207
"ถึงตาของฉันมั่งสักที"
อึ่ก... หมัดขวาตรงได้อัดใส่หน้าของมันเป็นการเริ่มต้นของการโต้กลับของมาโกโตะ แน่นอนว่าหากโดนชกก็จะต้องมีการกระเด็นไปด้านหลังแต่มาโกโตะก็ได้จับมันเอาไว้ไม่ให้ไปตามแรงพร้อมกับชกใส่มันรัวๆ
หลังจากชกเสร็จตัวเขาก็ได้กระโดดหมุนตัวเตะใส่หน้าของมันจนโครงกระดูกของมันถึงกับบิดเบี้ยว
"ลูกเตะ อินฟินิตี้"
"อั่กกก"
แรงมหาศาลได้ส่งผ่านไปยังทุกส่วนของร่างกายจนทำให้กระดูกที่ไม่มีวันหักของมันถึงกับเริ่มร้าว ร่างของมันได้ลอยไปชนกับภูเขาจนเกิดเป็นหลุมลึก มันที่เห็นมาโกโตะตามมาจะซ้ำจึงได้ร่ายเวทย์เพื่อที่จะซื้อเวลาแต่ก็ถูกมาโกโตะแคนเซิลเวทย์ของมันผลสุดท้ายมันจึงต้องกลิ้งหลบลูกเตะของมาโกโตะ ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดก็ได้มีหิมะตกลงมา...
ทั้งสองที่กำลังต่อสู้อย่าดุเดือดอยู่นั้นจึงเริ่มมีทัศนวิสัยการมองที่แย่ลงซ้ำยังทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นแล้ว ณ ตอนนี้ ทั้งสองที่โจมตีใส่กันอย่างไม่ไหวหวั่นต่ออุปสรรคได้ใช้เวลานั้นสนทนากัน
"ถึงแกจะเก่งยังไงก็ตามเจ้าหนูแต่แกก็ยังเป็นมนุษย์"
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561
206
"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจัง"
"มันก็พอกันนั่นแหละ"
ทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่กันอีกครั้งโดยคราวนี้ทั้งคู่ได้ใช้กำปั้นของตนอัดใส่กันแบบไม่ออมือและแน่นอนว่าฝ่ายที่โดนซัดจนปลิวนั้นก็คือฝ่ายของมาโกโตะ ทางด้าน Zarc จึงตามไปกระหน่ำโจมตีอย่างร้อนรน
หากเป็นอย่างที่เจ้าหนูพูด ไม่สิ มันเป็นจริงแน่ๆ ตัวเราต้องรีบปิดมันให้ได้โดยเร็วไม่ก็ต้องทนเอาไว้ให้ร่างกายของมันรับไม่ได้แล้วค่อยจัดการมันทีหลัง... เขาสัมผัสถึงพลังของมาโกโตะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในตอนแรกสุดพลังของมาโกโตะยังไม่ได้เสี้ยวนึงของมันเลยแต่ทว่าตอนนี้มันกลับเพิ่มขึ้นจนจะตามมาทันแล้ว
บ้าๆๆๆๆ บ้าไปแล้ว เจ้านี่มันกำลังพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนจะตามฉันทันอยู่แล้ว ตัวฉันที่อยู่ในโหมดอวตารเนี่ยนะ แถมมันยังได้รวมร่างเลยด้วย
หมัดอันแสนบ้าระห่ำได้กระหน่ำใส่ร่างของเด็กหนุ่มอย่างไม่ปราณีทั้งยังอ้าปากยิงพลังใส่ในระยะประชิดจนเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนผู้คนที่อยู่ใกล้ๆสามารถสังเกตุเห็นมันได้ เมื่อเห็นว่ามาโกโตะยังรอดออกมาได้มันจึงพุ่งไปหาโดยใช้ปีกสร้างแรงส่งที่รุนแรงจนเกิดโซนิคบูมจนเกิดหิมะถล่มลงมาในหลายต่อหลายที่ในระแวกนั้น
แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว หมัดของมันได้ถูกมือของมาโกโตะรับเอาไว้ได้อย่างสบายๆ ในตอนนี้พลังของมาโกโตะได้เพิ่มขึ้นจนอยู่ระดับเดียวกับของ Zarc ไปแล้ว...
"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจัง"
"มันก็พอกันนั่นแหละ"
ทั้งสองได้พุ่งเข้าใส่กันอีกครั้งโดยคราวนี้ทั้งคู่ได้ใช้กำปั้นของตนอัดใส่กันแบบไม่ออมือและแน่นอนว่าฝ่ายที่โดนซัดจนปลิวนั้นก็คือฝ่ายของมาโกโตะ ทางด้าน Zarc จึงตามไปกระหน่ำโจมตีอย่างร้อนรน
หากเป็นอย่างที่เจ้าหนูพูด ไม่สิ มันเป็นจริงแน่ๆ ตัวเราต้องรีบปิดมันให้ได้โดยเร็วไม่ก็ต้องทนเอาไว้ให้ร่างกายของมันรับไม่ได้แล้วค่อยจัดการมันทีหลัง... เขาสัมผัสถึงพลังของมาโกโตะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในตอนแรกสุดพลังของมาโกโตะยังไม่ได้เสี้ยวนึงของมันเลยแต่ทว่าตอนนี้มันกลับเพิ่มขึ้นจนจะตามมาทันแล้ว
บ้าๆๆๆๆ บ้าไปแล้ว เจ้านี่มันกำลังพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนจะตามฉันทันอยู่แล้ว ตัวฉันที่อยู่ในโหมดอวตารเนี่ยนะ แถมมันยังได้รวมร่างเลยด้วย
หมัดอันแสนบ้าระห่ำได้กระหน่ำใส่ร่างของเด็กหนุ่มอย่างไม่ปราณีทั้งยังอ้าปากยิงพลังใส่ในระยะประชิดจนเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นจนผู้คนที่อยู่ใกล้ๆสามารถสังเกตุเห็นมันได้ เมื่อเห็นว่ามาโกโตะยังรอดออกมาได้มันจึงพุ่งไปหาโดยใช้ปีกสร้างแรงส่งที่รุนแรงจนเกิดโซนิคบูมจนเกิดหิมะถล่มลงมาในหลายต่อหลายที่ในระแวกนั้น
แต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว หมัดของมันได้ถูกมือของมาโกโตะรับเอาไว้ได้อย่างสบายๆ ในตอนนี้พลังของมาโกโตะได้เพิ่มขึ้นจนอยู่ระดับเดียวกับของ Zarc ไปแล้ว...
205
"ขอบใจ... เพราะตอนที่ฉันสร้างหลุมศพให้นายฉันจะได้สลักชื่อได้ถูก"
ไม่เพียงแค่ Zarc เท่านั้นที่ยังไม่ยอมเอาจริงแต่มาโกโตะเองก็เช่นกัน และมันก็มีเหตุผลที่เขายัังไม่ยอมเอาจริงอยู่...
หากเราไม่เหลือพลังเอาไว้คงจะตามไปช่วยเซนะและปกป้องเธอเอาไว้ไม่ได้... แต่ถ้าหากไม่เอาจริงเราก็คงจะไม่รอด...
เพราะงั้น... ขอร้องล่ะ ใครก็ได้ช่วยปกป้องเธอที มาโกโตะได้เดินออกมาข้างหน้าพร้อมกับพลังที่ถูกปลดปล่อยจนอีกฝ่ายสัมผัสถึงมันได้
อะไรกัน ทำไมพลังของเจ้าหนูถึงกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ล่ะ เจ้าหนูนี่มันเป็นใครกันแน่....
"แกบอกเองสินะว่ายอมรับฉันเพราะงั้นนี่ก็คือการที่ฉันยอมรับแก พลังของฉันคือ The Infinity เป็นพลังอันไร้ขีดจำกัดที่สามารถเพิ่มพลังของฉันนขึ้นนไปได้เรื่อยๆแต่นั่นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันซึ่งนั่นก็คือร่างกายของฉันจะรับภาระหนักขึ้นเรื่อยๆและหากหยุดพลังนี้พลังของฉันก็จะถูกรีกลับไปจนอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้พลังนี้ได้อีกซึ่งอย่างน้อยๆก็สัก 1 ชั่วโมง เพราะงั้นฉันต้องจัดการนายให้ได้ก่อนที่ร่างกายของฉันจะรับพลังที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ไม่ไหว"
"บอกฉันหมดแบบนี้มันจะดีเหรอ.."
"ก็ถือว่าเท่าเทียมกันกับตอนแรกที่นายบอกพลังของนายให้กับฉัน"
"ขอบใจ... เพราะตอนที่ฉันสร้างหลุมศพให้นายฉันจะได้สลักชื่อได้ถูก"
ไม่เพียงแค่ Zarc เท่านั้นที่ยังไม่ยอมเอาจริงแต่มาโกโตะเองก็เช่นกัน และมันก็มีเหตุผลที่เขายัังไม่ยอมเอาจริงอยู่...
หากเราไม่เหลือพลังเอาไว้คงจะตามไปช่วยเซนะและปกป้องเธอเอาไว้ไม่ได้... แต่ถ้าหากไม่เอาจริงเราก็คงจะไม่รอด...
เพราะงั้น... ขอร้องล่ะ ใครก็ได้ช่วยปกป้องเธอที มาโกโตะได้เดินออกมาข้างหน้าพร้อมกับพลังที่ถูกปลดปล่อยจนอีกฝ่ายสัมผัสถึงมันได้
อะไรกัน ทำไมพลังของเจ้าหนูถึงกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ล่ะ เจ้าหนูนี่มันเป็นใครกันแน่....
"แกบอกเองสินะว่ายอมรับฉันเพราะงั้นนี่ก็คือการที่ฉันยอมรับแก พลังของฉันคือ The Infinity เป็นพลังอันไร้ขีดจำกัดที่สามารถเพิ่มพลังของฉันนขึ้นนไปได้เรื่อยๆแต่นั่นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันซึ่งนั่นก็คือร่างกายของฉันจะรับภาระหนักขึ้นเรื่อยๆและหากหยุดพลังนี้พลังของฉันก็จะถูกรีกลับไปจนอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถใช้พลังนี้ได้อีกซึ่งอย่างน้อยๆก็สัก 1 ชั่วโมง เพราะงั้นฉันต้องจัดการนายให้ได้ก่อนที่ร่างกายของฉันจะรับพลังที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ไม่ไหว"
"บอกฉันหมดแบบนี้มันจะดีเหรอ.."
"ก็ถือว่าเท่าเทียมกันกับตอนแรกที่นายบอกพลังของนายให้กับฉัน"
204
ทุกย่างก้าวของมันได้ทำให้หิมะตรงส่วนที่มันเดินผ่านเริ่มละลายจนยุบตัวลงไปเป็นรอยเท้าคล้าวกับรอยเท้าของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วในช่วงยุคปลายของครีเทเชียสซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของไดโนเสาร์
"เป็นอะไรไปเจ้าหนูทำไมไม่บุกเข้ามาล่ะ หรือว่านายกำลังกลัว"
ดวงตาของมันจับจ้องมาที่ร่างของเด็กหนุ่มด้วยเพลิงโลกันต์ที่กำลังลุกโชนอยู่ภายในกระโหลก
ร่างกายของมันแค่ขนาดตัวก็สามารถกดดันมาโกโตะไปได้มากมายแล้ว...
ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดไว้ล่ะก็ถ้าหากเธอมายืนอยู่ตรงนี้แทนฉัน เธอก็คงจะยิ้มออกมาสินะ เซนะ....
ตัวเขาได้มองเห็นถึงใบหน้าในตอนนั้นของเธอ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่จินตนาการแต่ตลอดเวลาที่พวกเขาสองคนร่วมรักกันก็ทำให้ตัวเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยว่า เธอต้องยิ้มแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน...
"นี่แกน่ะไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันขอทราบชื่อจริงของนายหน่อยสิ"
"Zarc ชื่อของข้าคือ Zarc เจ้าจงจำเอาไว้ให้ดีก่อนตาย เจ้าเป็นคนที่ข้ายอมรับเจ้าหนู "
ทุกย่างก้าวของมันได้ทำให้หิมะตรงส่วนที่มันเดินผ่านเริ่มละลายจนยุบตัวลงไปเป็นรอยเท้าคล้าวกับรอยเท้าของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วในช่วงยุคปลายของครีเทเชียสซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของไดโนเสาร์
"เป็นอะไรไปเจ้าหนูทำไมไม่บุกเข้ามาล่ะ หรือว่านายกำลังกลัว"
ดวงตาของมันจับจ้องมาที่ร่างของเด็กหนุ่มด้วยเพลิงโลกันต์ที่กำลังลุกโชนอยู่ภายในกระโหลก
ร่างกายของมันแค่ขนาดตัวก็สามารถกดดันมาโกโตะไปได้มากมายแล้ว...
ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดไว้ล่ะก็ถ้าหากเธอมายืนอยู่ตรงนี้แทนฉัน เธอก็คงจะยิ้มออกมาสินะ เซนะ....
ตัวเขาได้มองเห็นถึงใบหน้าในตอนนั้นของเธอ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่จินตนาการแต่ตลอดเวลาที่พวกเขาสองคนร่วมรักกันก็ทำให้ตัวเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยว่า เธอต้องยิ้มแบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน...
"นี่แกน่ะไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันขอทราบชื่อจริงของนายหน่อยสิ"
"Zarc ชื่อของข้าคือ Zarc เจ้าจงจำเอาไว้ให้ดีก่อนตาย เจ้าเป็นคนที่ข้ายอมรับเจ้าหนู "
203
พลังของอวตารนั้นแตกต่างจากการรวมร่างกันตามปกติอย่างมากหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วการร่วมร่างจะต้องใช้ทั้งมาสเตอร์และดูโอ้โดยจากทั้งสองอย่างละ 100 เปอร์เซ็นต์มารวมกันในร่างรวมจะได้เป็น 120 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเพราะเนื่องจากมันเป็นการรวมร่างที่ไม่ใช่การรวมร่างอย่างแท้จริงผิดกับของอวตารที่ได้พลังจากการเปลี่ยนร่างถึง 160 เปอร์เซ็นต์จึงไม่แปลกหากอวตารทุกคนจะมีพลังเหนือยิ่งกว่าผู้ที่รวมร่าง
โครงกระดูกของมันได้เพิ่มขนาดจนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามาโกโตะถึง 3 เท่า ตรงส่วนของช่องว่างในร่างกายที่เป็นกระดูกก็ได้ถูกเพลิงสีฟ้าแทรกออกมาตามช่องว่าง กระดูกหลังได้ยื่นออกมาจนคล้ายกับมือและคาดว่าน่าจะใช้บิน
ใบหน้าโครงกระดูกได้เริ่มยื่นออกมาข้างหน้าทีละนิด ทีละนิด จนกลายเป็นโครงกระดูกที่มีใบหน้าคล้ายกับของโครงกระดูกมังกร ตรงส่วนของบนหัวได้มีโครงกระดูกงอกออกมาจนเป็นเหมือนกับเขาของกระทิงสองเขา
มาโกโตะรับรู้ได้เลยว่า ที่เบื้องหน้าของตนนันมีสิ่งมีชีวืิตที่สุดยอดอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ปีศาจของจริงเลยนี่หว่า... ถ้าเรารอดกลับไปได้ล่ะก็จะขอรับความรักจากเธอสักหน่อยก็แล้วกันเซนะ..
ถ้าฉันรอดไปได้น่ะนะ...
ในที่สุดมันก็ได้ขยับตัวเพื่อมุ่งตรงมาทางนี้ ใช่แล้ว มันคือความตาย...
พลังของอวตารนั้นแตกต่างจากการรวมร่างกันตามปกติอย่างมากหากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วการร่วมร่างจะต้องใช้ทั้งมาสเตอร์และดูโอ้โดยจากทั้งสองอย่างละ 100 เปอร์เซ็นต์มารวมกันในร่างรวมจะได้เป็น 120 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเพราะเนื่องจากมันเป็นการรวมร่างที่ไม่ใช่การรวมร่างอย่างแท้จริงผิดกับของอวตารที่ได้พลังจากการเปลี่ยนร่างถึง 160 เปอร์เซ็นต์จึงไม่แปลกหากอวตารทุกคนจะมีพลังเหนือยิ่งกว่าผู้ที่รวมร่าง
โครงกระดูกของมันได้เพิ่มขนาดจนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่ามาโกโตะถึง 3 เท่า ตรงส่วนของช่องว่างในร่างกายที่เป็นกระดูกก็ได้ถูกเพลิงสีฟ้าแทรกออกมาตามช่องว่าง กระดูกหลังได้ยื่นออกมาจนคล้ายกับมือและคาดว่าน่าจะใช้บิน
ใบหน้าโครงกระดูกได้เริ่มยื่นออกมาข้างหน้าทีละนิด ทีละนิด จนกลายเป็นโครงกระดูกที่มีใบหน้าคล้ายกับของโครงกระดูกมังกร ตรงส่วนของบนหัวได้มีโครงกระดูกงอกออกมาจนเป็นเหมือนกับเขาของกระทิงสองเขา
มาโกโตะรับรู้ได้เลยว่า ที่เบื้องหน้าของตนนันมีสิ่งมีชีวืิตที่สุดยอดอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ปีศาจของจริงเลยนี่หว่า... ถ้าเรารอดกลับไปได้ล่ะก็จะขอรับความรักจากเธอสักหน่อยก็แล้วกันเซนะ..
ถ้าฉันรอดไปได้น่ะนะ...
ในที่สุดมันก็ได้ขยับตัวเพื่อมุ่งตรงมาทางนี้ ใช่แล้ว มันคือความตาย...
202
แต่ก็ถือว่าเขายังคงเป็นอัจฉริยะอยู่ดี
สรุปก็คือเขาไม่เคยแพ้ใครเลยทั้งนั้นหากเป็นการต่อสู้ในเกมแบบ 1 ต่อ 1...
"นายน่ะพลาดแล้วที่มาสู้กับฉันตัวต่อตัวผนึกนี้น่ะจะไม่หยุดทำงานจนกว่าฉันจะตายสรุปง่ายๆก็คือนายน่ะจะขยับไม่ได้สัก 100 ปีกว่าจะถึงตอนนั้นแผนการและองค์กรณ์ของพวกนายก็คงจะถูกฉันจัดการหมดแล้วล่ะ"
"'งั้นนี่ก็คงจะเป็นการดวลที่สนุกสินะ"
"นายหมายความว่ายังไง"
"ฉันเองก็เหมือนกับแก เป็นคนที่ถ้าสู้ 1 ต่อ 1 แล้วยังไม่เคยแพ้ใครมาก่อนเลย..."
มันได้ใช้พลังอันมหาศาลของตนระเบิดออร่าสีดำออกมาจากภายในร่าง และเพราะพลังนั้นของมันจึงทำให้ผนึกเริ่มมีรอยร้าวเปลวเพลิงสีฟ้าที่ลุกโชนอยู่บนหัวของมันได้เริ่มลามไปทั่วร่างจนในที่สุดร่างของมันก็ได้มีไฟลุกขึ้นทั้งตัว
และมันก็ได้ลามมาถึงวงแหวนอาคมที่มาโกโตะทำไว้ก่อนจะเผามันจนมอดไหม้ไปในที่สุด สัญชาตญานของเขากำลังบอกว่าไม่ดีแน่หากยังอยู่ใกล้ๆตัวเขาจึงได้กระโดดไปข้างหลังเพื่อถอยกลับมาตั้งหลัก
ร่างกลายของมันได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ดูเหมือนกับการรวมร่างแต่มันไม่ใช่ มันคืออวตาร....
แต่ก็ถือว่าเขายังคงเป็นอัจฉริยะอยู่ดี
สรุปก็คือเขาไม่เคยแพ้ใครเลยทั้งนั้นหากเป็นการต่อสู้ในเกมแบบ 1 ต่อ 1...
"นายน่ะพลาดแล้วที่มาสู้กับฉันตัวต่อตัวผนึกนี้น่ะจะไม่หยุดทำงานจนกว่าฉันจะตายสรุปง่ายๆก็คือนายน่ะจะขยับไม่ได้สัก 100 ปีกว่าจะถึงตอนนั้นแผนการและองค์กรณ์ของพวกนายก็คงจะถูกฉันจัดการหมดแล้วล่ะ"
"'งั้นนี่ก็คงจะเป็นการดวลที่สนุกสินะ"
"นายหมายความว่ายังไง"
"ฉันเองก็เหมือนกับแก เป็นคนที่ถ้าสู้ 1 ต่อ 1 แล้วยังไม่เคยแพ้ใครมาก่อนเลย..."
มันได้ใช้พลังอันมหาศาลของตนระเบิดออร่าสีดำออกมาจากภายในร่าง และเพราะพลังนั้นของมันจึงทำให้ผนึกเริ่มมีรอยร้าวเปลวเพลิงสีฟ้าที่ลุกโชนอยู่บนหัวของมันได้เริ่มลามไปทั่วร่างจนในที่สุดร่างของมันก็ได้มีไฟลุกขึ้นทั้งตัว
และมันก็ได้ลามมาถึงวงแหวนอาคมที่มาโกโตะทำไว้ก่อนจะเผามันจนมอดไหม้ไปในที่สุด สัญชาตญานของเขากำลังบอกว่าไม่ดีแน่หากยังอยู่ใกล้ๆตัวเขาจึงได้กระโดดไปข้างหลังเพื่อถอยกลับมาตั้งหลัก
ร่างกลายของมันได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมันก็ดูเหมือนกับการรวมร่างแต่มันไม่ใช่ มันคืออวตาร....
201
"นายคงจะมีคำถามอยู่ในหัวแล้วสินะว่าสิ่งนี้มาได้ยังไงงั้นฉันจะอธิบายให้เอง มันมาจากตอนที่ฉันยิงเลเซอร์ใส่นายยังไงล่ะ!"
ย้อนกลับไปในตอนที่เขาปล่อยแสงเลเซอร์พุ่งออกมาใส่ king of dark ในตอนนั้นเขาได้คำนวณทุกๆอย่างเอาไว้ก่อนแล้ว การฟันแต่ละครั้งเขาก็ทำเพื่อสร้างวงแหวนเวทย์นี้ขึ้น เช่นเดียวกันการโจมตีที่เขาเผลอเปิดช่องว่างเอาไว้นั้นความจริงแล้วมันก็คือแผนของเขาที่ล่อให้อีกฝ่ายเห็นและโจมตีจากจุดที่เขาสร้างขึ้นเพื่อให้ตนเองสามารถสวนกลับได้อย่างง่ายดายในยามที่อีกฝ่ายติดกับ
มาโกโตะนั้นมีประสบการณ์การเล่นเกมมาเยอะพอสมควรและที่เขาชอบมากคือประเภทของเกม MMO ซึ่งเป็นเกมในโลกเสมือนจริงซึ่งในยุคนี้กำลังพัฒนาขึ้นมา
และในเกมประเภทนี้ก็จะมีการวางแผน ลงดันเจี้ยน กิลด์ และอีกมากมายที่น่าสนใจในโลกเสมือนแห่งนั้นเยอะแยะมากมาย
ในการต่อสู้ครั้งนี้เขาก็ได้ใช้ความสามารถที่ได้รับมาจากเกมให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด
และสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดนั่นก็คือการแข่งแบบ PVP (player vs player) หรือก็คือการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกัน
ในเกมแนวนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะคิดว่าบอสในดันเจี้ยนจะรับมือยากที่สุดเพราะค่า hp ที่สูง สกิลที่รุนแรง บางครั้งก็มีสกิลเรียกลูกน้องเก่งๆ
แต่หากมองในอีกแง่นึงซึ่งเป็นแง่ของระบบเหล่าบอสที่ทุกคนคิดว่ามันยากนักยาากหนานั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องจักรที่ใช้ตามโรงงาน
มีอยู่ช่วงนึงที่มาโกโตะสนใจในตัวของระบบเกมพวกนี้และก็มีนักออกแบบระบบของเกมทาบทามให้ไปลองดูงานที่ศูนย์วิจัยโดยตรงและนั่นเองจึงทำให้เขาได้เห็นกลไกของระบบทุกอย่างไล่ตั้งแต่การวางโปรแกรม การดีไซน์ตัวละคร การกำหนดลักษณะต่างๆ
และเหล่าบอสในเกมเองก็ไม่ต่างกัน
พวกมันเองก็ถูกตั้งระบบเอาไว้เช่นเมื่อโดนตีจากทางซ้ายก็จะใช้หางปัด เมื่อโดนโจมตีจากทางด้านหน้าให้ใช้ดาบฟันพวกมันทิ้ง
และบอสแต่ละตัวนั้นก็จะมีฟังก์ชันพิเศษขึ้นอยู่กับระดับของพวกมันในเกมซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปแบบที่แน่นอน
สรุปก็คือหากเรารู้กลไกการตอบสนองของมันเราก็สามารถรับมือได้ไม่ยาก
แต่บอสบางตัวก็ใช่ว่าแค่ดักทางมันได้จะทำให้ชนะ
แน่นอนว่า GM คงไม่ยอมให้มันง่ายดายขนาดนั้นหรอกเพราะไม่งั้นเกมก็จะเจ๋งไม่เป็นท่า
และสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นส่วนมากไม่สามารถผ่านด่านของบอสไปได้นั่นก็คือ LV ซึ่งรวมไปถึงค่าพลังเข้าไปด้วย
LV หรือ Level มันก็คือสิ่งที่พบได้ในเกมทั่วไปซึ่งหากเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ ค่าประสบการณ์
ยิ่งมีเลเวลสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งบ่งบอกถึงประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
และถึงแม้จะซื้อตัวละครมาแต่ถ้าประสบการณ์การเล่นไม่มีมันก็ไร้ค่า!
