วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

หน้าที่ 94


                             สงครามยามเย็นได้จบลงก้าวเข้าสู่ศึกยามเที่ยงคืนในขณะที่ทุกคนยังคงหลับอยู่ภัยคุกคามบทใหม่ก็ได้คืบคลานเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ ที่เตียงของเซนะได้มีเงาชั่วร้ายปรากฏขึ้น มันกำลังเอามือมาใกล้ๆสาวน้อยอย่างช้าๆ สาวน้อยเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอได้พบกับเงามืดอันชั่วร้ายที่กำลังยื่นมือมาทางตนด้วยความคิดอันอกุศลก่อนที่เธอจะเอามือไปเปิดสวิตซ์โคมไฟจนเงามืดนั้นได้หายไปกลายเป็นโอริกามที่กำลังนั่งคร่อมตนอยู่แทน
                             "คุณโอริกามิไม่นอนหรือไงคะ"สาวน้อยค่อยๆลุกขึ้นมาจากเตียง เซนะในตอนนี้ได้ปล่อยผมทำให้ผมสีส้มยาวของเธอถูกแสงไฟจากโคมสะท้อนจนดูเป็นประกายสว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาวยามฟากฟ้า ผมของเธอในตอนนี้ราวกับเส้นไหมชั้นเลิศอันประเมินค่าไม่ได้ มันทั้งสวยงาม นุ่มนวล อ่อนช้อย และพลิ้วไหว จนโอริกามิอยากจะลูบไร้ไปมา ชุดเองก็เป็นชุดนอนน่ารักที่ทำจากไหมชั้นเลิศโชว์สัดส่วนแบบจัดเต็มซึ่งชุดนี้โอริกามิเป็นคนจัดเตรียมเอาไว้เพื่อให้เซนะใส่มัน ดีไม่ดีบางคืนก็เป็นชุดเดรส ชุดว่ายน้ำ ชุดพยาบาล ล่าสุดคืนก่อนเป็นชุดทหารเรือ ถึงแม้จะมีชุดใส่เอาไว้แต่สัดส่วนร่างกายนั้นก็เห็นอย่างเด่นชัด หน้าอกยิ่งใหญ่ขนาดคัพ D หรืออาจจะมากกว่านั้นบอกกับชุดที่โชว์หน้าอกทำให้เห็นร่องอกอย่างชัดเจน บั้นท้ายเองก็ไม่น้อยหน้าเพราะตัวชุดจึงทำให้เห็นสัดส่วนของก้นอย่างชัดเจน มันทั้งกลม ทั้งใหญ่และดูเนียมนุ่มจนโอริกามิอยากจะพุ่งเข้าไปฟัดเล่น ดูโดยรวมเซนะมีเสน่ห์เหลือล้นจนสาวๆหลายคนยังต้องอิจฉาตาร้อน
                            เธอจ้องไปยังโอริกามิเพื่อรอคอยคำตอบ

                            "แฮะๆ ก็แบบกะจะมาทำอย่างนั้นแล้วก็ทำอย่างนี้ตอนที่เซนะหลับอยู่อ่ะ"

                            "ขนาดทำที่สวนสาธารณะไปแล้วนะคะ"

                            "ก็แบบเซนะในตอนนี้เซ็กซี่สุดๆไปเลยนี่น่า~!"

                            "ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดคะ"

                            "แง๊~! เค้าอยากทำง่า~!"เธอพุ่งเข้าไปกอดเซนะพร้อมกับเอาหน้าไปแนบหน้าอกและเบียดเสียดมันไปมา เธอรู้นิสัยของเซนะหมดทุกอย่างเพราะงั้นเธอจึงเดาได้ไม่ยากว่าเซนะจะพูดอะไรต่อจากนี้

                             "เฮ้อ~! ก็ได้ค่ะ"

                             "เย้~!!!"

