟียเพื่อรักษา
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 75 oneminis
ดาบที่ฟาดกันเริ่มพังลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ
พลังของเซนะมีมากเกินกว่าจะรับไหวอีกต่อไปแล้ว
นี่คือขีดสุดของดาบ และพลังขีดสุดของเซนะที่ตอนนี้พุ่งไปถึงจุดสุดยอด
โซเฟียไม่เคยเห็นเซนะเป็นแบบนี้มาก่อนเพราะงั้นจะตกใจก็ไม่แปลก เซนะต่างจากคนทุกคน ถ้าหากเปรียบกับตัวเลขที่ทุกคนเกิดมาที่ 0 ตันที่ 100 โดย 100 นี้ต้องผ่านทุกๆการฝึกฝนหรือการเสี่ยงตายกว่าจะไปถึงได้แต่เซนะนั้นเริ่มต้นที่ infinity หรือก็คือเธอมีทุกๆอย่างที่เหนือยิ่งกว่าทุกๆคนแต่แล้วเธอก็กลับค่อยๆลดตัวเลขนั้นลงจนในที่สุดก็เหลือ 0 แล้วก็ค่อยๆเล่นเกมไต่เต้าไปให้ถึง
100 เหมือนคนอื่น
และในตอนนี้เธอก็ได้เริ่มใช้พลังมากกว่า 100 แล้ว
ดาบที่เสียบเข้ากับพื้นดินได้ถูกตวัดเสยขึ้นไปใส่โซเฟียที่ลอยอยู่ ด้วยผลพวงจากท่าพิเศษที่เซนะใส่เข้าไปในดาบนั้นจึงทำให้แผ่นดินทั้งหมดกลายเป็นของเหลวพุ่งไปยังโซเฟียราวกับคลื่นสึนามิ เธอจึงใช้พลังของตนทำให้ทุกๆอย่างกลายเป็นน้ำแข็งก่อนจะฟันมันทิ้งไปอย่างง่ายดาย
"มีดีแค่นี้สินะ"
"เธอคิดแบบนั้นอย่างงั้นหรอ~!"
ลำแสงสีม่วงจากท่าพิเศษของเซนะจึงพุ่งตรงมายังเธอถัดจากตอนที่เธอฟันน้ำแข็งเพียงไม่นาน
(โจมตีซ้อน!)
การโจมตีนั้นจึงโดนเธอแบบเต็มๆซึ่งผลก็คือแขนของเธอข้างหนึ่งนั้นใช้การไม่ได้เลย
แต่เธอก็ไม่มีเวลาจะพักเมื่อระลอกที่สามกับที่สี่ดันตามมาติดๆวงแหวนเวทย์ทั้งเจ็ด อุกกาบาตนับร้อย พายุนับสิบๆลูก เซนะได้ใส่ทุกๆอย่าง
ออกไปจนทำให้ตัวเธอนั้นขาดสติไปเสียแล้ว
ผลจากการขาดสตินั้นเองเธอจึงไม่คิดจะออมพลังเอาไว้อีกต่อไป มันทำให้เธอโจมตีโดยไม่สนใจพวกราชันย์
" 'ระเบิดมาแล้ว!' 'นั่นอุกกาบาต อุกกาบาตกำลังตกลงมาแล้ว~!' 'คราวนี้พายุอ่ะ ว๊าย~!!!! ' 'พี่ค่ะ~!' 'เซนะ~!' "
"Protect star!" โซเฟียได้ทำการสร้างบาเรียให้กับพวกราชันย์ทุกคนก่อนที่เจ้าตัวจะยืนหยัดลุกขึ้นสู้กับเซนะในสภาพชุ่มเลือด ท่ามกลางความมึนงงของเหล่าราชันย์
.....เซนะขาดสติไปแล้วสินะ! ตัวเธอได้กัดปากตัวเองจนเลือดไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ ก่อนที่เธอจะพุ่งไปหาเซนะที่กำลังรวบรวมพลังเพื่อที่จะใช้ท่าพิเศษสุดยอดจนตอนนี้ดาบของเธอเริ่มแตกหักทีละน้อยๆ
"เซนะ~!!!!"
ดาบของเซนะจึงได้ฟาดลงมาที่ร่างของเธอก่อนที่โซเฟียจะใช้สุดยอดท่าไม้ตายของตนบริ้งข้ามมิติหลบการโจมตีนั้นพร้อมกับพุ่งออกมาจากมิติและฟันใส่เซนะด้วยพลังทั้งหมดที่มี
"คมดาบดาราสวรรค์!!!"
ประกายแสงจากท่าของเธอได้เปลี่ยนเป็นเขี้ยวทั้งเก้าพุ่งผ่านร่างของเซนะก่อนที่ร่างของเธอนั้นจะมีเลือดกระเซ็นออกมาจากปากแผล ทางด้านโซเฟียเองหลังจากที่ใช้ท่านี้จบมืออีกข้างก็ถูกพลังของตนทำลายมือของตนเองจนตอนนี้แขนอีกข้างของเธอมีรอยแผลนับไม่ถ้วน
ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะร่วงลงมาจากฟากฟ้า
....เซนะ ฉันน่ะดีใจมากเลยนะที่ได้เจอกับเธอ
โซเฟียได้หลับตาลงทั้งน้ำตา
....เพียงแค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับชีวิตของฉัน
"ลาก่อนนะเซนะ... "
"ฉันไม่ยอมหรอกน่า!" เสียงของเซนะได้ทำให้โซเฟียถึงกับลืมตาตื่น ในตอนนี้เซนะได้ค่อยๆเข้ามาหาเธอในขณะที่พวกเขากำลังตกลงไปเรื่อยๆ เธอได้พยายามเอื้อมมือมาทางนี้
"มากับฉันสิโซเฟีย!"
"พอแล้วล่ะเซนะ... "
"ทำไมล่ะ!"
"ฉันทำร้ายทุกคน ทำร้ายน้องสาวนายและที่สำคัญฉันทำร้ายนายเพราะงั้นที่ๆฉันจะกลับไปน่ะมันไม่มีอีกต่อไปแล้ว"
"โซเฟีย... "
"ฉันขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง"
"ไม่นะ มันต้องไม่ใช่แบบนี้!"
ตาของเซนะเบิกกว้าง อยู่ๆภาพของคนสำคัญที่สุดของเซนะก็ผุดขึ้นมา
...เธอน่ะช่วยใครไม่ได้หรอก!
เซนะในตอนนั้นได้แต่ร้องไห้เพราะคำพูดนั้น เธอช่วยใครไม่ได้จริงๆตามที่เขาพูดเอาไว้จนมันฝังใจเธอมาจนถึงทุกวันนี้เลย
ดาบที่ฟาดกันเริ่มพังลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ
พลังของเซนะมีมากเกินกว่าจะรับไหวอีกต่อไปแล้ว
นี่คือขีดสุดของดาบ และพลังขีดสุดของเซนะที่ตอนนี้พุ่งไปถึงจุดสุดยอด
โซเฟียไม่เคยเห็นเซนะเป็นแบบนี้มาก่อนเพราะงั้นจะตกใจก็ไม่แปลก เซนะต่างจากคนทุกคน ถ้าหากเปรียบกับตัวเลขที่ทุกคนเกิดมาที่ 0 ตันที่ 100 โดย 100 นี้ต้องผ่านทุกๆการฝึกฝนหรือการเสี่ยงตายกว่าจะไปถึงได้แต่เซนะนั้นเริ่มต้นที่ infinity หรือก็คือเธอมีทุกๆอย่างที่เหนือยิ่งกว่าทุกๆคนแต่แล้วเธอก็กลับค่อยๆลดตัวเลขนั้นลงจนในที่สุดก็เหลือ 0 แล้วก็ค่อยๆเล่นเกมไต่เต้าไปให้ถึง
100 เหมือนคนอื่น
และในตอนนี้เธอก็ได้เริ่มใช้พลังมากกว่า 100 แล้ว
ดาบที่เสียบเข้ากับพื้นดินได้ถูกตวัดเสยขึ้นไปใส่โซเฟียที่ลอยอยู่ ด้วยผลพวงจากท่าพิเศษที่เซนะใส่เข้าไปในดาบนั้นจึงทำให้แผ่นดินทั้งหมดกลายเป็นของเหลวพุ่งไปยังโซเฟียราวกับคลื่นสึนามิ เธอจึงใช้พลังของตนทำให้ทุกๆอย่างกลายเป็นน้ำแข็งก่อนจะฟันมันทิ้งไปอย่างง่ายดาย
"มีดีแค่นี้สินะ"
"เธอคิดแบบนั้นอย่างงั้นหรอ~!"
ลำแสงสีม่วงจากท่าพิเศษของเซนะจึงพุ่งตรงมายังเธอถัดจากตอนที่เธอฟันน้ำแข็งเพียงไม่นาน
(โจมตีซ้อน!)