แล้วสิ่งนี้มันเกี่ยวอะไรกับการต่อสู้ครั้งนี้!?
คำตอบของเรื่องนี้อยูที่การ pvp ที่บอกไว้ในข้างต้น สำหรับมาโกโตะแล้วเขาสามารถโค่นบอสที่ต้องใช้จำนวนคนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวจนเป็นหนึ่งในฉายาของเขา อัจฉริยะนั่นเอง!
ซึ่งมีอีกหลายต่อหลายอย่างที่ทำให้เขาได้เป็นอัจฉริยะ
แต่หลังจากที่เขาเอาชนะบอสในเกมจนเคลียร์ได้หมด เขาจึงเล่น pvp กับคนอื่นเพื่อแก้เบื่อ
และนั่นก็ทำให้เขาติดใจในการ pvp ในที่สุด
เสน่ห์ของการ pvp กันสำหรับเขามันคือการต่อสู้อันนอกระบบหรือพูดง่ายๆคือการต่อสู้แบบตามใจฉันนั่นเองซึ้งวิธีนี้ทำให้เขาได้เห็นแนวทางใหม่ๆไม่ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆมา
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยแพ้ใครเลยแม้สักครั้งเดียว
สถิตการแข่ง pvp รวมทั้งหมดทุกเกมของเขาอยู่ที่ 802,965 ซึ่งสถิติการแพ้ของเขาคือ 0 แต่ทว่ากับมีการเสมอถึง 12 ครั้ง
"นายคงจะมีคำถามอยู่ในหัวแล้วสินะว่าสิ่งนี้มาได้ยังไงงั้นฉันจะอธิบายให้เอง มันมาจากตอนที่ฉันยิงเลเซอร์ใส่นายยังไงล่ะ!"
ย้อนกลับไปในตอนที่เขาปล่อยแสงเลเซอร์พุ่งออกมาใส่ king of dark ในตอนนั้นเขาได้คำนวณทุกๆอย่างเอาไว้ก่อนแล้ว การฟันแต่ละครั้งเขาก็ทำเพื่อสร้างวงแหวนเวทย์นี้ขึ้น เช่นเดียวกันการโจมตีที่เขาเผลอเปิดช่องว่างเอาไว้นั้นความจริงแล้วมันก็คือแผนของเขาที่ล่อให้อีกฝ่ายเห็นและโจมตีจากจุดที่เขาสร้างขึ้นเพื่อให้ตนเองสามารถสวนกลับได้อย่างง่ายดายในยามที่อีกฝ่ายติดกับ
มาโกโตะนั้นมีประสบการณ์การเล่นเกมมาเยอะพอสมควรและที่เขาชอบมากคือประเภทของเกม MMO ซึ่งเป็นเกมในโลกเสมือนจริงซึ่งในยุคนี้กำลังพัฒนาขึ้นมา
และในเกมประเภทนี้ก็จะมีการวางแผน ลงดันเจี้ยน กิลด์ และอีกมากมายที่น่าสนใจในโลกเสมือนแห่งนั้นเยอะแยะมากมาย
ในการต่อสู้ครั้งนี้เขาก็ได้ใช้ความสามารถที่ได้รับมาจากเกมให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด
และสิ่งที่เขาชอบมากที่สุดนั่นก็คือการแข่งแบบ PVP (player vs player) หรือก็คือการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกัน
ในเกมแนวนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะคิดว่าบอสในดันเจี้ยนจะรับมือยากที่สุดเพราะค่า hp ที่สูง สกิลที่รุนแรง บางครั้งก็มีสกิลเรียกลูกน้องเก่งๆ
แต่หากมองในอีกแง่นึงซึ่งเป็นแง่ของระบบเหล่าบอสที่ทุกคนคิดว่ามันยากนักยาากหนานั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเครื่องจักรที่ใช้ตามโรงงาน
มีอยู่ช่วงนึงที่มาโกโตะสนใจในตัวของระบบเกมพวกนี้และก็มีนักออกแบบระบบของเกมทาบทามให้ไปลองดูงานที่ศูนย์วิจัยโดยตรงและนั่นเองจึงทำให้เขาได้เห็นกลไกของระบบทุกอย่างไล่ตั้งแต่การวางโปรแกรม การดีไซน์ตัวละคร การกำหนดลักษณะต่างๆ
และเหล่าบอสในเกมเองก็ไม่ต่างกัน
พวกมันเองก็ถูกตั้งระบบเอาไว้เช่นเมื่อโดนตีจากทางซ้ายก็จะใช้หางปัด เมื่อโดนโจมตีจากทางด้านหน้าให้ใช้ดาบฟันพวกมันทิ้ง
และบอสแต่ละตัวนั้นก็จะมีฟังก์ชันพิเศษขึ้นอยู่กับระดับของพวกมันในเกมซึ่งล้วนแล้วแต่มีรูปแบบที่แน่นอน
สรุปก็คือหากเรารู้กลไกการตอบสนองของมันเราก็สามารถรับมือได้ไม่ยาก
แต่บอสบางตัวก็ใช่ว่าแค่ดักทางมันได้จะทำให้ชนะ
แน่นอนว่า GM คงไม่ยอมให้มันง่ายดายขนาดนั้นหรอกเพราะไม่งั้นเกมก็จะเจ๋งไม่เป็นท่า
และสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นส่วนมากไม่สามารถผ่านด่านของบอสไปได้นั่นก็คือ LV ซึ่งรวมไปถึงค่าพลังเข้าไปด้วย
LV หรือ Level มันก็คือสิ่งที่พบได้ในเกมทั่วไปซึ่งหากเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริงนั่นก็คือ ค่าประสบการณ์
ยิ่งมีเลเวลสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งบ่งบอกถึงประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น
และถึงแม้จะซื้อตัวละครมาแต่ถ้าประสบการณ์การเล่นไม่มีมันก็ไร้ค่า!
แล้วสิ่งนี้มันเกี่ยวอะไรกับการต่อสู้ครั้งนี้!?
คำตอบของเรื่องนี้อยูที่การ pvp ที่บอกไว้ในข้างต้น สำหรับมาโกโตะแล้วเขาสามารถโค่นบอสที่ต้องใช้จำนวนคนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวจนเป็นหนึ่งในฉายาของเขา อัจฉริยะนั่นเอง!
ซึ่งมีอีกหลายต่อหลายอย่างที่ทำให้เขาได้เป็นอัจฉริยะ
แต่หลังจากที่เขาเอาชนะบอสในเกมจนเคลียร์ได้หมด เขาจึงเล่น pvp กับคนอื่นเพื่อแก้เบื่อ
และนั่นก็ทำให้เขาติดใจในการ pvp ในที่สุด
เสน่ห์ของการ pvp กันสำหรับเขามันคือการต่อสู้อันนอกระบบหรือพูดง่ายๆคือการต่อสู้แบบตามใจฉันนั่นเองซึ้งวิธีนี้ทำให้เขาได้เห็นแนวทางใหม่ๆไม่ก็ได้ประสบการณ์ใหม่ๆมา
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยแพ้ใครเลยแม้สักครั้งเดียว
สถิตการแข่ง pvp รวมทั้งหมดทุกเกมของเขาอยู่ที่ 802,965 ซึ่งสถิติการแพ้ของเขาคือ 0 แต่ทว่ากับมีการเสมอถึง 12 ครั้ง
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561
200
ท่าพิเศษ!
I
N
F
I
N
I
T
Y
L
I
N
E
พลังได้รวมกันที่จุดเดียวนั่นก็คือที่ปลายดาบก่อนที่เจ้าตัวจะพุ่งดาบไปข้างหน้าส่งผลให้เกิดแสงที่คล้ายๆกับแสงเลเซอร์พุ่งออกมาจากปลายดาบ
แสงนั่นได้พุ่งใส่อีกฝ่ายที่กำลังพุ่งมาหาตน ในช่วงก่อนการโดนโจมตีตัวมันได้หมุนตัวโดยใช้น้ำหนักจากดาบทำให้สามารถหลบวิถีของแสงเลเซอร์นั้นไปได้สำเร็จ
"เจ้าหนูถึงพลังที่อัดรวมกันที่จุดๆเดียวจะมีอนุภาพมากก็จริงแต่เพราะมันมีขนาดที่เล็กมากการที่ศัตรูจะรอดพ้นจากการโจมตีของท่านี้ไปได้ก็เป็นเรื่องง่ายๆเช่นกัน!"
แต่ถึงอย่างนั้นเธอเองก็เก่งมากที่ไล่ต้อนฉันได้ถึงขนาดนี้เจ้าหนู ฉันคนนี้ต้องขอชมเลย!
"คิดว่าเป็นอย่างงั้นจริงดิ!"
"หมายความว่าไง ห่ะ!"
มันที่ไหวตัวทันจึงสามารถหลบแสงเลเซอร์ที่พุ่งมาจากด้านข้างได้อีกรอบ
แต่ทว่า! แสงเลเซอร์ที่พุ่งผ่านไปก็ได้วกกลับมาหามันอีกครั้ง อะไรกัน!?
ด้วยความตกใจมันจึงไม่สามารถหลบท่านี้พ้น
การโจมตีครั้งนี้จึงทำให้มันกระเด็นตกลงสู่พื้นหิมะไปในที่สุด
(อย่างนี้นี่เอง!) สายตาของมันได้จับจ้องขึ้นไปบนฟากฟ้า
ทันทีที่มันมองขึ้นไปทุกอย่างก็ได้กระจ่าง มาโกโตะกำลังขยับดาบไปมาเพื่อบังคับทิศทางของแสงเลเซอร์!
มันสามารถบังคับทิศทางของแสงจากดาบของมันได้สินะ แต่ถ้าอย่างงั้น!
คราวนี้มันได้พุ่งตัวขึ้นไปอีกรอบโดยเป้าหมายเหมือนเดิมนั่นก็คือการฆ่ามาโกโตะ
ทางด้านมาโกโตะจึงได้ขยับดาบไปมาเพื่อใช้แสงเลเซอร์ขัดขวาง แต่ครั้งนี้ทิศทางของมันถูกอ่านออกหมดจนสามารถหลบได้พ้นทั้งหมดและในไม่ช้ามันก็ได้เข้ามาถึงตัวของมาโกโตะ
ดาบของพวกเขาได้ปะทะกันก่อนที่ดาบของมาโกโตะจะถูกแรงจากดาบของมันผลักออกไปจนเปิดช่องโหว่ในที่สุด
"เจ้าหนูจุดบอดของท่าเมื่อกี้นี้มีอย่างเดียวนั่นก็คือการเคลื่อนไหวของมือ หากว่าศัตรูมองการเคลื่อนไหวของมือแกออกเมื่อไหร่มันก็ไม่ยากเลยที่จะหลบมันพ้น!"
"....."
"แกมาได้ไกลมากแล้วเจ้าหนู เพราะงั้นหลับให้สบายเถอะ!"
"โทษทีแต่ฉันยังไม่ง่วงว่ะ!"
คำพูดของเขาได้มาพร้อมกับมืออีกข้างที่กำลังถือบอลพลังงานอะไรสักอย่างเอาไว้อยู่
บ้าน่า! มันได้ตาค้างทันทีที่ได้เห็นสิ่งนั้น
มือของมันที่กำลังจะฟันในอีกรอบเพื่อเผด็จศึกนั้นพอคำนวณแล้วก็ยังช้ากว่าการโจมตีของมาโกโตะอยู่อีกมาก
อะไรกัน! ทำไมมันถึงพอดีขนาดนี้!? ช่องโหว่ของเรา ตำแหน่งของเรา ทุกๆอย่างมันจะพอดีเกินไปแล้ว!
