วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 115


                                  "หน้าที่ของฉันมันแทบไม่เหลืออีกแล้วล่ะ" มันคือความจริงอันแสนเจ็บปวดที่มาพร้อมกับความดีใจ เซนะนั้นจากตอนเด็กจนมาถึงตอนนี้ได้ต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน เธอได้พัฒนาฝีมือขึ้นจนอาจารย์อย่างพิเกียแทบจะไม่จำเป็น
                   
                                  ยิ่งเธอเติบโตมากยิ่งขึ้นเท่าไรหน้าที่ของพิเกียก็จะค่อยๆหมดลงจนในที่สุดเขาก็จะไม่จำเป็นสำหรับเซนะอีกต่อไป

                                  เพราะงั้นเขาถึงจะไปจากเซนะเองซึ่งมันอาจจะดีกว่าการถูกเซนะบอกว่าไม่จำเป็นในภายภาคหน้าสักเอง แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องบรรลุภารกิจสุดท้ายนั่นก็คือการส่งเซนะไปให้ถึงพ่อของเธออย่างปลอดภัยเสียก่อน

                                  "เวลาของฉันคงเหลืออีกไม่มากแล้วล่ะเธอรีบไปเตรียมตัวสำหรับศึกตัวแทนจักรวาลดีกว่านะเซนะ"

                                  "พิเกียจะไปจริงๆอย่างนั้นหรอ... "

                                  "ใช่แล้ว ฉันไปแน่" เธอถึงกับกำหมัดแน่น เธออยากจะห้ามพิเกียแต่ก็รู้อีกว่าห้ามไม่ได้เพราะงั้นตอนนี้เธอจึงต้องถอย ถอยไปก่อน

                                   "เข้าใจแล้วฉันขอตัวก่อนนะ"

                                   เธอเดินออกมาจากตรงนั้น เดินผ่านอุย ผ่านยูกะ...

                                   จนออกจากห้องนั้นไปในที่สุด

                                   ในระหว่างที่เดินผ่านเธอไม่แม้แต่จะสบตากับใครทั้งสิ้นภายใต้ผมที่บังอยู่นั้นอุยได้เหลือบไปเห็นน้ำตาของสาวน้อยไหลปริ่มออกมาเพียงเสี้ยววิ ในฐานะอาจารย์เธอเจ็บปวดไม่น้อยกับการที่เห็นลูกศิษย์ตัวเองต้องมาเจ็บปวดขนาดนี้ เธอเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 13 เองแท้ๆ และที่สำคัญเซนะคือลูกศิษย์คนพิเศษของเธอเพราะงั้นเธอจึงเริ่มทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น นี่ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงเธอแต่เป็นเพราะความรักอีกเช่นกัน

                                   พลังในการมองเห็นอนาคต Eyes the future พลังนี้มีเพียงผู้สืบสายเลือดแท้ของมิโกะเท่านั้นที่จะมีได้ซึ่งก่อนหน้านี้เซนะในเวอร์ชั่นร่างความคิดก็ได้โชว์ไปแล้วในศึกของเหล่าราชันย์ อุยเองก็ตกใจอยู่นิดนึงเหมือนกันตอนที่รู้ว่าเซนะเองก็มีเหมือนกันเพราะว่าเธอเองก็ไม่เคยจะเห็นผู้สืบสายเลือดแท้นอกจากเธอมาก่อนเลยสักคนเดียว

                                    ช่วงเวลาที่เซนะเดินผ่านพลังของเธอก็ได้ทำงานมันแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เธอที่เห็นมันจึงหาอนาคตใหม่จากอนาคตนับล้านๆที่ยังพอมีความเป็นไปได้

                                    หากปัจจุบันคือตรงลำต้นของต้นไม้อนาคตใหม่ก็คือกิ่งก้านของต้นไม้ซึ่งจากกิ่งก้านทั้งหมดนั้นจะมีอยู่กิ่งนึงที่จะเป็นเส้นทางที่เธอต้องการ ในไม่ช้าเธอก็ได้พบกับมันจนได้

                                    อนาคตแบบ happy ที่เธอต้องการมัน

                                    แต่ก่อนที่จะได้ผลลัพธ์นั้นเธอจะต้องเตรียมการมันก่อนซึ่งในที่นี้คือการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงนี้ให้ได้เสียก่อน

                                   "นายคงจะไม่ได้ซื่อบื้อขนาดนั้นหรอกใช่ไหมพิเกีย เด็กคนนั้นรักนายในฐานะของคนรักนะ แค่นี้นายก็น่าจะดูออกใช่ไหม"

                                   อุยได้บ่นเสียงดังก่อนจะเอาหน้าฟุบลงกับโต๊ะอีกครั้ง

                                   "หมายความว่าไงอ่ะ!?" นกน้อยได้หันตัวมาทางอุยด้วยสีหน้าตกตระลึง อุยที่เห็นใบหน้านั้นจึงถอนใจเฮือกใหญ่ดังๆก่อนจะตอบคำถามนั้น
เฮ้อ~! ผู้ชายนี่ก็ซื่อบื้อกันจัง

                                   "เซนะรักนายไง"

                                   "จริงอ่ะ???"

                                   "จริงสิ ไม่มีผู้หญิงคนไหนมองไม่ออกหรอกนะฉันว่าที่เซนะเดินจากเธอไปเมื่อกี้นี้ไม่ใช่เพราะว่าถอดใจแต่ตรงกันข้ามเธอถอยไปตั้งหลักเพื่อเตรียมพร้อมจะหยุดนายยังไงล่ะ"

                                   "นี่เซนะรักกับฉันเนี่ยนะบ้าไปแล้ว~!"

                                   "รสนิยมคนเราก็ไม่เหมือนกันเอาเป็นว่านายเตรียมใจให้ดีละกันเพราะในเวลาที่สาวน้อยกำลังทำอะไรสักอย่างเพื่อความรักเธอจะแข็งแกร่งขึ้นมากจนน่ากลัวเลยล่ะ"

                                   อุยได้พูดทิ้งท้ายก่อนจะสลบเหมือดไป ดูเหมือนว่าเมื่อคืนเธอจะไม่ได้นอนเพราะปั่นเอกสารจนโต้รุ่งเพราะงั้นในช่วงงานเทศกาลที่ไม่ได้สอนเนี่ยแหละเธอถึงแอบเนียนๆหลับได้แต่นั่นก็แค่ส่วนหนึ่งอีกส่วนก็คือการที่ทำให้พิเกียสงสัยแต่ก็ไม่สามารถถามต่อไปได้ และในไม่ช้าพิเกียก็จะบินออกไปจากห้องนี้...

                                   พวกเธอโชคดีนะที่มีฉันเป็นอาจารย์....

                                   
                                 
                                     

                                 

                                   
หน้าที่ 114


                              สาวน้อยได้เดินมายืนพิงหน้าต่างพร้อมกับมองท้องฟ้าเหมือนกับพิเกีย เธอได้ยินทุกๆอย่างและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอมาอยู่ตรงนี้

                              "แอบฟังอย่างนั้นหรอ"

                              "อื้ม.."

                              "ตั้งแต่ตอนไหนล่ะ"

                              "ตั้งแต่แรกเลย" สายลมอ่อนๆได้พัดผมของเธอจนปลิวไสวไปมา ในตอนนี้ใบหน้าของเธอได้ดูเท่ขึ้นหล่อขึ้นมากกว่าเดิมซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะเธอเป็นตัวของตัวเองแล้วก็ได้

                              "ฉันไม่เคยสอนให้เป็นคนแอบฟังชาวบ้านเขานะ"

                              "งั้นพิเกียก็เลิกพูดลับหลังฉันแล้วมาพูดกับฉันตรงๆสิ"

                              "นิสัยนี้ได้มาจากแม่เธอเต็มๆเลยนะ"

                              "เรื่องนั้นชั่งมันเถอะ"

                              "ช่างไม่ได้หรอกเซนะนั่นคือพ่อแม่จริงๆของเธอเลยนะ"

                              "นั่นแหละถึงบอกให้ชั่งมัน ฉันน่ะนะไม่สนใจพวกเขาหรอก"

                               ปากไม่ตรงกับใจ นกน้อยได้แต่ทำสีหน้าเอือมระอาให้กับเธอและดูเหมือนเธอจะรู้อยู่แล้วว่าเขามองออกจึงหลุดหัวเราะออกมา

                               "ฉันคงโกหกไม่เก่งสินะ"

                               "ห่วยแตกเลยล่ะ" คราวนี้เป็นตาของพิเกียที่หัวเราะออกมา

                                ทั้งสองต่างรู้ทุกอย่างของกันและกันดีสักยิ่งกว่าของตนเองเสียอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะความสัมพันธ์อันแสนวิเศษที่ยิ่งกว่าของเทียร์กับเซนะเสียอีก

                               "นี่พิเกียไม่ต้องไปจากฉันหรอกนะ"

                               "ลูกผู้ชายพูดแล้วต้องไม่คืนคำสิ"

                               "ขอแค่ครั้งจะได้ไหม..."

                               "ถ้าฉันพาเธอไปหาพ่อของเธอได้สำเร็จหน้าที่ทั้งหมดของฉันก็จบลงแล้วเพราะงั้นฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่กับเธอเซนะ"

                               "ฉันรักพิเกียนะ"

                               "รักแบบเพื่อนสินะ ฉันรู้ทัน"

                                มีเพียงแค่ตรงนี้เท่านั้นที่พิเกียยังไม่รู้ตัว ตลอดมาเซนะนั้นไม่เคยพูดเรื่องความรักเลยหากไม่นับรวมของโซเฟียที่เป็นรักแบบพี่น้องครอบครัว
ของพิเกียนั้นจึงเป็นรักแรกที่แท้จริง

                                เธอรักพิเกีย...

                                แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัว คงเพราะพิเกียรักเซนะแบบเป็นลูกสาวมากกว่าจึงทำให้ความรู้สึกของเซนะยังส่งไปไม่ถึง ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคนอื่นๆที่อยู่ในห้องนี้

                                ยูกะนั้นเข้าใจทันทีถึงเหตุผลทุกอย่าง เซนะในตอนนี้ไม่มีความทรงจำเพราะงั้นความรู้สึกของเธอจึงไม่โกหกอย่างแน่นอน หากเป็นอย่างนั้น
การกระทำทุกอย่างของเซนะที่เอาใจใส่พิเกียจึงเป็นความรักไม่ผิดแน่ เพราะงั้นเธอจึงแต่งตั้งให้พิเกียเป็นถึงผู้พิทักษ์ตั้งแต่ตอนถือกำเนิด รวมถึงให้เป็น duo ประจำตัวของตนอีกด้วย

                                ถึงจะไม่อยากจะเชื่อแต่เธอก็ต้องฝืนเชื่อ

                                เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง....


                                ทางด้านคนอื่นๆเองก็มีไฟแห่งความอิจฉาผุดขึ้นจนอุยยังสะดุ้ง จะ ใจเย็นๆนะทุกคน...

