วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ตอนที่ 63 home sweet home


                                    "ไปกันเถอะเทียร์"

                                    "อ่า"เธอได้รับคำก่อนจะกระโดดตามเซนะลงไปโดยทิ้งโคมาริเอาไว้ที่ชั้นนั้น
                                    เมื่อลงมาเรื่อยๆแสงก็เริ่มค่อยๆหายไปจนกระทั่งทุกอย่างนั้นมืดสนิท แต่แล้วเมื่อผ่านไปสักพักที่ปลายทางด้านหน้าก็ได้มีแสงสว่างเจิดจ้าขึ้น และเมื่อพวกเขารอดผ่านหลุมนั้นมาได้พวกเขาก็ได้พบกับโลกชั้นสุดท้ายที่เต็มไปด้วยอัญมณีจำนวนมากที่สดใสและงดงามตระกาลตายิ่งนัก
                                    แต่เดิมโลกนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยๆครั้งตอนถือกำเนิดและนั่นจึงทำให้สภาพอากากศที่นี่แปรปรวนอย่างหนักไล่ตั้งแต่มีคลื่นยักษ์อย่างฉับพลัน ลาวาปะทุ พายุขนาดยักษ์ที่เกิดนานเป็นนับล้านๆปี และหลังจากที่ภัยพิบัติจากธรรมชาตินั้นหายไปอัญมณีพวกนี้ก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยฝีมือของธรรมชาติ
                                    และในบรรดาอัญมณีน้อยใหญ่เหล่านั้นก็มีอยู่อันนึงที่เรียกได้ว่าเด่นมาก โดยมันคืออัญมณีที่มีขนาดใหญ่มากๆเมื่อเทียบกับสิ่งก่อสร้างของโลกคือมันมีขนาดเท่ากับ หอไอเฟล เลยก็ว่าได้ แถมตัวอัญมณียังมีความโปร่งใสมากราวกับเพชร และที่สำคัญคือข้างในนั้นมีร่างของคนอยู่ด้วย
                                    ที่ข้างๆนั้นเองก็ได้มีร่างวิญญาณคอยยืนรอเซนะอยู่นานแล้ว เทียร์จึงไม่รอช้ารีบเสกเคียวออกมาตั้งท่าพร้อมสู้แต่ก็ถูกเซนะเอามือมาขวาง
เอาไว้พร้อมกับค่อยๆเดินไปหาร่างวิญญาณนั่น
                                    "ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วนะ master king แต่ตอนนี้ต้องเรียกว่าเซสึนะสินะ"
                                    "ถ้าให้นับล่ะก็ 13 ปี กับอีก 26 วัน ทั้งๆที่ในตอนนั้นฉันก็ร้องไห้เธอก็ยังจะไปจากฉันอีกนะ"
                                    "เรื่องด่วนมันเข้ามาน่ะ"
                                    "ฉันเกียจเธอก็ตรงนั้นแหละ"เซสึนะได้เอามือก่ายหน้าผากอย่างสิ้นหวัง
                                    "โธ่~! ก็ตอนนั้นจักรวาลจะพังฉันก็ต้องเข้าไประงับเหตุการณ์นั้นสิ"
                                    "ทั้งๆที่บอกกับฉันว่าจะทำลายจักวาลเนี่ยนะ"
                                   
                                    เซนะถึงกับเถียงไม่ออก อันที่จริงเขาก็รู้ตัวว่าตนนั้นกำลังทำสวนกับที่ลั่นวาจาเอาไว้แต่ว่าที่ทำแบบนี้มันก็มีเหตุผลอยู่แต่ดูท่าจะเล่าไปแล้วเขาจะไม่ฟังเซนะจึงเลือกที่จะไม่เล่าดีกว่า ทั้งสองจึงมองหน้ากันอย่างนานก่อนที่เซสึนะจะเบนหน้าออกเพราะทนกับข้อแก้ตัวของเซนะไม่ไหวจริงๆแล้วอีกอย่างเขาก็ไม่อยากจะมีเจตนาที่ทำให้การพบกันอีกครั้งของทั้งสองต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกด้วย   ในขณะเดียวกันเทียร์ที่อยู่ตรงนั้นด้วยก็เผลอคิดไปชั่วขณะว่าตนนั้นมาอยู่ผิดที่หรือเปล่า
                                    (ตัวประกอบ เรามันตัวประกอบของแท้เลยนี่หว่า!)

                                    ในขณะที่ทุกอย่างได้เงียบลงก็เป็นฝ่ายของเซนะที่เริ่มพูดขึ้น

                                   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น