"จงรับไปซะ ท่าพิเศษ อินฟินิตี้ พลาสม่า!"
บอลที่มีพลังอัดแน่นได้ถูกอัดใส่ร่างของมันก่อนที่ร่างของมันจะปลิวลงไปในกองหิมะอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ยอมล้มลงไปอีกแล้ว
"คิดว่าของแค่นี้จะทำอะไรฉันได้อย่างงั้นรึ!"
"ฉันก็เลยเตรียมไอนี่มาเซอร์ไพรส์ให้แกยังไงล่ะ"
เปี๊ยะ! เสียงดีดนิ้วของเขาได้ดังขึ้น
"เซอร์ไพรส์ , นี่มัน!?"
อยู่ก็มีวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาที่เท้าของมัน และเพราะพลังของวงเวทย์นี้จึงทำให้ร่างกายของมันขยับไม่ได้เลย
มาโกโตะที่บินลงมาจึงได้เดินตรงมาทางนี้พร้อมกับเริ่มเฉลยทุกๆอย่าง
วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561
199
กระแสลมแห่งความเกรี้ยวกราดได้ระเบิดออกมาจากข้างใต้ของเศษซากของภูเขาหิมะที่เพิ่งถล่มลงไป คนที่ยืนปรากฏตัวขึ้นมาก็คือมาโกโตะ
เขาได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเอาชนะศัตรูเบื้องหน้า
king of dark
มันเองก็รับรู้ได้เหมือนกันว่ามาโกโตะยังไม่ตายมันจึงตรงมายังเขาเพื่อเช็คดูอีกที และผลลัพธ์ที่เห็นก็ตรงกับที่สังหรณ์เอาไว้
"ถ้าหากว่านอนต่อไปเรื่องก็คงจบไปแล้วแท้ๆ ทำไมเจ้าถึงต้องลุกขึ้นมาอีก"
"เพราะเซนะ"
"ถ้าเด็กสาวคนนั้นเดี๋ยวฉันจะส่งเธอตามไปเอง"
"โทษทีแต่เธอคนนั้นเป็นคนที่ฉันต้องปกป้องเพราะงั้นคงจะปล่อยให้แกฆ่าเธอไม่ได้หรอก"
"เป็นคนรักสินะ.. "
"ประมาณนั้น.. "
"ช่วยไม่ได้สินะ งั้นอย่างน้อยๆฉันจะเอาจริงเพื่อให้เกียรติกับนายละกัน"
"ทางฉันก็เหมือนกัน!"
คำพูดของพวกเขาคือความจริง ทันทีที่พวกเขาขยับกองหิมะก็ได้พุ่งขึ้นจากผลลัพธ์ของพลังที่พวกเขาสองคนปะทะกัน
ประกายดาบสีฟ้าได้โจมตีใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่องแต่มันก็ไม่มีท่าทางอะไรใดๆเลยหลังจากถูกโจมตีขนาดนี้...
ทุกพลัง ทุกอย่างล้วนมีจุดอ่อนๆ คิดเลยคิดเข้าไป! จุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหนกัน~!!!
สายตาของเข้าได้จับจัองไปที่ตัวมันในขณะที่กำลังแลกดาบกันอยู่
หากการโจมตีไหนที่มันรับไม่ได้ก็จะถูกปล่อยผ่านไปเพื่อปะทะกับร่างอมตะที่ไม่มีวันตาย
และถ้าหากมีช่องโหว่ตัวมันก็พร้อมที่จะฟันใส่แบบไม่ลังเล
จะว่าไปเจ้านี่มันก็ไม่ใช่มนุษย์ มันไม่มีเนื้อหนังถ้าหากมันเป็นจริงข้างในกระโหลกที่มีไฟลุกอยู่นั่นก็คงจะไม่มีสมองอยู่งั้นสาเหตุที่มันสามารถควบคุมร่างกายนี้ได้ก็น่าจะเป็น
( วิญญาณ! )
เขาได้ถอยออกมาอย่างฉิวเฉียดจากคมดาบยักษ์ของมันเพื่อตั้งหลัก
ร่างกายของเขาทีีเป็นมนุษย์เริ่มเหนื่อยจนถึงขั้นหอบออกมาผิดกับมันที่เป็นซากศพเดินได้ไม่รู้จักเหนื่อยใดๆทั้งสิ้น
แต่ว่าการต่อสู้นั้นไม่มีความปราณี!
มันได้ใช้พลังสร้างกระดูกแหลมพุ่งใส่มาโกโตะหลายร้อยอันในขณะเดียวกันตัวมันก็ได้พุ่งเข้าไปหาเขาด้วย
"เจ้าหนูแกไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก!"
"งั้นนายก็เตรียมถอนคำพูดซะ!"
การตั้งท่าของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม มันเหมือนกับท่าตีลูกเบสบอลไม่มีผิด
ท่าพิเศษ! สปินเนอร์เดรสน็อค!
เขาได้ฟาดดาบไปข้างหน้าพร้อมกับม้วนตัวจนหมุนไปมาโดยมีออร่าสีดำอยู่รอบตัว
และเพราะแรงเหงลวี่ยงจึงทำให้ร่างของเขาหมุนขึ้นฟ้าไปจนหลบการโจมตีทั้งหมดได้สำเร็จ
"ฉลาดไม่เบานี่น่าเจ้าหนู"
"แน่นอน!"
หลังจากที่ผลของท่าได้สลายหายไปเขาก็ได้ตั้งท่าคล้ายกับการเล่นสนุกโดยเล็งไปที่ศัตรูแบบตรงเป๊ะ
เอาล่ะ จะออกหัวหรือก้อยเดี๋ยวก็จะได้รู้กัน!
ทางฝั่งของศัตรูเองหลังจากที่รู้ว่าโดนเล็งอยู่มันจึงได้พุ่งตัวขึ้นมาหามาโกโตะโดยพุ่งซิกแซกไปมาเพื่อทำให้อีกฝ่ายสับสนไปด้วย
"ต่อให้แกจะทำอะไรก็เปล่าประโยชน์!"
"ดูให้จบก่อนแล้วค่อยมาวิจารณ์!"
กระแสลมแห่งความเกรี้ยวกราดได้ระเบิดออกมาจากข้างใต้ของเศษซากของภูเขาหิมะที่เพิ่งถล่มลงไป คนที่ยืนปรากฏตัวขึ้นมาก็คือมาโกโตะ
เขาได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเอาชนะศัตรูเบื้องหน้า
king of dark
มันเองก็รับรู้ได้เหมือนกันว่ามาโกโตะยังไม่ตายมันจึงตรงมายังเขาเพื่อเช็คดูอีกที และผลลัพธ์ที่เห็นก็ตรงกับที่สังหรณ์เอาไว้
"ถ้าหากว่านอนต่อไปเรื่องก็คงจบไปแล้วแท้ๆ ทำไมเจ้าถึงต้องลุกขึ้นมาอีก"
"เพราะเซนะ"
"ถ้าเด็กสาวคนนั้นเดี๋ยวฉันจะส่งเธอตามไปเอง"
"โทษทีแต่เธอคนนั้นเป็นคนที่ฉันต้องปกป้องเพราะงั้นคงจะปล่อยให้แกฆ่าเธอไม่ได้หรอก"
"เป็นคนรักสินะ.. "
"ประมาณนั้น.. "
"ช่วยไม่ได้สินะ งั้นอย่างน้อยๆฉันจะเอาจริงเพื่อให้เกียรติกับนายละกัน"
"ทางฉันก็เหมือนกัน!"
คำพูดของพวกเขาคือความจริง ทันทีที่พวกเขาขยับกองหิมะก็ได้พุ่งขึ้นจากผลลัพธ์ของพลังที่พวกเขาสองคนปะทะกัน
ประกายดาบสีฟ้าได้โจมตีใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่องแต่มันก็ไม่มีท่าทางอะไรใดๆเลยหลังจากถูกโจมตีขนาดนี้...
ทุกพลัง ทุกอย่างล้วนมีจุดอ่อนๆ คิดเลยคิดเข้าไป! จุดอ่อนของมันอยู่ตรงไหนกัน~!!!
สายตาของเข้าได้จับจัองไปที่ตัวมันในขณะที่กำลังแลกดาบกันอยู่
หากการโจมตีไหนที่มันรับไม่ได้ก็จะถูกปล่อยผ่านไปเพื่อปะทะกับร่างอมตะที่ไม่มีวันตาย
และถ้าหากมีช่องโหว่ตัวมันก็พร้อมที่จะฟันใส่แบบไม่ลังเล
จะว่าไปเจ้านี่มันก็ไม่ใช่มนุษย์ มันไม่มีเนื้อหนังถ้าหากมันเป็นจริงข้างในกระโหลกที่มีไฟลุกอยู่นั่นก็คงจะไม่มีสมองอยู่งั้นสาเหตุที่มันสามารถควบคุมร่างกายนี้ได้ก็น่าจะเป็น
( วิญญาณ! )
เขาได้ถอยออกมาอย่างฉิวเฉียดจากคมดาบยักษ์ของมันเพื่อตั้งหลัก
ร่างกายของเขาทีีเป็นมนุษย์เริ่มเหนื่อยจนถึงขั้นหอบออกมาผิดกับมันที่เป็นซากศพเดินได้ไม่รู้จักเหนื่อยใดๆทั้งสิ้น
แต่ว่าการต่อสู้นั้นไม่มีความปราณี!
มันได้ใช้พลังสร้างกระดูกแหลมพุ่งใส่มาโกโตะหลายร้อยอันในขณะเดียวกันตัวมันก็ได้พุ่งเข้าไปหาเขาด้วย
"เจ้าหนูแกไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก!"
"งั้นนายก็เตรียมถอนคำพูดซะ!"
การตั้งท่าของเขาเปลี่ยนไปจากเดิม มันเหมือนกับท่าตีลูกเบสบอลไม่มีผิด
ท่าพิเศษ! สปินเนอร์เดรสน็อค!
เขาได้ฟาดดาบไปข้างหน้าพร้อมกับม้วนตัวจนหมุนไปมาโดยมีออร่าสีดำอยู่รอบตัว
และเพราะแรงเหงลวี่ยงจึงทำให้ร่างของเขาหมุนขึ้นฟ้าไปจนหลบการโจมตีทั้งหมดได้สำเร็จ
"ฉลาดไม่เบานี่น่าเจ้าหนู"
"แน่นอน!"
หลังจากที่ผลของท่าได้สลายหายไปเขาก็ได้ตั้งท่าคล้ายกับการเล่นสนุกโดยเล็งไปที่ศัตรูแบบตรงเป๊ะ
เอาล่ะ จะออกหัวหรือก้อยเดี๋ยวก็จะได้รู้กัน!
ทางฝั่งของศัตรูเองหลังจากที่รู้ว่าโดนเล็งอยู่มันจึงได้พุ่งตัวขึ้นมาหามาโกโตะโดยพุ่งซิกแซกไปมาเพื่อทำให้อีกฝ่ายสับสนไปด้วย
"ต่อให้แกจะทำอะไรก็เปล่าประโยชน์!"
"ดูให้จบก่อนแล้วค่อยมาวิจารณ์!"
198
"ไม่ต้องย้ำหรอกน่า!"
"แหม่ๆ~ ก็แบบนี้มันสนุกกว่านี่น่า~"
"ผมเกลียดแม่!"
"เอาน่าๆ แม่เองก็เข้าใจความรู้สึกของลูกนะเพราะแต่ก่อนแม่เองก็เคยแพ้จนเป็นแบบลูกเนี่ยแหละ"
"โห~ คนๆนั้นคงเป็นที่สุดยอดมากเลยสิท่า~!"
"เขาคนนั้นก็คือ พ่อของลูกยังไงล่ะ!"
( ห่ะ! )
ตัวเขาที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อของตนเองเลยจึงได้ตาค้างทันทีที่แม่ของตนกำลังพูดถึงพ่อ
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามถามเกี่ยวกับเรื่องของพ่อแท้ๆแต่แม่ของเขาก็มักจะคุยเปลี่ยนเรื่องเสมอ
สิ่งที่เขารู้มาจากแม่มีเพียงแค่อย่างเดียวคือพ่อของเขานั้น ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว...
"พ่อของผมเขาเป็นใครกันแน่ แม่ช่วยบอกผมที!"
"ได้สิ!"
ตัวของเขาได้สั่นไปหมด นี่เราจะได้รู้เรื่องของพ่อแล้ว!
"แต่วันหลังนะ"
"เอ๋~!!!!"