การโจมตีนั้นจึงโดนเธอแบบเต็มๆซึ่งผลก็คือแขนของเธอข้างหนึ่งนั้นใช้การไม่ได้เลย
แต่เธอก็ไม่มีเวลาจะพักเมื่อระลอกที่สามกับที่สี่ดันตามมาติดๆวงแหวนเวทย์ทั้งเจ็ด อุกกาบาตนับร้อย พายุนับสิบๆลูก เซนะได้ใส่ทุกๆอย่าง
ออกไปจนทำให้ตัวเธอนั้นขาดสติไปเสียแล้ว
ผลจากการขาดสตินั้นเองเธอจึงไม่คิดจะออมพลังเอาไว้อีกต่อไป มันทำให้เธอโจมตีโดยไม่สนใจพวกราชันย์
" 'ระเบิดมาแล้ว!' 'นั่นอุกกาบาต อุกกาบาตกำลังตกลงมาแล้ว~!' 'คราวนี้พายุอ่ะ ว๊าย~!!!! ' 'พี่ค่ะ~!' 'เซนะ~!' "
"Protect star!" โซเฟียได้ทำการสร้างบาเรียให้กับพวกราชันย์ทุกคนก่อนที่เจ้าตัวจะยืนหยัดลุกขึ้นสู้กับเซนะในสภาพชุ่มเลือด ท่ามกลางความมึนงงของเหล่าราชันย์
.....เซนะขาดสติไปแล้วสินะ! ตัวเธอได้กัดปากตัวเองจนเลือดไหลออกมาด้วยความเจ็บใจ ก่อนที่เธอจะพุ่งไปหาเซนะที่กำลังรวบรวมพลังเพื่อที่จะใช้ท่าพิเศษสุดยอดจนตอนนี้ดาบของเธอเริ่มแตกหักทีละน้อยๆ
"เซนะ~!!!!"
ดาบของเซนะจึงได้ฟาดลงมาที่ร่างของเธอก่อนที่โซเฟียจะใช้สุดยอดท่าไม้ตายของตนบริ้งข้ามมิติหลบการโจมตีนั้นพร้อมกับพุ่งออกมาจากมิติและฟันใส่เซนะด้วยพลังทั้งหมดที่มี
"คมดาบดาราสวรรค์!!!"
ประกายแสงจากท่าของเธอได้เปลี่ยนเป็นเขี้ยวทั้งเก้าพุ่งผ่านร่างของเซนะก่อนที่ร่างของเธอนั้นจะมีเลือดกระเซ็นออกมาจากปากแผล ทางด้านโซเฟียเองหลังจากที่ใช้ท่านี้จบมืออีกข้างก็ถูกพลังของตนทำลายมือของตนเองจนตอนนี้แขนอีกข้างของเธอมีรอยแผลนับไม่ถ้วน
ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะร่วงลงมาจากฟากฟ้า
....เซนะ ฉันน่ะดีใจมากเลยนะที่ได้เจอกับเธอ
โซเฟียได้หลับตาลงทั้งน้ำตา
....เพียงแค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับชีวิตของฉัน
"ลาก่อนนะเซนะ... "
"ฉันไม่ยอมหรอกน่า!" เสียงของเซนะได้ทำให้โซเฟียถึงกับลืมตาตื่น ในตอนนี้เซนะได้ค่อยๆเข้ามาหาเธอในขณะที่พวกเขากำลังตกลงไปเรื่อยๆ เธอได้พยายามเอื้อมมือมาทางนี้
"มากับฉันสิโซเฟีย!"
"พอแล้วล่ะเซนะ... "
"ทำไมล่ะ!"
"ฉันทำร้ายทุกคน ทำร้ายน้องสาวนายและที่สำคัญฉันทำร้ายนายเพราะงั้นที่ๆฉันจะกลับไปน่ะมันไม่มีอีกต่อไปแล้ว"
"โซเฟีย... "
"ฉันขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง"
"ไม่นะ มันต้องไม่ใช่แบบนี้!"
ตาของเซนะเบิกกว้าง อยู่ๆภาพของคนสำคัญที่สุดของเซนะก็ผุดขึ้นมา
...เธอน่ะช่วยใครไม่ได้หรอก!
เซนะในตอนนั้นได้แต่ร้องไห้เพราะคำพูดนั้น เธอช่วยใครไม่ได้จริงๆตามที่เขาพูดเอาไว้จนมันฝังใจเธอมาจนถึงทุกวันนี้เลย
วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 74 overlove~!
ทุกๆอย่างได้กลับมาเคลื่อนไหวต่ออีกครั้ง เซนะได้ฟื้นขึ้นมาจากสติที่ถูกแช่แข็งไปพร้อมกับอาการที่มึนๆอยู่นิดหน่อย ก่อนจะนึกทุกอย่างออกและหันกลับไปมองที่โซเฟียที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าตนด้วยรอยยิ้ม
เหล่าคนที่ถูกหยุดเวลาจะเห็นสถานการณ์นี้เป็นเพียงแค่เซนะถูกกอดจากนั้นก็ได้หนีออกมาได้อย่างฉิวเฉียดเท่านั้น รวมกระทั่งโซเฟียและเซนะด้วย
....นี่เรารอดมาได้ยังไงกัน
....เซนะหนีจากเราไปได้ยังไง
ทั้งสองได้มองหน้ากันราวกับอยากจะถามเรื่องชวนมึนงงนี้ และก็มีเพียงแค่สองคนนั้นเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่แล้วทั้งสองก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเพราะไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นยังไงแต่บทสรุปสุดท้ายก็ยังคงไม่เปลี่ยน
เทียร์ได้กลับคืนเป็นร่างเด็กสาวพร้อมกับรีบวิ่งมาคุ้มกันเซนะอย่างร้อนรน
'' ไม่เป็นไรนะเจ้าบ้า ''
'' พูดจาไม่ได้มีความเป็นมงคลเลยนะ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ที่หลังก่อน ''
'' ยัยนั่นมันเก่งจริงๆนายคงไม่คิดจะสู้คนเดียวได้แล้วมั้ง ''
'' ก็ไม่อยากยอมรับหรอกนะแต่งานนี้ต้ัองขอยืมแรงเธอแล้วล่ะ ''
ถึงจะฟังดูเป็นบทสนทนาที่ชวนจะตีกันอยู่ตลอดแต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น ในบรรดาคนทั้งหมดที่เซนะรู้จักมีเพียงแค่เทียร์เท่านั้นที่กล้าเถียงอย่างนี้กับตน และสาเหตุที่เธอต้องทำแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นเซนะให้มีความกระตือรือล้นและไม่เล่นจนเกินตัวเพราะปกติเจ้าตัวจะชอบเล่นอยู่เสมอจนบางครั้งดูเหมือนกับคนไม่ได้ความ แต่พอเซนะเอาจริงเอาจังทุกๆอย่างก็จะสำเร็จแบบชนิดที่ว่าเธอเองยังต้องอึ้งไปเลย
ย้อนกลับไปเมื่อตอนเด็กๆพวกเขาไม่ได้กัดกันแบบนี้แต่กลับรักกันมากจนเรียกได้ว่าไม่ต่างกับพี่สาวน้องสาว แต่เพราะการที่พิเกียเกิดมาเซนะจึงต้องสละเวลาไปดูแลทำให้ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนนั้นได้อยู่ร่วมกันนั้นน้อยลง เป็นปกติของน้องสาวที๋จะต้องรู้สึกอ้างว้างเมื่อคนที่รักนั้นไม่ค่อยมาเอาใจใส่ตน
และเพราะแบบนั้นเธอจึงทำนิสัยแบบนี้เพื่อต้องการความสนใจจากเจ้าตัวซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาตรงกันข้ามสักอย่างงั้น อันเนื่องมาจากเธอเก่งอยู่แล้วพอทำตัวให้แปลกแยกไปอีกผลสุดท้ายก็ทำให้เธอเป็นที่ไว้ใจของทุกคน ยกตัวอย่างๆง่ายก็ถ้าหากมีสงครามเกิดขึ้นและมีเทียร์อยู่ตรงนั้นทุกคนก็ไม่ต้องไปช่วยเธอเพราะยังไงๆเธอก็เอาอยู่
แค่มองตากันก็รู้ใจรวมร่างต้องปะทะกับรวมร่าง ทั้งเทียร์และเซนะต่างใช้แขนคนละข้างชนกันก่อนจะพูดคำว่า รวมร่างขึ้น
อันที่จริงแค่พูดเฉยๆก็ได้แต่เจ้าตัวอยากให้มันดูเหมือนขบวนการเรนเจอร์ที่เด็กๆชอบดูก็เลยนัดแนะกับเทียร์ผลก็เลยออกมาเป็นท่านี้
ชุดสีน้ำเงินได้แปรเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสักส่วนใหญ่ ตรงขอบชุดเป็นสีน้ำเงินตัดกับสีขาวได้ดูเย็นสบายต่อสายตา ชายเสื้อได้ยาวขึ้นอีกทำเอาดูเท่ขึ้นอีกขั้น ดวงตาสีน้ำเงินได้แปรเปลี่ยนเป็นสีรุ้งสุดงดงามราวกับอัญมณี
ทุกๆอย่างได้ถูกแปรเปลี่ยนขึ้นจนทุกคนยังต้องตะลึง
แต่ไหนแต่ไรแล้วเซนะก็อยากเป็นผู้ชายเพราะงั้นนี่จึงเป็นโอกาสดีที่เจ้าตัวจะได้สมกับเป็นผู้ชายมากขึ้น
"เอาล่ะนะโซเฟีย"
"เข้ามาสิเซนะ"
ทั้งสองได้จ้องมองหน้ากัน ก่อนการต่อสู้จะขึ้น....
