182
เมื่อเจอกับถนนหนทางข้างหน้าของพวกเขาก็สามารถมุ่งไปได้อย่างไม่ยากเย็น เด็กหนุ่มได้หยิบรถมอเตอร์ไซต์ออกมาจากในกระเป๋าสี่มิติที่ซึ่งสามารถใส่อะไรเข้ามาก็ได้โดยรถที่เขาหยิบออกมานั้นถึงจะดูเหมือนกับรถจักรยานยนตร์ทั่วไปแต่จริงๆแล้วมันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตัวเครื่องใช้ระบบเทคโนโลยีจากอนาคตจึงไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมแถมยังสามารถวิ่งได้ทั้งๆที่ไม่มีเสียงซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยในการลดมลภาวะทางเสียงโดยเฉพาะ
อันที่จริงรูปร่างหน้าตาจริงๆของมันดูต่างจากรถทั่วไปมากแต่เพราะหากเป็นแบบนั้นอาจจะมีเรื่องตามมาทีหลังก็ได้เพราะงั้นเขาจึงดัดแปลงรูปร่างของรถให้ดูคล้ายคลังกับยุคนี้ให้มากที่สุด
จนมันกลายเป็น!
รถจักรยานยนตร์ที่ดูคล้ายกับรถของนักแข่งรถเลยไม่มีผิด
หลังจากที่ใช้เวลาดัดแปลงอยู่นานเขาก็ได้สร้างมันขึ้นมาสำเร็จ ทั้งเขาและเซนะจึงพากันขึ้นรถคันนี้เพื่อออกเดินทาง
"เป็นไงเซนะ รถคันนี้ยอดไปเลยใช่ไหม"
"อื้ม~! แต่ใช้เวลานานจัง"
"ถ้าจะดัดแปลงมันก็ต้องใช้เวลามากแบบนี้แหละว่าแต่ฉันใช่ไปแค่ 10 นาทีเองถ้าว่ากันตามสามัญสำนึกฉันก็ว่าฉันทำเร็วแล้วนะ"
"แค่ 3 นาที ถ้าฉันทำแค่ 3 นาที!"
"ใครจะใช้ให้เธอทำล่ะ!"
เด็กหนุ่มได้มองลงมาที่ร่างของสาวน้อย เธอในตอนนี้ดูดีมากจนแม้แต่เขาก็ยังปลื้ม แล้วการที่จะให้เธอที่ดูดีขนาดนี้ต้องมาเปรอะเปื้อนกับพวกเครื่องจักรยิ่งแล้วใหญ่ แล้วอีกอย่าง...
"นี่มันเป็นเทคโนโลยีจากอนาคตเธออาจจะทำมันระเบิดก็ได้หากทำไม่เป็น"
"ไม่ทำหรอกกกก~"
"หลอกอ่ะดิ! "
สาวน้อยที่โดนพูดจาใส่ร้ายใส่จึงซึมลงไปนิดนึง เธอได้เอาหน้าแนบลงไปบนแผ่นหลังของเขาขณะซ้อนท้ายรถอยู่พร้อมๆกับใช้มือทั้งสองโอบกอดจากด้านหลัง
แผ่นหลังของมาโกโตะคุงทั้งใหญ่แล้วก็อบอุ่นจัง~
แล้วก็เพราะเหตุนั้นเองหน้าอกสุดยิ่งใหญ่ของเธอจึงเบียดเสียดไปมาอยู่ข้างหลังของเขา มันทำให้เด็กหนุ่มถึงกับมีเรื่องลามกต่างๆนานาผุดขึ้นมาอย่างกับสายฟ้าแลบ
อ่าส์... หน้าอกของเธอมันช่างใหญ่จริงๆ..ถึงจะเคยลองจับมาแล้วก็เถอะแต่การที่โดนเบียดเสียดอยู่ด้านหลังแบบนี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีไปอีกแบบเหมือนกัน ชัก..อยากจะทำ..กับเธอแล้วสิ!
เด็กหนุ่มจึงพยายามควบคุมสติของตนเอาไว้ในขณะที่กำลังมีอารมณ์ฟุ้งซ่านจนกู่ไม่กลับ
ทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปนั้นรอบๆมีแต่ป่าอยู่เต็มไปหมดแถมพอพ้นจากป่าไปก็คือภูเขาซึ่งเป็นทางที่คดเคี้ยวอยู่พอสมควรซึ่งในช่วงก่อนที่ขึ้นภูเขาไปมาโกโตะก็ได้สังเกตเห็นป้ายๆนึงที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเป็นมงคลสักเท่าไหร่โดยมันมีเนื้อหาในป้ายเขียนเอาไว้ว่า
"ความตายไม่ใช่จุดจบ" ใครฟ่ะที่มันเอาป้ายแบบนี้มาตั้งไว้! เขาถึงกับบ่นในใจ มันไม่สมควรเลยที่จะมีป้ายแบบนี้ตั้งเอาไว้ตรงนั้น
แต่ก็เพราะป้ายนั่นจึงทำให้สติของเขากลับมาอยู่กับตัว
เส้นทางนั้นจึงเป็นเรื่องๆที่จะวิ่งผ่านไปได้อย่างปลอดภัย และแล้วในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงเมืองๆหนึ่งที่ตั้งอยู่เบื้องหน้ากับภูเขาที่พวกเขาวิ่งผ่านมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น