                                (ไอเจ้าความรู้สึกช้า!,องค์หญิงเอาจริงดิ!?,เซนะม๊ายยยย~!,
นกจริงๆ...,เกมพลิกเลย,ลูกจะหน้าตาเป็นยังไงนะ???,OMG~!,...,)

                                 
                                ความรู้สึกต่างๆของคนในห้องนั้นหลากหลายแต่โดยรวมส่วนมากจะเป็นการอิจฉาพิเกียที่ได้ความรักจากสาวงามน่ารักอย่างเซนะถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงด้วยกันแต่พวกเธอก็ยังเกิดความอิจฉาพิเกียอยู่ดี ตัดมาทางเซสึนะที่เอาแต่ยิ้มให้กับเซนะความจริงคือเขาก็รู้สึกอิจฉาพิเกียอยู่นิดๆแต่เพราะเซนะมีความสุขเขาจึงยินดีกับเธอด้วย

                               









หน้าที่ 113


                                 สายตาของยูกะนั้นเริ่มกดดันพิเกียมากขึ้น มันทำให้เจ้าตัวเริ่มยั๊วะ! 

                                 "แล้วอะไรที่ทำให้เธอคิดแบบนั้น ตอบไม่ดีเรื่องไม่จบง่ายๆแน่!"

                                 "นายปล่อยให้เซนะเผชิญอันตรายมาคนเดียวกี่ครั้งแล้วล่ะ"

                                 "ประมาณ 2-3 ครั้งได้มั้ง!"

                                 "คำตอบก็คือ 1,097 ครั้ง!"

                                 
                                 ( What~!!! )

                                 ที่พิเกียอึ้งไม่ใช่ตัวเลขที่มากแสนมากแต่เป็นการที่ยูกะเอาเวลาไหนไปนับต่างหากที่ทำให้เจ้าตัวถึงกับอึ้ง ที่สำคัญคือเธอรู้ได้ไงและรู้มาจากไหน~!

                                 "หน้าที่ของ duo คือการปกป้องผู้เป็นนายแต่นายกับปล่อยให้เซนะไปสู้ตามลำพังเหตุผลแค่นี้พอไหม"  เธอกดดันด้วยสายตาหนักขึ้น

                                 เธอเตรียมคำตอบที่จะใช้ตอบทุกข้ออ้างของพิเกียเอาไว้หมดแล้ว ขอเพียงแค่พิเกียเถียงต่อเธอก็จะตอกกลับไปด้วยเหตุผลทุกอย่างซึ่งแน่นอนว่ามันคือเรื่องจริง ใน duo พวกเดียวกันกลับเธอไม่มีใครเลยที่สามารถเถียงชนะยูกะลงได้ ยกเว้นเซนะในอดีตที่เธอไม่กล้าจะไปเถียงด้วย

                                 ทั้งห้องได้เข้าสู่ความเงียบเพื่อรอฟังคำพูดของพิเกียต่อจากนี้  นกน้อยสีขาวจากตอนแรกที่ดูเกรี้ยวกราดในตอนนี้ได้เงียบและสงบลงจนดูน่าขนลุก

                                 และไม่นานนักหลังจากที่เงียบไปนกน้อยก็ได้พูดขึ้น

                                 "เกินพอเลยล่ะ.. "


                                 คราวนี้เป็นตาของยูกะที่ต้องตกใจแทน สถานการณ์นี้ในความคิดของเธอมันไม่เคยมีอยู่ในหัว เพราะความที่ไม่ชอบเธอจึงคอยเฝ้ามองพิเกียอยู่เสมอมาซึ่งนั่นจึงทำให้เธอรู้นิสัยของพิเกียทั้งหมด หากเป็นสถานการณ์เมื่อกี้นี้พิเกียจะต้องเถียงต่อแท้ๆ แต่ไม่! เขากับยอมรับมัน!!!

                                 นกน้อยได้บินมายืนเกาะอยู่ตรงหน้าต่างที่เปิดอยู่ก่อนจะแหงนมองท้องฟ้าอย่างคิดถึง

                                 "หน้าที่ของฉันคือการปกป้องเซนะนั่นคือคำสั่งที่ฉันได้รับมาจากพ่อของเธอ จนตอนนี้เธออายุได้ 13 เจ้าบ้านั่นก็ยังไม่มาหาลูกตัวเองสักครั้ง ฉันเองก็พอจะรู้ว่ามันลำบากหากเจ้าหมอนั่นปรากฏตัวขึ้นจริงๆ แต่ฉันก็หวังที่จะให้เซนะได้เจอกับพ่อของตัวเองสักครั้ง พอถึงตอนนั้นฉันก็จะไปจากเซนะเอง.... "

                                 สายลมได้พัดผ่านร่างของนกน้อยจนขนนั้นปลิวไสวไปมา

                                 พิเกียไม่ใช่ว่าจะไม่ทำอะไรเลยแต่แค่เขาไม่สามารถทำมันได้ก็เท่านั้นล่าสุดสงครามของเหล่าราชันย์ตัวเขาเองก็รู้เรื่อง แต่เพราะคำสั่งเขาจึงไม่สามารถเข้าไปช่วยเซนะสู้ได้เลย

                                 ตัวเขาที่ทำอะไรไม่ได้เลย มันทำให้เจ้าตัวรู้สึกเจ็บปวดมากจนอยากจะตาย

                                 และนี่ก็คือการรับผิดชอบของเขา

                                 "พอถึงตอนนั้นยัยนั่นต้องร้องไห้แน่ๆ"

                                 ( อะไรกัน! )

                                 "ยัยนั่นน่ะชอบทำท่าทางเข้มแข็งแต่จริงน่ะอ่อนไหวมากเลยนะ"

                                 ( ใบหน้านั่นมันอะไรกัน! )

                                 "ถึงตอนนั้นก็ขอฝากเซนะกับพวกเธอด้วยนะ"

                                 ( ทำไมกัน ทำไมเราถึงไม่ดีใจล่ะ ก็พิเกียจะไปจากท่านเซนะให้เองแล้วแท้ๆ แล้วทำไมกัน! ) ถึงจะไม่หันหน้ามาแต่แค่มองแผ่นหลังของนกน้อยก็บ่งบอกได้ถึงความเจ็บปวด ไม่ใช่แค่ยูกะเท่านั้นที่รับรู้แต่ทุกคนในห้องต่างก็รับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้
                               
                                 ในตอนที่ทุกอย่างเงียบลงก็ได้มีใครบางคนเดินผ่านยูกะไปหาพิเกีย ทุกคนเองก็ไม่ใครเคยคาดคิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้เหมือนกัน

                                 "พิเกียไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ"


                                 "เซนะ?!" นกน้อยถึงกับหันไปมองข้างๆ

                                 















                               

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 112


                               สายตาของทั้งสองได้จ้องมองกันก่อนจะแยกย้ายกันไปตามปกติ ปัญหาใหม่เริ่มทยอยเข้ามาหาพวกเซนะเรื่อยๆเพราะงั้นหากช่วยเหลืออะไรได้บ้างพวกเขาก็จะคอยช่วยเหลือแบบลับๆอย่างเต็มที่ซึ่งนี่ก็คือหน้าที่ของพวกเธอ

                               ....เหลืออีก 4 วันก่อนจะถึงงานประลองตัวแทนจักรวาลจะเริ่มหากท่านเซนะชนะก็จะได้เข้าร่วมในศึกของ darklord และ lightlord ตอนนี้ตำแหน่งของท่านคือผู้พิชิตจักรวาล ผู้ช่วยเหลือจัดรวาลเรื่อยมาถึงงั้นชื่อเสียงนี้ก็ยังยิ่งใหญ่ไม่พอที่จะคู่ควรกับท่าน ถ้าหากท่านเป็นคนจัดการกับหัวหน้าของ darklord ลงได้ท่านก็คงจะได้ชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น พอถึงตอนนั้นทุกคนทั่วทั้งจักรวาลก็จะได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของท่าน....   ยูกะคาดหวังแบบนี้อยู่ลึกๆก่อนจะเปิดประตูเข้าสู่ห้องของตน

                               ภาพแรกที่เธอเห็นหลังจากที่เปิดประตูเข้ามาก็คือภาพของเซสึนะที่กำลังตีกับพิเกียอย่างเมามันส์ ถึงจะรู้ว่าพิเกียนั้นเป็นกรณีพิเศษซึ่งพอๆกับเทียร์แต่การที่เห็นนายของตนถูกปฏิบัติเยี่ยงนี้มันทำให้เธอรู้สึกเคืองๆขึ้นมาทันที

                               "ใจเย็นไว้ก่อนยูกะ" มุเก็นได้พูดขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

                               "ทำไมพิเกียถึงมาเป็นคู่หูของท่านเซนะแทนที่จะเป็นเทียร์พวกเราทุกคนตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้คำตอบของเรื่องนี้เลย"

                               เธอกำหมัดแน่น

                               "ฉันเข้าใจเธอดีเพราะตอนนั้นตอนที่ท่านเซนะประกาศเรื่องนี้
ฉันเองก็เจ็บใจไม่แพ้เธอเหมือนกัน พวกเรานั้นทำได้เพียงแต่คอยรับใช้ท่านในอดีตเท่านั้นและหนึ่งในคนทั้งหมดก็คือเทียร์ที่ได้เป็นเพื่อนกับท่าน ในตอนแรกฉันเองก็อิจฉาเทียร์ที่ได้รับทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็นความไว้วางใจ ความรัก ความสนิทสนมแต่ฉันก็พอจะเข้าใจและยอมรับมันได้ ท่านเซนะกับเทียร์ทั้งคู่ไม่ต่างอะไรกับพี่น้องส่วนพวกเราคงเป็นได้แค่ลูกๆของท่านแต่สำหรับพิเกียที่เกิดหลังสุดท่านคงจะเห็นเป็นลูกคนเล็กสุดจึงต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษจนในที่สุดท่านก็เลือกพิเกีย"

                               "แถมยังแต่งตั้งให้เป็นถึงระดับผู้พิทักษ์ที่ทัดเทียมกับพวกเราอีกด้วย..."

                               "ทำไงได้ คำสั่งของท่านเซนะก็คือคำสั่งเด็ดขาดพวกเราจึงได้แต่ยอมรับมันเท่านั้น"

                               "ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ยอมรับพิเกียเด็ดขาด"

                               เธอเดินเข้าไปแยกพิเกียกับเซสึนะออกจากกันจนทำให้บรรยากาศคึกครื้นจนถึงเมื่อกี้ต้องหยุดลง ทุกคนต่างพากันมองมาทางเธอรวมถึงอุยที่ตอนนี้ถึงกับเอาหน้าที่แนบจากโต๊ะออกห่างจากกัน

                               "พอได้แล้วทั้งสองคนผู้อำนวยการเองก็หัดว่าอะไรมั่งสิคะไม่ใช่ปล่อยให้สองคนนี้ตีกันอยู่ทุกวัน" เธอหันมาทางอุย

                               "ใจเย็นก่อนนะยูกะ นี่แม่คุณไปเดือดมาจากไหนกัน"

                               "ฉันใจเย็นอยู่ค่ะ!"