ดาบของพวกเขาได้ปะทะกันจนเกิดเป็นคลื่นแสง การฟาดฟันของพวกเขาได้ทำให้พื้นที่รอบๆพังลงไปเรื่อยๆ กลีบดอกไม้ถูกทำลายลง ใบหญ้าสีเขียวชอุ่มถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง พวกเธอไม่แม้แต่จะสนใจสิ่งรอบข้างใดๆเลย
ดาบของโซเฟียได้ส่องประกายเจิดจ้าขึ้นด้วยพลังแห่งดวงดาวทำให้สปีดการฟันนั้นอัพขึ้นเป็นความเร็วแสงเพิ่มเติมมาก็คือพลังน้ำแข็งที่ปิดท้ายทุกการโจมตีทำเอาแขนของเซนะชาทุกๆครั้งที่รับดาบ
ส่วนดาบของเซนะเองก็ไม่แพ้กัน ทุกๆดาบของเขานั้นใส่กันที่ความแม่นยำถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่มีพลังแต่ศักยภาพร่างกายนั้นเกินพอสำหรับ
การเป็นนักกีฬาไม่ก็นักฆ่า เนื่องจากตอนเด็กๆเธอนั้นออกไปฝึกฝนลับๆกับเทียร์อยู่ตลอดเวลาจึงไม่เปลกที่ร่างกายเธอนั้นจะเก่งเกินคนไปแล้ว
และสิ่งที่เซนะได้มาจากการรวมร่างกับเทียร์ก็คือ พลัง!
พลังธรรมดาๆที่ใครๆก็สามารถใช้ได้.....
โซเฟียที่ฟาดดาบใส่ก็ได้ถูกเซนะจับแขนข้างที่ฟันเอาไว้ก่อนจะปาไปไกลๆทำให้ร่างของเธอนั้นพุ่งไปชนกับภูเขาจนพังไม่เป็นท่า ซ้ำยังถูกเซนะตามไปฟันซ้ำอีกจนตอนนี้ตัวเธอนั้นมีเลือดไหลออกมาจากที่หัว
(ทำไมกัน ทำไมเซนะถึงได้เก่งขนาดนี้!?)
ความสงสัยเริ่มถาโถมเข้าใส่เธออยู่เรื่อยๆ ทั้งที่ตนก็มีทุกๆอย่างเหนือกว่าแต่กลับถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆที่เธอก็มีพลังมากกว่าแต่ก็ถูกเซนะกดดันอยู่เรื่อยๆ ทั้งๆที่เธอใช้ร่างจริงๆสู้แท้ๆ
ทุกๆอย่างได้กลับมาเคลื่อนไหวต่ออีกครั้ง เซนะได้ฟื้นขึ้นมาจากสติที่ถูกแช่แข็งไปพร้อมกับอาการที่มึนๆอยู่นิดหน่อย ก่อนจะนึกทุกอย่างออกและหันกลับไปมองที่โซเฟียที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าตนด้วยรอยยิ้ม
เหล่าคนที่ถูกหยุดเวลาจะเห็นสถานการณ์นี้เป็นเพียงแค่เซนะถูกกอดจากนั้นก็ได้หนีออกมาได้อย่างฉิวเฉียดเท่านั้น รวมกระทั่งโซเฟียและเซนะด้วย
....นี่เรารอดมาได้ยังไงกัน
....เซนะหนีจากเราไปได้ยังไง
ทั้งสองได้มองหน้ากันราวกับอยากจะถามเรื่องชวนมึนงงนี้ และก็มีเพียงแค่สองคนนั้นเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่แล้วทั้งสองก็ต้องสลัดความคิดนั้นทิ้งไปเพราะไม่ว่าเรื่องนั้นมันจะเป็นยังไงแต่บทสรุปสุดท้ายก็ยังคงไม่เปลี่ยน
เทียร์ได้กลับคืนเป็นร่างเด็กสาวพร้อมกับรีบวิ่งมาคุ้มกันเซนะอย่างร้อนรน
'' ไม่เป็นไรนะเจ้าบ้า ''
'' พูดจาไม่ได้มีความเป็นมงคลเลยนะ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ที่หลังก่อน ''
'' ยัยนั่นมันเก่งจริงๆนายคงไม่คิดจะสู้คนเดียวได้แล้วมั้ง ''
'' ก็ไม่อยากยอมรับหรอกนะแต่งานนี้ต้ัองขอยืมแรงเธอแล้วล่ะ ''
ถึงจะฟังดูเป็นบทสนทนาที่ชวนจะตีกันอยู่ตลอดแต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น ในบรรดาคนทั้งหมดที่เซนะรู้จักมีเพียงแค่เทียร์เท่านั้นที่กล้าเถียงอย่างนี้กับตน และสาเหตุที่เธอต้องทำแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นเซนะให้มีความกระตือรือล้นและไม่เล่นจนเกินตัวเพราะปกติเจ้าตัวจะชอบเล่นอยู่เสมอจนบางครั้งดูเหมือนกับคนไม่ได้ความ แต่พอเซนะเอาจริงเอาจังทุกๆอย่างก็จะสำเร็จแบบชนิดที่ว่าเธอเองยังต้องอึ้งไปเลย
ย้อนกลับไปเมื่อตอนเด็กๆพวกเขาไม่ได้กัดกันแบบนี้แต่กลับรักกันมากจนเรียกได้ว่าไม่ต่างกับพี่สาวน้องสาว แต่เพราะการที่พิเกียเกิดมาเซนะจึงต้องสละเวลาไปดูแลทำให้ช่วงเวลาที่ทั้งสองคนนั้นได้อยู่ร่วมกันนั้นน้อยลง เป็นปกติของน้องสาวที๋จะต้องรู้สึกอ้างว้างเมื่อคนที่รักนั้นไม่ค่อยมาเอาใจใส่ตน
และเพราะแบบนั้นเธอจึงทำนิสัยแบบนี้เพื่อต้องการความสนใจจากเจ้าตัวซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาตรงกันข้ามสักอย่างงั้น อันเนื่องมาจากเธอเก่งอยู่แล้วพอทำตัวให้แปลกแยกไปอีกผลสุดท้ายก็ทำให้เธอเป็นที่ไว้ใจของทุกคน ยกตัวอย่างๆง่ายก็ถ้าหากมีสงครามเกิดขึ้นและมีเทียร์อยู่ตรงนั้นทุกคนก็ไม่ต้องไปช่วยเธอเพราะยังไงๆเธอก็เอาอยู่
แค่มองตากันก็รู้ใจรวมร่างต้องปะทะกับรวมร่าง ทั้งเทียร์และเซนะต่างใช้แขนคนละข้างชนกันก่อนจะพูดคำว่า รวมร่างขึ้น
อันที่จริงแค่พูดเฉยๆก็ได้แต่เจ้าตัวอยากให้มันดูเหมือนขบวนการเรนเจอร์ที่เด็กๆชอบดูก็เลยนัดแนะกับเทียร์ผลก็เลยออกมาเป็นท่านี้
ชุดสีน้ำเงินได้แปรเปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสักส่วนใหญ่ ตรงขอบชุดเป็นสีน้ำเงินตัดกับสีขาวได้ดูเย็นสบายต่อสายตา ชายเสื้อได้ยาวขึ้นอีกทำเอาดูเท่ขึ้นอีกขั้น ดวงตาสีน้ำเงินได้แปรเปลี่ยนเป็นสีรุ้งสุดงดงามราวกับอัญมณี
ทุกๆอย่างได้ถูกแปรเปลี่ยนขึ้นจนทุกคนยังต้องตะลึง
แต่ไหนแต่ไรแล้วเซนะก็อยากเป็นผู้ชายเพราะงั้นนี่จึงเป็นโอกาสดีที่เจ้าตัวจะได้สมกับเป็นผู้ชายมากขึ้น
"เอาล่ะนะโซเฟีย"
"เข้ามาสิเซนะ"
ทั้งสองได้จ้องมองหน้ากัน ก่อนการต่อสู้จะขึ้น....