"แต่วันนี้แม่จะบอกในสิ่งที่พ่อเคยบอกกับแม่และนี่ก็คือกุญแจสู่ความแข็งแกร่งที่ทำให้แม่มาได้ถึงขนาดนี้"
เธอได้สูดหายใจลึกๆก่อนจะพูดมันออกมา
"จิตใจยังไงล่ะ!"
( จิตใจ??? )
"จิตใจคือสิ่งที่กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างหากลูกมีจิตใจที่แน่วแน่ถึงตอนนั้นลูกก็จะแข็งแกร่งกว่าแม่อย่างแน่นอน"
"เป็นคำตอบที่ไม่เหมือนกับคำตอบเลยนะแม่"
"ตอนแรกแม่ก็วีนใส่พ่อเขาเหมือนกันแต่พอเวลามันผ่านไปแม่ก็เข้าใจ"
"แล้วกว่าแม่จะบรรลุใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะ???"
"ใช้คำว่าบรรลุเลยรึ , ก็ประมาณตอนแม่อายุได้ 17 ก่อนที่แม่จะตั้งท้องได้ 1 ปี"
"นี่แม่มีผมตอนอายุ 18 งั้นรึ!"
"หลงประเด็นแล้วย่ะ!"
หลังจากที่ตบมุขกันเสร็จทั้งสองก็ได้มองขึ้นไปบนฟ้าเพื่อที่จะมองดวงดาวนับล้านๆดวงที่ประดับอยู่บนฟากฟ้า...
ถึงแม้ที่พูดมาจะฟังดูงงๆแต่สำหรับมาโกโตะมันได้ทำทำให้เขาเดินกลับมายังเส้นทางที่ถูกต้อง
( ขอบคุณครับคุณแม่.. )
"ไม่ต้องย้ำหรอกน่า!"
"แหม่ๆ~ ก็แบบนี้มันสนุกกว่านี่น่า~"
"ผมเกลียดแม่!"
"เอาน่าๆ แม่เองก็เข้าใจความรู้สึกของลูกนะเพราะแต่ก่อนแม่เองก็เคยแพ้จนเป็นแบบลูกเนี่ยแหละ"
"โห~ คนๆนั้นคงเป็นที่สุดยอดมากเลยสิท่า~!"
"เขาคนนั้นก็คือ พ่อของลูกยังไงล่ะ!"
( ห่ะ! )
ตัวเขาที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพ่อของตนเองเลยจึงได้ตาค้างทันทีที่แม่ของตนกำลังพูดถึงพ่อ
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามถามเกี่ยวกับเรื่องของพ่อแท้ๆแต่แม่ของเขาก็มักจะคุยเปลี่ยนเรื่องเสมอ
สิ่งที่เขารู้มาจากแม่มีเพียงแค่อย่างเดียวคือพ่อของเขานั้น ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว...
"พ่อของผมเขาเป็นใครกันแน่ แม่ช่วยบอกผมที!"
"ได้สิ!"
ตัวของเขาได้สั่นไปหมด นี่เราจะได้รู้เรื่องของพ่อแล้ว!
"แต่วันหลังนะ"
"เอ๋~!!!!"
"แต่วันนี้แม่จะบอกในสิ่งที่พ่อเคยบอกกับแม่และนี่ก็คือกุญแจสู่ความแข็งแกร่งที่ทำให้แม่มาได้ถึงขนาดนี้"
เธอได้สูดหายใจลึกๆก่อนจะพูดมันออกมา
"จิตใจยังไงล่ะ!"
( จิตใจ??? )
"จิตใจคือสิ่งที่กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างหากลูกมีจิตใจที่แน่วแน่ถึงตอนนั้นลูกก็จะแข็งแกร่งกว่าแม่อย่างแน่นอน"
"เป็นคำตอบที่ไม่เหมือนกับคำตอบเลยนะแม่"
"ตอนแรกแม่ก็วีนใส่พ่อเขาเหมือนกันแต่พอเวลามันผ่านไปแม่ก็เข้าใจ"
"แล้วกว่าแม่จะบรรลุใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะ???"
"ใช้คำว่าบรรลุเลยรึ , ก็ประมาณตอนแม่อายุได้ 17 ก่อนที่แม่จะตั้งท้องได้ 1 ปี"
"นี่แม่มีผมตอนอายุ 18 งั้นรึ!"
"หลงประเด็นแล้วย่ะ!"
หลังจากที่ตบมุขกันเสร็จทั้งสองก็ได้มองขึ้นไปบนฟ้าเพื่อที่จะมองดวงดาวนับล้านๆดวงที่ประดับอยู่บนฟากฟ้า...
ถึงแม้ที่พูดมาจะฟังดูงงๆแต่สำหรับมาโกโตะมันได้ทำทำให้เขาเดินกลับมายังเส้นทางที่ถูกต้อง
( ขอบคุณครับคุณแม่.. )
197
เพราะความน่ากลัวนี้จึงทำให้ไม่มีใครในโรงเรียนกล้ามาท้าเขาสู้อีกเลย แต่เขาก็ยังไม่พอ สุดท้ายเขาจึงออกไปแข่งในรายการต่างๆที่ถูกจัดขึ้น เหล่าคนที่อยากจะเอาชนะเขาจึงทยอยกันมาแบบไม่หยุดหย่อน
จากสิบถึงร้อย
จากร้อยถึงพัน
จากพันถึงหมื่น...
เขาได้จัดการคนพวกนั้นอย่างสนุกสนานราวกับเป็นเพียงแค่ของเล่น ความสามารถของเขาจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
เอาอีก ฉันต้องการมากกว่านี้!
สุดท้ายก็ไม่มีใครมาสู้กับเขาอีกต่อไป ความน่ากลัวของเขาได้ทำให้ทุกคนรับรู้จนเป็นที่กล่าวขวัญ ขอเพียงแค่พูดชื่อของเขาคู่ต่อสู้ก็ถึงกับหนีออกไปจากการแข่งขัน
จากตอนแรกที่เป็นอัจฉริยะที่รู้จักกันแค่ภายในโรงเรียน ในตอนนี้เขาเป็นอัจฉริยะที่ถูกรู้จักกันไปทั่วทั้งยุคสมัยนั้น
ยามเย็นแห่งความน่าเบื่อในวันๆหนึ่ง
ตัวเขาได้ออกมานั่งรับลมข้างนอกระเบียง..
หลังจากที่อาละวาดจนพอใจสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือความว่างเปล่า
ไม่มีทั้งเป้าหมาย ไม่มีทั้งอะไรเลย
ตัวเขาไม่รู้จะทำอะไรต่อไปทั้งนั้น...
( มันว่างเปล่า! )
เพราะความคิดที่ว่างเปล่าพอรู้ตัวอีกทีแม่ของเขาก็ได้มายืนรับลมอยู่ข้างๆเสียแล้ว
และเพราะความว่างเปล่าเขาจึงไม่ตกใจกับเรื่องนี้กลับกัน มันยิ่งทำให้เขาว่างเปล่ายิ่งกว่าเดิม
"ได้ข่าวว่าไปอาละวาดมาสินะ.. "
"อืม.. "
"แล้วทำไมถึงทำหน้าตายแบบนั้นล่ะ"
"ไม่รู้.. "
"แต่ฉันรู้นะว่าเพราะอะไร"
ด้วยคำพูดนั้นเขาจึงหันมาทางแม่ของตน ตัวเขาที่ว่างเปล่าอยากที่จะรู้ถึงเหตุผล
เหตุผลที่ทำให้ตนต้องมาอยู่ในสภาพนี้
"คำตอบคือ หนี!"
"หนี!?"
"ลูกน่ะเพราะแพ้จากแม่มามากมายจึงหนีไประบายกับคนที่อ่อนแอกว่าจนสุดท้ายก็พอใจ แต่เพราะลูกพอใจลูกจึงสูญเสียเป้าหมายเดิมไป"
เป้าหมายเดิม!
แววตาอันว่างเปล่าของเขาค่อยๆหายไปอย่างช้าๆจนกลับมาเป็นแบบเดิม
"นั่นสินะ.. ถูกของแม่ผมหนีมา หนีจากความจริงที่ผมแพ้แม่"
"ใช่ๆแพ้มา 937 ครั้งแล้วด้วย!"
เพราะความน่ากลัวนี้จึงทำให้ไม่มีใครในโรงเรียนกล้ามาท้าเขาสู้อีกเลย แต่เขาก็ยังไม่พอ สุดท้ายเขาจึงออกไปแข่งในรายการต่างๆที่ถูกจัดขึ้น เหล่าคนที่อยากจะเอาชนะเขาจึงทยอยกันมาแบบไม่หยุดหย่อน
จากสิบถึงร้อย
จากร้อยถึงพัน
จากพันถึงหมื่น...
เขาได้จัดการคนพวกนั้นอย่างสนุกสนานราวกับเป็นเพียงแค่ของเล่น ความสามารถของเขาจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ
เอาอีก ฉันต้องการมากกว่านี้!
สุดท้ายก็ไม่มีใครมาสู้กับเขาอีกต่อไป ความน่ากลัวของเขาได้ทำให้ทุกคนรับรู้จนเป็นที่กล่าวขวัญ ขอเพียงแค่พูดชื่อของเขาคู่ต่อสู้ก็ถึงกับหนีออกไปจากการแข่งขัน
จากตอนแรกที่เป็นอัจฉริยะที่รู้จักกันแค่ภายในโรงเรียน ในตอนนี้เขาเป็นอัจฉริยะที่ถูกรู้จักกันไปทั่วทั้งยุคสมัยนั้น
ยามเย็นแห่งความน่าเบื่อในวันๆหนึ่ง
ตัวเขาได้ออกมานั่งรับลมข้างนอกระเบียง..
หลังจากที่อาละวาดจนพอใจสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือความว่างเปล่า
ไม่มีทั้งเป้าหมาย ไม่มีทั้งอะไรเลย
ตัวเขาไม่รู้จะทำอะไรต่อไปทั้งนั้น...
( มันว่างเปล่า! )
เพราะความคิดที่ว่างเปล่าพอรู้ตัวอีกทีแม่ของเขาก็ได้มายืนรับลมอยู่ข้างๆเสียแล้ว
และเพราะความว่างเปล่าเขาจึงไม่ตกใจกับเรื่องนี้กลับกัน มันยิ่งทำให้เขาว่างเปล่ายิ่งกว่าเดิม
"ได้ข่าวว่าไปอาละวาดมาสินะ.. "
"อืม.. "
"แล้วทำไมถึงทำหน้าตายแบบนั้นล่ะ"
"ไม่รู้.. "
"แต่ฉันรู้นะว่าเพราะอะไร"
ด้วยคำพูดนั้นเขาจึงหันมาทางแม่ของตน ตัวเขาที่ว่างเปล่าอยากที่จะรู้ถึงเหตุผล
เหตุผลที่ทำให้ตนต้องมาอยู่ในสภาพนี้
"คำตอบคือ หนี!"
"หนี!?"
"ลูกน่ะเพราะแพ้จากแม่มามากมายจึงหนีไประบายกับคนที่อ่อนแอกว่าจนสุดท้ายก็พอใจ แต่เพราะลูกพอใจลูกจึงสูญเสียเป้าหมายเดิมไป"
เป้าหมายเดิม!
แววตาอันว่างเปล่าของเขาค่อยๆหายไปอย่างช้าๆจนกลับมาเป็นแบบเดิม
"นั่นสินะ.. ถูกของแม่ผมหนีมา หนีจากความจริงที่ผมแพ้แม่"
"ใช่ๆแพ้มา 937 ครั้งแล้วด้วย!"
196
นี่ๆ.. ทำไมแม่ถึงได้เก่งคะแนนนี้ล่ะ??? คำถามนี้ของเขาได้ถามกับแม่ของตนในตอนที่ตนเองยังอายุได้เพียงแค่เจ็ดขวบ มาโกโตะในวัยเด็กก็ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ แต่เขากลับยังไม่อยากยอมรับมัน และเหตุผลก็เพราะ...
มีคนที่สุดยอดกว่าตัวเขาอยู่ตรงหน้า!
ใช่แล้ว.. คนๆนั้นก็คือแม่ของเขานั่นเอง....