                               ( ตรงไหน!!! )

                               ทั้งห้องพร้อมใจกันพูดออกมาภายในใจ ขืนพูดตรงๆออกมามีหวังได้มีเรื่องกับเธออย่างแน่นอนทุกคนจึงได้พยายามเลี่ยงมันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น

                               เว้นแต่ตัวต้นเหตุอย่างพิเกีย

                               "ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเดือดขนาดนี้เพราะงั้นใจเย็นลงเถอะ" ปีกสีขาวได้ตบที่หัวไหล่เธอเบาๆสามครั้งแต่นี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยซ้ำยังเหมือนเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟแทน

                               ยูกะได้หันมาหาพิเกียด้วยสายตาไม่พอใจ

                               "พิเกียฉันขอพูดอะไรกับนายหน่อยได้ไหม"

                               "ได้สิว่ามาเลย~!"

                               "นายไม่คู่ควรที่จะเป็น duo ของเซนะ"

                               ( ฮ่ะ??? )

                               เจ้าตัวเริ่มหน้าซีดเมื่อได้ยินคำๆนี้จากยูกะตามมาด้วยความโกรธอย่างไม่เคยมีมาก่อน

                               "นี่เธอหมายความว่ายังไงกัน!"

                             
                               "ฉันจะพูดอีกเพียงแค่ครั้งเดียว นายมันอ่อนแอเกินไป!"




                         

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 111


                             สาวน้อยไม่คิดจะพูดแล้วก็ไม่คิดจะบอกพวกเขาด้วย เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว เพราะว่าพวกเธอยังเป็นเด็กอยู่

                             ถึงหนึ่งในนั้นจะมีคนโกงอายุก็ตามที เธอมองไปหาทุกคนที่กำลังมองมาทางเธออย่างใจจดใจจ่อ เธอรู้ว่ามันไม่เป็นผลดีสักเท่าไหร่กับการที่ต้องปิดบังเหล่าเพื่อนๆของเธอแต่มันก็เพื่อตัวพวกเขาเองทั้งนั้น

                             "เอาเป็นว่ามันยังเร็วไปที่จะบอกตอนนี้ เอาไว้วันหลังเตอะ"

                             "หลังไหนล่ะแม่คุณ~!" ทุกคนพร้อมใจกันพูดแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเธอได้ผลสุดท้ายทุกคนก็ต้องยอมแพ้ให้กับฮิคาริ ทุกคนต่างพากันออกจากห้องไปแบบเซ็งๆ เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้รู้ในสิ่งที่ต้องรู้จึงทำให้เกิดอาการแบบนี้ขึ้น


                             "ยัยฮิคาริ ฝากไว้ก่อนเถอะ"

                           
                             "ใจเย็นๆก่อนโอริกามิ ฉันเองก็หงุดหงิดเหมือนกัน"


                             "ผู้อำนวยการ~!" ทั้งสองตาจ้องมองกันราวกับสหายที่ร่วมสู้รบกันมาอย่างยาวนานจนรู้ใจกันและกันเพียงแค่มองตา

                             "ฉันเองก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน"

                             "สงสัย...."

                             "ฮิคาริแตกต่างกับทุกคนหรือจะพูดง่ายๆก็คือเธอเก่งกว่าทุกคนในโรงเรียนเผลอๆระดับอาจจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับฉันเลยก็ได้แต่พอเซนะปรากฏตัวขึ้นเธอก็เล่นลดระดับตัวเองลงจนมาอยู่ห้อง 5 อย่างที่เห็นนี่แหละ"

                              ความสงสัยเริ่มผุดขึ้นมาเป็นภูเขา  เธอเป็นใครและรู้อะไรมากแค่ไหนกัน....

                              "ฉันว่าพวกเราหยุดพูดเรื่องของเขากันดีกว่านะ" ยูกะได้แทรกการสนทนาเข้ามาหาพวกเธอ มุเก็นเองก็เริ่มมีสีหน้าร้อนรนขึ้นมาเมื่อได้ยินการสนทนาของทั้งสอง ถึงจะเป็นการแอบฟังก็ตามที เมื่อยูกะพูดถึงขนาดนี้ทั้งสองจึงได้แต่ยอมถอดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปก่อน  ทุกคนเองก็เช่นกัน....

                              เมื่อทุกคนเดินจากไปแล้วก็เหลือเพียงยูกะกับมุเก็นที่กำลังยืนคุยกันสองต่อสอง


                              และพวกเธอก็มั่นใจด้วยว่าการสนทนานี้จะไม่มีใครได้ยินหรือแอบฟัง


                              "เกือบไปแล้วนะ"

                               
                              "นั่นดิ"

                              มุเก็นได้ตอบไปแบบห้วนๆตามประสาคนรู้จัก เธอกับมุเก็นเคยรู้จักกันมาก่อนหน้าที่พวกเธอจะได้พบกับ master คนใหม่ของพวกตน ถึงแม้ว่าการจากลาจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดแต่พวกเธอก็ได้พบกับสิ่งใหม่ๆที่พวกเธอไม่เคยพบ มันทำให้พวกเธอนั้นได้รับประสบการณ์ครั้งใหม่ซึ่งไม่ต่างจากการศึกษาหรือการเรียนรู้เลย 

                              ถึงแม้จะต้องจากกับนายคนเดิมแต่พวกเขาก็หวังที่จะได้พบกับนายพวกเขาอีกครั้ง

                             
                              เพราะงั้นพวกเขาจึงยังคอยปกป้องครอบครัวของนายพวกตนอยู่เสมอมา


                               "จะว่าไปนายของเธอก็ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยแฮะ" มุเก็นได้พูดออกมาด้วยความอิจฉานิดๆ

                               "ก็เขาเป็นหลานของท่านผู้นั้นนี่น่า "
                             
                               "เทียบกับนายฉันแล้ว เฮ้อ~!"

                               "น่าๆ อีกเดี๋ยวเขาก็คงจะเป็นเหมือนกับท่านาเดชิโกะอย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้นบางทีความคิดของนายอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้มั้ง"

                                "เฮ้อ~! อุตส่าห์มีท่านแม่ท่านพ่อที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นแท้ๆ ตูอยากจะร้องไห้~!"

                                มังกรจิ๋วทำหน้าสุดเอือมระอาเมื่อนึกถึงนายของตน ทั้งเอาแต่ใจ ขี้โวยวาย ใช้อารมณ์ บางครั้งก็ไม่มีเหตุผล ซึ่งแตกต่างกับท่านแม่ของเธอที่เป็นถึงรองขุนพลของ Little Nova เธอทั้งเก่งกาจและไม่มีใครเปรียบกับเธอได้ ในยามที่ทีมเกิดความสับสนหรือไร้ซึ่งหัวหน้าเธอนี่แหละจะมาเป็นคนสั่งการและบัญชาการทั้งทีมด้วยตัวคนเดียว

                                มีบางครั้งที่เธอต้องลุยเดี่ยวสู่สนามรบท่ามกลางศัตรูมากมาย และก็เป็นเธอที่ชนะได้ทุกศึก สถิติการแพ้ของเธอคือ 0 นั่นก็หมายความว่าเธอไม่เคยแพ้ใครเลยแม้สักครั้งเดียวรวมกระทั่งหัวหน้าของเธอเธอก็ยังไม่เคยแพ้เลยสักครั้งเพราะงั้นในทีมเธอจึงได้ขนานามว่า จักรพรรดินี หญิงสาวที่แข็งแกร่งที่สุดในทีม

                                "จะว่าไปเจ้านั่นไปอยู่กับใครล่ะ"

                                "ใครหรอ~!"

                                "สี่ขาทีมเราอ่ะ"

                                "อ้อ.... ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเขาจะได้พบกับนายใหม่แล้วนะ"












                         

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 110


                                   คำพูดของเขาทำเอาเซนะถึงกลับตัวสั่น ไม่ตายก็เข้าสู่ด้านมืด ทางเลือกไหนๆก็มีแต่แย่ๆทั้งนั้น แล้วเธอจะทำยังไงดี.....!


                                   "นี่ผมทำอะไรไม่ได้เลยหรือไงกัน!"

                                   "ถ้าตอนนี้ล่ะก็ไม่!"

                                   เขาตอบตามความเป็นจริงราวกับเป็นดาบทิ่มแทงอกของเธอ เธอจับอกตัวเองราวกับถูกดาบแทงจริงๆ หายใจเริ่มถี่ขึ้น เร็วขึ้น ราวกับรอบๆมีอากาศอยู่แค่นิดเดียว

                                   เขาแทบจะถอดใจแล้วตอนนี้

                                   "ผมอยากจะช่วยเขา"

                                   "เธอช่วยใครไม่ได้ทั้งนั้นนี่คือความจริงอันโหดร้าย"

                                   "ผมไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก!"

                                   "คนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้จึ้นก็คือเธอนั่นแหละ"

                                   "ผม!" สมองเธอแทบจะระเบิด ปริศนามากมายของเธอมันทำให้เธอแทบจะบ้าไปแล้ว เด็กหนุ่มที่รู้ดีจึงเดินไปสะกัดจุดเพื่อทำให้เซนะนั้นหลับไป  ชายหนุ่มได้อุ้มเซนะในท่าอุ้มเจ้าสาวก่อนจะหันไปทางเด็กสาวคนหนึ่ง

                                   "ฝากจัดการต่อด้วยนะฮิคาริ"

                                   "รับทราบ!"

                                    เธอรีบเข้ามารับร่างของเซนะจากชายหนุ่มอย่างทะนุถนอมก่อนจะมองมาหาชายหนุ่ม

                                    "ตายแล้วยังมาทางนี้ได้อีกนะเคียวสุเกะ"

                                    "ก็ฉันมันเก่งนี่น่า!"

                                    "ไม่ชมเลยนะ" เธอได้พูดประชดใส่

                                    "จะยังไงก็ช่างต่อจากนี้ก็คอยดูแลเซนะให้ดีๆด้วยนะขออย่าให้เซนะกลับมาเป็นเหมือนเหตุการณ์นั้น"

                                    "นั่นสินะ..." เธอได้คิดตามเมื่อวันนั้นมาถึง เมื่อ 8 ปีก่อนตอนที่พวกเขาออกเดินทางร่วมกัน ในวันนั้น....

                                    \\\  เซนะอาละวาด!!  ///

                                    ทุกคนในทีมจะต้องช่วยกันเพื่อหยุดเซนะและเพราะแบบนั้นจึงทำให้เกิดการสูญเสียเกิดขึ้น ยิ่งคิดยิ่งคนลุกเธอจึงส่ายหน้าออกเพื่อสลัดความคิดนั้นออกไป

                                    "โอเค ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ"

                                    "ไม่ไปเยี่ยมเรนเดียร์ก่อนหรอ~!"