ดาบของพวกเขาได้ปะทะกันจนเกิดเป็นคลื่นแสง การฟาดฟันของพวกเขาได้ทำให้พื้นที่รอบๆพังลงไปเรื่อยๆ กลีบดอกไม้ถูกทำลายลง ใบหญ้าสีเขียวชอุ่มถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่อง พวกเธอไม่แม้แต่จะสนใจสิ่งรอบข้างใดๆเลย
ดาบของโซเฟียได้ส่องประกายเจิดจ้าขึ้นด้วยพลังแห่งดวงดาวทำให้สปีดการฟันนั้นอัพขึ้นเป็นความเร็วแสงเพิ่มเติมมาก็คือพลังน้ำแข็งที่ปิดท้ายทุกการโจมตีทำเอาแขนของเซนะชาทุกๆครั้งที่รับดาบ
ส่วนดาบของเซนะเองก็ไม่แพ้กัน ทุกๆดาบของเขานั้นใส่กันที่ความแม่นยำถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่มีพลังแต่ศักยภาพร่างกายนั้นเกินพอสำหรับ
การเป็นนักกีฬาไม่ก็นักฆ่า เนื่องจากตอนเด็กๆเธอนั้นออกไปฝึกฝนลับๆกับเทียร์อยู่ตลอดเวลาจึงไม่เปลกที่ร่างกายเธอนั้นจะเก่งเกินคนไปแล้ว
และสิ่งที่เซนะได้มาจากการรวมร่างกับเทียร์ก็คือ พลัง!
พลังธรรมดาๆที่ใครๆก็สามารถใช้ได้.....
โซเฟียที่ฟาดดาบใส่ก็ได้ถูกเซนะจับแขนข้างที่ฟันเอาไว้ก่อนจะปาไปไกลๆทำให้ร่างของเธอนั้นพุ่งไปชนกับภูเขาจนพังไม่เป็นท่า ซ้ำยังถูกเซนะตามไปฟันซ้ำอีกจนตอนนี้ตัวเธอนั้นมีเลือดไหลออกมาจากที่หัว
(ทำไมกัน ทำไมเซนะถึงได้เก่งขนาดนี้!?)
ความสงสัยเริ่มถาโถมเข้าใส่เธออยู่เรื่อยๆ ทั้งที่ตนก็มีทุกๆอย่างเหนือกว่าแต่กลับถูกเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆที่เธอก็มีพลังมากกว่าแต่ก็ถูกเซนะกดดันอยู่เรื่อยๆ ทั้งๆที่เธอใช้ร่างจริงๆสู้แท้ๆ
วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 73 emergency
ผมสีทองได้ถูกทำให้ยาวขึ้นอีกขึ้นพร้อมกับส่งกลิ่นหอมที่ยิ่งกว่าคนฉีดน้ำหอมมาเสียอีก กลิ่นนั้นได้หอมฟุ้งออกไปในอากาศจนเซนะยังต้องรู้สึกเคิบเคลิ้มไปกับกลิ่นนี้ ดวงตาของเธอได้เปลี่ยนจากสีน้ำเงินสดใสเป็นสีน้ำเงินเนียนๆที่ดูใจเย็นและสงบนิ่งทำเอาเซนะที่จ้องไปที่ตาของเธอถึงกับเผลอคิดไปเลยว่ากำลังถูกเธอดูดกลืนเข้าไปยังไงยังงั้น
ริมฝีปากสีชมพูของเธอมาพร้อมกับรอยยิ้มอันเต็มเปี่ยมไปด้วยชัยชนะผุดขึ้น ใบหน้านั้นดูเนียนและขาวยิ่งกว่าเดิม ชุดนั้นได้เปลี่ยนเป็นชุดรัดรูปโชว์สัดส่วนแบบจัดเต็มทำเอาผู้ชายหลายคนที่ดูอยู่ถึงกับดีใจจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ต้นขาขาวๆเนียนกับกระโปรงสั้นๆที่พลิ้วไหวไปมา กลิ่นกายของเธอก็หอมไม่แพ้กลิ่นผม
แต่เนื่องจากการรวมร่างนั้นยังคงรักษาสถานะบาดเจ็บต่างๆเอาไว้อยู่จึงทำให้บาดแผลที่ถูกเซนะแทงยังคงอยู่บนเรือนร่างแต่ด้วยพลังของร่างนี้จึงทำให้อาการของเธอทุเลาลงไปเยอะ
เซนะที่รับรู้ได้เลยว่าเธอในตอนนี้นั้นแข็งแกร่งขึ้นมากจึงได้พยายามดึงดาบกลับมาแต่นั่นก็ไม่ได้ผลเพราะโซเฟียได้จับมันเอาไว้แน่นซึ่งแม้แต่เซนะที่ออกแรงดึงสุดชีวิตก็ยังดึงไม่ออก
"เป็นอะไรไปแค่นี้ก็ดึงไม่ออกอย่างงั้นหรอ"
โซเฟียได้เขยิบเข้ามาใกล้ๆเซนะก่อนจะปล่อยมือออกจากดาบและเข้ามาโอบกอดเซนะอย่างนุ่มนวลจนชายใดที่เห็นยังต้องอิจฉาเซนะ แต่ถึงจะเห็นว่าเธอมีช่องโหว่แต่เซนะกับขยับร่างกายใดๆไม่ได้ทั้งสิ้นราวกับร่างกายตนกลายเป็นน้ำแข็งแต่มันกลับเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นเพราะสิ่งที่เธอแช่แข็งนั้นไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นจิตใจ
จิตใจของเซนะเริ่มถูกแช่แข็งไปเรื่อยๆซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ต่อไปเธอก็จะไม่ต่างจากคนที่มีแต่ร่างแต่ไร้ซึ่งวิญญาณ
"ไม่ต้องขัดขืนไปมากกว่านี้แล้วเซนะแผนการที่ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อพวกเราสองคน เพื่อให้พวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์ ต่อจากนี้และตลอดไป ส่วนคนอื่นๆนั้นจะเป็นยังไงฉันก็ไม่สน ทั้งโลก ทั้งจักรวาล ทุกๆอย่างขอเพียงแค่ฉันกับเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแค่นั้นมันก็เกินพอแล้ว... "
...อย่างนั้นเองหรอ โซเฟียทำไปเพื่อฉันงั้นสินะ ถ้าพวกเรา win win กันทั้งคู่พวกเราก็คงจะมีความสุข ฉันเองก็ได้ทำผิดพลาดกับเธอถ้าหากว่านี้คือการชดใช้บาปของฉันล่ะก็ ฉันก็ยินดี....
ร่างกายของเซนะได้เริ่มชาด้านขึ้นอีก
"พวกเราจะอยู่ด้วยกันทั้งจากนี้และตลอดไป"
....ชั่วนิรันดร์....
สิ้นสุดความคิดทั้งร่างกายและจิตใจของเซนะก็ถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์ อนาคตของจักรวาลกำลังเดินไปในทิศทางที่เลวร้ายที่สุด โซเฟียกำลังจะเป็นผู้เริ่มประวัติศาสตร์โฉมใหม่ของมวลมนุษย์
ทุกๆอย่างกำลังจะจบสิ้น
ผู้กล้าเพียงหนึ่งได้จมลงสู่คุกน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก
และแล้วกาลเวลาและทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนั้นก็ได้ถูกหยุดลงชั่วขณะพร้อมกับการปรากฏตัวของคนๆหนึ่งที่เดินออกมาจากรอยแยกของมิติ ผมสีส้มอันยาวสลวยได้มาพร้อมกับดวงตาสีเขียวอันเปล่งประกาย รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นคล้ายคลึงกับเพื่อนร่วมห้องของเซนะ หากเพียงแต่ว่าเธอดูเหมือนกับมาจากอนาคต
หนึ่งในสมาชิกของ darklord ที่เป็นองค์กรณ์ช่วยร้ายที่สุดซ้ำร้ายเธอยังเป็นถึงมือขวาของ ซิริอุส ชายผู้ซึ่งถูกกล่าวขานว่าชั่วร้ายที่สุดในจักรวาล
เฮเรน่า แอสทิน ได้ปรากฏขึ้นมา ณ การต่อสู้ที่เวลาถูกหยุดลง มีเพียงคนอื่นๆที่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้เท่านั้นที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างปกติ เหล่าผู้คนทั้งหลายถึงกับเหงื่อตกไม่ก็หน้าซีดเมื่อเห็นเธอปรากฏขึ้นมาในภาพเว้นแต่เด็กสาวที่หน้าตาคล้ายกับเธอที่เป็นเพื่อร่วมชั้นของเซนะเท่านั้นที่ถึงกับน้ำตานอง น้ำตาไหล ไม่ก็สับสนไปหมด
เธอคนนั้นได้เดินเข้ามาหาเซนะก่อนจะจับร่างของเธอดึงออกมาจากอ้อมกอดของโซเฟียก่อนจะมองหน้าของเธออย่างอบอุ่นราวกับเป็นคุณแม่ที่กำลังจ้องมองลูก
"ตอนนี้ภาพของฉันคงจะถูกฉายไปทั่วทุกจักรวาลแล้วสินะ" เธอได้บ่นพึมพำออกมาท่ามกลางสีหน้าของทุกคนที่หวาดกลัวไม่ก็กลืนน้ำลายลงกันยกใหญ่
"ท่านเซนะฉันมีอะไรที่อยากจะบอกกับท่านอีกหลายต่อหลายอย่างแต่ตอนนี้เวลานี้คงไม่เหมาะสักเท่าไหร่" เธอได้พูดให้กับเซนะฟังถึงแม้ว่าเธอจะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวไม่ได้ยิน
"ท่านผู้นั้นกำลังรอท่านอยู่และฉันก็คิดว่าอีกไม่นานแล้วที่ท่านจะได้พบกับท่านผู้นั้นและถึงท่านจะไม่รู้ตัวแต่ท่านก็คือสมาชิกของ darklord
ท่านได้ช่วยเราจัดการปัญหาตั้งหลายต่อหลายอย่างเรื่องนั้นดิฉันต้องขอกล่าวขอบคุณจากใจจริง อีกไม่นานสงครามของ darklord กับ lightlord จะเกิดขึ้นอีกครั้งถึงตอนนั้นท่านจะเลือกเข้ากับฝ่ายไหนกันนี่แหละคือสิ่งที่ฉันกำลังกังวลอยู่
และถึงแม้ท่านจะเลือกเป็นศัตรูกับพวกเราดิฉันก็ขอสัญญาเลยว่าฉันจะไม่ทำร้ายท่านอย่างแน่นอน"
เธอได้จูบลงไปบนหน้าผากของเซนะทำให้จิตใจของเธอที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ได้ละลายลงก่อนที่ร่างของเธอจะหายไปและเวลาได้กลับมาเริ่มเดินอีกครั้ง....