ตัวเขาที่ถูกยกย่องว่าอัจฉริยะนั้นความจริงแล้วคือเขาได้รับการสอนจากอาจารย์ที่เป็นอัจฉริยะยิ่งกว่าซึ่งนั่นก็คือแม่ของเขานั่นเอง
ในช่วงเวลาว่างเขาก็มักจะเรียนสิ่งต่างๆกับแม่ของตน และเพราะว่ามีคนที่เป็นเป้าหมายเขาจึงอยากที่จะเอาชนะและได้เรียนรู้วิธีที่จะเอาชนะแม่ของตน
แต่ทว่า.. เขากลับแพ้แม่ของตนทุกครั้งที่ถ้าแข่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
หากแพ้แค่ครั้งเดียวมันก็คงไม่เท่าไหร่แต่เขากลับแพ้เธอทุกครั้ง
กำลังใจในตอนนั้นของเขาจึงถูกทำลายลงเรื่อยๆ
ผลลัพธ์นั้นจึงค่อยๆแสดงออกมาให้คนรอบข้างได้เห็น
เพราะถูกอัจฉริยะที่เหนือกว่าชนะมาเป็นสิบๆครั้ง ตัวเขาจึงมีแต่ความเจ็บใจอยู่เต็มไปหมด
(อยากระบาย!)
ฉันอยากจะหาที่ระบาย!
ในโรงเรียนเขาได้รับคำท้าทุกอย่างจากคนที่ไม่ชอบใจในตัวของเขาซึ่งนั่นก็เพราะว่าเขาถูกขนานามว่าอัจฉริยะนั่นเอง หากเป็นตอนปกติเขามักจะปฏิเสธคนที่มาท้าโดยให้เหตุผลแบบผ่านๆไปว่า
มันเสียเวลา...
แต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่ตัวของเขาในแบบเดิมๆ
เขาในตอนนี้อยากจะระเบิดความเก็บกดนี้ราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะใกล้ปะทุ
ในการแข่งเขาได้เอาชนะไปด้วยฝีมือที่เหนือยิ่งกว่าเพื่อเป็นการระบายใส่คนอื่น เหล่าผู้ท้าชิงที่ได้เห็นทุกรายต่างพากันลงไปนอนดิ้นด้วยความเจ็บใจ
มันทำให้เขาได้เห็นอีกมุมมองที่ตนไม่เคยได้พบเห็น
ภาพของผู้ที่อ่อนแอที่ถูกทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้น
นี่สินะคือมุมมองที่แม่ได้เห็น มุมมองของผู้ที่เหนือยิ่งกว่าแบบสุดๆ
ภาพของเขาได้ซ้อนทับกับภาพของคู่แข่งที่ลงไปนอนกองกับพื้น
มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงโลกใหม่ โลกที่เขาจะเข้าใกล้แม่ของตนไปอีกก้าว
มีน้ำยาแค่นี้แล้วยังกล้าปากดีอีกนะ! คำพูดของเขาได้ทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายจนยับเยินไม่เป็นชิ้นดี
เอาอีก! ฉันต้องการมันอีก!
ฉันอยากจะเห็นมันอีก!!!
ในช่วงเวลานั้นความน่ากลัวของเขาจึงทำให้ผู้คนรอบๆข้างไม่กล้ามาสู้กับเขาอีกเลย แต่สำหรับเขาแค่นี้มันยังไม่พอที่จะระบายความในใจ
นี่ๆ.. ทำไมแม่ถึงได้เก่งคะแนนนี้ล่ะ??? คำถามนี้ของเขาได้ถามกับแม่ของตนในตอนที่ตนเองยังอายุได้เพียงแค่เจ็ดขวบ มาโกโตะในวัยเด็กก็ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ แต่เขากลับยังไม่อยากยอมรับมัน และเหตุผลก็เพราะ...
มีคนที่สุดยอดกว่าตัวเขาอยู่ตรงหน้า!
ใช่แล้ว.. คนๆนั้นก็คือแม่ของเขานั่นเอง....
ตัวเขาที่ถูกยกย่องว่าอัจฉริยะนั้นความจริงแล้วคือเขาได้รับการสอนจากอาจารย์ที่เป็นอัจฉริยะยิ่งกว่าซึ่งนั่นก็คือแม่ของเขานั่นเอง
ในช่วงเวลาว่างเขาก็มักจะเรียนสิ่งต่างๆกับแม่ของตน และเพราะว่ามีคนที่เป็นเป้าหมายเขาจึงอยากที่จะเอาชนะและได้เรียนรู้วิธีที่จะเอาชนะแม่ของตน
แต่ทว่า.. เขากลับแพ้แม่ของตนทุกครั้งที่ถ้าแข่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
หากแพ้แค่ครั้งเดียวมันก็คงไม่เท่าไหร่แต่เขากลับแพ้เธอทุกครั้ง
กำลังใจในตอนนั้นของเขาจึงถูกทำลายลงเรื่อยๆ
ผลลัพธ์นั้นจึงค่อยๆแสดงออกมาให้คนรอบข้างได้เห็น
เพราะถูกอัจฉริยะที่เหนือกว่าชนะมาเป็นสิบๆครั้ง ตัวเขาจึงมีแต่ความเจ็บใจอยู่เต็มไปหมด
(อยากระบาย!)
ฉันอยากจะหาที่ระบาย!
ในโรงเรียนเขาได้รับคำท้าทุกอย่างจากคนที่ไม่ชอบใจในตัวของเขาซึ่งนั่นก็เพราะว่าเขาถูกขนานามว่าอัจฉริยะนั่นเอง หากเป็นตอนปกติเขามักจะปฏิเสธคนที่มาท้าโดยให้เหตุผลแบบผ่านๆไปว่า
มันเสียเวลา...
แต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่ตัวของเขาในแบบเดิมๆ
เขาในตอนนี้อยากจะระเบิดความเก็บกดนี้ราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะใกล้ปะทุ
ในการแข่งเขาได้เอาชนะไปด้วยฝีมือที่เหนือยิ่งกว่าเพื่อเป็นการระบายใส่คนอื่น เหล่าผู้ท้าชิงที่ได้เห็นทุกรายต่างพากันลงไปนอนดิ้นด้วยความเจ็บใจ
มันทำให้เขาได้เห็นอีกมุมมองที่ตนไม่เคยได้พบเห็น
ภาพของผู้ที่อ่อนแอที่ถูกทำลายทุกอย่างจนหมดสิ้น
นี่สินะคือมุมมองที่แม่ได้เห็น มุมมองของผู้ที่เหนือยิ่งกว่าแบบสุดๆ
ภาพของเขาได้ซ้อนทับกับภาพของคู่แข่งที่ลงไปนอนกองกับพื้น
มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงโลกใหม่ โลกที่เขาจะเข้าใกล้แม่ของตนไปอีกก้าว
มีน้ำยาแค่นี้แล้วยังกล้าปากดีอีกนะ! คำพูดของเขาได้ทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายจนยับเยินไม่เป็นชิ้นดี
เอาอีก! ฉันต้องการมันอีก!
ฉันอยากจะเห็นมันอีก!!!
ในช่วงเวลานั้นความน่ากลัวของเขาจึงทำให้ผู้คนรอบๆข้างไม่กล้ามาสู้กับเขาอีกเลย แต่สำหรับเขาแค่นี้มันยังไม่พอที่จะระบายความในใจ
195
ความตายนั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง!
เสียงขอมันได้สั่นสะเทือนไปทั่วบรรยากาศพร้อมๆกับออร่าจากร่างกายที่เป็นโครงกระดูก
มันได้ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆราวกับลอยขึ้นมา
ทันทีที่มันยื่นมือมาข้างหน้ามือข้างนั้นก็ได้มาสัมผัสกับหัวของเด็กหนุ่มเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ
นี่คือสุดยอดการเคลื่อนที่
( การเทเลพอร์ตระยะสั้น! )
ถึงแม้จะรู้สึกตัวแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถหลบมันได้พ้นและนี่ก็คือเหตุผลถึงสิ่งที่มันชอบพูดอยู่บ่อยๆ
เจ้าหนู!
คำๆนี้สำหรับมันมีความหมายว่า ผู้อ่อนประสบการณ์หรือก็คือผู้ที่ยังไม่มีทักษะที่ดีพอในการเอาตัวรอด
"แก!"
"เจ้าหนูแกมันยังกากเกินไป!"
มวลพลังมหาศาลค่อยๆมารวมตัวกันที่มือข้างนั้นจนเห็นได้อย่างชัดเจน
ร่างของมาโกโตะค่อยๆถูกจับลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ
เจ้านี่มันจะมีพลังมากเกินไปแล้ว! นี่มันเป็นปีศาจชัดๆ แล้วนี่เราจะเอาชนะมันได้จริงๆอย่างงั้นหรอ!!!!
ความกลัวได้เริ่มก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของเขา
( ตาย! , ความตาย!)
"ด้วยความเมตตาจากข้าข้าจะทำให้เจ้าและเด็กสาวเพื่อนของเจ้าได้ตายตามๆกันไปอย่างไม่เจ็บปวด หากว่าเด็กสาวคนนั้นเกิดรอดไปได้เธออาจจะนำมาซึ่งความหายนะของพวกเราก็เป็นได้เพราะเธอนั้นได้รู้เรื่องที่ไม่
สมควรที่จะรู้ไปสักแล้วเพราะงั้นอย่างน้อยๆเด็กสาวคนนั้นจะได้ตายอย่างไม่ทรมาณ"
เซนะ..
พลังของมันได้มารวมกันเสร็จสิ้นก่อนที่มือข้างนั้นจะส่องแสงสีดำทมิฬออกมา
"อิเลกูลัส จัสติส!"
แสงสีดำได้ถูกปล่อยออกมาจากมือของมัน...
อ๊ากกกกกกก~!!! เสียงดังลั่นจากความเจ็บปวดได้ดังขึ้น ร่างของมาโกโตะได้โดนลำแสงสีดำทมิฬของมันผลักร่างของเขาออกไปเรื่อยๆ
ตรงส่วนหัวของเขาที่โดนอัดพลังใส่แบบจังๆทำให้มีเลือดไหลนองออกมาจากหัว
ตอนนี้ร่างของเขากำลังพุ่งไปเรื่อยๆราวกับจะไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อร่างของเขาได้พุ่งชนกับภูเขาหิมะขนาดยักษ์การระเบิดจึงได้เกิดขึ้น ภูเขาหิมะได้ถูกพลังทำลายมหาศาลทำลายมันจนถล่มลงมาเรื่อยๆ ร่างของมาโกโตะที่ตกลงมาจึงถูกทับไปด้วยกองหิมะและเศษหินจำนวนมาก
ความตายนั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง!
เสียงขอมันได้สั่นสะเทือนไปทั่วบรรยากาศพร้อมๆกับออร่าจากร่างกายที่เป็นโครงกระดูก
มันได้ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆราวกับลอยขึ้นมา
ทันทีที่มันยื่นมือมาข้างหน้ามือข้างนั้นก็ได้มาสัมผัสกับหัวของเด็กหนุ่มเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ
นี่คือสุดยอดการเคลื่อนที่
( การเทเลพอร์ตระยะสั้น! )
ถึงแม้จะรู้สึกตัวแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถหลบมันได้พ้นและนี่ก็คือเหตุผลถึงสิ่งที่มันชอบพูดอยู่บ่อยๆ
เจ้าหนู!
คำๆนี้สำหรับมันมีความหมายว่า ผู้อ่อนประสบการณ์หรือก็คือผู้ที่ยังไม่มีทักษะที่ดีพอในการเอาตัวรอด
"แก!"
"เจ้าหนูแกมันยังกากเกินไป!"
มวลพลังมหาศาลค่อยๆมารวมตัวกันที่มือข้างนั้นจนเห็นได้อย่างชัดเจน
ร่างของมาโกโตะค่อยๆถูกจับลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ
เจ้านี่มันจะมีพลังมากเกินไปแล้ว! นี่มันเป็นปีศาจชัดๆ แล้วนี่เราจะเอาชนะมันได้จริงๆอย่างงั้นหรอ!!!!
ความกลัวได้เริ่มก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของเขา
( ตาย! , ความตาย!)
"ด้วยความเมตตาจากข้าข้าจะทำให้เจ้าและเด็กสาวเพื่อนของเจ้าได้ตายตามๆกันไปอย่างไม่เจ็บปวด หากว่าเด็กสาวคนนั้นเกิดรอดไปได้เธออาจจะนำมาซึ่งความหายนะของพวกเราก็เป็นได้เพราะเธอนั้นได้รู้เรื่องที่ไม่
สมควรที่จะรู้ไปสักแล้วเพราะงั้นอย่างน้อยๆเด็กสาวคนนั้นจะได้ตายอย่างไม่ทรมาณ"
เซนะ..
พลังของมันได้มารวมกันเสร็จสิ้นก่อนที่มือข้างนั้นจะส่องแสงสีดำทมิฬออกมา
"อิเลกูลัส จัสติส!"