                                    "ฉันไปมาแล้วล่ะ"

                                    "พลังนายสะดวกดีแท้"

                                    "ไปล่ะ!" พูดจบร่างของเขาก็ได้หายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าแสง ฮิคาริจึงได้แต่เหยียดยิ้มให้กับการจากลาอันแสนรวดเร็วในครั้งนี้ 

                                    หลังจากเคียวสุเกะจากไปฮิคารอก็ได้พาเซนะไปนอนที่ห้องพยาบาลและเนื่องจากเซนะมาที่นี่สมาชิกทีมใหม่จึงรีบมาเฝ้าเซนะ ตามมาด้วยราชันย์ทุกคนกับอาจารย์ประจำชั้นอย่างอุยและซุบารุ

                                    ทุกคนที่เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจึงมองมาที่ฮิคาริกันใหญ่

                                    "มองเค้าทำไมอ่ะ???"

                                    \\\  ยังจะต้องถามอีกหรอ!!!  ///
                                   

                                     ทุกคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวราวกับนัดกันมายังไงบังงั้น 

                                     "เธอรู้จักกับคนเมื่อกี้นี้ใช่ไหม"

                                     "yes"

                                     "แล้วเขาเป็นใครกัน!?"

                                     "ม่ายบอก~!!!"

                           

                                 

                                   
หน้าที่ 109


                                    ชินโด โครโน่ เขาเป็นลูกศิษย์ของเซนะอีกทีนึงแต่สาเหตุที่ตัวเธอเลือกเขาก็เพราะการพบกันของชายปริศนาที่มาพร้อมกับเฮเรน่าแม่แท้ๆของ ไอ ชินโดเองก็ดูจะรับรู้ถึงเจตนของเซนะเขาจึงยินดีที่จะร่วมสู้ไปด้วยกันกลับเธอ

                                   "ผมตกลงครับ!"

                                   "ขอบใจมากนะ"

                                   การสนทนาเหมือนจะจบลงไปได้ด้วยดีจนกระทั่งชินโดพูดต่อ

                                   "อาจารย์ครับผมมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟัง

                                   "อะไรหรอ???"

                                   "ตัวผมนั้นเติบโตมากลับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แม่ของผมเสียชีวิตด้วยโรคส่วนพ่อของผมได้ทอดทิ้งผมไปตั้งแต่เด็กๆผมจึงต้องอยู่คนเดียวจนอายุ 7 ขวบ อาของผมก็ได้รับผมเข้ามาเลี้ยงผมเกลียดพ่อของผมมาก เขาทิ้งทั้งแม่ ทั้งผม และทำให้อาต้องเดือดร้อน ผมสาบานกลับตัวเองเอาไว้แล้วว่าถ้าหากเจอกับเขาผมจะ.... "


                                    "ฆ่ามัน!!!"

                                   
                                    เซนะถึงกลับกลืนน้ำลายไม่ทัน เขาสัมผัสได้ถึงความอาฆาตแค้นอันแรงกล้าผ่านทางน้ำเสียง ถึงเธออยากจะบอกว่าไม่ควรทำแต่เธอก็รู้ว่าเขานั้นไม่สามารถห้ามโครโน่เอาไว้ได้แล้ว

                                    ....ชายคนที่เราเจอในตอนนั้นคงจะเป็นคุณพ่อของเขาสินะ
                                    จิตอันแรงกล้าของเขาถึงกลับทำให้เซนะตัวสั่น เมื่อเทียบกับชินโดในตอนนี้มันไม่มีทางเลยที่ชินโดจะเอาชนะเขาลงได้ แต่ถึงอย่างนั้น...

                                    "นี่คุณชินโดจะทำจริงๆอย่างนั้นหรอ"

                                    "ผมทำจริง!"

                                    "ผมจะไม่ห้ามคุณแต่ถ้าหากว่าวันที่คุณได้ทำมันสำเร็จมาถึงบางทีคุณอาจจะต้องกลับมาเสียใจในภายหลังก็เป็นได้"

                                    "ตัวผมได้เตรียมใจเอาไว้หมดแล้ว"

                                    "งั้นหรอ...  ถ้างั้นแค่นี้นะ"

                                    "ครับ" เธอวางสายไปอย่างสิ้นหวัง ลางสังหรณ์ของเธอบอกว่าเขาทำแน่ เธอกังวลมากว่าชินโดจะตาย เธอไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น

                                     \\   เราต้องทำอะไรสักอย่าง  //

                                     สาวน้อยได้หันหลังเตรียมที่จะวิ่งไปยังโรงเรียนที่โครโน่เรียนอยู่เพื่อหยุดเขาให้จงได้ แต่เธอก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อเห็นคนๆหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของเขา
                                     เขาเป็นชายหนุ่มอายุราวๆ 17 ผมน้ำตาลเรียบที่มาพร้อมกับชุดนักเรียน ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาให้ความรู้สึกเหมือนกับดี ราวกับ...

                                     \\  เป็นวิญญาณ  //

                                     "เธอกำลังจะทำอะไร"

                                     "ผมต้องไปห้ามคนๆหนึ่งไม่งั้นจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น!"

                                     "อย่าฝ่าฝืนอนาคตสิ!"

                                     "คุณหมายความว่ายังไง"

                                     "ชินโด โครโน่ เขาคนนั้นอีกไม่ช้าจะเข้าสู่ด้านมืดและเพราะเขาเข้าสู่ด้านนี้จักรวาลจึงสมดุล"

                                     "แล้วถ้าหากว่าผมเปลี่ยนมันล่ะ!"

                                     "เขาคนนั้นก็จะต้องตาย... "



                                   

                                   

                                 

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 108


                                    หลังจากผ่านอะไรมาตั้งมากมายในที่สุดเซนะกับโซเฟียก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งโดยคราวนี้มียูกะเพิ่มมาด้วยทำให้การใช้ชีวิตในบ้านหลังเล็กๆกันสามคนจึงเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่แต่งตัวกันเสร็จทั้งสามจึงเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นโดยมีพิเกียบินมาเกาะไหล่ของเซนะหลังจากที่ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา

                                    เซนะจึงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

                                   "ไปไหนมาอ่ะพิเกีย"

                                   "ทำงานๆฉันเองก็มีงานทำนะเฟ้ย!"

                                   "จริงอ่ะ!"

                                   "จริงดิ!"

                                   แต่เซนะไม่เชื่อจึงเตรียมถามต่อ

                                   "แล้วทำงานอะไรอ่ะ"

                                   "เด็กๆไม่ต้องรู้หรอก"

                                   แง่ม~!  เธอถึงกับทำแก้มป่องเมื่อถูกพิเกียปฏิเสธที่จะตอบ
ส่วนอีกสองคนที่ตามมาด้วยกันจึงได้แต่หัวเราะออกมา อันที่จริงหน้าตอนงอนของแต่ละคนนั้นส่วนมากจะไม่ค่อยน่าดูแต่สำหรับเธอยิ่งงอนมากยิ่งน่ารัก

                                   มันทำให้พิเกียถึงกับพลอยยิ้มตามไปด้วยเลย

                                   "งอนอยู่หรอเซนะ~!"

                                   "เปล่านิ!"

                                   "งอนอยู่สินะ"

                                   "ก็บอกว่าไม่ใช่่ไง!"

                                   "งอนอยู่จริงๆด้วย" เธอที่ถูกจับได้จึงหน้าแดงขึ้นพร้อมกับพูดปฏิเสธด้วยท่าทีลนลานแต่ก็เท่านั้นเพราะมันยิ่งเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองมากขึ้น สุดท้ายฝ่ายที่แพ้ก็คือเซนะ เธอในตอนนี้หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว พิเกียจึงบินเข้ามาใกล้พร้อมกับใช้ปีกลูบหัวเธอเบาๆ

                                    สำหรับพิเกียเซนะก็เปรียบได้กับลูกสาวคนนึงเลย จึงไม่แปลกที่เจ้าตัวจะเอาใจใส่เซนะอยู่เสมอ

                                    "ไม่เป็นไรหรอกเซนะ เธอจะงอนกลับฉันบ้างก็ได้ฉันไม่ว่าอะไรเธอหรอก"

                                    "อื่อ...!"

                                    หน้าของเด็กสาวค่อยๆกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ในตอนนั้นเองสายตาของเซนะที่มองพิเกียก็ได้แปลกไป คนที่สังเกตุเห็นถึงเรื่องนี้ก็มีแค่เซสึนะคนเดียวเท่านั้น

                                     ....อะไรกัน! สายตาแบบนั้นมันอะไรกัน เราตั้งแค่อยู่ด้วยกันกลับเซนะก็ยังไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย!!?

                                     ในไม่ช้าเซนะก็ได้พูดขึ้น

                                     "นี่พิเกียสำหรับฉันแล้วพิเกียเป็นอะไรอย่างงั้นหรอ.."

                                     "ลูกของเพื่อนที่ฉันต้องดูแล ก็แค่นั้นแหละ"

                                     สาวน้อยถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เธอตกใจในหลายๆอย่างที่พิเกียพูดขึ้นมาจนเธอต้องเงียบลงไปเพื่อขอเวลาในการคิด เธอคิดจนเดินมาถึงหน้าโรงเรียนแล้วเธอก็ยังคิดไม่ออก

                                     ในขณะที่กำลังคิดอยู่เธอก็เหลือบไปเห็นโอริกามิกับมุเก็นกำลังตะลุมบอนตีกันอยู่ เธอจึงหยุดคิดแล้วรีบวิ่งไปแยกทั้งสองออกจากกันแต่เนื่องจากเพราะเป็นเธอจึงไม่สามารถห้ามสองคนนี้ได้สุดท้ายยูกะกับเซสึนะก็ต้องมาห้าม

                                     ช่วงเช้าของวันจึงจบลงด้วยประการนี้ 

                                     เข้าสู่ช่วงบ่ายซึ่งเป็นตอนพักกลางวันพอดี

                                     เมื่อคืนของวันเซสึนะได้เล่าเรื่องสมาชิกของทีมที่ตนไปเลือกมาให้กับเซนะได้ฟังซึ่งก็มี เซนะ เซสึนะ ฮิคาริ โอริกามิ ดี อามาเนะ รวม 6 คน ซึ่งยังขาดอีกคนนึงถึงจะครบทีม ในตอนแรกเซนะก็ไม่คิดที่จะลงแต่เพราะการโน้มน้าวของยูกะจึงทำให้เซนะเปลี่ยนใจได้สำเร็จ
                                     สาเหตุที่เซสึนะอยากจะให้เซนะลงให้ได้ก็เพราะเขาเห็นว่าเธอยังคาดประสบการณ์อีกเยอะเมื่อเทียบกับตัวเองในอดีต ในตอนนั้นเซนะแทบจะเทพจนเขายังต้องชิดซ้ายไปเลย พลังในตอนนั้นของเธอมากมายจนเหนือยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วๆไปสักอีก พอคิดแบบนั้นเซสึนะจึงอยากให้เธอลงแข่งเพื่อให้เซนะกลับมาเก่งเท่าเดิมให้ได้

                                     เซนะจึงขอตัวแยกไปคนเดียวบนดาดฟ้าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน เมื่อสายถูกรับเธอจึงไม่รีรอที่จะพูดคุยกับเขา

                                     "ฮัลโหลครับคุณโครโน่"

                                     "มีอะไรหรอครับอาจาย์"

                                     "ผมอยากขอให้คุณมาร่วมสู้ไปกับผม!"