ผมสีทองได้ถูกทำให้ยาวขึ้นอีกขึ้นพร้อมกับส่งกลิ่นหอมที่ยิ่งกว่าคนฉีดน้ำหอมมาเสียอีก กลิ่นนั้นได้หอมฟุ้งออกไปในอากาศจนเซนะยังต้องรู้สึกเคิบเคลิ้มไปกับกลิ่นนี้ ดวงตาของเธอได้เปลี่ยนจากสีน้ำเงินสดใสเป็นสีน้ำเงินเนียนๆที่ดูใจเย็นและสงบนิ่งทำเอาเซนะที่จ้องไปที่ตาของเธอถึงกับเผลอคิดไปเลยว่ากำลังถูกเธอดูดกลืนเข้าไปยังไงยังงั้น
ริมฝีปากสีชมพูของเธอมาพร้อมกับรอยยิ้มอันเต็มเปี่ยมไปด้วยชัยชนะผุดขึ้น ใบหน้านั้นดูเนียนและขาวยิ่งกว่าเดิม ชุดนั้นได้เปลี่ยนเป็นชุดรัดรูปโชว์สัดส่วนแบบจัดเต็มทำเอาผู้ชายหลายคนที่ดูอยู่ถึงกับดีใจจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ต้นขาขาวๆเนียนกับกระโปรงสั้นๆที่พลิ้วไหวไปมา กลิ่นกายของเธอก็หอมไม่แพ้กลิ่นผม
แต่เนื่องจากการรวมร่างนั้นยังคงรักษาสถานะบาดเจ็บต่างๆเอาไว้อยู่จึงทำให้บาดแผลที่ถูกเซนะแทงยังคงอยู่บนเรือนร่างแต่ด้วยพลังของร่างนี้จึงทำให้อาการของเธอทุเลาลงไปเยอะ
เซนะที่รับรู้ได้เลยว่าเธอในตอนนี้นั้นแข็งแกร่งขึ้นมากจึงได้พยายามดึงดาบกลับมาแต่นั่นก็ไม่ได้ผลเพราะโซเฟียได้จับมันเอาไว้แน่นซึ่งแม้แต่เซนะที่ออกแรงดึงสุดชีวิตก็ยังดึงไม่ออก
"เป็นอะไรไปแค่นี้ก็ดึงไม่ออกอย่างงั้นหรอ"
โซเฟียได้เขยิบเข้ามาใกล้ๆเซนะก่อนจะปล่อยมือออกจากดาบและเข้ามาโอบกอดเซนะอย่างนุ่มนวลจนชายใดที่เห็นยังต้องอิจฉาเซนะ แต่ถึงจะเห็นว่าเธอมีช่องโหว่แต่เซนะกับขยับร่างกายใดๆไม่ได้ทั้งสิ้นราวกับร่างกายตนกลายเป็นน้ำแข็งแต่มันกลับเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นเพราะสิ่งที่เธอแช่แข็งนั้นไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นจิตใจ
จิตใจของเซนะเริ่มถูกแช่แข็งไปเรื่อยๆซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ต่อไปเธอก็จะไม่ต่างจากคนที่มีแต่ร่างแต่ไร้ซึ่งวิญญาณ
"ไม่ต้องขัดขืนไปมากกว่านี้แล้วเซนะแผนการที่ฉันทำทั้งหมดก็เพื่อพวกเราสองคน เพื่อให้พวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์ ต่อจากนี้และตลอดไป ส่วนคนอื่นๆนั้นจะเป็นยังไงฉันก็ไม่สน ทั้งโลก ทั้งจักรวาล ทุกๆอย่างขอเพียงแค่ฉันกับเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแค่นั้นมันก็เกินพอแล้ว... "
...อย่างนั้นเองหรอ โซเฟียทำไปเพื่อฉันงั้นสินะ ถ้าพวกเรา win win กันทั้งคู่พวกเราก็คงจะมีความสุข ฉันเองก็ได้ทำผิดพลาดกับเธอถ้าหากว่านี้คือการชดใช้บาปของฉันล่ะก็ ฉันก็ยินดี....
ร่างกายของเซนะได้เริ่มชาด้านขึ้นอีก
"พวกเราจะอยู่ด้วยกันทั้งจากนี้และตลอดไป"
....ชั่วนิรันดร์....
สิ้นสุดความคิดทั้งร่างกายและจิตใจของเซนะก็ถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์ อนาคตของจักรวาลกำลังเดินไปในทิศทางที่เลวร้ายที่สุด โซเฟียกำลังจะเป็นผู้เริ่มประวัติศาสตร์โฉมใหม่ของมวลมนุษย์
ทุกๆอย่างกำลังจะจบสิ้น
ผู้กล้าเพียงหนึ่งได้จมลงสู่คุกน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก
และแล้วกาลเวลาและทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนั้นก็ได้ถูกหยุดลงชั่วขณะพร้อมกับการปรากฏตัวของคนๆหนึ่งที่เดินออกมาจากรอยแยกของมิติ ผมสีส้มอันยาวสลวยได้มาพร้อมกับดวงตาสีเขียวอันเปล่งประกาย รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นคล้ายคลึงกับเพื่อนร่วมห้องของเซนะ หากเพียงแต่ว่าเธอดูเหมือนกับมาจากอนาคต
หนึ่งในสมาชิกของ darklord ที่เป็นองค์กรณ์ช่วยร้ายที่สุดซ้ำร้ายเธอยังเป็นถึงมือขวาของ ซิริอุส ชายผู้ซึ่งถูกกล่าวขานว่าชั่วร้ายที่สุดในจักรวาล
เฮเรน่า แอสทิน ได้ปรากฏขึ้นมา ณ การต่อสู้ที่เวลาถูกหยุดลง มีเพียงคนอื่นๆที่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้เท่านั้นที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างปกติ เหล่าผู้คนทั้งหลายถึงกับเหงื่อตกไม่ก็หน้าซีดเมื่อเห็นเธอปรากฏขึ้นมาในภาพเว้นแต่เด็กสาวที่หน้าตาคล้ายกับเธอที่เป็นเพื่อร่วมชั้นของเซนะเท่านั้นที่ถึงกับน้ำตานอง น้ำตาไหล ไม่ก็สับสนไปหมด
เธอคนนั้นได้เดินเข้ามาหาเซนะก่อนจะจับร่างของเธอดึงออกมาจากอ้อมกอดของโซเฟียก่อนจะมองหน้าของเธออย่างอบอุ่นราวกับเป็นคุณแม่ที่กำลังจ้องมองลูก
"ตอนนี้ภาพของฉันคงจะถูกฉายไปทั่วทุกจักรวาลแล้วสินะ" เธอได้บ่นพึมพำออกมาท่ามกลางสีหน้าของทุกคนที่หวาดกลัวไม่ก็กลืนน้ำลายลงกันยกใหญ่
"ท่านเซนะฉันมีอะไรที่อยากจะบอกกับท่านอีกหลายต่อหลายอย่างแต่ตอนนี้เวลานี้คงไม่เหมาะสักเท่าไหร่" เธอได้พูดให้กับเซนะฟังถึงแม้ว่าเธอจะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวไม่ได้ยิน
"ท่านผู้นั้นกำลังรอท่านอยู่และฉันก็คิดว่าอีกไม่นานแล้วที่ท่านจะได้พบกับท่านผู้นั้นและถึงท่านจะไม่รู้ตัวแต่ท่านก็คือสมาชิกของ darklord
ท่านได้ช่วยเราจัดการปัญหาตั้งหลายต่อหลายอย่างเรื่องนั้นดิฉันต้องขอกล่าวขอบคุณจากใจจริง อีกไม่นานสงครามของ darklord กับ lightlord จะเกิดขึ้นอีกครั้งถึงตอนนั้นท่านจะเลือกเข้ากับฝ่ายไหนกันนี่แหละคือสิ่งที่ฉันกำลังกังวลอยู่
และถึงแม้ท่านจะเลือกเป็นศัตรูกับพวกเราดิฉันก็ขอสัญญาเลยว่าฉันจะไม่ทำร้ายท่านอย่างแน่นอน"
เธอได้จูบลงไปบนหน้าผากของเซนะทำให้จิตใจของเธอที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ได้ละลายลงก่อนที่ร่างของเธอจะหายไปและเวลาได้กลับมาเริ่มเดินอีกครั้ง....