แสงสีดำได้ถูกปล่อยออกมาจากมือของมัน...
อ๊ากกกกกกก~!!! เสียงดังลั่นจากความเจ็บปวดได้ดังขึ้น ร่างของมาโกโตะได้โดนลำแสงสีดำทมิฬของมันผลักร่างของเขาออกไปเรื่อยๆ
ตรงส่วนหัวของเขาที่โดนอัดพลังใส่แบบจังๆทำให้มีเลือดไหลนองออกมาจากหัว
ตอนนี้ร่างของเขากำลังพุ่งไปเรื่อยๆราวกับจะไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อร่างของเขาได้พุ่งชนกับภูเขาหิมะขนาดยักษ์การระเบิดจึงได้เกิดขึ้น ภูเขาหิมะได้ถูกพลังทำลายมหาศาลทำลายมันจนถล่มลงมาเรื่อยๆ ร่างของมาโกโตะที่ตกลงมาจึงถูกทับไปด้วยกองหิมะและเศษหินจำนวนมาก
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561
194
มันได้เงียบไปสักครู่ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา
"เพื่อนของนายสวยดีนะเจ้าหนู..."
( แก! )
คำๆนั้นได้ทำให้มาโกโตะฟิวขาดขึ้นมาทันที เขาได้ใส่พลังลงไปที่ดาบจนเกิดเป็นพลังมหาศาล ดาบยักษ์ที่เข้ามารับการโจมตีได้ถูกพลังขั้นขีดสุดของมาโกโตะฟันจนหัก
มันได้เงียบไปสักครู่ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา
"เพื่อนของนายสวยดีนะเจ้าหนู..."
( แก! )
คำๆนั้นได้ทำให้มาโกโตะฟิวขาดขึ้นมาทันที เขาได้ใส่พลังลงไปที่ดาบจนเกิดเป็นพลังมหาศาล ดาบยักษ์ที่เข้ามารับการโจมตีได้ถูกพลังขั้นขีดสุดของมาโกโตะฟันจนหัก
ร่างของมันได้ถูกแรงระเบิดจากการฟาดกระเด็นไปชนกับภูเขาหินจนเป็นรอยบุบก่อนที่มาโกโตะจะใช้พลังบินมาเพื่อกะจะซ้ำให้ตาย...
สีหน้าแบบนั้นแหละ เจ้าหนู...
ดาบยักษ์เล่มใหม่ได้ถูกเรียกออกมา ดาบเล่มนี้แตกต่างจากเล่มก่อนๆลิบลับ มันทำให้มาโกโตะที่พุ่งเข้ามารับรู้ถึงการเอาจริงได้ในทันที
"มาเลยยยย~! เจ้าหนู!!!"
"ฉันจะฆ่าแก~!!!!"
การปะทะกันของผู้แข็งแกร่งได้ทำลายทุกสิ่งรอบๆตัวของพวกเขาจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม
ต้นไม้ถูกฟันขาด ถ้ำถล่มลงมา บ่อน้ำแห้งเหือด
การต่อสู้นี้ได้ทำลายธรรมชาติอันงดงามจนหมดสิ้น
ในระหว่างการปะทะกันของทั้งสองขณะที่แรกดาบไปด้วยนั้น มันก็ได้อาศัยจังหวะนั้นสนทนากับมาโกโตะเพื่อยั่วโมโหเขายิ่งกว่าเดิม
"หลังจากที่ฆ่าแกได้ต่อไปก็เป็นตาเพื่อนของแกเธอเองก็เป็นคนสวยใช้ได้ รู้ไหมว่ามันเสียของหากฆ่าเธอทิ้ง ที่เมืองที่พวกข้าเข้าไปยึด พวกมนุษย์อย่างพวกแกจะถูกจับมาเป็นทาสเพื่อทำงาน ต่อให้ เป็น เด็ก ผู้หญิงหรือคนแก่ก็ไม่เว้น แต่ถ้าหากมีสาวสวยๆอย่างเพื่อนของแกล่ะ! รู้ไหมว่าพวกเราจะทำยังไงกับมัน"
มันได้เอาหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆด้วยรอยยิ้ม
"คำตอบคือ เป็นสัตว์เลี้ยงของพวกเรายังไงล่ะ!"
"แก~!!!!!"
( ฆ่า! )
ดาบเล่มที่เขากำลังฟันอยู่ได้หักคามือด้วยแรงบีบมหาศาลจากความโกรธ ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธอยู่แต่เขาก็ไม่ได้เปิดช่องว่างเลยแม้แต่นิดเดียว
ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนอาวุธเขาได้ถีบมันออกไปไกลๆด้วยแรงมหาศาลจนทำให้ร่างของมันพุ่งชนต้นไม้จนหักไปกว่ายี่สิบต้น
( ต้องฆ่า!! )
เขาได้ใช้พลังมหาศาลในการพุ่งไปหามันขณะที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับอาวุธใหม่ ทวน!
ทวนนั้นมีลักษณะคล้ายกระบองยาวแต่มีจุดเด่นตรงที่มีคมทั้งสองด้านคล้ายหอกซึ่งมันคืออาวุธที่แท้จริงของเขา
แขนได้ถูกยกจนสูงขึ้นก่อนที่จะเหวี่ยงลงมาพร้อมกับทวน
เพราะถูกจับเกราะเอาไว้อยู่จึงไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้อย่างแน่นอน
การโจมตีนี้จึงพุ่งไปยังกลางร่างของมันอย่างไร้ความปราณี
" Infinity penetrate!!! "
แสงสีดำได้พุ่งผ่านร่างของมันไปก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศจนทำให้ชุดเกราะส่วนบนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างของเขาจึงได้ตกลงมาที่พื้นหิมะอันหนาวเย็นตามแรงโน้มถ่วงของโลก
เพราะเป็นเพียงแค่โครงกระดูกเดินได้ มันจึงไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งสิ้นจากการโจมตีเมื่อสักครู่นี้
ชุดเกราะที่แตกออกได้เผยให้ร่างของมันที่มีแต่กระดูก แม้ว่าจะโดนโจมตีหนักขนาดไหนก็ตามแต่กระดูกของเขาก็ไม่มีวันหักนี่เป็นเพราะพลังของเขา พลังที่ได้จากการฆ่าคู่หูของตัวเองจนได้มันมา
The bone gradiator
วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561
193
หลังจากคำสั่งถูกสั่งไปทำให้ตอนนี้ที่ลานหิมะมีเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนที่กำลังประดาบกันอยู่
ทั้งสองได้ประดาบกันโดยไม่มีทีท่าว่าจะใช้พลังกันเลยแม้แต่น้อย
สาเหตุก็มาจากนี่เป็นเพียงแค่การลองเชิงจึงไม่จำเป็นต้องใช้มันให้สิ้นเปลืองพลังงาน
เจ้านี่มีทักษะการต่อสู้ที่สุดยอดจริงๆ ร่างกายของมันคงเหลือแต่กระดูกไปแล้วแท้ๆแต่มันกลับมีแรงจนยกดาบใหญ่ขนาดนี้ขว้างเล่นไปมาได้อีก
แถมถ้าวิเคราะห์ดูแล้วเจ้านี่คงสูญเสียความรู้สึกต่างๆไปหมดแล้วเพราะงั้นมันถึงไม่รู้จักกับคำว่าเหนื่อย
เขาได้ตีลังกาหลบดาบของมันได้อย่างคล่องแคล่ว
แถมถ้าเป็นความจริงล่ะก็งั้นมันก็แสดงว่ามันไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเช่นกันเพราะงั้นต่อให้โดนฟันขนาดไหนมันก็ไม่รู้สึกเจ็บ!
ราวกับว่ากำลังสู้อยู่กับเครื่องจักรที่ไม่มีความรู้สึก!
เขาได้พุ่งลงมาที่พื้นอย่างสวยงามก่อนจะตั้งท่าสำหรับการพร้อมสู้
มันเองจึงพุ่งเข้ามากระหน่ำฟาดใส่เขาแบบไม่ยั้ง มาโกโตะจึงเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว
"วิเคราะห์พอหรือยัง"
"รู้ด้วยงั้นหรอ.. "
"สายตาของเธอมันฟ้อง!"
"สงสัยวันหลังฉันคงต้องใส่แว่นสู้แล้วสินะ"
ฉึบ! เสียงจากการตัดได้ดังขึ้นมาก่อนการฟาดครั้งใหม่ ที่ตัวดาบทั้งดาบของดาบเล่มยักษ์ได้หักลงไปต่อหน้าต่อตาเจ้าของของมันจนเหลือไว้แต่เพียงด้ามดาบที่กำลังกำคามือของมันอยู่เท่านั้น
มันได้ขว้างด้ามดาบทิ้งไปก่อนจะเรียกดาบอีกเล่มออกมาแทน
ก็จริงอยู่ว่าตอนนี้มีช่องโหว่ที่จะโจมตีมากมายแต่เขาก็ไม่ทำ
และนี่ก็คือข้อเสียของเขา
ในที่สุดการเปลี่ยนดาบก็ได้เสร็จสิ้นลงไปอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ความตึงเครียดจึงกลับคืนมาเป็นอย่างเดิม
มันได้จ้องมาที่มาโกโตะพร้อมกับระเบิดพลังออกมาจนเห็นเป็นเพลิงสีดำ
บรรยากาศเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆจนทั้งร่างของเขาสั่นไม่หยุด
ถ้าหากว่าเราขี้ขลาดสักหน่อยป่านนี้ก็คงจะรอดหรือไม่ก็ถูกตามทันจนถูกฆ่าตายอยู่ดี ทางเลือกไหนๆก็มีแต่ตายกับตายแต่ทำไมกันนะ ทำไมเราถึงต้องเลือกทางนี้...
ภาพของเซนะจึงได้ผุดขึ้นมาในหัวของเขาเต็มไปหมด
นั่นสิเนาะ...
ฉันสู้เพื่อเธอนี่เอง!
อยู่ๆเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมา พลังของเขาเห็นได้ชัดเจนในรูปของวงแหวนสีดำกับเสาสีดำที่พุ่งออกมาจากร่างของเขาเรื่อยๆ
มันมีรูปร่างและขนาดที่ยิ่งใหญ่จนเทียบไม่ติดกับของโครงกระดูก
มันไม่ได้หวาดกลัวหรืออะไรทั้งสิ้นหลังจากที่ได้เห็นพลังของมาโกโตะ
ตรงกันข้าม
มันกำลังยิ้มอยู่!
"ถ้าหากว่านายไม่มาตายอยู่ตรงนี้นายก็คงจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากแน่ๆในอนาคต ชิราสากิ มาโกโตะ!"
"ฉันมาจากอนาคตอยู่แล้วน่ะ เพราะงั้นไม่ต้องหรอก!"
หลังจากคำสั่งถูกสั่งไปทำให้ตอนนี้ที่ลานหิมะมีเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนที่กำลังประดาบกันอยู่
ทั้งสองได้ประดาบกันโดยไม่มีทีท่าว่าจะใช้พลังกันเลยแม้แต่น้อย
สาเหตุก็มาจากนี่เป็นเพียงแค่การลองเชิงจึงไม่จำเป็นต้องใช้มันให้สิ้นเปลืองพลังงาน
เจ้านี่มีทักษะการต่อสู้ที่สุดยอดจริงๆ ร่างกายของมันคงเหลือแต่กระดูกไปแล้วแท้ๆแต่มันกลับมีแรงจนยกดาบใหญ่ขนาดนี้ขว้างเล่นไปมาได้อีก
แถมถ้าวิเคราะห์ดูแล้วเจ้านี่คงสูญเสียความรู้สึกต่างๆไปหมดแล้วเพราะงั้นมันถึงไม่รู้จักกับคำว่าเหนื่อย
เขาได้ตีลังกาหลบดาบของมันได้อย่างคล่องแคล่ว
แถมถ้าเป็นความจริงล่ะก็งั้นมันก็แสดงว่ามันไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเช่นกันเพราะงั้นต่อให้โดนฟันขนาดไหนมันก็ไม่รู้สึกเจ็บ!
ราวกับว่ากำลังสู้อยู่กับเครื่องจักรที่ไม่มีความรู้สึก!
เขาได้พุ่งลงมาที่พื้นอย่างสวยงามก่อนจะตั้งท่าสำหรับการพร้อมสู้
มันเองจึงพุ่งเข้ามากระหน่ำฟาดใส่เขาแบบไม่ยั้ง มาโกโตะจึงเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว
"วิเคราะห์พอหรือยัง"
"รู้ด้วยงั้นหรอ.. "
"สายตาของเธอมันฟ้อง!"