                                   

                                   

                                   

                                 
หน้าที่ 107


                                หลังจากที่สนทนากันอามาเนะก็เตรียมจะไปอาบน้ำแต่แล้วอยู่ๆโทรศัพท์ตนก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงรีบวิ่งมากดรับสายแล้วตวาดใส่มันอย่าง
ฉุนเฉียว

                               "เดี๋ยวแม่ตบดิ้นเลยจะโทรมาอีกทำไมมิทราบ"

                               "จะตบแม่อย่างงั้นหรอ~!"

                               เธอถึงกับหน้าซีดทันทีที่ได้ยินเสียงของคนโทรและเพื่อความชัวร์เธอจึงมองไปดูรายชื่อคนโทรเข้า  ชัดเจน ท่านแม่!!!... สาวน้อยจึงรีบปรับอารมณ์อย่างไว

                               "ข..ขอโทษค่ะท่านแม่หนูนึกว่าเป็นเพื่อนของหนูหนูก็เลย..."

                               "เพื่อนรักทักกันแรงจังนะ"

                               เธอถึงกับเถียงไม่ออก แม่ของอามาเนะนั้นเป็นแค่คนธรรมดาที่ทำธุรกิจเล็กๆอย่างการเดินเรือข้ามสมุทรข้ามทวีปจนรวยเป็นอันดับสองรองจากแม่ของโอริกามิ
                               ในตอนเด็กๆเธอกับแม่อาศัยอยู่ด้วยกันและท่านก็คอยสอนสั่ง
เธออยู่เสมอสำหรับเธอนั้นชื่นชมในตัวของท่านแม่จนหมดใจ เธออยากเป็นแบบท่าน เธออยากจะเก่งได้แบบท่าน อยากทำได้แบบท่าน เธออยากจะเป็นเหมือนกับท่าน

                               และที่สำคัญเธอไม่อยากทำให้ท่านแม่ผิดหวัง

                               "หนูผิดเองคะ" เธอสำนึกผิดหมดใจ

                               "วันหลังอย่าทำอีกนะจ่ะอามาเนะ"

                               "ค่า~!"

                               "เอาล่ะเข้าเรื่องนะจ่ะที่แม่โทรมาวันนี้ก็เพราะอยากจะให้ลูกช่วยเพื่อนลูกสู้ด้วยนะจ่ะ"

                               "ให้สามัคคีกับเพื่อนสินะคะ หนูได้ยินคุณแม่พูดจนหนูจำได้ขึ้นใจแล้ว" ตอนเด็กๆเธอได้รับการสั่งสอนมาแบบจัดเต็มยิ่งกว่าอาหารสามมื้อสักอีกแต่เธอก็ไม่ได้ไม่ชอบและฝึกฝนจนสำเร็จวิชาได้ในที่สุด

                               และเพราะผลลัพธ์ของมันจึงทำให้เธอได้รับสมญานามว่าแข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนฮาคุโอตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียน

                               "ขอบใจมากนะจ่ะที่จำได้"

                               "แค่นี้ใช่ไหมคะ"

                               "แค่นี้แหละ" สายได้ถูกตัดอีกครั้ง ในครั้งนี้มันทำให้เธออยากเอาจริงขึ้นมานิดนึงเพราะการได้คุยกับท่านแม่ของตน

                                อีกทางด้านหนึ่งที่โรงเรียนชิโอมิเพราะเมื่อคืนมีเรื่องของเซนะกับโซเฟียจึงทำให้เซนะไม่กลับมาบ้านของโอริกามิเพิ่มเติมมาคือเธอไปอยู่กับเซสึนะแทนเพราะงั้นเช้าของวันนี้โอริกามิจึงเดินมาโรงเรียนคนเดียวกับมุเก็นแทน

                                ไหล่ของเธอได้ตกลงพร้อมกับไหล่ของมุเก็น

                                "เอาน่าๆ ยังไงก็ได้เจอกันที่โรงเรียนอยู่ดี"

                                "ก็มันไม่ใช่นี่น่า~!" สาวน้อยได้ตระโกนใส่มังกรจิ๋วด้วยความเสียใจ
             
                                "ฉันอยากอยู่กับเซนะตลอดเวลานี่น่า"
 
                                "ชั่งมันเตอะ!"

                                \\ ชั่งไม่ได้นะ! //   สาวน้อยตระโกนลั่นออกมาใกล้ๆกับหูของมุเก็นทำเอาเจ้าตัวถึงกับร่วงลงมาร้องโอดครวญ

                                "หูช๊าน~!"

                                เธอไม่สนใจมุเก็นแล้วเริ่มบ่นความในใจของตนเองออกมา

                                "เค้าอยากอ้อนเซนะอ๊า~!"

                                "ก็อ้อนอยู่ทุกวันไม่ใช่หรอ~!!!"

                                "เค้าอยากอาบน้ำให้เซนะอ๊า~!"

                                "ปล่อยเค้าอาบเองเตอะ!"

                                "เค้าอยากทำอย่างนู้นอย่างนี้กับเซนะอ๊า~!"

                                "สุดท้ายเธอก็คิดแต่เรื่องแบบนั้นนี่หว่า~!!!"

                                มุเก็นถึงกับแยกเขี้ยวตวาด นั่นจึงทำให้เกิดการชกต่อยกันเกิดขึ้นโดยมุเก็นกับโอริกามิทะเลาะกันตรงหน้าทางเข้าประตูโรงเรียน ทำเอาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับเอือมระอา
                               

                             

                             

                             

                               
หน้าที่ 106


                             เจ้าหญิงของจักรวาล เธอพำนักอยู่ที่ เอเวอร์การ์เด้น เกาะลอยฟ้าที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกจากจัดรวาลที่ 1 ซึ่งที่นั่นมีสถานที่ที่งดงามจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ได้เลย มันมีชื่อว่า สวนอีเด็น

                             หลังจากที่โอดินได้ข้อสรุปจึงรีบเทเลพอร์ทมายังเอเวอร์การ์เด้นทันที ที่นี่มีม่านพลังรวมถึงการป้องกันระดับสูงชนิดที่ว่ามดสักตัวก็ยังฝ่าเข้ามาไม่ได้และเพราะเนื่องจากเป็นโอดินเขาจึงสามารถผ่านมาได้ไม่ยาก

                             ทางเดินนั้นทำจากวัสดุที่แข็งยิ่งกว่าเพชรพร้อมกับสามารถเลื่อนไปข้างหน้าได้ราวกับบันได้เลื่อน เพียงไม่ถึง 10 นาทีตัวเขาก็มาถึงยังหน้าประตูของห้องๆหนึ่งซึ่งที่นี่เป็นที่ที่คานาเลียชอบอยู่ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ประตูจึงเปิดออก

                            สิ่งที่ชายแก่ได้พบหลังจากประตูเปิดคือสวนที่มีดอกไม้สวยงามและต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เห็นเด่นชัดอยู่เบื้องหน้า เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหมดต่างพากันมารวมอยู่ตรงจุดๆเดียวซึ่งก็คือใต้ตันไม้ใหญ่

                            โอดินจึงค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆเพื่อสัมผัสกับที่นี่อย่างเต็มอิ่ม ตัวเขาที่ค่อยๆเดินได้เริ่มมองไปเห็นคนๆหนึ่งที่กำลังเล่นกับเหล่าสรรพสัตว์อยู่ เธอคือ คานาเลีย
                            หญิงสาวที่เห็นโอดินจึงส่งยิ้มให้

                            "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ"

                            " 2 เดือนกับอีก 5 วันได้ครับ"
                            ชายแก่รีบเปลี่ยนท่าเป็นท่าคุกเข่าทันที

                            "วันนี้ตัวผมมีเรื่องจะรายงานให้ท่านทราบครับ"

                            "ฉันอนุมัติค่ะ" เธอก็เหมือนกับเซนะมิโกะสายเลิอดแท้ที่มีพลังในการหยั่งรู้อนาคตจึงไม่แปลกที่เธอจะรู้ถึงเหตุการณ์ในที่ประชุมที่เพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อเร็วๆนี้ โอดินเองก็รู้ถึงพลังนี้ดีจึงไม่ตกใจ

                            "รับทราบแล้วครับ" ชายแก่รีบลุกขึ้นพร้อมกับสะบัดผ้าคลุมหันหลังให้กับหญิงสาวก่อนจะก้าวท้าวเดินออกไป

                            ...พลังในการหยั่งรู้อนาคตนี่สินะคือพลังของราชาหากท่านคานาเลียยังคงอยู่ lightlord ก็ไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน

                            หลังจากที่กลับมายังที่ประชุมทุกคนก็ได้หันกลับมาสนใจโอดินอีกครั้ง

                            "ท่านคานาเลียอนุมัติแล้วเพราะงั้นเราจะให้จักรวาลไร้อันดับได้เข้าแข่งขันรีบแจกจ่ายบัตรเชิญให้กับตัวแทนของแต่ละจักรวาลโดยเร็วที่สุด อีก 5 วันงานประลองจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง!!!"

                            ทุกคนในสภาต่างขานรับเขา

                            ไม่นาน เบลเซ่กับอีคริฟก็ได้เทเลพอร์ทออกจากที่ประชุม ตามมาด้วยไกอา ไซโอ และคนอื่นๆจนในที่สุดก็เหลือแต่โอดินคนเดียวในที่ประชุม และเพราะเรื่องราวข้างต้นนี่จึงเป็นเหตุให้มีบัตรเชิญมาถึงเซนะ

                            ในเช้าของวันรุ่งขึ้นซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 4 วันก่อนงานแข่งจะเริ่ม อยู่ๆก็มีเสียงดังจากโทรศัพท์ของใครบางคนก็ได้ดังขึ้น สาวน้อยเจ้าของโทรศัพท์จึงลุกขึ้นจากเตียงในสภาพเสื้อเชิ๊ตตัวเดียวแถมยังไม่ติดกระดุมให้เรียบร้อยจนเผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจสุดยิ่งใหญ่กับแพนตี้สุดเซ็กซี่

                            เธอได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านชื่อของคนโทรมาซึ่งชื่อที่ปรากฏขึ้นมาก็คือ เซเรน่า เธอจึงรีบรับสายแล้วตวาดไปทีนึง

                             "โทรมาทำไมมิทราบ~!!!"

                             "โทษทีๆพอดีฉันอยากขอให้เธอมาเข้าร่วมศึกตัวแทนจักรวาลน่ะ ได้ม่ะๆ"
                           
                             "ก็ได้อยู่หรอกแต่ฉันขอแข่งแบบเล่นๆนะ ขี้เกียจเอาจริง"

                             "จ้าๆ แค่นี้นะ bye~!"