ตอนที่ 72 wether storm
ระบำดาบนับพัน grandstars(แกรนด์สตาร์) คือชื่อท่าของโซเฟียที่เกิดจากการใช้พลังทั้งสองของเธอโดยปกติการควบคุมสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นก็ทำได้ยากยิ่งอยู่แล้วแต่ของเธอนั้นกลับควบคุมดาบนับร้อยที่เรียกได้ว่าเหนือมนุษย์ แต่ถ้าแค่นี้ก็ยังถือว่ายังอยู่แค่ระดับยากแต่โซเฟียนั้นเหนือขึ้นไปอีกขั้น
ตัวดาบของเธอนั้นทุกเล่มสามารถเคลื่อนไหวแตกต่างกันออกไปราวกับมีคนคอยใช้มันอยู่ ถ้าหากจะให้อธิบายว่ามันสุดยอดยังไงข้อแรกคือการโจมตีในทิศทางของเธอจะไม่ใช่เพียงแค่การโจมตีตรงๆรูปแบบเดียวจึงทำให้ยากแก่การรับมือและข้อที่สองก็คือการโจมตีนั้นมีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงมากๆอีกด้วยเนื่องจากดาบทุกเล่มนั้นมีความคิดเป็นของตนเอง
ทางด้านของเซนะเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า
เธอได้ใช้ดาบทั้งสองของตนฟันไปมาในขณะที่กำลังพุ่งไปหาโซเฟียทำให้เกิดเป็นคลื่นสีรุ้งอยู่รอบๆตัว โดยปกตินั้นการฟันแต่ละทีจะมีคอมโบและลิมิตการโจมตีของมัน ยกตัวอย่างก็คือ การเหวี่ยงไม้เบสบอลซึ่งหากทำการเหวี่ยงไปต่อเนื่องเรื่อยๆในที่สุดกล้ามเนื้อแขนก็จะไม่ไหวจนต้องหยุดพักซึ่งคอมโบการฟันที่ถูกบันทึกไว้สูงสุดอยู่ที่ 368 คอมโบซึ่งเรียกได้ว่าเยอะมากๆโดยคนที่ทำมันนั้นคือผู้อำนวยการรุ่นที่สองของโรงเรียนชิโอมิผู้ซึ่งถูกขนานามว่าเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวาลนามว่า มิคางามิ โทคิยะ
เซนะในตอนเด็กๆที่ได้อ่านประวัติของเขาจึงได้แรงบันดาลใจที่อยากจะทำคอมโบการฟันแบบเขาบ้างเธอจึงได้ฝึกฝนจนในที่สุดก็ทำได้ถึง 137
คอมโบก่อนจะต้องหยุดฝึกเพื่อออกเดินทาง
และสุดยอดท่าคอมโบจึงได้เริ่มขึ้น
การฟาดดาบของเซนะทุกๆครั้งนั้นได้ทำให้พลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นแต่ก็ต้องแลกกับการใช้พลังทั้งหมดของตนและด้วยความที่ตนเป็นแค่ร่างความคิดไม่ใช่ร่างจริงนั่นจึงเป็นการเร่งเวลาการหายไปของตนแบบช้าๆ โดยตอนนี้เวลาของเซนะเหลืออีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่ตนจะหายไป
ทุกอย่างๆของพวกเขาได้พุ่งใส่กันด้วยการโจมตีครั้งนี้
ไร้ซึ่งความลังเล ไร้ซึ่งความเมตตา ทั้งสองได้คิดแต่เพียงจะเข่นฆ่ากันเพียงเท่านั้น
"ลาก่อนนะโซเฟีย... "
เมื่อทั้งสองได้ปะทะกันดาบกว่าครึ่งของโซเฟียก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เธอได้เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ
"ท่าพิเศษ Unmessty Univers!"
ด้วยการปะทะครั้งนั้นจึงทำให้ดาบทั้งหมดถูกทำลายลงเรื่อยๆจนมันมาถึงตัวของโซเฟีย เธอจึงได้ปล่อยมือออกจากดาบของตนพร้อมกับหลับตาและยิ้ม
"The end!"
"มันจะใช่อย่างนั้นแน่หรอเซนะ... "
เธอไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้และรอยยิ้มนั้นก็ไม่ได้จะสื่อความหมายออกมาด้วยว่าตัวเธอนั้นพอใจและยินดีที่จะตายไปด้วยฝีมือของเซนะ แต่มันคือรอยยิ้มแห่งชัยชนะ!
รวมร่าง! หลังจากที่โซเฟียพูดจบร่างของ duo ของตนที่นอนสลบอยู่ก็ได้กลายเป็นแสงและมารวมตัวกลับร่างของเธอจนร่างนั้นเรืองแสงตาม และด้วยความเจิดจ้าของมันทำให้ทุกคนถึงกับมองไม่เห็นร่างของเธอ
เซนะที่ได้เห็นแบบนั้นจึงรีบพุ่งเข้าไปแทงเธอด้วยสีหน้าที่ร้อนรน
แต่ยังไม่ทันที่การโจมตีจะถึงตัวปลายนิ้วทั้งสองของโซเฟียก็ได้ยื่นออกมารับการโจมตีนั้นเอาไว้อย่างง่ายดาย ก่อนที่แสงจะดับลง
พร้อมกับการเปิดตัวของโซเฟียในร่างใหม่
"รู้สึกได้ถึงความอันตรายมากเลยค่ะ"สาวน้อยในกลุ่มของราชันย์ได้พูดขึ้น เธอคือโคมาริที่มีพลังระดับเดียวกับพระเจ้า
เหล่าราชันย์ทุกคนต่างพากันทำสีหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
พวกเธอได้เปรียบให้โคมาริเป็นพระเจ้าและถ้าหากโซเฟียคือมนุษย์ที่พระเจ้ายังบอกได้ถึงขนาดนี้แสดงว่าตอนนี้ตัวของโซเฟียนั้นอันตรายจริงๆ
"แล้วท่านพี่จะเอาชนะได้ยังไงกันล่ะ"
"นิโครุรักเซนะสินะ"
"ปล่าวสักหน่อยค่ะคุณฮิคาริล่ะก็!"แต่เธอก็ได้ทำหน้าแดงไปด้วยทำเอาทุกคนเชื่อได้ไม่เต็มปาก
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะพี่ของเธอน่ะต้องชนะได้อย่างแน่นอนที่สุด"
"มีอะไรมารับประกันหรอค่ะ!?"