                             (เสร็จฉันล่ะ!) ภายใต้รอยยิ้มใสๆกับมีอีกใบหน้าหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มปีศาจสุดชั่วร้าย มันเป็นไปดั่งกลอุบายที่เธอวางเอาไว้เสร็จสรรพ เซนะยังไม่รู้ถึงภัยอันตรายนั้นเลยแม้แต่น้อย
                             มือของโอริกามิได้ค่อยๆลูบไร้ไปมาบนขาของเซนะ มันค่อยๆตรงขึ้นไปเรื่อยๆบนขาขาวๆเนียนๆ สูงขึ้น สูงขึ้นอีก แต่ทันใดนั้นเองประตูก็ได้เปิดออกพร้อมกับนกน้อยที่เดินเข้ามาแบบงัวเงีย

                             "เซนะ~! ฉันนอนไม่หลับอ่ะมานอนเป็นเพื่อนฉันหน่อยจิ"

                             "ได้สิ คุณโอริกามิฉันขอตัวนะคะ"

                             "เอ๋ คือว่า... "
                             เซนะได้ลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเดินเข้าไปอุ้มพิเกียราวกับเป็นคุณแม่ที่กำลังอุ้มทารกก่อนจะพากันไปนอนที่ห้องอื่นโดยทิ้งโอริกามิไว้ทั้งอย่างนั้น  มุเก็นที่ดูอยู่ตลอดจึงบินออกมาจากใต้เตียง

                             "แห้วไปดิ!"

                             ความเจ็บใจนี้จึงได้ปะทุออกมาเป็นเสียงตระโกนดังกึกก้อง

                             "เจ็บใจที่สุด~!!!"

                             เพราะเหตุนี้ค่ำคืนนั้นจึงจบลงด้วยความเจ็บแค้นของโอริกามิ
และแล้วเช้าวันใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เซนะกับพิเกียและอลิสกับโอริกามิทั้งสี่คนได้เดินไปโรงเรียนด้วยอารมณ์หลากหลาย

                             (หนอยแน่เจ้าพิเกียวันนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว)

                             (พิเกียเมื่อคืนนอนสบายดีไหมนะ)

                             (หน๊มน๊มเซนะนุ่มมว๊ากกกกก!)

                             (เอิ่ม.... รู้สึกเหมือนเรามาอยู่ผิดที่)
                             
                             มุเก็นที่แอบตามมาอย่างลับๆจึงแอบมองอยู่ห่างๆ

                             (ต้องตาม~!)

                             ในระหว่างที่ทั้งห้าคนกำลังวุ่นๆอยู่กับเรื่องรักๆปัญหาใหม่ก็ได้ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ใต้ต้นไม้ใหญ่ตนหนึ่งได้มีชายหญิงคู่หนึ่งยืนรอพวกเขาอยู่ที่ใต้ต้นไม้นั้นมานานแล้ว พวกเขาไม่ใช่ใครอื่น อุยกับซุบารุนั่นเอง

                             ''นี่คุณอุยมาทำไรอยู่ตรงนี้อ่ะ''

                             ''รอเธอนั่นแหละเซนะ''

                             ''ผมส่งการบ้านแล้วน้า...''

                              (เธอส่งมาผิดย่ะ) เธออยากจะพูดตอกกลับไปแต่ก็ต้องพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเพราะมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่ารออยู่

                              ''ฉันไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้นหรอก''

                              ''งั้นก็เรื่องที่ผมทำแจกันแตกหรอ...''

                              (ตอนไหนฟ่ะ) เธอขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความโกรธกริ้วแต่ก็ต้องทำเป็นเมินเฉยมันไปก่อน

                              ''ไม่ใช่เรื่องนั้นอีกนั่นแหละ''

                              ''ถ้างั้นก็เรื่องที่ผมขว้างลูกเบสบอลไปโดนกระจกห้องคุณอุยอ่ะป่ะ''

                              (นั่นฝีมือเธอเองหรอ!) เธอได้นึกย้อนไปตอนที่ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ดีๆแล้วอยู่ๆก็มีลูกเบสบอลจากไหนก็ไม่รู้พุ่งทะลุกระจกเข้ามาในห้องของเธอแบบเฉียดหน้าไปแค่มิลเดียว ในตอนนั้นเธอคิดว่าตนจะไม่รอดสักแล้ว....
                             









































                           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น