"สงสัยวันหลังฉันคงต้องใส่แว่นสู้แล้วสินะ"
ฉึบ! เสียงจากการตัดได้ดังขึ้นมาก่อนการฟาดครั้งใหม่ ที่ตัวดาบทั้งดาบของดาบเล่มยักษ์ได้หักลงไปต่อหน้าต่อตาเจ้าของของมันจนเหลือไว้แต่เพียงด้ามดาบที่กำลังกำคามือของมันอยู่เท่านั้น
มันได้ขว้างด้ามดาบทิ้งไปก่อนจะเรียกดาบอีกเล่มออกมาแทน
ก็จริงอยู่ว่าตอนนี้มีช่องโหว่ที่จะโจมตีมากมายแต่เขาก็ไม่ทำ
และนี่ก็คือข้อเสียของเขา
ในที่สุดการเปลี่ยนดาบก็ได้เสร็จสิ้นลงไปอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ความตึงเครียดจึงกลับคืนมาเป็นอย่างเดิม
มันได้จ้องมาที่มาโกโตะพร้อมกับระเบิดพลังออกมาจนเห็นเป็นเพลิงสีดำ
บรรยากาศเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆจนทั้งร่างของเขาสั่นไม่หยุด
ถ้าหากว่าเราขี้ขลาดสักหน่อยป่านนี้ก็คงจะรอดหรือไม่ก็ถูกตามทันจนถูกฆ่าตายอยู่ดี ทางเลือกไหนๆก็มีแต่ตายกับตายแต่ทำไมกันนะ ทำไมเราถึงต้องเลือกทางนี้...
ภาพของเซนะจึงได้ผุดขึ้นมาในหัวของเขาเต็มไปหมด
นั่นสิเนาะ...
ฉันสู้เพื่อเธอนี่เอง!
อยู่ๆเขาก็ได้ระเบิดพลังออกมา พลังของเขาเห็นได้ชัดเจนในรูปของวงแหวนสีดำกับเสาสีดำที่พุ่งออกมาจากร่างของเขาเรื่อยๆ
มันมีรูปร่างและขนาดที่ยิ่งใหญ่จนเทียบไม่ติดกับของโครงกระดูก
มันไม่ได้หวาดกลัวหรืออะไรทั้งสิ้นหลังจากที่ได้เห็นพลังของมาโกโตะ
ตรงกันข้าม
มันกำลังยิ้มอยู่!
"ถ้าหากว่านายไม่มาตายอยู่ตรงนี้นายก็คงจะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากแน่ๆในอนาคต ชิราสากิ มาโกโตะ!"
"ฉันมาจากอนาคตอยู่แล้วน่ะ เพราะงั้นไม่ต้องหรอก!"
192
มันได้มองลงมาที่เด็กหนุ่ม ถึงจะไม่มีดวงตาเหลือให้มองแต่เขาก็สามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของคนที่ไม่เกรงกลัวต่อความตาย!
"ชื่อของฉันคือ king of dark ราชาแห่งความมืดที่นายท่านตั้งให้ แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร!"
"ชิราสากิ มาโกโตะ เป็นคนที่จะเอาชนะนายไง!"
พวกเขาต่างข่มพลังใส่กันจนทำให้สายลมเริ่มแปรปรวนยิ่งกว่าเดิม
เซนะรู้ดีว่าไม่ควรขัดแต่ว่าเธอก็ทนดูไม่ได้เหมือนกัน
"ฉันขอแทรกหน่อยนะ พวกคุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่คะ"
"การเล่าแผนการให้กับศัตรูฟังถือเป็นเรื่องโง่เง่ามาก แต่ว่านะ.. ฉันจะบอกให้เป็นกรณีพิเศษ พวกเรากำลังรวบรวม duo เพื่อมาฆ่าแล้วนำพลังของพวกมันมาทำเป็นพลังเพื่อสร้างกองทัพ อวตาร ขึ้นมา นายของฉันท่าน ซิก ได้นำกองกำลังเข้ามายึดเมืองข้างหน้าต่อจากนี้ไปได้หลายต่อหลายเมืองซึ่งพวกเราก็ต้องการจำนวนคนที่มากๆเพื่อใช้สำหรับดำเนินแผนการตอนสุดท้ายซึ่งนั่นก็คือ การบุกโจมตีเมืองชิโอมิ!"
"แล้วถ้าพวกแกทำสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมา!"
"เกียรติยศ!"
เสียงของเขาได้ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งลานหิมะ
"ที่เมืองแห่งนั้นมีโรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งนั่นก็คือ โรงเรียนชิโอมิิ โดยมีคนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้อำนวยการอยู่ที่นั่น ครั้งนึงเจ้านายของพวกเราเคยต่อสู้กับเขาและพ่ายแพ้อย่างยับเยินทั้งๆที่มาสเตอร์ยังไม่ได้ลงมาสู้ด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ เกียรติของเขาป่นปี้ไม่เป็นชิ้นดีด้วยฝีมือของเด็กอายุเพียง 5 ขวบ เพราะงั้นนี่จึงไม่ต่างอะไรจากการแก้แค้น!"
"พวกนายก็เลยทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เพียงเพื่อจะแก้แค้นคนๆเดียวเนี่ยนะ"
"แต่ถึงอย่างนั้นแค่นี้มันก็ไม่พอหรอกที่จะเอาชนะเขาได้! ฮิเมโนะ อุย กับ โคโนเอะ ซุบารุ สองคนนั้นคือคนที่มีระดับเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป"
( ไม่เคยได้ยิน )
ชื่อพวกนี้เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ถ้าหากว่าที่เจ้านี่พูดมาเป็นความจริงป่านนี้ชื่อของพวกเขาคงจะมีโผล่มาในวิชาประวัติศาสตร์แล้วสิ เว้นแต่ว่าคนพวกนี้จะไม่ใช่คนของยุคนี้...
ความคิดของเขาได้เริ่มประติดประต่อกันจนเข้ารูป
คนพวกนั้นบางทีอาจจะมาจากอนาคตและเพราะเหตุนั้นจึงสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงมีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้ และสาเหตุของการที่ไม่มีชื่อของเขาผุดขึ้นมาเลยนั่นก็เพราะเขามาจากอนาคตที่สูงกว่าเรา โรงเรียนปริศนาที่ถูกสร้างขึ้นและไม่มีในประวัติศาสตร์ก็มาจากฝีมือของเขา...
และเพราะคิดแบบนั้น...
ทุกอย่างก็ลงตัวพอดี...
"พอดีว่าฉันก็มีธุระกับพวกเขาพอดีเลยล่ะ"
"เสียใจด้วยนะเพราะว่าพวกเธอจะต้องตายอยู่ที่นี่!"
"กลัวตายล่ะ!"
ดาบยักษ์ได้ฟาดลงมาปะทะกับดาบของมาโกโตะที่ฟาดสวนกลับมาจนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้
เขาได้รีบตระโกนไปหาเซนะที่กำลังอุ้มมังกรปริศนาเอาไว้อยู่
"รีบหนีไปเซนะ~!!!"
"แต่ว่า!"
"ไม่มีแต่! เดี๋ยวฉันตามไป!"
"ขะ..เข้าใจแล้ว!"
เธอจึงเริ่มออกวิ่งจากตรงนั้นพร้อมกับอุ้มมังกรปริศนาไปด้วย
ไปตามจับมันมา! สิ้นเสียงของหัวหน้าเหล่าอัศวินหุ้มเกราะก็ได้วิ่งตามล่าสาวน้อยออกไปแบบติดๆ
"ปล่อยเธอไปซะ! เธอไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!"
"ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก!"
มันได้มองลงมาที่เด็กหนุ่ม ถึงจะไม่มีดวงตาเหลือให้มองแต่เขาก็สามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของคนที่ไม่เกรงกลัวต่อความตาย!
"ชื่อของฉันคือ king of dark ราชาแห่งความมืดที่นายท่านตั้งให้ แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร!"
"ชิราสากิ มาโกโตะ เป็นคนที่จะเอาชนะนายไง!"
พวกเขาต่างข่มพลังใส่กันจนทำให้สายลมเริ่มแปรปรวนยิ่งกว่าเดิม
เซนะรู้ดีว่าไม่ควรขัดแต่ว่าเธอก็ทนดูไม่ได้เหมือนกัน
"ฉันขอแทรกหน่อยนะ พวกคุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่คะ"
"การเล่าแผนการให้กับศัตรูฟังถือเป็นเรื่องโง่เง่ามาก แต่ว่านะ.. ฉันจะบอกให้เป็นกรณีพิเศษ พวกเรากำลังรวบรวม duo เพื่อมาฆ่าแล้วนำพลังของพวกมันมาทำเป็นพลังเพื่อสร้างกองทัพ อวตาร ขึ้นมา นายของฉันท่าน ซิก ได้นำกองกำลังเข้ามายึดเมืองข้างหน้าต่อจากนี้ไปได้หลายต่อหลายเมืองซึ่งพวกเราก็ต้องการจำนวนคนที่มากๆเพื่อใช้สำหรับดำเนินแผนการตอนสุดท้ายซึ่งนั่นก็คือ การบุกโจมตีเมืองชิโอมิ!"
"แล้วถ้าพวกแกทำสำเร็จมันจะได้อะไรขึ้นมา!"
"เกียรติยศ!"
เสียงของเขาได้ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งลานหิมะ
"ที่เมืองแห่งนั้นมีโรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งนั่นก็คือ โรงเรียนชิโอมิิ โดยมีคนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้อำนวยการอยู่ที่นั่น ครั้งนึงเจ้านายของพวกเราเคยต่อสู้กับเขาและพ่ายแพ้อย่างยับเยินทั้งๆที่มาสเตอร์ยังไม่ได้ลงมาสู้ด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ เกียรติของเขาป่นปี้ไม่เป็นชิ้นดีด้วยฝีมือของเด็กอายุเพียง 5 ขวบ เพราะงั้นนี่จึงไม่ต่างอะไรจากการแก้แค้น!"
"พวกนายก็เลยทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เพียงเพื่อจะแก้แค้นคนๆเดียวเนี่ยนะ"
"แต่ถึงอย่างนั้นแค่นี้มันก็ไม่พอหรอกที่จะเอาชนะเขาได้! ฮิเมโนะ อุย กับ โคโนเอะ ซุบารุ สองคนนั้นคือคนที่มีระดับเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป"
( ไม่เคยได้ยิน )
ชื่อพวกนี้เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ถ้าหากว่าที่เจ้านี่พูดมาเป็นความจริงป่านนี้ชื่อของพวกเขาคงจะมีโผล่มาในวิชาประวัติศาสตร์แล้วสิ เว้นแต่ว่าคนพวกนี้จะไม่ใช่คนของยุคนี้...
ความคิดของเขาได้เริ่มประติดประต่อกันจนเข้ารูป
คนพวกนั้นบางทีอาจจะมาจากอนาคตและเพราะเหตุนั้นจึงสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงมีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้ และสาเหตุของการที่ไม่มีชื่อของเขาผุดขึ้นมาเลยนั่นก็เพราะเขามาจากอนาคตที่สูงกว่าเรา โรงเรียนปริศนาที่ถูกสร้างขึ้นและไม่มีในประวัติศาสตร์ก็มาจากฝีมือของเขา...
และเพราะคิดแบบนั้น...
ทุกอย่างก็ลงตัวพอดี...
"พอดีว่าฉันก็มีธุระกับพวกเขาพอดีเลยล่ะ"
"เสียใจด้วยนะเพราะว่าพวกเธอจะต้องตายอยู่ที่นี่!"
"กลัวตายล่ะ!"
ดาบยักษ์ได้ฟาดลงมาปะทะกับดาบของมาโกโตะที่ฟาดสวนกลับมาจนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้
เขาได้รีบตระโกนไปหาเซนะที่กำลังอุ้มมังกรปริศนาเอาไว้อยู่
"รีบหนีไปเซนะ~!!!"
"แต่ว่า!"
"ไม่มีแต่! เดี๋ยวฉันตามไป!"
"ขะ..เข้าใจแล้ว!"
เธอจึงเริ่มออกวิ่งจากตรงนั้นพร้อมกับอุ้มมังกรปริศนาไปด้วย
ไปตามจับมันมา! สิ้นเสียงของหัวหน้าเหล่าอัศวินหุ้มเกราะก็ได้วิ่งตามล่าสาวน้อยออกไปแบบติดๆ
"ปล่อยเธอไปซะ! เธอไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!"
"ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก!"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)