"ก็ถ้าหากเรื่องนี้ตัวเอกดันแพ้แล้วแมวตัวไหนมันจะดำเนินเรื่องต่อกันล่ะ"
(อย่างนี้ก็ได้หรอ... )
เธอได้ยิ้มเจื่อนๆให้กับฮิคาริก่อนจะมองไปยังพี่สาวของตนพร้อมกับอธิษฐานให้กับเขาอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ
ระบำดาบนับพัน grandstars(แกรนด์สตาร์) คือชื่อท่าของโซเฟียที่เกิดจากการใช้พลังทั้งสองของเธอโดยปกติการควบคุมสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นก็ทำได้ยากยิ่งอยู่แล้วแต่ของเธอนั้นกลับควบคุมดาบนับร้อยที่เรียกได้ว่าเหนือมนุษย์ แต่ถ้าแค่นี้ก็ยังถือว่ายังอยู่แค่ระดับยากแต่โซเฟียนั้นเหนือขึ้นไปอีกขั้น
ตัวดาบของเธอนั้นทุกเล่มสามารถเคลื่อนไหวแตกต่างกันออกไปราวกับมีคนคอยใช้มันอยู่ ถ้าหากจะให้อธิบายว่ามันสุดยอดยังไงข้อแรกคือการโจมตีในทิศทางของเธอจะไม่ใช่เพียงแค่การโจมตีตรงๆรูปแบบเดียวจึงทำให้ยากแก่การรับมือและข้อที่สองก็คือการโจมตีนั้นมีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงมากๆอีกด้วยเนื่องจากดาบทุกเล่มนั้นมีความคิดเป็นของตนเอง
ทางด้านของเซนะเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า
เธอได้ใช้ดาบทั้งสองของตนฟันไปมาในขณะที่กำลังพุ่งไปหาโซเฟียทำให้เกิดเป็นคลื่นสีรุ้งอยู่รอบๆตัว โดยปกตินั้นการฟันแต่ละทีจะมีคอมโบและลิมิตการโจมตีของมัน ยกตัวอย่างก็คือ การเหวี่ยงไม้เบสบอลซึ่งหากทำการเหวี่ยงไปต่อเนื่องเรื่อยๆในที่สุดกล้ามเนื้อแขนก็จะไม่ไหวจนต้องหยุดพักซึ่งคอมโบการฟันที่ถูกบันทึกไว้สูงสุดอยู่ที่ 368 คอมโบซึ่งเรียกได้ว่าเยอะมากๆโดยคนที่ทำมันนั้นคือผู้อำนวยการรุ่นที่สองของโรงเรียนชิโอมิผู้ซึ่งถูกขนานามว่าเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวาลนามว่า มิคางามิ โทคิยะ
เซนะในตอนเด็กๆที่ได้อ่านประวัติของเขาจึงได้แรงบันดาลใจที่อยากจะทำคอมโบการฟันแบบเขาบ้างเธอจึงได้ฝึกฝนจนในที่สุดก็ทำได้ถึง 137
คอมโบก่อนจะต้องหยุดฝึกเพื่อออกเดินทาง
และสุดยอดท่าคอมโบจึงได้เริ่มขึ้น
การฟาดดาบของเซนะทุกๆครั้งนั้นได้ทำให้พลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นแต่ก็ต้องแลกกับการใช้พลังทั้งหมดของตนและด้วยความที่ตนเป็นแค่ร่างความคิดไม่ใช่ร่างจริงนั่นจึงเป็นการเร่งเวลาการหายไปของตนแบบช้าๆ โดยตอนนี้เวลาของเซนะเหลืออีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นก่อนที่ตนจะหายไป
ทุกอย่างๆของพวกเขาได้พุ่งใส่กันด้วยการโจมตีครั้งนี้
ไร้ซึ่งความลังเล ไร้ซึ่งความเมตตา ทั้งสองได้คิดแต่เพียงจะเข่นฆ่ากันเพียงเท่านั้น
"ลาก่อนนะโซเฟีย... "
เมื่อทั้งสองได้ปะทะกันดาบกว่าครึ่งของโซเฟียก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว เธอได้เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ
"ท่าพิเศษ Unmessty Univers!"
ด้วยการปะทะครั้งนั้นจึงทำให้ดาบทั้งหมดถูกทำลายลงเรื่อยๆจนมันมาถึงตัวของโซเฟีย เธอจึงได้ปล่อยมือออกจากดาบของตนพร้อมกับหลับตาและยิ้ม
"The end!"
"มันจะใช่อย่างนั้นแน่หรอเซนะ... "
เธอไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้และรอยยิ้มนั้นก็ไม่ได้จะสื่อความหมายออกมาด้วยว่าตัวเธอนั้นพอใจและยินดีที่จะตายไปด้วยฝีมือของเซนะ แต่มันคือรอยยิ้มแห่งชัยชนะ!
รวมร่าง! หลังจากที่โซเฟียพูดจบร่างของ duo ของตนที่นอนสลบอยู่ก็ได้กลายเป็นแสงและมารวมตัวกลับร่างของเธอจนร่างนั้นเรืองแสงตาม และด้วยความเจิดจ้าของมันทำให้ทุกคนถึงกับมองไม่เห็นร่างของเธอ
เซนะที่ได้เห็นแบบนั้นจึงรีบพุ่งเข้าไปแทงเธอด้วยสีหน้าที่ร้อนรน
แต่ยังไม่ทันที่การโจมตีจะถึงตัวปลายนิ้วทั้งสองของโซเฟียก็ได้ยื่นออกมารับการโจมตีนั้นเอาไว้อย่างง่ายดาย ก่อนที่แสงจะดับลง
พร้อมกับการเปิดตัวของโซเฟียในร่างใหม่
"รู้สึกได้ถึงความอันตรายมากเลยค่ะ"สาวน้อยในกลุ่มของราชันย์ได้พูดขึ้น เธอคือโคมาริที่มีพลังระดับเดียวกับพระเจ้า
เหล่าราชันย์ทุกคนต่างพากันทำสีหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
พวกเธอได้เปรียบให้โคมาริเป็นพระเจ้าและถ้าหากโซเฟียคือมนุษย์ที่พระเจ้ายังบอกได้ถึงขนาดนี้แสดงว่าตอนนี้ตัวของโซเฟียนั้นอันตรายจริงๆ
"แล้วท่านพี่จะเอาชนะได้ยังไงกันล่ะ"
"นิโครุรักเซนะสินะ"
"ปล่าวสักหน่อยค่ะคุณฮิคาริล่ะก็!"แต่เธอก็ได้ทำหน้าแดงไปด้วยทำเอาทุกคนเชื่อได้ไม่เต็มปาก
"ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะพี่ของเธอน่ะต้องชนะได้อย่างแน่นอนที่สุด"
"มีอะไรมารับประกันหรอค่ะ!?"
"ก็ถ้าหากเรื่องนี้ตัวเอกดันแพ้แล้วแมวตัวไหนมันจะดำเนินเรื่องต่อกันล่ะ"
(อย่างนี้ก็ได้หรอ... )
เธอได้ยิ้มเจื่อนๆให้กับฮิคาริก่อนจะมองไปยังพี่สาวของตนพร้อมกับอธิษฐานให้กับเขาอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ตอนที่ 71 timebom
"นั่นสินะ งั้นเรามาเริ่มการเข่นฆ่าที่แท้จริงกันเลย!"
"สำหรับฉันมันคือการเล่นกันของเด็กๆมากกว่า"
"คนเราแนวคิดมันไม่เหมือนกันหรอกนะ"
"แต่ฉันว่าพวกเราน่ะเหมือนกันแบบเป๊ะๆเลยนะ"
หมัดประกายแสงจากดวงดาวได้ตามมาด้วยผลึกน้ำแข็งติดลบกว่า 1000 องศาได้อัดเข้าให้ที่เบ้าหน้าของเซนะจนร่างนั้นกระเด็นไปไกล ตามด้วยผลจากไอเย็นจึงทำให้บริเวณที่ถูกต่อยตายด้านสนิท
.....แค่ครั้งเดียวยังทำได้ถึงขนาดนี้เราคงต้องหลบมันให้ได้หมดเลยสินะ
โซเฟียได้ใช้พลังดวงดาวบริ้งมาเหนือหัวเซนะก่อนจะซัดอีกหมัดเข้าใส่แต่คราวนี้เซนะกลับใช้ดาบฟันเสยขึ้นจนเกิดลมพัดร่างของโซเฟียขึ้นไปก่อนที่หมัดจะโดนตัวเซนะ
กลางอากาศ นี่แหละคือสถานการณ์ที่ได้เปรียบที่สุดเพราะเป้าหมายไม่สามารถหนีได้เซนะจึงพุ่งขึ้นไปหาเธอพร้อมกับเตรียมจะฟันเธอ
"ฉลาดดีนะแต่ว่า"
เธอได้ใช้ปลายเท้าย่ำเข้าที่กลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่ก่อนจะกระโดดหลบออกจากตรงนั้นทำให้การโจมตีของเซนะพลาดไป ซ้ำยังถูกโซเฟีย
พุ่งเข้ามาตลบหลังอีกแต่แล้วเหตุการณ์ดันพลิคล็อคเมิื่ออยู่ๆเซนะดันหายไปจากตรงหน้าเธอก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งที่กลีบดอกไม้ที่ตนเคยเหยียบเอาไว้
และเพราะเหตุนั้นเองเซนะจึงได้ใช้ดาบพุ่งเข้ามาแทงเธอจากทางข้างหลังได้สำเร็จก่อนที่เจ้าตัวจะดึงดาบออกและพุ่งตัวหนีจากการโจมตีของโซเฟียทำเอากระแสลมจากตอนแรกถูกแช่แข็งจนดูเป็นประติมากรรมที่สวยงามมากๆ ก่อนที่เธอจะร่วงลงมายังพื้นพร้อมกับแสดงสีหน้าเจ็บใจออกมา
"ทำมาคกิ้ง(สัญลักษณ์)ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่!"
"ตั้งแต่ตอนที่ฉันสร้างลมน่ะ"
เซนะได้อาศัยจังหวะที่ฟันจนเกิดลมทำมาคกิ้งเอาไว้เพื่อเตรียมเทเลพอร์ตตัวเองมายังบนกลีบดอกไม้ที่ทำเอาไว้ ความเร็วในตอนนั้นของเขาเร็วมากๆจนต้องใช้ภาพย้อนหลายต่อหลายครั้งกว่าจะเห็นมือของเซนะที่กำลังทำมาคกิ้งอยู่
แต่ถึงเซนะจะดูเหนือชั้นกว่ามากแต่โซเฟียก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย
เพียงแค่วินาทีสั้นๆเธอก็สามารถมองกลยุทธของเซนะออก
จนหมดทะลุปรุโปร่งแถมยังสามารถไขปริศนาได้ด้วยตัวคนเดียวกลับกันพวกเหล่าคนดูกว่าล้านๆคนกับไม่รู้ถึงเรื่องนี้จนกระทั่งเมื่อกี้นี้เลยแม้แต่น้อย
ตัวเธอได้กัดฟันลุกขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับโยนดาบขึ้นสู่ฟ้า
ถ้าเป็นคนปกติคงคิดได้แค่ว่าเธอนั้นบ้าไปแล้วที่โยนอาวุธของตนทิ้งไป แต่เซนะไม่ได้คิดแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย
....เบนความสนใจไม่ก็เตรียมใช้ท่าหรือเตรียมต่อคอมโบ!