                           
                           

                         
หน้าที่ 105

 
                               ชายหนุ่มได้เปิดแถบสีฟ้าให้ทุกคนดูรวมถึงสร้างแท็บอันใหญ่อีกอันออกมาตรงโอดินและแท็บนั่นก็ค่อยๆเล่นวิดีโอของมันไปเรื่อยๆมันเป็นเรื่องราวการต่อสู้อันห้าวหาญของเด็กสาวและผองเพื่อน พวกเขาต่างต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งสำคัญหลายๆอย่างของพวกตนจนในที่สุดข่าวคราวเกี่ยวกับพวกเขาก็ได้แพร่สะพัดออกมาจากในจักรวาลของตน เวน่อมได้ไปเห็นมันเข้าตอนที่กำลังเช็คงานของตนอยู่ที่สำนักงาน
                               และเรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็คือเรื่องราวของพวกเซนะนั้นเอง
                               ทั้งที่ประชุมต่างพากันจับจ้องไปที่วิดีโออย่างใจจดใจจ่อ ถ้าหากเป็นการ์ตูนพวกเขาก็ยังพอรับได้แต่นี้คือของจริงและเด็กสาวที่อยู่ในภาพก็ได้
ทำมันจริงๆ  เธอสามารถเอาชนะคนจากอนาคตลงได้ โค่นราชาของมิติที่สี่ กอบกู้อนาคตจากเทพจักรกลสุดชั่วร้าย เป็นผู้ยุติสงครามความฝัน เอาชนะ duolord ทั้ง 7 ที่เป็นตำนาน แถมยังสามารถเอาชนะ Master king ของมิตินั้นลงได้

                               การกระทำของเธอจึงเป็นที่สนอกสนใจของทุกคนเป็นอย่างมากจนถึงขั้นโอดินต้องพูดขึ้นมา

                               "นี่เด็กชายคนนี้เป็นใครกันแน่!?"

                               "เธอเป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่เด็กผู้ชาย"

                               "ผู้หญิง!!" ทุกคนต่างพร้อมใจกันพูดขึ้นราวกับนัดกันมา

                               "เธอเป็นเด็กสาวนามว่า ชิราสากิ เซนะ เธอเป็นเด็กสาวที่จำอะไรไม่ได้แถมไม่มีพลังและเกือบท้ายคลิปทุกคนคงจะได้เห็นกันแล้วเรื่องที่รองขุนพลของฝั่ง darklord พูดขึ้น" เวน่อมที่พูดจบจึงได้กวาดตาไปที่ทุกคนในที่ประชุมในตอนนี้ทุกคนในสภาอยู่ในสภาพที่ถึงกับเหงื่อตก

                               ในสิ่งที่เฮเรน่าได้พูดขึ้นทุกคนพอสรุปได้แล้วว่า เด็กสาวนามว่าเซนะเป็นที่หมายปองของ darklord แต่เพราะอะไรกันล่ะ!?

                               "เด็กคนนี้เป็นอะไรกับ darklord กันแน่???"

                               "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ที่ๆเธอเรียนอยู่กับมีผู้พิทักษ์ของท่านคานาเลียอยู่ครบทุกคนและเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการพบกันของรองขุนพลระหว่างdarklord กับ lightlord เกิดขึ้นด้วยแถมข่าวที่ฉันได้มาล่าสุด duo ของเธอคือสมาชิกของ darklord อีกด้วย"

                               "เป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายเลยงั้นสินะ"โอดินได้นั่งลงพร้อมกับลูบเคราของตนไปมา เขากำลังใช้สมาธิเพื่อเชื่อมโยงเรื่องทุกอย่างอยู่ ในขณะนั้นเอง J ก็ได้ออกความเห็นขึ้นมา ตัวเขามีพลังพิเศษบางอย่างจึงทำให้จิตรสังหารของเวน่อมไม่ได้ผลใดๆกับเขาเลยทั้งสิ้น

                               "เราควรที่จะฆ่าเธอซะหากมีความเกี่ยวเนื่องกับ darklord ขนาดนี้"
                             
                               "ใจเย็นก่อน J ฉันคิดว่าหากฆ่าเธอซะอาจจะมีอะไรร้ายแรงตามมาก็ได้" ไกอาได้พูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง ไกอาเองก็มีพลังพิเศษที่ทำให้จิตสังหารของเวน่อมนั้นไม่มีผลเหมือนกัน เพราะงั้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงพูดได้

                               "ฉันพอจะเข้าใจนายแล้วว่าทำไมนายถึงเลือกเขาให้มาเข้าร่วมงานนี้เวน่อม นายอยากจะพิสูจน์ว่าเด็กคนนี้เป็นภัยต่อพวกเราหรือไม่งั้นสินะ"

                               "ก็ประมาณนั้น" เขาเหยียดยิ้มให้กับไซโอก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ ตัวเขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าไซโอจะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเขาได้ชัดเจนแจ่มแจ้งแบบนี้ ไซโอเองก็พอๆกับไกอาตัวเขามีร่างกายที่สามารถทนทานต่อทุกจิตสังหารได้จึงไม่แปลกที่จะสามารถพูดตอบโต้ได้ตามปกติ

                                และแล้วในระหว่างที่คุยกันโอดินก็ได้ข้อสรุปของเรื่องนี้ เขาได้ใช้ไม้เท้าของตนเคาะที่พื้นเบาๆเพื่อคลายจิตสังหารของเวน่อมออกทั้งหมด

                                "ฉันจะไปหาท่านคานาเลียเพื่อขอการอนุมัติจากท่านให้จักรวาลนี้เข้าร่วมงานประลองได้!"

                               
                             















                               
                             

หน้าที่ 104


                                   ในตอนเริ่มการประชุมก็ได้เกิดข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการ darklord โอดินจึงได้จัดการด้วยการยื่นข้อเสนอใหม่นั่นก็คือการเพิ่มกำลังรบซึ่งเขาก็คิดว่านี่จะทำให้ความขัดแย้งยุติลงแต่เปล่าเลยทุกอย่างกับหนักขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากความเห็นที่แตกต่างกันในการเลือกสมาชิก
                                   ไซโอได้ยื่นข้อเสนอต่อที่ประชุมเรื่องการที่จะนำ master king ของแต่ละจักรวาลมาช่วยในการสู้รบเพราะเนื่องจากฉายานี้จะได้มาก็ต่อเมื่อ
คนทั้งโลกยอมรับ แต่อีคลิฟก็ได้ค้านขึ้นมาเนื่องจากเธอนั้นคิดว่าเหล่า master king ในแต่ละโลกนั้นระดับพลังมันต่างกันและเกณฑ์ในการเลือกก็ต่างกันด้วย ทางด้านของไกอากับเวน่อมเองก็ไม่เห็นด้วยเช่นกันทำให้ข้อเสนอของไซโอเหมือนถูกปฏิเสธไปแล้ว กลับมาทางด้านของ j กับ เบลเซ่ที่ดันยื่นข้อเสนอออกมา
โดยทางด้านของ j ได้ขอให้เอากำลังพลมาจากจักรวาลที่ 1 ถึงจักรวาลที่ 50 เพื่อจำกัดวงกว้างในการเลือกสมาชิก

                                  เดิมทีจักรวาลนั้นมีมากมายไพศาลโดยมีอีกหลายจักรวาลที่ยังไม่ถูกค้นพบและจักรวาลเหล่านั้นก็มีศักยภาพไม่เท่ากันโดยเคยมีการจัดอันดับของจักรวาลขึ้นมาและก็ได้เกิดลำดับของจักรวาลขึ้นโดยจักรวาลที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้ชื่อว่า จักวาลที่ 1 ยิ่งเข้าใกล้ 1 มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นจักรวาลที่แข็งแกร่งขึ้นมาก โดยคนของในสภานี้ก็มีจักรวาลที่ 1 ถึง 7 คนจากทั้ง 11 คน นอกนั้นก็เป็นคนจากจักรวาลที่ 2 , 3 , 4 ตามลำดับ ในศึกงานประลองในอดีตนั้นจักรวาลของพวกเซนะได้ทำการถอนตัวไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มการแข่งและคู่แรกของพวกเขาก็คือคนของจักรวาลที่ 1 ในตอนนั้นเพราะการสละสิทธิ์อย่างกระทันหันจึงทำให้ทุกจักรวาลประนามคนของจักรวาลนี้ บางคนก็บอกว่าไม่กล้าสู้กับจักรวาลที่ 1 บางคนก็บอกว่าคนของจักรวาลนี้ขี้ขลาด และผลจากการที่จักรวาลนี้ถอนตัวไปจักรวาลของพวกเซนะจึงได้เป็น ไร้อันดับ หรือก็คือ อ่อนแอที่สุดในทุกจัดรวาลนั่นเอง

                                  ทางด้านของเบลเซ่จึงพูดเสริมต่อจากของ j โดยขอให้มีการจัดการประลองกันขึ้นมาให้เหมือนกับในอดีตเพื่อหาตัวแทนจากทุกจักรวาลเพราะเนื่องจากทุกจักรวาลต่างก็มีศักยภาพเพิ่มขึ้นกว่าอดีตบางทีในงานนี้อาจจะมีจักรวาลที่แข็งแกร่งจนพอฟัดพอเหวี่ยงกับจักรวาลที่ 1 ก็เป็นได้  สิ่งที่เบลเซ่เล็งเอาไว้ลึกๆภายในใจคือการเห็นจักรวาลที่ 1 ถูกโค่นลง และเป็นจักรวาลที่ 3 ของตนนั้นที่เป็นคนทำ

                                   เขาคอยดูท่าทีของเหล่าผู้บริหารที่มาจากจักรวาลที่ 1 ซึ่งทุกคนก็ทำท่าชิวๆกัน พวกเขาต่างพากันรู้เจตนาของเบลเซ่แต่ก็ยังยิ้มอยู่ได้ เพราะว่าพวกเขานั้น ไม่มีทางแพ้!

                                   "งั้นก็เอาตามนี้ไม่ใครค้านแล้วใช่ไหม"

                                   "ครับ/ค่ะ"

                                   "แต่ฉันมี!"

                                   ทุกคนต่างพากันมองไปทางต้นเสียง

                                   คนที่พูดก็คือเวน่อม ชายผู้เต็มไปด้วยปริศนา

                                   "นายจะค้านอะไรอีกล่ะเวน่อม"

                                   "หุบปาก!"

                                   จิตสังหารของเขาแผ่ออกมาทั่วห้องประชุมและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้รับรู้ถึงพลังของเวน่อม อีคริฟที่ตอนแรกเถียงกับเวน่อมตอนนี้เธอกับตัวสั่นจนไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวคนหนึ่ง

                                   จิตสังหารอะไรกัน แม้แต่คนอย่างเรายังถึงกับตัวสั่นได้เนี่ยนะ!?....

                                   "มีอะไรก็ว่ามาสิเวน่อมเธอไม่ต้องใช้จิตรสังหารระดับนี้กับทุกคนก็ได้"

                                   "ฉันไม่ต้องการคนเกะกะช่วยเข้าใจผมหน่อยจะได้ไหมปู่โอดิน"

                                   "ถ้าอย่างนั้นก็ได้ มีอะไรก็ว่ามาสิเวน่อม!"

                                   "ผมอยากจะขอเพิ่มอีกจักรวาลนึงเข้าไป"

                                   "ถ้าหากเป็นจักรวาลที่ต่ำลงไปจนไม่เกินจากจักรวาลที่ 100 ก็พอรับได้อยู่" เนื่องจากความแข็งแกร่งที่ห่างกันเกินไปในอดีตจึงเคยมีคนตายเกิดขึ้นและเพื่อป้องกันเหตุการณ์นั้นจึงได้มีกฏบัญญัติเอาไว้ข้อนึงนั่นก็คือการ
ห้ามจักรวาลที่มีระดับต่างกันเกิน 50 สู้กันเอง

                                   แต่ที่เวน่อมเล็งไว้มันช่างแหกยิ่งกว่ากฏ เพียงแค่เขาพูดทุกคนต่างก็ตกตระลึง

                                   "จักวาลที่ผมจะขอคือ จักรวาลบ๊วย หรือก็คือ จักรวาลไร้อันดับนั่นเอง!"

                                   "จะบ้าหรือยังไงเวน่อมนี่มันเท่ากับเป็นการฝ่าฝืนกฏของจักรวาลเชียวนะ!!"

                                   โอดินได้ยืนขึ้นด้วยความตกตระลึง

                                   "ในอดีตจักรวาลนั้นได้ถอนตัวไปจึงทำให้ไร้อันดับและถูกจักรวาลอื่นๆดูถูกบางทีถ้าพวกเขาเกิดลงแข่งขึ้นมาจริงๆพวกเขาอาจจะไม่ใช่จักรวาลที่อ่อนที่สุดก็เป็นได้!"

                                   "นั่นมันก็อาจจะจริงแต่ถ้าหากว่าพวกเขาอ่อนแอจริงๆบางทีในงานนี้อาจจะมีคนตายเกิดขึ้นเหมือนครั้งในอดีตก็เป็นได้และงานนี้ก็มีจักรวาลอันดับต้นๆอยู่เต็มไปหมดหากไม่เก่งพอพวกเขาอาจจะได้รับบาดแผลทางใจเพิ่มไปอีกก็ได้!"

                                   "แต่ผมว่ามันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก..."

                                   คราวนี้เป็นฝ่ายของเวน่อมที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ สายตาของทุกคนยิ่งทวีความสนใจไปที่เขามากยิ่งขึ้น


                                   "เพราะผมเริ่มที่จะเห็นมันแล้วล่ะ ถึงพลังของจักรวาลนี้!"
                                 

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 103


                                "ฉันขอสัญญานะว่าฉันจะเป็นกำลังให้เซนะอยู่เสมอ"

                                เธอได้พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่พาไป  ต่อจากนี้เซนะต้องได้พบเจอกับเรื่องต่างๆอีกมากมายเพราะฉะนั้นเธอจึงอยากจะคอยอยู่เคียงข้างกับเซนะ ทั้งจากนี้ และตลอดไป...

                                "ผมเองก็สัญญาด้วยนะว่าผมจะเป็นกำลังให้กับคุณ ตัวผมรู้ดีว่าตัวเองน่ะไร้พลังแต่ถึงอย่างนั้นผมก็จะพยายามฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นๆ มากๆๆๆๆๆๆ มากที่สุด~!!! จนถึงวันนั้น วันที่ผมจะเป็นฝ่ายปกป้องคุณบ้าง... "

                                สายลมเย็นๆได้พัดผ่านพวกเขา มันทำให้ผมของพวกเธอปลิวไสวไปมา
                                ดวงตาของทั้งสองได้จ้องมองกัน มันถูกแสงของฟากฟ้ายามค่ำคืนกระทบจนดูเปล่งประกายงดงามยิ่งกว่าอัญมณีใดๆ

                                "นี่เซนะพวกเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนจะได้ไหม"

                                "ถ้าคุณโซเฟียไม่รังเกียจผมล่ะก็ผมก็ยินดีครับ"

                                "อื้ม~!" คำสั้นๆแต่มาพร้อมกับรอยยิ้มทำเอาเซนะถึงกับหน้าแดง  เธอที่ปกติจะเป็นคนที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามหน้าแดงแท้ๆแต่พอโดนเข้าเองเธอถึงกับทำอะไรแทบไม่ถูก

                                ตัดภาพมาที่ทางฝั่งของโอริกามิที่กำลังนั่งดูเหตุการณ์นี้อยู่ที่บ้าน เธอที่ได้ยินว่าเซนะจะไปอยู่กับโซเฟียเธอถึงกับร้องไห้งอแงออกมากันเลยทีเดียว   แง๊~!!!

                                เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นก็เหมือนกับท้องฟ้าที่ผ่านพ้นลมมรสุมมาได้ ที่ตรงนี้ ณ บนดาดฟ้าของโรงเรียนได้มีความรักบทใหม่ปรากฏขึ้น
ใบหน้าของทั้งองได้ค่อยเขยิบเข้าหากันอย่างช้าๆ และในไม่ช้าริมฝีปากของทั้งสองจึงได้ประกบกัน มันแตกต่างจากตอนของโอริกามิและคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิงตรงที่เซนะนั้นมีอารมณ์ร่วมด้วย ทั้งสองได้ดูดปากกันอย่างเมามันส์โดยลืมเรื่องทุกอย่างไปจนหมด ในตอนนี้มีแค่พวกเขาสองคนก็เท่านั้น

                                ทั้งสองได้ดูดปากกันครั้งแล้วครั้งเล่า...


                                ลิ้นของพวกเธอได้แลกกันไปมาราวกับจะกลืนกันอยู่แล้ว...


                                และในไม่ช้าเซนะก็ได้ค่อยๆเอนตัวล้มลงไปนอนกับพื้นจนปล่อยให้โซเฟียขึ้นคร่อมตนในที่สุด เธอไม่รอช้าที่จะละเลงจูบอันเร่าร้อนนี้อย่างเมามันส์ 

                                ลีลาของเธอนั้นจัดว่าเด็ดสำหรับใครหลายๆคน  และเพราะลีลาการเย้ายวนแบบนี้จึงทำให้เซนะถึงกับไม่ขัดขืนใดๆทั้งสิ้นและปล่อยให้เธอทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเธอจะพอใจ

                                จูบอันหอมหวานนี้ทำให้ทั้งสองถึงกับไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กลิ่นกายของพวกเธอปนเปกันมั่วไปหมดจนแยกไม่ออกแล้วว่ากลิ่นนี้เป็นของใคร
ขาอ่อนๆขาวๆของโซเฟียได้ขยับไปมาอย่างช้าๆเพื่อให้เข้ากับลีลา ถึงจะมีกระโปรงสวมเอาไว้อยู่แต่ทุกคนก็เห็นขนาดก้นของเธอได้อย่างชัดเจนอันเนื่องมาจากลีลาของเธอ  เหงื่อของพวกเธอเริ่มไหลออกมาอย่างช้าๆและในขณะที่พวกเธอกำลังจะทำกันขั้นต่อไปนั้น

                                จอภาพก็ได้เกิดดับลงไปเสียก่อน!

                                " 'oh shit!!' , 'oh no~!!!!' , 'fuck you~!!!' , 'ไอจอภาพเฮงซวย~!!!' , 'ข้าเกลียดท่าน~!!!' , 'เอาฉากนี้คืนมา~!!!' , 'ยูริช๊านนนนน~!!!' , 'เอาฉากเรทคืนมา~!!!' , 'ดับทำแมวอาร๊าย~!' , 'ฉายต่อสิโว๊ย~!!!' .... "

                               ราวกับเป็นการประชด จอภาพที่ดับไปแล้วจึงกลับมาฉายใหม่อีกครั้งแต่คราวนี้ดันเปลี่ยนไปเป็นฉากของการประชุมที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีจดหมายมาถึงเซนะแทน

                               "พวกเราจำเป็นต้องหาสมาชิกเพิ่ม!"

                               ผู้เฒ่าสูงสุดและมีอำนาจใหญ่สุดได้พูดเช่นนี้ต่อหน้าระดับผู้นำผู้บริหารจักรวาล พวกเขาทุกคนได้เงียบไปหลายต่อหลายนาทีหลังจากที่ได้ฟังความคิดเห็นของผู้เฒ่าสูงสุด บางคนก็เริ่มจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็หันไปหาคนใกล้ๆแล้วปรึกษา บางรายก็นั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว
                               
                               ในเวลาอันพร้อมเพรียงกันทุกคนก็ได้ตัดสินใจกันเสร็จสิ้น และพวกเขาก็เชื่อมั่นในคำตอบของพวกเขา


                               "ถ้าปู่ว่ายังไงผมก็ว่าตามนั้น"


                               "ฉัน ok กับข้อเสนอนี้"


                               "ถึงจะไม่ค่อยโดนใจแต่ฉันก็ตกลง"

                             
                               "ฉันเห็นด้วย"

     
                               "ผ่าน~!"

                             
                               "good idea!"

 
                               "ตามนั้นเลย"

 
                               "แล้วแต่ท่านจะบัญชา"


                               "เอาตามนี้ละกัน"

                             
                               "ตกลง!"

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 102



                                    สาวน้อยตรงหน้าได้จับจ้องมาที่เด็กหนุ่มอย่างไม่กระพริบตา เธอแค่สงสัยว่าเด็กหนุ่มจะตอบคำถามของเธอกลับมาอย่างไรเพราะอันที่จริงเธอรู้เรื่องทุกอย่างหมดอยู่แล้ว 

                                    "ทำไมคุณถึงต้องโกหกผมด้วยล่ะ"

                                    "ใจเย็นๆก่อนเซนะ ฉันพออธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้"

                                    ถึงจะไม่ทั้งหมดก็เถอะ  เด็กหนุ่มได้แต่พูดอยู่แต่ในใจเพราะไม่กล้าพูดต่อหน้าเธอต้นไม้ได้ปลิวไสวไปมาเพราะกระแสลม ใบไม้ที่ร่วงหล่นได้สร้างบรรยากาศอันหน้าพิศวงขึ้น 

                                     "ว่ามาสิครับผมรอฟังอยู่"

                                     "เอิ่ม... คือแบบที่ฉันต้องโกหกเธอนั่นก็เพราะ.... "

                                     \\ เพราะอะไรล่ะ! // เขาพึ่งจะฉุดคิดขึ้นมาได้เมื่อกี้นี้ว่าตนไม่มีเหตุผลหรืออะไรทั้งสิ้น และถ้าพูดความจริงออกไปมันอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราต้องพังลงก็เป็นได้  ในขณะที่ทุกอย่างกำลังตึงเครียดก็ได้มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังขึ้นมา มันคือเสียงของมุเก็นกับพิเกียที่กำลังนั่งกินป๊อบคอร์นกับน้ำโคล่าอยู่บนม้านั่งราวกับกำลังนั่งชิวๆอยู่ในโรงหนังยังไงยังงั้น