เจ้าตัวจึงไม่รอช้าพุ่งเข้าไปขัดมันก่อนที่โซเฟียจะทำสำเร็จ
โดยการใช้ทวนกระหน่ำโจมตีใส่เธอแบบไม่หยุดซ้้ำยังสร้างบอลแสงเตรียมจะอัดใส่เธอ
แต่แล้วโซเฟีนก็ได้เอามือเข้ามาแย่งบอลนั้นไปจากมือของเซนะก่อนจะอัดมันใส่ร่างของเธอทำให้มีเลือดกระอั่กออกมาจากปากพร้อมทั้งยังโดนแรงระเบิดซัดปลิวไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะหนีมาได้ด้วยการเทเลพอร์ทมายังกลีบดอกไม้ที่ตนทำมาคกิ้งเอาไว้
พริบตานั้นเองดาบที่โซเฟียปาขึ้นฟ้าไปในตอนแรกก็ได้พุ่งลงมายังเซนะ
แต่โชคดีที่เธอสามารถหลบมันได้ก่อนจะถูกโซเฟียพุ่งเข้ามาชกใส่ที่ท้องพร้อมกับหยิบดาบของตนขึ้นมาฟันอย่างเป็นคอมโบ ด้วยไหวพริบของเซนะจึงหลบมันได้ไม่ยากแต่ก็ถูกฟันที่คางจนเกิดแผลเป็นที่คาง
"เกือบตายแล้วแฮะ"
"โชคดีจริงๆนะ"
"เขาเรียกว่าไหวพริบดีต่างหาก"
"ช่างมัน!"
ตัวเธอได้พุ่งมาอีกครั้งพร้อมกับดาบน้ำแข็งนับร้อยเซนะจึงแยกดาบออกจากกันเพื่อเตรียมใช้คอมโบสองดาบ
"โซเฟีย~!"
"เซนะ~!"
ทั้งสองได้ตระโกนใส่กันดังๆราวกับจะเข่นฆ่ากันให้ตายไปข้าง เสียงของทั้งสองดังกึกก้องราวกับฟ้าที่ผ่าลงมา
"นั่นสินะ งั้นเรามาเริ่มการเข่นฆ่าที่แท้จริงกันเลย!"
"สำหรับฉันมันคือการเล่นกันของเด็กๆมากกว่า"
"คนเราแนวคิดมันไม่เหมือนกันหรอกนะ"
"แต่ฉันว่าพวกเราน่ะเหมือนกันแบบเป๊ะๆเลยนะ"
หมัดประกายแสงจากดวงดาวได้ตามมาด้วยผลึกน้ำแข็งติดลบกว่า 1000 องศาได้อัดเข้าให้ที่เบ้าหน้าของเซนะจนร่างนั้นกระเด็นไปไกล ตามด้วยผลจากไอเย็นจึงทำให้บริเวณที่ถูกต่อยตายด้านสนิท
.....แค่ครั้งเดียวยังทำได้ถึงขนาดนี้เราคงต้องหลบมันให้ได้หมดเลยสินะ
โซเฟียได้ใช้พลังดวงดาวบริ้งมาเหนือหัวเซนะก่อนจะซัดอีกหมัดเข้าใส่แต่คราวนี้เซนะกลับใช้ดาบฟันเสยขึ้นจนเกิดลมพัดร่างของโซเฟียขึ้นไปก่อนที่หมัดจะโดนตัวเซนะ
กลางอากาศ นี่แหละคือสถานการณ์ที่ได้เปรียบที่สุดเพราะเป้าหมายไม่สามารถหนีได้เซนะจึงพุ่งขึ้นไปหาเธอพร้อมกับเตรียมจะฟันเธอ
"ฉลาดดีนะแต่ว่า"
เธอได้ใช้ปลายเท้าย่ำเข้าที่กลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่ก่อนจะกระโดดหลบออกจากตรงนั้นทำให้การโจมตีของเซนะพลาดไป ซ้ำยังถูกโซเฟีย
พุ่งเข้ามาตลบหลังอีกแต่แล้วเหตุการณ์ดันพลิคล็อคเมิื่ออยู่ๆเซนะดันหายไปจากตรงหน้าเธอก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งที่กลีบดอกไม้ที่ตนเคยเหยียบเอาไว้
และเพราะเหตุนั้นเองเซนะจึงได้ใช้ดาบพุ่งเข้ามาแทงเธอจากทางข้างหลังได้สำเร็จก่อนที่เจ้าตัวจะดึงดาบออกและพุ่งตัวหนีจากการโจมตีของโซเฟียทำเอากระแสลมจากตอนแรกถูกแช่แข็งจนดูเป็นประติมากรรมที่สวยงามมากๆ ก่อนที่เธอจะร่วงลงมายังพื้นพร้อมกับแสดงสีหน้าเจ็บใจออกมา
"ทำมาคกิ้ง(สัญลักษณ์)ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่!"
"ตั้งแต่ตอนที่ฉันสร้างลมน่ะ"
เซนะได้อาศัยจังหวะที่ฟันจนเกิดลมทำมาคกิ้งเอาไว้เพื่อเตรียมเทเลพอร์ตตัวเองมายังบนกลีบดอกไม้ที่ทำเอาไว้ ความเร็วในตอนนั้นของเขาเร็วมากๆจนต้องใช้ภาพย้อนหลายต่อหลายครั้งกว่าจะเห็นมือของเซนะที่กำลังทำมาคกิ้งอยู่
แต่ถึงเซนะจะดูเหนือชั้นกว่ามากแต่โซเฟียก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย
เพียงแค่วินาทีสั้นๆเธอก็สามารถมองกลยุทธของเซนะออก
จนหมดทะลุปรุโปร่งแถมยังสามารถไขปริศนาได้ด้วยตัวคนเดียวกลับกันพวกเหล่าคนดูกว่าล้านๆคนกับไม่รู้ถึงเรื่องนี้จนกระทั่งเมื่อกี้นี้เลยแม้แต่น้อย
ตัวเธอได้กัดฟันลุกขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับโยนดาบขึ้นสู่ฟ้า
ถ้าเป็นคนปกติคงคิดได้แค่ว่าเธอนั้นบ้าไปแล้วที่โยนอาวุธของตนทิ้งไป แต่เซนะไม่ได้คิดแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย
....เบนความสนใจไม่ก็เตรียมใช้ท่าหรือเตรียมต่อคอมโบ!
เจ้าตัวจึงไม่รอช้าพุ่งเข้าไปขัดมันก่อนที่โซเฟียจะทำสำเร็จ
โดยการใช้ทวนกระหน่ำโจมตีใส่เธอแบบไม่หยุดซ้้ำยังสร้างบอลแสงเตรียมจะอัดใส่เธอ
แต่แล้วโซเฟีนก็ได้เอามือเข้ามาแย่งบอลนั้นไปจากมือของเซนะก่อนจะอัดมันใส่ร่างของเธอทำให้มีเลือดกระอั่กออกมาจากปากพร้อมทั้งยังโดนแรงระเบิดซัดปลิวไปชั่วขณะหนึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะหนีมาได้ด้วยการเทเลพอร์ทมายังกลีบดอกไม้ที่ตนทำมาคกิ้งเอาไว้
พริบตานั้นเองดาบที่โซเฟียปาขึ้นฟ้าไปในตอนแรกก็ได้พุ่งลงมายังเซนะ
แต่โชคดีที่เธอสามารถหลบมันได้ก่อนจะถูกโซเฟียพุ่งเข้ามาชกใส่ที่ท้องพร้อมกับหยิบดาบของตนขึ้นมาฟันอย่างเป็นคอมโบ ด้วยไหวพริบของเซนะจึงหลบมันได้ไม่ยากแต่ก็ถูกฟันที่คางจนเกิดแผลเป็นที่คาง
"เกือบตายแล้วแฮะ"
"โชคดีจริงๆนะ"
"เขาเรียกว่าไหวพริบดีต่างหาก"
"ช่างมัน!"
ตัวเธอได้พุ่งมาอีกครั้งพร้อมกับดาบน้ำแข็งนับร้อยเซนะจึงแยกดาบออกจากกันเพื่อเตรียมใช้คอมโบสองดาบ
"โซเฟีย~!"
"เซนะ~!"
ทั้งสองได้ตระโกนใส่กันดังๆราวกับจะเข่นฆ่ากันให้ตายไปข้าง เสียงของทั้งสองดังกึกก้องราวกับฟ้าที่ผ่าลงมา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)