                                     สาเหตุที่ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขาก็เพราะเจ้าสองตัวนี้แอบนั่งเนียนๆอยู่ในขณะที่คนอื่นๆกำลังคุยกันอยู่นั้น และถ้าหากว่าถามว่าอยู่ตั้งแต่ตอนไหนคำตอบคือตั้งแต่เริ่มเพราะเจ้าสองตัวนี้โดนผู้อำนวยการไล่ไปเล่นนอกอาคารเรียนในข้อหาทะเลาะวิวาทกันในอาคารเรียน

                                     เมื่อรู้ว่าทุกคนรู้สึกตัวแล้วนกน้อยจึงถอดแว่นดำออกแล้วหันมามองเซนะที่กำลังทำหน้าเอ๋ออยู่  

                                     "อ้าว พิเกียมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ"

                                     "ตูอยู่ตั้งแต่เริ่มเลย"

                                     "แล้วนี่คิดจะนั่งดูอย่างเดียวเลยเนี่ยนะ"

                                     "ก็ฉันมันคนนอกนี่น่า~!" เจ้าตัวได้นั่งใส่แว่นดำก่อนจะกินป๊อบคอร์นอย่างอเร็ดอร่อยรอดูพวกเซนะคุยกันต่อไปทำเอาบรรยากาศซีเรียสหายหมด ในจังหวะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่มุเก็นที่เห็นโอกาสจึงได้แอบกินป็อบคอร์นของนกน้อยจนเกือบหมดผลก็คือเมื่อนกน้อยมากินต่อแค่ไม่กี่ทีป๊อบคอร์นก็หมดเสียแล้ว พิเกียที่เดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนร้ายจึงรีบหันหน้าไปหามุเก็นจนเกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้น ในตอนนั้นเซนะจึงต้องเข้ามาห้ามปรามแต่ก็ถูกซัดจนน่วมแทนท้ายที่สุดโอริกามิที่ได้รับโทรศัพท์โทรตามจากเซเรน่าจึงรีบวิ่งเข้ามาจัดการทั้งสามคน
                                     เย็นของวันนั้นบนดาดฟ้าของโรงเรียนที่แสงอาทิตย์ยามเย็นได้สาดส่องลงมาได้มีชายหญิงคู่หนึ่งยืน/นั่งคุยอยู่บนนั้น

                                     เซสึนะได้ออกมาคุยในร่างของโซเฟียโดยยืนรับลมอยู่ข้างๆเซนะ

                                     "ฉันขอโทษด้วยนะเซนะคือความจริงแล้วฉันน่ะ กลัวมาก กลัวว่าเซนะจะเกลียดฉัน ตัวฉันหลอกเธอว่าตัวเองเป็นผู้หญิงอยู่ตลอดเวลาทั้งๆที่ความจริงแล้วฉันเป็นผู้ชายเพราะฉันต้องการจะตีสนิทกับเธอเพราะว่าฉัน... "

                                     สาวน้อยได้หยุดพูดก่อนจะนำมือทั้งสองมาปิดหน้าของตัวเองที่แดงจนไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว  เธอชอบเซนะ  เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องจริงไม่เคยเปลี่ยนแปลง
                                     "ผมไม่เกลียดคุณหรอกครับ"

                                     ( อ่ะเร๊ะ~! )

                                     "ในวันนั้นวันแรกที่เราเจอกันยังจำได้ไหมครับ"

                                     "อื้ม! ฉันจำได้แม่นเลยล่ะ!"

                                     เธอได้นั่งลงข้างๆเซนะราวกับถูกบรรยากาศนั้นนำพาไป

                                     "ในตอนนั้นกำลังจะถูกพวกเด็กเกเรรังแกสินะ"

                                     "ใช่ครับ และหลังจากนั้นผมก็ได้คุณโซเฟียช่วยเหลือจน
ทำให้ผมมีวันนี้ได้ คุณเป็นเหมือนพี่สาว คุณแม่ อาจารย์แล้วก็เป็นเหมือนกับคนสำคัญที่สุดในชีวิตของผมเลย"

                                     ราวกับคำสารภาพรัก......  โซเฟียที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับร้องไห้ออกมา ถึงแม้ว่าเซนะจะไม่่รู้สึกในแบบเดียวกันแต่เธอก็ยังคงคิดว่ามันเป็นคำพูดอันแสนวิเศษที่ไม่ต่างอะไรกับคำสารภาพรัก ภาพการสนทนานี้ได้ถูกฉายไปทุกจักรวาล เหล่าคู่รักทั้งหลายต่างกพากันอมยิ้มให้กับพวกเธอ

                                     พระอาทิตย์ยามเย็นได้ค่อยๆตกลงอย่างช้าๆจนเปลี่ยนเป็นความมืด แต่ราวกับโลกเป็นใจท้องฟ้าในตอนนี้จึงเต็มไปด้วยแสงสว่างจากดวงดาวนับล้านๆดวง แสงเหล่านี้ได้ทำให้ความมืดมิดยามค่ำคืนดูไม่น่ากลัวอีกต่อไป

                                     ถึงจะไม่รู้ตัวแต่ระยะห่างของทั้งสองก็ได้ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มือของทั้งสองได้สอดประกบกันอย่างอ่อนโยน ในตอนนี้พวกเธอสองคนแทบจะถูกอารมณ์พาไปเสียแล้ว....


                                     เซนะ....


.                                    คุณโซเฟีย....































วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 101


                                     เดิมทีเซนะก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้วจึงไม่แปลกที่เธอจะไม่สนใจแต่ถ้าหากยามใดที่เธอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเมื่อนั้นตัวเขาก็สามารถจัดหาสมาชิกเพื่อเธอได้ในทันที

                                     ดีที่เหมือนจะมองเรื่องที่เซสึนะคิดเอาไว้ออกหมดจึงได้ยิ้มร่า

                                     "ยิ้มอะไรของเธอไม่ทราบ"

                                     "เปล่าสักหน่อย~!" เธอเบนหน้าหนี

                                     "มีอะไรก็พูดมาสิ!"

                                     "ก็แบบเซนะนี่ดีจังเลยนะที่มีแฟนแบบนี้"

                                     "ห้ามพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเขาเชียวนะ"

                                     "อายหรอ~!?"

                                     "ก็ส่วนหนึ่งแต่ที่สำคัญจริงๆคือมันอาจจะมีผลเกี่ยวกับความลับเรื่องที่ฉันกับโซเฟียเป็นคนๆเดียวกันก็ได้" เขาทำหน้าซึมหลังจากที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้

                                     "ฉันอยากจะถามนายมานานแล้ว ทำไมนายถึงไม่บอกความจริงกับเซนะไปเลยล่ะ!"

                                     "เรื่องมันซับซ้อนกว่าที่เธอคิดเพราะงั้นถึงเล่าไปเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดีหรอก"

                                     "แต่ฉันว่าเรื่องมันคงไม่ซับซ้อนขนาดนั้นหรอกและถ้าให้ฉันเดาเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักใช่ม๊า~!"

                                     \\ ถูกอย่างที่เธอพูด //

                                     เซสึนะถึงกับเขินแทนเลย ที่เจ้าตัวไม่ยอมบอกสักทีก็เพราะกลัวว่าเซนะจะโกรธตนที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้จนล่วงเลยมานานมากแล้วโดยอันที่จริงเขาคิดจะบอกเธอตั้งแต่ตอนปฐมนิเทศแต่ก็ดันมีเรื่องขึ้นสักก่อนเขาจึงไม่มีโอกาสบอกเธอแถมยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะหลังจากนั้นก็มีเรื่องของโรงเรียนฮิโตมิที่ทำให้เธอต้องไปเป็นครูชั่วคราว การแลกเปลี่ยนนักเรียนที่ทำให้เธอต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนฮาคุโอซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีล้วนเป็นเวลาถึง 3 เดือน ต่อด้วยศึกของซิคฟรีดคนจากอนาคตที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เซนะกับเขาต้องแยกจากกัน ถัดจากนั้นเซนะก็ต้องเดินทางไปอนาคตเพื่อไปตามพิเกียกลับมาโดยยุคนั้นได้มีจักกลสังหารจากอนาคตได้ถูกส่งมาเพื่อฆ่ามนุษย์พวกเซนะจึงต้องอาสาไปปราบคนบงการนั่นก็คือ มาโกโตะ(พิเกีย)จากอนาคต หลังจากที่กอบกู้จักรวาลเอาไว้ได้สำเร็จในระหว่างเดินทางกลับยุคเดิมเธอก็ถูกวาปไปยังยุคๆหนึ่ง
จนเกิดสงครามความฝันขึ้น และเพราะเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนี้จึงทำให้เขาไม่มีโอกาสเล่าความจริงกับเธอสักที

                                     ขืนบอกตอนนี้บางทีเซนะอาจจะงอนเราไปเลยก็ได้ เพราะงั้นต้องรอโอกาสเหมาะๆก่อนที่จะสารภาพความจริงทุกๆอย่างออกไป!

                                     เซสึนะได้มองมาที่ดีด้วยความข่มขู่นิดๆ

                                     "เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอแล้วก็ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเซนะด้วยเข้าใจไหม"

                                     "ฉันมีคำถามอ่ะ"

                                     "สงสัยอะไรว่ามา"

                                     "ทายดิเซนะตอนนี้อยู่ไหน"

                                     "ล่าสุดจากที่ได้ข่าวมารู้สึกจะไปอยู่กับโอริกามิแล้วนะ"

                                     "แต่ฉันว่าไม่นะ"

                                     "แล้วเซนะตอนนี้อยู่ไหนแล้วล่ะ" ดีจึงได้ใช้นิ้วชี้ชี้มาทางข้างหลังของเซสึนะก่อนที่เจ้าตัวจะหันตาม และแล้วในที่สุดตัวเขาก็ได้รับรู้แล้วว่าสาวน้อยนามว่าเซนะบัดนี้ได้ยืนอยู่หลังตนเสียแล้ว  ชิบหาย~!!!

                                     "เซนะ.."

                                     "คุณโซเฟีย.. ไม่สิคุณเซสึนะ ทำไมถึงไม่ยอมบอกผมเลยล่ะ" สาวน้อยในคราบของเด็กชายได้ทำตาเหมือนจะร้องไห้ขึ้น

                                     เจ้าตัวรีบมองไปหาดีด้วยสายตาดุดันราวกับจะสื่อว่า ทำไมถึงไม่บอกว่ามีว่ามีเซนะอยู่ด้วย ก่อนจะหันหน้ามาทางเซนะแล้วรีบเปลี่ยนสีหน้าโดยทันที

                                     "เอิ่ม... คือว่าเซนะอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ???"

                                     "ตั้งแต่เริ่มเลยครับ"

                                     ( บรรลัยแล้ว~!!!! )

                                     อย่างน้อยๆถ้าหากเธอเพิ่งจะมาและได้ยินแค่ผ่านๆเขาก็พอจะหาคำแก้ตัวเนียนๆได้แต่เพราะเธอมานานแล้วเพราะงั้นการกลบเกลื่อนยิ่งไม่มีผลหรือช่วยอะไรเขาได้เลย